xs
xsm
sm
md
lg

“เบส” สาวน้อยร้อยล้าน ยอมทิ้งชีวิตวัยรุ่น เป็นยูทูบเบอร์รุ่นบุกเบิก ล้างหนี้ให้พ่อ ถึงมีบ้าน-รถ-เงิน แต่ยังอยากให้ผู้ชายเลี้ยง

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



“เบส” ลูก “สมรักษ์” ดีใจที่ได้เกิดเป็นลูกพ่อ แม้ต้องเหนื่อยเป็นหัวหน้าครอบครัวตั้งแต่เด็ก ต้องทำงานหารายได้ใช้หนี้แทนพ่อ แต่ก็เป็นเรื่องดี เพราะมีเงินเก็บมากกว่าคนอื่น เผยพ่อไม่เคยมาเล่าถึงปัญหา แต่ถ้าถึงขั้นเดือดร้อนจริงๆ พ่อถึงจะมาบอกให้ช่วย ปัดมีเงินเก็บ 200 ล้าน แต่ถึงจะมีเงินเก็บ ก็ยังอยากให้ผู้ชายเป็นฝ่ายหาเลี้ยงมากกว่า บอกรอ “ตงตง” เอ่ยปากพาไปหาแม่ แฟนหนุ่มยังไม่เคยมาพูดกับตนจริงๆ สักครั้ง

เป็นอีกหนึ่งทายาทคนบันเทิงที่ประสบความสำเร็จอย่างมากตั้งแต่อายุยังน้อย สำหรับสาว “เบส รักษ์วนีย์ คำสิงห์” ลูกสาวหัวแก้วหัวแหวนของอดีตนักมวยชื่อดัง “สมรักษ์ คำสิงห์” แต่กว่าที่จะมีภาพว่าสาวเบสซื้อรถ ซื้อบ้าน แถมให้เงินพ่อแม่เป็นเงินสดๆ หลักล้านได้ เจ้าตัวก็ต้องผ่านการทำงานมาตั้งแต่เด็กด้วยการเป็นยูทูบเบอร์ และกลายเป็นหัวหน้าครอบครัว ที่สามารถจุนเจือล้างหนี้ให้พ่อ และดูแลครอบครัวด้วยวัยแค่ 22 ปี

“การที่เกิดมาเป็นลูกพ่อ หนูดีใจนะ ไม่ได้รู้สึกเป็นเรื่องที่กดดัน หนูว่าหลายๆ คนอยากจะเป็นเราเหมือนกันนะ เกิดมาแล้วมีคนรู้จัก มีคนซัปพอร์ต เวลามีคนมาทักเยอะๆ ลูกสมรักษ์ๆ มันก็รู้สึกดีนะคะ ไม่ได้รู้สึกไม่ดี ก็เลยรู้สึกดีใจตั้งแต่เด็กแล้ว ไม่เคยเสียใจ ไม่เคยเสียดาย รู้สึกว่าดีที่เกิดมาเป็นลูกสมรักษ์ ถามว่าเหนื่อยไหม พอโตมาต้องสู้เพื่อพ่อ ไม่เหนื่อยค่ะ หนูมองว่ามันเป็นธรรมชาติของมนุษย์ ถ้าเราหาเงินมาได้แล้วไม่เอาให้พ่อแม่ เราจะเอาให้ใคร อาจจะเก็บไว้กับตัวเอง แต่สุดท้ายก็ต้องช่วยเหลือพ่อแม่ถ้าพ่อแม่เดือดร้อน หนูว่ามันเป็นพื้นฐานของมนุษย์อยู่แล้ว ไม่ได้คิดว่าจะต้องเหนื่อยด้วย เพราะทุกอย่างเราก็ให้พ่อแม่อยู่แล้ว เพราะไม่รู้จะเอาไปให้ใคร เราก็มีแค่พ่อแม่

คิดว่าเร็วไปไหมที่เป็นหัวหน้าครอบครัวตั้งแต่อายุเท่านี้เหรอ ก็เคยคิดว่าเร็วไป แต่ก็มีความโชคดี ความเร็วไปคือเราไม่ได้ไปใช้ชีวิตแบบเพื่อน ก็เสียดาย บางทีอยากไปเที่ยวกับเพื่อน อยากทำอะไรแบบที่วัยรุ่นทำก็ไม่ได้ เพราะต้องทำงานหาตังค์ผ่อนบ้าน ผ่อนรถ ทุกอย่างรับผิดชอบหมด แต่เรื่องโชคดีคือเราสตาร์ทเร็ว เรามีเงินเก็บมากกว่าคนอื่น เพราะเราหาได้ตั้งแต่เด็ก บางทีเราก็มองว่าคนอายุเท่านี้ยังไม่มีเงินเท่าเราเลย เราโชคดีนะที่เรามีเงินขนาดนี้ในอายุเท่านี้

