“โบ TK” รับหน้าที่พิธีกร ส่ง “แตงโม” ครั้งสุดท้าย บอกไม่รู้จะทำได้ดีแค่ไหน แต่น้องคงอยากให้ทำ ด้าน ”เต๊ะ ศตวรรษ” ไม่รู้ใครเคลื่อนไหวเฟซบุ๊ก แต่ข้อมูลที่มีประโยชน์ ก็ควรส่งให้คนที่ใช้ประโยชน์ได้
ทำหน้าที่พี่น้องคริสเตียนอย่างดีจนวินาทีสุดท้าย สำหรับ “โบ TK” หรือ โบ สุรัตนาวี ภัทรานุกุล ที่วันนี้ (24 พ.ค.65) ได้มาช่วยจัดสถานที่และรับหน้าที่เป็นพิธีกร ในพิธีฌาปนกิจ “แตงโม ภัทรธิดา(นิดา) พัชรวีระพงษ์” ณ คริสตจักรเมธอดิสท์ รังสิตคลองสี่ โดยเจ้าตัวได้เผยกับสื่อเพียงสั้นๆ ว่าจริงๆ ไม่อยากเป็นพิธีกรวันนี้ แต่ในงานของคุณพ่อโส น้องก็ไว้ใจอยากให้ตนเป็นคนทำ เลยคิดว่าวันนี้ก็คงต้องเป็นตัวเอง
“โบไม่อยากเป็นพิธีกรวันนี้เลย โบไม่รู้ว่าจะยังไง ได้แค่ไหน เพราะว่าวันสุดท้ายที่คุณพ่อน้องโมที่จะไป โมก็บอกว่าไม่ได้ ต้องเป็นโบเท่านั้น ตอนแรกโบก็ขอแล้วว่าให้เป็นคนอื่น แต่ก็มานั่งคิดว่าวันของพ่อเขาตัวเขายังให้เราทำเลย โบก็ไม่คิดว่าเขาจะไปก่อนโบนะ ก็คงจะต้องเป็นเรา”
อยากให้ “แตงโม” ได้รู้ ว่ามีคนรักตัวเองเยอะมาก
“ทุกคนรักเขา อยากจะบอกว่าทุกคนรักเขาจริงๆ เขาชอบคิดว่าคนอื่นไม่รักเขา เขาก็จะอยู่แต่กับคนที่เขารู้สึกปลอดภัย แต่จริงๆ วันนี้ได้เห็นว่าคนรักเขาเยอะมาก เยอะมากๆ กว่าที่เขาคิด อยากให้เขาเห็น อยากให้เขารู้”
ด้าน “เต๊ะ ศตวรรษ เศรษฐกร” ที่เดินทางมาร่วมงานตั้งแต่เช้า ก็ได้เผยถึงพิธีการในช่วงเช้าที่ผ่านมา พร้อมแสดงความคิดเห็น เรื่องการเคลื่อนไหวของเฟซบุ๊กแตงโมขณะนี้ ว่าจริงๆ อยากให้เป็นเรื่องของกระบวนการ มากกว่าเป็นเรื่องของบุคคล
“พิธีช่วงเช้าเราก็ไปเคลื่อนร่างของน้อง เพื่อบรรจุลงในโลงนะครับ ตามหลักความเชื่อคริสเตียน ร่างกายของเราจะกลับไปสู่ดิน จิตวิญญาณของน้องไม่ได้อยู่ที่นี่ อยู่บนฟ้ากลับพระเจ้า แล้วก็มีการไว้อาลัยกัน แล้วก็ได้เห็นน้องครั้งสุดท้าย ก่อนที่จะปิดฝาโลง”
เชื่อ “แตงโม” ไปอยู่กับพระเจ้าแล้ว รู้หมดว่าเกิดอะไรขึ้น
“จริงๆ เราบอกกับโมวันแรกแล้วครับ เพราะว่าร่างคือร่างครับ เรารู้ว่าจริงๆ แล้วโมรู้ทุกอย่าง เพราะจิตวิญญาณของเขา อย่างที่บอก คือเมื่อเขาจากตรงนี้ไป เขาก็อยู่กับพระเจ้า หลังจากที่เขาจากเราไป เขารู้หมดว่าเกิดอะไรขึ้น”
อยากให้จดจำและระลึกถึง “แตงโม” ในเรื่องที่ดี
“ในฐานะพี่น้องคริสเตียนด้วยกัน ขอบคุณพระเจ้าที่เป็นโอกาสของการที่จะได้พูดถึงเรื่องราวของพระคริสด้วย ว่าจริงๆ แล้วพระเยซูเจ้าเนี่ย น่ารักกับโมขนาดไหน โมก็เป็นมนุษย์ทั่วไปครับ เหมือนเราที่เป็นคนบาป มีข้อผิดพลาด มีข้อดี ข้อเสีย ข้อน่าตำหนิ แล้วก็น่าชื่นชม สิ่งที่โมทำบนโลกนี้ตอนมีชีวิต สร้างเสียงหัวเราะมากมาย บางทีเขาก็ดื้อ แต่ความน่ารักของเขา สิ่งที่เขาเหลือไว้บนโลกนี้ ก็คือความทรงจำที่ดี ที่เราทุกคนควรจะระลึก อะไรที่มันทำให้เรารู้สึกว่าเรามองคนหนึ่ง โดยที่เราไม่รู้จักตัวตนเขาทั้งหมด แล้วเราตัดสินเขา คิดว่าบางเรื่อง เราควรจะมีพื้นที่ ที่ให้เกียรติกับชีวิตของเขา”
