“เกรท สพล” โบกมือลา ช่อง 7 อยู่มา 5 ปีจบดีไม่มีปัญหา ออกมาเพราะอยากใช้ชีวิต ใกล้จะ 30 แล้ว ขออยู่เป็นอิสระ ยังไม่ซบค่ายใหม่ จากนี้จะได้เห็นความเป็นตัวเองมากขึ้น รู้แฟนคลับอยากให้กลับไปสายวาย ถ้าจังหวะได้ก็อาจจะได้เห็น อัปเดตอาการป่วยไวรัสตาแดงดีขึ้นแล้ว แต่มีโอกาสกลับไปเป็นอีก
โบกมือลาต้นสังกัด เป็นเป็นนักแสดงอิสระอีกคนแล้ว สำหรับหนุ่ม “เกรท สพล อัศวมั่นคง” ที่กำลังจะสิ้นสุดสัญญากับทางช่อง 7 HD สิ้นเดือนนี้ โดยเจ้าตัวได้เผยในงาน THE FINAL ESCAPE GALA PREMIERE ว่าอยากจะออกมาใช้ชีวิตแบบเต็มที่ เพราะใกล้จะ 30 ถือว่าผ่านมาครึ่งชีวิตแล้ว
“ตอนนี้ก็เป็นอิสระแล้ว ไม่แน่ใจว่าวันนี้เราหมดสัญญาหรือยังนะ น่าจะสิ้นเดือนนี้แหละ ก็สิ้นสุดสัญญากับทางช่อง 7 เรียบร้อยแล้ว ถามว่าจากนี้จะวางแผนตัวเองยังไง ก็น่าจะเริ่มปูพื้นฐานตัวเอง หลังๆ เกรทก็จะทำช่องยูทิวบ์ของตัวเองด้วย ก็จะกลับมาทำให้มันแอ็กทีฟมากยิ่งขึ้น แล้วก็พยายามหาอะไรเรียนเพิ่มเติม ไม่ให้ตัวเองเฉา เพราะช่วงนี้ก็ยังไม่ได้รับงานเท่าไหร่ เพราะช่วงที่ยังมีสัญญาอยู่ เราก็ยังไม่กล้าคุยกับใคร ถือว่าให้เกียรติที่ที่เราอยู่ แต่หลังจากนี้ถ้ามีก็รบกวนด้วยนะครับ ยังว่างอยู่นะครับ”
ยังมองการทำงานในทิศทางเดิมๆ แค่หาความรู้เพิ่มให้ตัวเอง
“มันเป็นทิศทางเดิมๆ ที่เรามองนี่แหละครับ แต่ว่าเราอยากจะทำตัวเองให้มีความสามารถ มีความรู้มากยิ่งขึ้น ช่วงที่ผ่านมาหลังจากที่หยุดไป ไม่ได้ถ่ายละคร ก็ไปลองเสิร์ชดู ว่าเราจะเรียนอะไรเพิ่มเติมได้บ้าง ดนตรีหรือภาษา”
ประสบการณ์ที่ผ่านมา ทำให้เติมโตมากขึ้นในหลายๆ ด้าน
“ตั้งแต่ที่อยู่มาทั้งหมด ผมก็รู้สึกว่า ผมได้เติบโตจากที่นี่เยอะมากๆ เรื่องการแสดง การทำงาน การใช้ชีวิตหลายๆ อย่างด้วย ตั้งแต่เข้ามาใหม่ๆ จนถึงวันนี้ ก็มีความรู้สึกดีๆ มาก อย่างละครดรามา เราก็ได้เล่นกับที่นี่เยอะมากครับ ก็อยู่มา 5 ปีแล้ว”
ได้รับบทบู๊สมใจ ตอนใกล้จะหมดสัญญาพอดี
“จริงๆ แล้วบู๊ผมก็แอบไปซุ่มซ้อมมาหลายปีแล้วครับ คือเราพยายามเรียนหาความรู้เพิ่มเติม ช่วงแรกๆ ที่เข้ามาใหม่ๆ ก็มีคนถามว่าอยากเล่นแนวไหน ผมอยากเล่นบู๊ เพราะช่วงนั้นผมค่อนข้างฟิต แล้วก็ซ้อมมาหลายรูปแบบ เลยรู้สึกว่าถ้ามีโอกาสได้เล่นแนวบู๊แนวแอ็กชั่น ก็น่าจะแฮปปี้เติมเต็มเรา แล้วสุดท้ายก่อนที่ใกล้จะหมดสัญญา เราก็ได้เล่นตามที่เราอยากเล่นพอดี”