ทุกวันนี้หนี้ของพ่อก็ยังไม่หมดหรอกค่ะ คือพ่อเขาไม่ได้เอาเงินหนูขนาดนั้น จะเอาเคสที่มันด่วนจริงๆ เช่นเจ้าหนี้ไม่ยอม เขาก็จะมาขอหนู แต่เขาก็พยายามที่จะใช้เอง ซึ่งหนูก็เอาให้ในส่วนที่เขาขอ หนูก็ไม่ถึงขั้นเสนอว่าหนูจะใช้ให้ทุกบาทขนาดนั้น เพราะมันก็เยอะ ก็เอาเท่าที่ช่วยได้ให้เขาไม่เดือดร้อน แต่พวกค่าอยู่ค่ากินของเขาหนูก็ออกให้เหมือนเดิม แต่เรื่องของหนี้หนูไม่ได้ออกให้”

จ้างพ่อขอให้อยู่บ้านเฉยๆ ไม่เคยสำเร็จ เพราะพ่อเป็นเจ้าพ่อร้อยโปรเจกต์
พ่อก็ยังเป็นเจ้าพ่อร้อยโปรเจกต์อยู่นะ มีทุกวัน (หัวเราะ) หนูบอกพ่อเลยว่าจะเอาเงินเดือน หรือจะเอาเงินรายวันกี่บาท โดยไม่ต้องทำอะไร ขอให้อยู่บ้าน นั่งกินกาแฟเฉยๆ เล่นโทรศัพท์ ดูทีวี แต่เขาไม่เอา เขาบอกจะไปหาเพื่อน นัดเพื่อนไว้ เขาไม่ชอบอยู่บ้าน อยู่แค่ครึ่งวันแล้วก็ออกไปหาเพื่อน แล้วเพื่อนก็เยอะอีก อยากทำโน่นทำนี่ พ่อจะเป็นแบบนี้ แต่เขาไม่ได้มาปรึกษาค่ะ เบสห้ามไม่ได้ เพราะเบสเป็นลูก แต่ขอแค่อย่ายืมคนอื่น เพราะมันจะเพิ่มหนี้อีก ถ้าต้องใช้ตังค์ ถ้าเดือดร้อนจริงๆ ก็ค่อยมาบอกเบส

คือวัฒนธรรมไทยสอนมาว่าต้องเชื่อฟังพ่อแม่ หนูเลยไม่มีความคิดว่าจะไปสั่งพ่อสั่งแม่ว่าให้ทำอะไร คืออยากทำอะไรก็ทำ แต่ถ้าเดือดร้อนก็อย่าสร้างเพิ่ม แต่ให้มาบอกหนู แล้วหนูจะช่วย หนูถึงขั้นโทร.ไปต่อรองเจ้าหนี้ของพ่อเลยนะว่าขอจ่ายครึ่งนึงก่อนได้ไหม แล้วก็เคลียร์ให้พ่อหมด แต่เรื่องเจ้าโปรเจกต์เนี่ยเราห้ามเขาไม่ได้ เขาเป็นคนแบบนั้น แต่มันก็เป็นปัญหาครอบครัวเหมือนกัน เหมือนถ้าพ่อมีปัญหามันก็ลามมาถึงหนู แต่หนูก็ต้องช่วย เพราะเขาเป็นพ่อเรา

ส่วนแม่ไม่ร้อยโปรเจกต์ คือพ่อกับแม่จะเป็นคู่กัด คู่เพื่อน คู่ชีวิตจริงๆ นะ แม่ก็ด่าพ่อเหมือนกัน พ่อก็สวนกลับ แต่เขาสองคนก็ยังคบกันได้ หลักๆ แม่เขาโฟกัสที่ลูก เขาเลยไม่ได้โฟกัสว่าพ่อจะไปทำอะไรบ้าง แต่พอพ่อทำผิดก็ต้องด่า พอด่าแล้วเขาก็กลับมาคุยกันเหมือนเดิม ครอบครัวหนูเป็นแบบนี้มาตลอด ก็อยู่กันมาได้ 30 ปีเนอะ เก่ง”