เห็นใจคุณแม่ภนิดา ศิระยุทธโยธิน เจอเรื่องประดังประเด
“จริงๆ แล้วช่วงเช้าก็ได้คุยกับคุณแม่ แล้วก็ฝั่งคุณพ่อ ก็เห็นใจคุณแม่นะครับ หลายๆ เรื่องที่มันประดังเข้ามา แต่สาระสำคัญที่สุดคือวันนี้ วันที่เรามาบอกโม ว่าเรารักโม พระเจ้าก็รักโม ส่วนเรื่องของคดีต่างๆ ผมคิดว่าให้เป็นเรื่องของเจ้าหน้าที่กับคนที่มีส่วนเกี่ยวข้อง พวกเราทุกคนที่นี้ก็จับตามอง ผมก็จับตามองเหมือนทุกท่าน ว่ามันจะเป็นทางไหน ข้อมูลต่างๆ ที่ออกมา อะไรที่เป็นประโยชน์กับโมหรือกับใคร อันนี้เป็นสิ่งที่เราก็ต้องดูกันยาวๆ แต่อยากให้วันนี้เป็นวันที่ทั้งตัวคุณแม่และครอบครัว ต้องสูญเสียคนที่เขารัก ได้ใช้เวลาในการแสดงความรู้สึกอะไรต่อลูกของเขา
ถามว่าฝั่งญาติคุณพ่อโม ไม่สบายใจเรื่องคดีไหม มีใครสบายใจไหมครับถามจริง (หัวเราะ) ก็อย่างที่บอกหน้าที่ที่เราทำได้ คือติดตามนะครับ อันไหนที่มันไม่ถูกต้อง ที่เป็นข้อมูลที่เรารู้สึกว่ามันไม่ได้ชัดเจน ก็ให้เป็นเจ้าหน้าที่ บุคคลที่เชี่ยวชาญด้านกฎหมาย แต่ผมคิดว่าการที่เราทุกคนจับตามองแบบนี้ เป็นผลดีต่อคดีนะ เพียงแต่ว่าเราก็ต้องระวัง สิ่งที่เขาพยายามจะเสิร์ฟใส่เรา ก็ต้องระมัดระวัง อย่างที่บอกช่วง 2-3 วันนี้ คุณแม่ก็น่าจะมีเรื่องให้กังวลและเครียดเยอะ”
ไม่รู้ใครเคลื่อนไหวเฟซบุ๊ก “แตงโม” แต่อยากให้ปล่อยไปตามกระบวนการมากกว่า
“ไม่ทราบครับ ไม่รู้เลยว่ามันมาจากใคร ไม่รู้เลยว่าผลที่มันออกมาเนี่ย จะเป็นผลดีหรือผลเสียด้วยซ้ำ หลายคนบอกว่ามันเป็นผลดี แต่หลายคนก็บอกว่ามันไม่ใช่หน้าที่ของคนที่ทำ สิ่งตรงนี้น่าจะปล่อยให้เป็นตามหลักกระบวนการ มากกว่าที่จะเป็นเรื่องของบุคคล”
ข้อมูลที่มีประโยชน์ ควรส่งให้คนที่ใช้ประโยชน์ได้
“ผมคิดว่าข้อมูลที่มันเป็นประโยชน์ ก็ควรส่งให้คนที่น่าจะใช้ประโยชน์ได้ ส่วนข้อมูลที่ไม่เป็นประโยชน์ ผมคิดว่าไม่มีความจำเป็นที่จะต้องเอามาใช้ให้เกิดความวุ่นวายมากขึ้น เป้าหมายสำคัญคือ ถ้าคุณมองว่าทุกสิ่งทำเพื่อแตงโม สติปัญญาของคนเท่าไป จะเข้าใจได้ว่าสิ่งไหนควรจะทำ สิ่งที่ไหนที่เป็นเรื่องส่วนบุคคล คำถามคือว่านี้เรากำลังเข้าสู่การล่วงละเมิดสิทธิส่วนบุคคลหรือเปล่า ที่ไม่เกี่ยวข้องกับคดีความ แต่ผมขอบคุณนะ ผมเห็นข่าวแล้ว พี่ๆ สื่อมวลชนก็น่ารักนะ ที่เมื่อเห็นภาพหรือข้อความอะไรบางอย่าง แล้วรู้สึกว่ามันไม่ได้เกี่ยวข้องกับคดี หรือมันไม่ได้นำไปสู่ความยุติธรรมที่แตงโมจะได้รับ เราอยากไปใส่ใจสิ่งพวกนี้ครับ”