เนื่องจากที่ผ่านมากระแส การโฆษณาผ่านสื่อ ผู้มีชื่อเสียง แม้แต่แพทย์ สถานพยาบาลในไทยต่างก็ออกมาชักชวนให้ผู้บริโภคเข้าใจว่าหากต้องการทำศัลยกรรมความสวยนั้นต้องบินไปไกลถึงเกาหลี แต่ผลลัพธ์ที่ออกมานั้นก็มีความเสียหายไม่น้อย ทั้งสภาพร่างกาย จิตใจ โดยที่ไม่สามารถจะเรียกร้องค่าเสียหายต่างๆได้เลย
กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กระทรวงสาธารณสุข ได้ติดตามและเร่งดำเนินการเรื่องดังกล่าวจึงเป็นที่มาของการประชุมในหัวข้อ "การประกอบวิชาชีพเวชกรรมกับการปรึกษาความงามและศัลยกรรม" ในวันที่ 25 พ.ค. 65 ที่ผ่านมาทางระบบออนไลน์
นพ.ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (กรม สบส.) กระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า ในช่วงที่ผ่านมากรม สบส.ได้รับการร้องเรียนเกี่ยวกับการให้บริการศัลยกรรม หรือเสริมความงามอยู่เป็นระยะ ซึ่งกรม สบส.ก็มิได้นิ่งนอนใจต่อเหตุที่เกิดขึ้น โดยมีการจัดทีมพนักงานเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบข้อเท็จจริงเพื่อให้ความเป็นธรรมกับทั้งผู้รับบริการและสถานพยาบาลเสมอมา โดยหนึ่งในประเด็นเรื่องร้องเรียนที่กรม สบส.ตรวจสอบพบว่ามีความน่าสนใจและต้องดำเนินการอย่างเร่งด่วนในขณะนี้ คือ การเชิญชวนประชาชนให้เข้ารับคำปรึกษาจากแพทย์ต่างชาติ หรือเดินทางไปรับบริการศัลยกรรมเสริมความงามกับสถานพยาบาลต่างประเทศ โดยมีแพทย์หรือสถานพยาบาลในไทยเกี่ยวข้องในลักษณะมีเอเจนซี่ (Agency) ให้การสนับสนุนทั้งการจัดกิจกรรมให้คำปรึกษา จัดโปรโมชั่นลดราคา เพื่อดึงดูดให้ประชาชนตัดสินใจเข้ารับบริการกับสถานพยาบาลต่างประเทศ หรือสถานพยาบาลของตน ซึ่งนอกจากจะส่งผลกระทบต่อมาตรฐานวิชาชีพและมาตรฐานสถานพยาบาลไทยแล้ว ยังสร้างผลกระทบให้กับผู้รับบริการบางราย อีกทั้งยัง เป็นการกระทำผิดกฎหมายสถานพยาบาล ดังนั้น เพื่อป้องปราม และกวาดล้างการกระทำผิดในลักษณะข้างต้น กรม สบส.ได้ร่วมกับภาคีเครือข่ายที่เกี่ยวข้อง อาทิ แพทยสภา และสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค ฯลฯ ร่วมเฝ้าระวัง ตรวจสอบกิจกรรม หรือสื่อโฆษณาที่มีการเผยแพร่ในทุกพื้นที่ช่องทาง ซึ่งจะมีการแลกเปลี่ยนและส่งต่อข้อมูลระหว่างหน่วยงานเพื่อให้เกิดความครอบคลุมในการตรวจสอบและดูแลคุ้มครองผู้บริโภค
ทั้งนี้ หากประชาชนพบเห็นหรือทราบเบาะแสการกระทำผิดของแพทย์หรือสถานพยาบาลเอกชน สามารถแจ้งได้ที่สายด่วนกรม สบส. 1426
ขอบคุณภาพและข้อมูลจากกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