เผยพ่อไม่เคยมาบอกเวลาจะทำอะไร มารู้พร้อมข่าวออกแล้ว
“เวลาเขาจะลงมือทำอะไรเขาไม่เคยมาปรึกษา อย่างเรื่องลอตเตอรี่เขาก็ไปทำมา พอเป็นเรื่องถึงมาบอก คือหนูไม่ได้เจอพ่อทุกวัน เพราะหนูทำงาน พ่อเขาก็ถ่ายละคร ทุกอย่างเขาจะไปจัดการของเขาเอง บางอย่างหนูก็รู้จากข่าวด้วย อย่างตอนเขาล้มละลายหนูก็รู้จากข่าว เขาไม่ได้บอก เขาไม่ค่อยชอบบอกปัญหา แต่กับแม่อาจจะพูด เพราะเขาเป็นคู่ชีวิตกัน แต่เราเป็นลูก เขาก็ไม่ได้บอก

แต่ที่พ่อลงการเมืองอันนี้หนูไม่รู้เลย ไม่ได้ถาม ไม่ได้ยุ่งเลย เขาก็ไม่ได้มาบอก หนูรู้ตอนที่เป็นข่าวแล้ว รูปนั้นก็เห็นพร้อมทุกคน เขาก็ส่งเข้ามาในไลน์กลุ่มครอบครัวเหมือนกัน เหมือนเขาส่งรูปมาปุ๊บข่าวก็ลงปั๊บ หนูถ่ายละครอยู่ก็เลยไม่ได้ตอบอะไรใครเลย พอกลับมาบ้านเที่ยงคืนก็มีคนบอกว่าคอมเมนต์เต็มเลยไปดูสิ ถึงได้อ่าน ถามว่าตกใจไหม อย่างที่บอกว่าหนูเป็นลูก หนูพูดอะไรไม่ได้ หนูถูกปลูกฝังมาว่าให้ฟังพ่อแม่ เพราะฉะนั้นเราจะไปเป็นผู้นำเขาไม่ได้ ต่อให้หนูมีตังค์เลี้ยงเขา แต่หนูก็ไม่ทำตัวเป็นผู้นำเขา

เราจะมั่นใจในเรื่องที่เราคิด ถ้าเราคิดแบบนี้เราก็ทำ แต่เราจะไปบอกพ่อกับแม่ให้คิดแบบเราก็ไม่ได้ แต่หนูไม่ไปทำตัวเป็นผู้นำเขา ไม่ใช่ไม่เชื่อฟังเขา หรือบอกให้เขาทำตามหนู ก็ไม่เคย ก็คือแล้วแต่เลย และความคิดหนูก็ไม่เคยเสนอพ่อแม่ว่าหนูคิดแบบนี้หรือคิดต่าง ก็แค่ฟังๆ แล้วก็จบ ไม่เหนื่อยค่ะ แฮปปี้ ทุกวันนี้หนูก็แฮปปี้ที่มีงาน มีคนดูยูทิวบ์ ก็แฮปปี้แล้ว ไม่ได้คาดหวังอะไร มีตังค์แล้ว บ้าน รถก็มี เงินเก็บก็มี

ปัดมีเงินเก็บ 200 ล้าน แต่สุดท้ายบั้นปลายก็อยากให้ฝ่ายชายเป็นคนหาเลี้ยง
“เงินเก็บถึง 200 ล้านไหมเหรอ ไม่ถึง (หัวเราะ) แต่หนูก็ยังอยากให้ผู้ชายเลี้ยงอยู่นะ คือคนที่เขามาจ้างหนูตอนนี้อาจจะเห็นว่าหุ่นดี ดูสวย จ้างรีวิวได้ แต่สักวันนึงถ้าเราแก่ หุ่นไม่เผาผลาญแล้ว อ้วน อาจจะไม่ตรงกับความต้องการของลูกค้าแล้ว เขาก็ไม่จ้างเรา ถึงจุดนั้นก็ต้องมีผู้ชายเลี้ยงแล้วนะ (ยิ้ม) แต่ที่มีเงินเก็บทุกวันนี้คือเงินจากการเป็นยูทูบเบอร์เลยค่ะ ทุกบาทจากโซเชียลหมดเลย ติ๊กต๊อก ไอจี เฟซบุ๊ก ยูทิวบ์ รายได้ก็มีขึ้นมีลงปกตินะ แต่เบสไม่ได้ถึงขั้นไปนั่งดูทุกเดือนว่าได้เท่าไหร่ พอสิ้นเดือนเงินเข้าบัญชีก็จบ ไม่ได้คิดว่าทำไมเดือนนี้น้อยลง ทำไมเดือนนี้เยอะ ไม่ได้ขนาดนั้นค่ะ

