“เอ็มมี่” ทรุดร่ำไห้ “แม็ก เดอะสตาร์” นำพวงมาลัยขอขมาต่อหน้า ลั่นตกงาน 2 ปี ทำให้เป็นบ้า ตอนนี้ไม่โทษใคร ขอผ่อนจ่ายค่าเสียหาย เอ็มมี่ซัดแหลกไม่ไว้หน้า ทำไมถึงยังกล้าเรียกแม่ ทั้งที่ก่อนหน้านี้บอกว่าไม่สนิทกัน คาใจถ้าไม่มีหมายศาล จะขอโทษไหม ด้านแม็กร่ำไห้ ครั้งนั้นที่ให้สัมภาษณ์เหมือนผีเข้า อายนักเรียนตัวเองป่วยซึมเศร้าแต่ไม่ยอมรับ “แตงโม” เคยเตือนให้ไปหาหมอแล้ว
หลังจากที่เป็นคดีความกัน กรณีที่ “เอ็มมี่ แม็กซิม” หรือ “อมลวรรณ ศิริกิตติรัตน์” ฟ้อง “แม็ก เดอะสตาร์”หรือ “จิรายุทธ คันธยศ”เหตุฝ่ายชายขอเลิกสัญญาการทำงาน และมีการพูดพาดพิงสาวเอ็มมี่ ทำนองว่าที่ผ่านมาเข้าวงการสะอาดหรือสกปรก ขอให้กลับไปคิดดู อย่าร้องไห้ มันเฟก และเป็นลมไม่เนียน จนเอ็มมี่สุดทน ฟ้องหมิ่นประมาท พร้อมลั่นไม่เคยฟ้องใครเลยในวงการ ฟ้องแม็กเป็นคนแรก
ล่าสุดวันนี้ (23 พ.ค.) “เอ็มมี่ แม็กซิม” พร้อมทนายความ “นฤนาถ ทองภักดี” ได้เดินทางไปที่ศาลพระโขนง เพื่อเผชิญหน้าครั้งแรกกับ “แม็ก เดอะสตาร์” เพื่อไกล่เกลี่ย โดยหนุ่มแม็กได้นำพวงมาลัยมาขอขมาด้วย
ทนาย : “วันนี้ศาลนัดพร้อมเพื่อสอบคำให้การจำเลย เกี่ยวกับคดีนี้พี่เอ็มมี่ฟ้องเป็นหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา ศาลประทับฟ้องตั้งแต่นัดที่แล้ว และศาลนัดคำให้การสอบจำเลยในวันนี้ค่ะ ครั้งที่แล้วเป็นนัดไกล่เกลี่ยและนัดไต่สวนมูลฟ้องในทางคดี แต่ว่าทางจำเลยไม่มา เราก็ไม่รู้ว่าจะไกล่เกลี่ยกับใครเพราะว่าทางทนายจำเลยก็ไม่มา แต่ว่ามายื่นหนังสือขอเลื่อนคดี แต่ศาลท่านไม่ได้ให้เลื่อนเพราะเขามาสาย”
ติดใจแค่เรื่องเดียว! ไม่เห็นหมายศาล จะขอโทษกันไหม
เอ็มมี่ : “ได้ฟังสิ่งที่น้องพูดหมดแล้วในไลฟ์ ก็แค่อยากถามคำเดียวว่า ถ้าไม่เห็นหมายศาล จะออกมาขอโทษกันไหม ทำไมก่อนหน้านี้ยังมีการโทร.หาคนรอบข้างเอ็มมี่แล้วบอกว่าไม่ได้มีเรื่องกับเขา มีเรื่องกับเอ็มมี่แค่คนเดียว เอ็มมี่มีเรื่องอะไรกับเขา ไม่ใช่เพราะเราเหรอที่ทำให้เขาทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นงานอะไรก็แล้วแต่เราพยายามทำให้เขาหมด แล้วอยู่ดีๆ วันหนึ่งน้องบอกว่าผู้ใหญ่ยกเลิกสัญญาให้ด้วย แล้วเราผิดอะไรล่ะ ในวันงานคมชัดลึกแม้กระทั่งศาลผู้พิพากษาท่านยังถามเลยว่าน้องลงไปนอนบนพื้นทำไม ถ้าเป็นสิ่งที่รู้เท่าไม่ถึงการณ์ไม่ได้ตั้งใจที่จะทำ เอ็มมี่มองว่าน้องพร้อมมาแล้วหรือเปล่า ก็แค่ถามคำเดียวว่าถ้าวันนี้ไม่เห็นหมายศาลจะขอโทษกันไหม
