xs
xsm
sm
md
lg

“บังแจ็ค” แฉ! ภาพมันฟ้องรับงานเอ็นฯ จี้ “เพื่อนรัก” ยอมรับและพูดความจริง

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



หลังจากที่ความจริงเปิดเผย ว่ามือปริศนาที่ออกมาเคลื่อนไหวในเฟซบุ๊ก Happy Melon Patcharaveerapong ของ “แตงโม ภัทรธิดา (นิดา) พัชรวีระพงษ์” และเปิดเพจใหม่ในชื่อ Happy Melon Offcial คือ “บังแจ็ค” หรือ นายราชา ไฮเดอร์ ล่าสุดเมื่อวานนี้ (25 พ.ค.) รายการทุบโต๊ะข่าว ทางช่องอมรินทร์ 34 จึงได้ต่อสายตรงไปหาเจ้าตัวถึงที่ เพื่ออธิบายข้อเท็จจริง

ซึ่งงานนี้เจ้าตัวก็เผยว่า ได้โทรศัพทของแตงโมมายังไม่ถึง 1 สัปดาห์ โดยที่ “คุณแม่ภนิดา ศิระยุทธโยธิน” เป็นคนส่งมาให้กู้ข้อมูล เชื่อเรื่องนี้คิดว่า “ทนายเดชา  กิตติวิทยานนันท์” ก็รับรู้ และตนไม่ได้ตั้งจะปล่อยรูปไม่เหมาะสมกลางวงสื่อ เพียงต้องการวิดีโอคอลหา “กระติก อิจศรินทร์ จุฑาสุขสวัสดิ์” ว่าให้ยอมรับ และพูดความจริง เพราะภาพมันฟ้องรับงานเอ็นเตอร์เทน

“ได้โทรศัพท์ของแตงโมมา ยังไม่ถึง 1 สัปดาห์ด้วยซ้ำ ตอนแรกได้มาแค่ภาพ แต่โทรศัพท์ยังไม่ถึง เลยไม่กล้าเปิดเผย เพราะกลัวว่าโทรศัพท์จะไม่ปลอดภัยระหว่างทาง พอโทรศัพท์มาถึงมือแล้ว ก็ได้คุณกับคุณแม่แตงโม ว่าแม่ควรแถลงข่าวว่าแม่ส่งเครื่องให้มา ทุกคนจะได้รับรู้ ไม่ต้องปั่นป่วน คุณแม่ก็บอกว่าตามนั้น จะแถลงข่าวใน 2-3 วัน

ถามว่าคุยยังไงคุณแม่ถึงให้โทรศัพท์มา ก็ไม่ได้คุยตามที่ทุกคนคิด ไม่มีการโอนเงินอะไรเกิดขึ้น เงิน 300,000 บาทตามที่เป็นข่าวก็ไม่มี ไปตรวจบัญชีคุณแม่ได้เลย ตอนที่คุณแม่ได้รับโทรศัพท์มาจากตำรวจ ก็ได้โทร.มาหา บอกว่าจะไปรับเครื่องมาแล้ว แต่ใช้ไม่เป็น จะใช้ยังไง แกอยากดูว่าในโทรศัพท์เครื่องนี้มีอะไรบ้าง คือก่อนที่จะรับโทรศัพท์คืนมา เราคุยกันมานานมากแล้ว รอบนี้แกเป็นคนโทร.มาแจ้ง ว่าเดี๋ยวจะไปรับโทรศัพท์น้องโม รวมถึงสร้อยคอ ต่างหู จากโรงพักนนทบุรี

พอแกกลับมาก็โทร.มาตอนตี 4 เวลาบ้านผม ผมก็ถามว่าเป็นอะไรครับ เขาก็บอกว่าเครียด เห็นภาพบางส่วน ผมเลยถามว่ามันมีอะไรครับ เขาบอกว่าในโทรศัพท์ที่รับมา แกใช้ไม่เป็น เพราะหลังจากที่ได้รับจดหมายจากกระติกแกเครียด เราก็สอนว่าไอโฟนมันเป็นยังไง พอเปิดมามันก็มีภาพเป็นภาษาไทย ผมก็เลยให้คุณแม่อ่านว่ามีอะไรบ้าง