ยูทูบเบอร์ตอนนี้การแข่งขันก็สูงขึ้นค่ะ ตั้งแต่คนเริ่มรู้ว่าทำแล้วได้ตังค์ แต่หนูรุ่นบุกเบิกตั้งแต่ยังไม่มีใครรู้ เพราะหนูเห็นตอนนี้คนที่เพิ่งมาทำจะบอกว่าทำยังไงให้ยอดวิวดี ทำยังไงให้ได้ตังค์เยอะ จุดมุ่งหมายของแต่ละคนคือโฟกัสที่ยอดวิว โฟกัสที่เงิน แต่จุดมุ่งหมายของหนูคือความชอบล้วนๆ ไม่ได้โฟกัสว่าทำแล้วต้องได้ตังค์ หรือจะมีใครดู คือเราอยากทำ แต่คนสมัยนี้ทำแล้วจะคาดหวังเยอะ คนนั้นคนนี้ทำมันเลยแข่งขันกันเยอะ แต่เราทำมาก่อน เลยไม่ได้จะไปแข่งขันอะไรกับเขา แต่แค่รักษาระดับเราไม่ให้ตกลงไปก็พอ คือทำคลิปสม่ำเสมอ มีคนดูตลอดก็พอแล้ว ไม่ได้คาดหวังว่าจะต้องพีกกว่านี้”

ไม่เคยเครียดกับยอดวิวหรือรายได้ ที่ทำก็เพราะอยากทำ
“เวลายอดวิวน้อยหนูก็ไม่ได้รู้สึกแย่นะ แต่หนูทำเพราะอยากทำ ถ้าเดือนไหนเงินน้อยก็ไม่ได้คิดว่าต้องขยันขึ้น ต้องทำนั่นนี่ คือทำตามที่อยากทำ อาจจะเพราะหนูเก็บมาได้เยอะแล้วจากที่ทำมา มันเลยจุดพีกมาแล้ว เพราะหนูทำมา 5 ปีแล้ว ตอนแรกก็ไม่ได้คิดว่าจะพีกนะ เริ่มจากที่พ่อบอกว่าว่างๆ ก็ให้ทำ พ่อหลายโปรเจกต์ไง แล้วก็มีโปรเจกต์นี้ขึ้นมาว่าให้เปิดช่องยูทิวบ์ หนูก็เลยทำ แล้วก็ชวนน้องชายมาทำ พอทำมาเรื่อยๆ คนก็ตาม แม้กระทั่งที่หนูได้มาเป็นดาราทุกวันนี้ก็เพราะว่าช่องเขาเห็นเราจากยูทิวบ์ ก็เรียกมาแคส ทุกอย่างมาจากยูทิวบ์หมดเลย พอเรารักมาก เราก็ไม่คาดหวัง และไม่โทษมัน พอเงินไม่ดีหรือวิวไม่ดีเราก็ไม่ได้โทษยูทิวบ์ ปล่อย ทำเพราะอยากทำ

กับน้องชายก็ทำด้วยกัน แต่ช่วงนี้โบ๊ทเขาอินกับเล่นเกม เขาก็มีช่องแคสเกม คนตาม 3 แสนกว่านะ เขาก็จะแคสทุกวัน ก็เลยไม่ได้มาถ่ายคลิปกับหนู เลยดูว่าหายไป แต่ถ้าไปตามที่ช่องเกมก็จะเจอทุกวัน แต่นางก็นานๆ จะมาที เพราะติดเกม มันก็เป็นวัยเขา หนูจะไปห้ามไม่ให้น้องเล่นเกมก็ไม่ได้ เพราะตอนหนูอายุเท่าน้องหนูก็เล่นนั่นนี่ไปเรื่อย ไม่มานั่งทำงานหรอก แต่ก็มีพี่ตงตงมาแทน (ยิ้ม) คือเรานั่งอยู่ด้วยพอจะถ่ายคลิปหนูก็จะไปไล่เขาก็ไม่ได้ ก็เลยให้ถ่ายด้วยกัน ไม่จ่ายค่าตัวด้วย โห รถตู้หนูเขาก็ใช้นะ (หัวเราะ)”