เราติดใจตรงนี้ วันที่เอ็มมี่รอ คุณหายไปไหน เบอร์เอ็มมี่ก็มี ขอเรียกเอ็มมี่ว่าแม่ยังบอกว่าไม่สนิท เรายอมเงียบทุกอย่างเพื่อที่ไม่ให้เขาเสีย แต่เขากลับไม่หยุด ในวันที่เขาไลฟ์เอ็มมี่เชื่อว่าคนดู 70 ล้านคนเห็นหมด แล้วเอ็มมี่โดนด่า เอ็มมี่เสียเปรียบ แล้วแบบนี้ยังมาบอกว่าให้โอกาสเขา ให้เขาได้มีที่ยืน แล้วตอนที่เอ็มมี่อยู่ตรงนั้นทำไมไม่มีคนพูดว่าให้เอ็มมี่มีที่ยืนบ้างความยุติธรรมมันอยู่ตรงไหนล่ะ เป็นเอ็มมี่ แม็กซิมจะให้โดนด่ายังไงก็ได้เหรอ ฉีกแข้งฉีกขาเป็นลมปลอม เป็นลมทิพย์ เอ็มมี่โดนด่า เลื่อนไปติ๊กต็อกก็มีแต่ฟีดหน้าเอ็มมี่แม็กซิมเป็นลมปลอมเป็นลมทิพย์
เมื่อกี้เตรียมสมาธิมาดีมากว่าจะไม่ขึ้นเสียง ว่าจะไม่ร้องไห้ แต่กำลังจะถามว่าให้เขามีที่ยืน แล้ววันที่เอ็มมี่โดนสังคมด่าทั้งประเทศให้มีที่ยืนบ้างหรือเปล่า เอ็มมี่ทำดีกับเขาทุกอย่าง ให้ทุกอย่าง แล้วเราผิดอะไร บอกว่าเอ็มมี่เป็นลมปลอม วันนั้นใครถือโทรศัพท์ให้เอ็มมี่อยู่ที่สน. นักข่าวเขาเป็นพยานให้เอ็มมี่ได้เอ็มมี่ก็เลือกที่จะไม่พูด แต่ไม่หยุด เรื่องบางเรื่องไม่ใช่เรื่องน้อง น้องก็เอาไปโพสต์ไปแชร์ให้เอ็มมี่ได้รับความเสียหาย ความอับอาย ซึ่งน้องก็รู้ดีว่าคือโพสต์อะไร แล้วเอ็มมี่มีที่ยืนตรงไหน เอ็มมี่ต้องยอมเหรอ
จนวันนี้ศาลประทับรับฟ้อง เขาพูดว่าพี่เอ็มมี่ฟ้องผม ถึงจะขอโทษเอ็มมี่เหรอ ไม่ใช่เอ็มมี่โอเวอร์แอ็กติ้ง แต่มันคือสิ่งที่อัดอั้นแล้วยอมมาตลอด 1 ปีที่ไม่เคยออกมาให้สัมภาษณ์อะไรเลย เพราะอยากให้น้องหยุด แต่เลือกที่จะไม่หยุด ไม่ต้องบอกว่าเอ็มมี่หิวแสง ดังแล้ว ไม่ต้องการแสง นอนอยู่เฉยๆ แสงก็วิ่งพุ่งเข้ามา ใครจะเกลียดหนูเกลียดเลย แต่วันนี้หนูคนจริง คนตรง ตลอดระยะเวลาเกือบ 20 ปีที่อยู่ในนี้ หนูพูดตรงตลอด หนูถามเลยว่าแล้วที่ยืนเอ็มมี่อยู่ตรงไหน ต้องยอมเขาตลอดเหรอ ต้องยอมให้ทุกคนด่าข่มเหงเอ็มมี่ตลอด ทั้งๆ ตลอดชีวิตเอ็มมี่ช่วยเหลือคนยากไร้มาตลอดเวลา แล้วเราผิดอะไร ทนายมาช่วยเขาก็รู้ว่าเราไม่มีเงินหรอก แต่เขาก็ยินดีที่จะมาช่วย”