จากวันแรกถึงวันนี้ ความคิดเปลี่ยน เลยอยากทำอะไรให้เต็มที่กับชีวิต
“จากวันแรกมาวันนี้ ที่เลือกเป็นจะอิสระ ก็คงเป็นเพราะความคิดผมมั้งฮะ เราเห็นอะไรมากขึ้น ได้เรียนรู้อะไรมากยิ่งขึ้น แล้วก็ปล่อยวางเยอะขึ้นด้วย ตอนนี้ผมก็ใกล้ 30 แล้วเนอะ ไม่รู้จะอยู่ได้นานแค่ไหน ถ้าอยู่ได้ถึง 60 อันนี้ก็ถือว่าครึ่งชีวิตผมแล้ว เราก็คงต้องเต็มที่กับชีวิตในหลายๆ ด้านมากยิ่งขึ้น เราจะมัวเล่นๆ ไม่ได้แล้ว เราต้องจริงจังมากขึ้น”
ออกมาตอนนี้ขออยู่เป็นอิสระไปก่อน ยังไม่พร้อมเซ็นกับค่ายไหน
“คือตอนนี้ก็ยังไม่อยากไปกับที่ไหนครับ เพราะหลังจากที่เหมือนเราอยู่บ้านมา 5 ปีแล้ว เราก็คงอยากจะออกไปข้างนอกก่อน เรายังไม่ได้อยากไปอยู่บ้านไหน เป็นกิจจะลักษณะขนาดนั้น คือถ้าพี่ๆ เห็นความสามารถ หรืออยากจ้างผมก็ยินดีครับ ผมก็เต็มที่เหมือนกัน แต่เราขออยู่แบบนี้ไปก่อนสักระยะหนึ่งแล้วกัน ถ้ามีบ้านหลังไหนที่เรารู้สึกว่าเราสบายใจที่จะอยู่ อยากจะย้ายเข้าไป ก็เดี๋ยวค่อยดูจังหวะตอนนั้นอีกทีครับ (เปิดดีลไว้หลายที่ไหม?) ต้องถามผู้จัดการเลยครับ (หัวเราะ) ผมก็ไม่รู้ที่ไหนบ้าง”
จากนี้จะได้เห็นความเป็นเกรทมากขึ้น
“ผมว่าซีรีส์ได้เห็นแน่นอน ส่วนภาพยนตร์ก็ได้เห็นเรื่อยๆ ตั้งแต่อยู่ช่อง 7 แล้ว แล้วอาจจะมีบทบาทหลากหลายมากขึ้น เป็นตัวของตัวเองมากยิ่งขึ้น ถ้าใครติดตามช่องยูทิวบ์ของผมก็จะรู้ ความเป็นเกรทคือผมจะเป็นคนขี้เล่น กวนๆ แล้วก็อาจจะมีพูดหยาบคายบ้างเล็กๆ น้อยๆ เวลาอยู่กับเพื่อน เพราะช่วงที่เราอยู่ก็ไม่ได้มีเวลามาทำ เพราะต้องถ่ายละคร ต้องทำงานช่อง พอเราออกมา เราก็รู้สึกว่าเรามีเวลาของเรามากยิ่งขึ้น เราก็เริ่มคิดอะไรออกมากขึ้น”
อายุมีผลต่อการตัดสินเป็นอิสระ ไม่ใช่เพราะมีปัญหากับช่อง
“ถ้าต่อสัญญา เราก็จะโตไปเลย เป็นอีกลุคหนึ่งไปเลย เรารู้สึกว่าตอนนี้เราก้ำกึ่ง เริ่มจะก้าวเลยวัยรุ่นไปแล้ว เลยขอออกมาทำสิ่งที่เราอยากลองดีกว่า ปัญหาอะไรไม่มีเลยครับ จบมาดีมาก ได้บอกพ่อแม่เราเรียบร้อยแล้ว ว่าเราขอออกมาเที่ยวข้างนอกนะครับ เขาก็อนุญาตให้เราออกมา (หัวเราะ) แต่เขาก็เรียกเข้าไปคุยก่อนแหละครับ ว่ามีอะไรหรือเกิดอะไรขึ้นหรือเปล่า ยังอยากอยู่ไหม ผมก็บอกไปว่ามันถึงจุดหนึ่งที่เราอยากจะออกไปทำอะไรใหม่ๆ มากกว่า เขาก็ยินดีที่จะให้เราออกมา ไม่ได้มีปัญหาอะไรครับ คือถ้าต่ออีก 5 ปี ค่อยออกก็คงได้แหละ แต่มันอาจจะเป็นอีกรูปแบบไปเลย ปีหนึ่งมันผ่านไปเร็ว มันสามารถเปลี่ยนคนคนหนึ่งได้เยอะมาก”