ดีใจได้เป็นนางเอกเอ็มวีของ “ตงตง กฤษกร กนกธร”
“ที่เขาให้หนูไปเล่นเป็นนางเอกเอ็มวีเพราะชื่อเพลง you’re my best แล้วพี่จะให้ใครเป็นนางเอกล่ะ (หัวเราะ) ตอนแรกหนูไม่รู้ว่าจะได้เป็นนางเอกเอ็มวี วันที่ได้ฟังเพลงครั้งแรกคือนางโป๊ะ เขาก็มานั่งเล่นโทรศัพท์อยู่ที่บ้านนี่แหละ แล้วหนูก็ได้ยินเสียงเพลงนี้ขึ้นมา พอหนูหันไปเขาก็บอกว่าพี่จะไปหาเพื่อนนะ เราก็งงว่าปกติก็ไม่ได้ติดเพื่อน นางก็ไปประมาณ 2-3 รอบไปอัดเพลงนี้แหละ และพอวันที่ขอเป็นแฟนก็มาเปิด และตั้งแต่นั้นมาก็ได้ฟังมาตลอด จนมาได้ลงตัวว่าวันถ่ายมิวสิกเป็นวันเกิดหนูพอดี แต่ตอนนั้นก็ยังไม่รู้ว่าเราจะได้เล่นเป็นนางเอกไหม ยังไม่กล้าถาม กลัวเขาไม่เลือก (หัวเราะ)

ก็ฟังตลอด เพราะเขาพูดว่าต้องร้องได้นะ เขาจะถามตลอดว่าร้องเพลงพี่ได้ยัง ก็เลยต้องร้องได้ (หัวเราะ) ก็ดีใจค่ะ เพราะเขาบอกว่าตั้งใจ และเขาต้องแอบฟัง แอบซ้อม เพราะเราอยู่ด้วย ก็ดีใจที่เขาทำการใหญ่อยู่นะ ลงทุนเยอะอยู่ เอ็มวีก็ถ่ายจริงจัง แต่เขาเป็นคนจริงจัง ถ้าเป็นเราก็คงง่ายๆ เนอะ ยูทูบเบอร์ถ่ายง่ายๆ แต่เขาเป็นเรื่องเป็นราว มีคอสตูม เปลี่ยนชุดหลายชุด แต่เพลงเพราะค่ะ ฟังได้ทุกคน แต่แค่เขาระบุว่าให้เรา เพราะถ้าไม่ระบุก็ไม่รู้ (หัวเราะ) ไม่ชอบคิดอะไรเอง เดี๋ยวหน้าแตก (หัวเราะ)”

รอแฟนหนุ่มมาบอกเองเรื่องจะพาไปหาแม่
“ที่เขาบอกจะพาหนูไปหาแม่เขา อันนี้จริงเหรอ ได้ยินคนพูดเหมือนกัน เขาไม่เคยมาบอก อย่างวันที่ไปทำบุญยายเขาก็ไม่เคยพูด แล้วหนูก็ไม่เคยถาม หนูไม่เคยพูดว่าอยากไป รู้สึกว่าถ้าเขาอยากพาไปก็คงพาไปเอง เพราะเป็นครอบครัวเขา เราไม่ควรไปเรียกร้องอะไร เราก็ไม่เคยพูด ไม่เคยถาม ครอบครัวเขา เขาควรจัดการเอง ไม่ใช่ให้เราพูดว่าอยากไป มันก็ไม่ได้ หนูก็รอว่าตอนไหน เพราะคนบอกมาเยอะว่าเขาจะพาไป

เขาบอกหนูจะเป็นผู้หญิงคนแรกที่พาไปเหรอ อันนี้ก็ไม่รู้อีก (ยิ้ม) เดี๋ยวถ้าไปเจอแม่จะหลอกถามแม่ว่าเคยเจอคนอื่นมาก่อนหรือเปล่า (หัวเราะ) แต่เขาก็บอกนะว่าไม่เคยพาใครไปหาแม่ แต่หนูก็ไม่เคยเรียกร้องว่าจะต้องไป แต่ถ้าไปก็จะไปแอบถามแม่ แต่ไม่เคยคุยกับคุณแม่เลยค่ะ เคยคุยแต่พี่ชายเขา เพราะตอนนั้นไม่สบาย แล้วพี่ชายเขาเป็นหมอ ก็เลยคุยบ่อย แต่กับแม่ยังไม่เคยค่ะ”

















กำลังโหลดความคิดเห็น