เผยถ้าขอโทษเฉยๆ จะธรรมดาเกินไป ไม่คุ้มกับความเสียหาย ขอรับคำขอโทษเป็นเงินสด
ทนาย : “พี่เอ็มมี่เขามีจุดประสงค์ว่า ขอโทษเฉยๆ มันธรรมดาไปเพราะว่าเขาเสียหายจริงๆ เหมือนอย่างที่หลายคนพูดว่าเขารับเงินขอโทษเป็นเงินสดประมาณนี้ค่ะ ตอนนี้ยังไม่ได้เรียกร้องค่าเสียหาย เพราะว่าต้องดูคำให้การจำเลยวันนี้ก่อนค่ะ”
เอ็มมี่ : “ถ้าหนูเป็นคนไม่ดี หนูฟ้องแพ่งพ่วงไปแล้ว เรียกค่าเสียหายแล้ว หลายคนบอกทำไมไม่เรียกแพ่งเข้าไป เราก็บอกไม่เป็นไร ขอดูเขาก่อนแล้วกัน ถามว่าจะรับคำขอโทษเป็นเงินสดเท่าไหร่ ในวันที่สังคมด่าเอ็มมี่ทั้งประเทศ ก็เหมือนกันงานไม่มี ออกไปไหนก็มีแต่คนว่าก็ขอให้เป็นหน้าที่ของทนาย หน้าที่ของกฎหมายแล้วกันค่ะ ในวันนี้หนูขอโทษด้วยถ้าทุกคนจะคิดว่าหนูใจร้าย แต่วันที่หนูรอเขามานานแสนนาน เขาไปอยู่ไหน ทำไมเขาต้องกล้าพูดได้ด้วยว่าเขามีเรื่องแค่กับเอ็มมี่คนเดียว เอ็มมี่ไม่เคยมีเรื่องกับเขา มีแต่มอบสิ่งดีๆ ให้เขา ทุกสิ่งทุกอย่างคือให้เขา ซีรีส์ทำเพื่อเขา จะทำอะไรก็ต้องเอาแม็กเป็นบรรทัดฐาน ต้องเหมาะสมกับแม็ก ต้องคู่กับแม็ก ขอโทษถ้าวันนี้ใครคิดว่าเอ็มมี่เล่นใหญ่ แต่มันอัดอั้นมาในขณะที่เราเงียบมาตลอดเป็นระยะเวลา 1 ปีเต็ม”
อยากให้บทเรียน
เอ็มมี่ : “ใช่ค่ะ ถึงบอกว่าถ้าวันนี้มันไม่มาถึงขนาดนี้ จะขอโทษกันไหม ไม่มีคำขอโทษเลย จนเห็นหมายศาล”
ทนาย : “หมายที่สองนะคะ เพราะว่าหมายแรกเป็นเราฟ้อง แล้วตอนนี้เป็นศาลนัดมาสอบคำให้การเป็นหมายที่สอง”
เอ็มมี่ : “เจ็บเหมือนกัน อัดอั้นตันใจเหมือนกัน(เสียงสั่นเครือร้องไห้) เสียใจเหมือนกัน ไม่ใช่ไม่เสียใจ แล้วสิ่งที่พูดว่าจุดจบของทอย (ธนภัทร ชนะกุลพิศาล) เอ็มมี่บอกให้ทอยไปฆ่าคนเหรอ เอ็มมี่บอกให้ทอยไปแทงเขานะลูกแบบนี้เหรอ มันไม่ใช่เปล่า