รู้แฟนๆ เรียกร้องให้มาเล่นสายวาย ตั้งแต่ก่อนเซ็นสัญญา
“จำได้ครับ จริงๆ ซีรีส์วายก็ไม่ได้ติดนะครับ แต่ช่วงก่อนจะออกมา ก็มีพี่ๆ เขาส่งมาให้ดูเหมือนกัน เราก็ได้อ่านบ้าง แต่ก็ยังไม่ได้ไปตกลงกับที่ไหน ว่าจะเล่นเรื่องอะไร แต่ผมก็ไม่ได้ติด สำหรับตัวผมจะตอบเหมือนเดิมตลอด ว่ามันคือการแสดง มันเป็นอีกบทบาทหนึ่งที่ค่อนข้างท้าทายเราเหมือนกัน เล่นยังไงให้คนรู้สึกว่าเราเป็นตัวละครนั้นจริงๆ ถามว่าเป็นอิสระแล้วจะเปิดดีลเลยไหม ก็ส่งบทเข้ามาให้อ่าน ทางผู้จัดการผมก่อนได้เลยนะครับ ยินดีไม่ปิดกั้นเลยครับ รู้ว่าแฟนๆ อยากให้เล่น เพราะเขาจะส่งมาในทวิตเตอร์ เราก็ยินดีที่คนเขายังนึกถึงเราอยู่ ก็เป็นช่วงเวลาดีๆ แหละ ถ้ามีโอกาสหรือจังหวะมันลงล็อกพอดี ก็ไม่แน่นะ อาจจะได้เห็น”
อัปเดตอาการป่วยไวรัสตาแดง กังวลหนักกลัวตาบอด ตอนนี้ดีขึ้นแล้ว แต่มีโอกาสกลับไปเป็นได้อีก
“คือจริงๆ ตอนแรกผมคิดว่าตัวเองเป็นภูมิแพ้ เพราะตาแดงบ่อย แต่วันนี้ไม่รู้อะไรดลใจให้ไปหาหมอ หมอก็บอกว่าเป็นไวรัสตาแดง เพราะตื่นมามันบวมเป็นลูกเทนนิส เป็นหอยแครงเลย (หัวเราะ) มันบวมมาก แล้วพอดูแลตัวเองไปเกือบอาทิตย์มันก็ไม่หาย ลามไปอีกข้างหนึ่ง เลยไปหาคุณหมออีก หมอก็บอกว่ามันลามและมีแผลที่กระจกตา พอเรานอนไม่ได้ เราก็เลยแอดมิทดีกว่า คือตอนแรกก็มีหยอดตา รักษาตามอาการไป แต่มันไม่หาย เลยต้องแอดมิทเพราะเป็นหนักมาก เริ่มมึนหัว น้ำตาไหลไม่หยุด ตามันแดงมากจริงๆ แล้วก็มองเห็นได้เบลอๆ เพราะลืมตาไม่ได้ หลับตาอยู่ก็เคืองตาเหมือนกัน
ตอนนั้นก็ถือว่าแพนิคพอสมควรว่าจะบอดไหม เพราะเราไม่เคยเป็นหนักขนาดนี้ ตอนนั้นก็กังวลอยู่เหมือนกัน แต่คุณหมอบอกว่ามันไม่ได้ถึงขั้นนั้น มันยังเป็นแค่ชั้นนอกอยู่ คือจริงๆ สาเหตุหลักๆ คือเป็นไวรัสตาแดง แต่ผมภูมิคุ้มกันดีไปหน่อย ร่างกายมันเลยสู้กับตัวไวรัส พอมันรีแอ็กแรง มันก็ยิ่งมีแผลเกิดขึ้น มีโอกาสกลับมาเป็นได้อีกครับ จริงๆ ตอนนี้ออกมาข้างนอก คุณหมอก็บอกว่ามันจะเป็นแบบนี้ไปอีกสักพัก ด้วยตาเรายังอ่อนแออยู่ ก็อย่าขยี้ตา ถ้าเริ่มมีอาการก็กินยาแก้แพ้ และหมั่นล้างตาบ่อยๆ แต่เราก็ทำไม่ค่อยได้ครับ (หัวเราะ)”