แม่ก็บอกว่ามันมีภาพที่เขียนคำว่า “ว่ามามึงว่าอะไรไอ้กระติก” อันนี้ตามที่คุณแม่เล่าให้ฟัง เราก็ให้แม่กดเข้าไป แม่บอกกดเข้าไปไม่ได้ มันเป็นภาพมืดๆ ผมก็เลยให้คุณแม่ตรวจสอบ ซึ่งก่อนที่แม่จะส่งโทรศัพท์มาให้ผม ผมบอกให้แม่เอาเครื่องไปที่ศูนย์แอปเปิล แต่ถ้าไม่ไว้ใจ คุณแม่ก็หาทาง แต่คุณแม่บอกว่าเอาอย่างนี้ แม่ส่งโทรศัพท์ให้คุณแจ็คดีกว่าไหม แม่ไว้ใจแจ็ค เลยคุยกันแล้วจะส่งมาให้ตรวจสอบแทน

เรื่องหลักฐานต่างๆ เราคุยกัน ทนายเดชารับรู้มาโดยตลอด แต่แกแทรกตลอดเวลา บอกแม่ว่าหลักฐานพวกนี้ไม่สำคัญหรอก ไม่ต้องไปใส่ใจ เป็นของตัดต่อ ของปลอม เหมือนไม่เป็นกลาง เหมือนเป็นทนายให้กับคนบนเรือ คุณแม่ก็เลยเริ่มไม่โอเคกับทนายคนนี้ ตามความคิดผม เรื่องการส่งโทรศัพท์มาทนายเดชาก็น่าจะรับรู้ แต่ตามที่คุณแม่บอกมา คือทนายเดชาไม่ค่อยใส่ใจคดีแตงโม หลักๆ มีแต่มุ่งเรื่องคดีของตัวเอง ไปฟ้องคนโน่นคนนี้มากกว่า”

ในเรื่องการปล่อยภาพไม่เหมาะสม เจ้าตัวได้ชี้แจงว่าใช้คำว่าปล่อยภาพมันไม่ถูกต้อง ช่วงที่ตนโทรวิดีโอคอลไปหากระติกแล้วเปิดภาพไม่เหมาะสมของแตงโม ตนมองว่ากระติกผิดที่ปล่อยให้มีการถ่ายภาพกลางวงสื่อได้ เพราะตนไม่รู้ว่ามีสื่ออยู่ ที่ปล่อยภาพให้กระติกดู เพราะโทร.ไปหาหลายครั้งแล้ว ภาพที่ส่งไปให้กระติกดู เพราะอยากให้รับรู้ ว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องงานเอ็นเตอร์เทน กระติกต้องยอมรับ ออกมาพูดความจริง

แต่กระติกไม่ยอมรับสายตน ตนก็เลยวิดีโอคอล แล้วกระติกดันรับสายตอนนั้น ก็เลยเปิดให้ดู ซึ่งภาพนั้นไม่ใช่ภาพแตงโมคนเดียว มีกระติกด้วย เป็นภาพที่ยืนยันได้ว่าไม่ได้แค่มีการเที่ยวบนเรือเฉยๆ ซึ่งทุกการกระทำของตน มีการขออนุญาตแม่แตงโมแล้ว และภาพที่ไม่เหมาะสมนั้น แม่ก็เห็นมาก่อนทั้งหมดแล้ว แม่เห็นทุกอย่าง ทุกภาพที่กู้กลับคืนมาได้ แม่ถึงเปลี่ยนจากอุบัติเหตุเป็นฆาตกรรม

ก่อนเปิดภาพให้กระติกดู ก็ได้บอกแม่แล้ว แม่บอกว่า “โอเค ให้กระติกรับรู้เลย” เพราะกระติกก็เป็นผู้หญิงและเป็นเพื่อนสนิทกับแตงโมมาเป็น 10 ปีแล้ว อาจจะเคยเห็นมากกว่านี้ด้วยซ้ำ เราแค่เปิดภาพผ่านวิดีโอคอล ไม่ได้เอาไปเปิดเผยในโซเชียล เพราะคิดไม่ถึงว่าสื่อจะอยู่ตรงนั้นด้วย นึกว่ากระติกอยู่ที่บ้าน ที่ส่วนตัว ไม่รู้ว่าอยู่ข้างนอก”

ส่วนรายงานจากตำรวจ ที่บอกว่าวันนั้นแตงโมถ่ายรูปไว้ในโทรศัพท์ 500 กว่ารูปนั้น เจ้าตัวตอบกลับทันทีว่าไม่จริง ภาพที่ตนกู้กลับคืนมาได้ตอนนี้ มีประมาณ 35,500 กว่าภาพ และมีที่ค้างไว้ที่ 10,000 กว่าภาพ และมีภาพทั้งหมดที่ขึ้นอยู่ในไอคลาวด์ ประมาณ 1 แสนกว่าภาพ แต่ภาพที่ถ่ายบนเรือมีขึ้นว่าถ่ายไว้ไม่ต่ำกว่า 1,000 - 1,500 ที่บอกว่ามีรูปเป็นล้านมันเป็นไปไม่ได้ ความจุเก็บถึงล้านไม่ได้ ส่วนภาพท้ายเรือที่ปล่อยออกไป เป็นภาพสุดท้ายในเครื่องของแตงโมถ่ายไว้ หลังจากนั้นไม่มีภาพอื่น และขอชี้แจงว่า ภาพต่างๆ ที่อยู่บนเพจเฟซบุ๊กปลอม ที่เป็นภาพตัดต่อและไลฟ์สด ตนไม่ได้เป็นคนทำ

ที่หลายคนบอกว่าทำเป็นกระบวนการ มีการส่งข้อมูลนี้ให้นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ด้วยนั้น ตนไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับนายอัจฉริยะ เพราะตนไม่ให้ค่า ไม่ยุ่ง เคยคุยกันทางไลน์ตอนเปิดประเด็นเรื่องผ้าครั้งเดียว หลังจากนั้นไม่ได้คุยกันเลย ยืนยันหลักฐานภาพทุกอย่างที่อยู่ในเครื่องของแตงโม ตนไม่ได้ส่งให้ใครอีก

แต่ที่ติดต่อไปหา “โม อมีนา พินิจ” เพราะเป็นเพื่อนสนิทที่สุดของแตงโม ได้มีการโทร.ไปปรึกษา ว่ามีหลักฐานเหล่านี้อยู่ ควรจะทำยังไง อีกฝ่ายให้คำแนะนำดี แต่ไม่ได้คุยกันบ่อย คุยเฉพาะตอนที่มีหลักฐานใหม่กู้คืนมาได้ ให้เขาได้รับรู้ก่อนว่ามันมีแบบนี้นะ ตนให้ดูแค่สองคนคือคุณแม่กับโม อมีนา เรื่องภาพที่ไม่เหมาะสม โม อมีมาก็ได้ติงแล้ว ว่าไม่ให้เอาไปเปิดเผย ไม่ต้องพูดถึง

สุดท้ายตนก็จะส่งเครื่องกลับไปให้คุณแม่ดำเนินการส่งให้เจ้าหน้าที่ ที่เอาเครื่องมาเพราะจะดึงหลักฐานส่งกลับให้คุณแม่เท่านั้น ตนอยากให้สื่อตั้งคำถามกับกระติก ว่าภาพในเครื่องแตงโมมีตั้งหลายหมื่นภาพ ทำไมถึงถูกลบไปเหลือแค่ไม่กี่ร้อยภาพ

ขอบคุณภาพจากรายการทุบโต๊ะข่าว

ขอบคุณภาพจากรายการทุบโต๊ะข่าว

ขอบคุณภาพจากรายการทุบโต๊ะข่าว

ขอบคุณภาพจากรายการทุบโต๊ะข่าว



กำลังโหลดความคิดเห็น