วันที่ตั้งใจรอ ก็คือวันที่ศาลนัดมารอบแรก รอน้อง ก็บอกว่ามานะ ขอให้มา เพราะพี่ไม่อยากมีเรื่อง พี่อยากให้เราจบไปด้วยดี ไม่อยากเป็นศัตรูกับใคร แต่ทำไมไม่มาแล้วดันเอาทนายมาถามค้านด้วย แต่โชคดีที่เขามาสาย แล้วผู้พิพากษาไม่อนุญาตให้ถามค้าน แล้วมันหมายความว่าอะไร การขอโทษไม่จำเป็นต้องให้มีหมายศาลหรือหมายอะไรเรียกไปหรอกจิตสำนึกมันเกิดขึ้นได้ด้วยใจและตัวเอง ไม่ต้องมีหมายหรือทนายอะไรทั้งนั้น หนูผิดหนูก็ขอโทษก่อนเพราะหนูเป็นเด็ก หรือต่อให้หนูจะแก่กว่าหนูก็ขอโทษได้เพราะการขอโทษไม่ได้ถือว่าเราแพ้ แต่มันกำลังแสดงความจริงใจ ความน่ารักของเราออกไปมากกว่านี่คือสิ่งที่เราพูดย้ำมาเป็นปีๆ แล้ว
ถามว่าเราไม่ยกโทษให้ใช่ไหม ไม่เรียกว่าไม่ยกโทษ แต่ขอให้เป็นหน้าที่ของกระบวนการยุติธรรม และตามทนายค่ะ เพราะบอกแล้วว่าทนายมาช่วยเขาไม่ได้เงิน แต่พวกเราต้องกินต้องใช้ไหมคะ ค่าน้ำมันไม่ได้เติมน้ำนะคะ ก่อนหน้านี้เขาโทร.มาแล้วเอ็มมี่ให้คุยกับทนายแล้วเรียบร้อย แต่ก็ไม่ได้มีการติดต่อใดๆ เกิดขึ้นเลย แล้วไม่ต้องเข้ามานะคะ ไม่ต้อง”
ขณะที่ “เอ็มมี่ แม็กซิม” ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนอยู่ “แม็ก เดอะสตาร์” ได้เดินเข้ามากลางวง พร้อมกับถือพวงมาลัยเข้ามาไหว้ขอโทษ แต่เอ็มมี่ ไม่ยอมรับพวงมาลัย และได้เดินหนี แต่นักแสดงหนุ่ม ก็ได้เดินเข้าไปพยายามจะขอโทษและให้พวงมาลัย จากนั้นทั้งคู่ก็ตอบโต้กันกลางวงสัมภาษณ์อย่างดุเดือด แม็ก พูดกับเอ็มมี่ก่อนว่า
แม็ก : “แม็กมาขอโทษ มันเหนื่อยแล้ว”
เอ็มมี่ : “เหนื่อยแล้ว ใครทำล่ะ”
แม็ก : “แม็กผิดเอง” (ก่อนจะคุกเข่าลงต่อหน้าเอ็มมี่)
เอ็มมี่ : “ไม่ต้อง คิดไว้แล้วว่าแม็กจะต้องคุกเข่า แม็กกำลังทำให้คนว่าพี่ใจร้ายใช่เปล่า แล้วตอนที่พี่โดนด่า แม็กอยู่ไหน(ร้องไห้) พี่คิดไว้แล้วว่าถ้าแม็กมา จะมาคุกเข่า แล้วแม็กก็ทำจริงๆ ด้วย แม็กกำลังจะทำให้ทุกคนที่ดูไลฟ์ตอนนี้บอกว่าพี่ใจร้าย ไม่ให้อภัยแม็กใช่ไหม พี่ให้อภัย พี่ขอโทษ แต่ให้เป็นเรื่องหน้าที่ของกฎหมายแล้ว”
แม็ก : “พี่เอ็มมี่จะเรียกค่าเสียหายอะไรก็ได้ แม็กขอผ่อนจ่าย เพราะแม็กก็ตกงานมา 2 ปี ตั้งแต่เหตุการณ์ที่เรารู้จักกันวันแรก แม็กได้งานซีรีส์ แล้ววันหนึ่งมันเกิดเหตุการณ์ที่เราไม่ได้ทำทั้งคู่ แรงกดดันทั้งหมดในหนึ่งเดือน”
เอ็มมี่ : “แล้วแม็กกดดันอะไร พี่ถามหน่อย ทำไมอยู่ดีๆ เราถึงมีเรื่องกัน เรื่องทอยไม่เกี่ยวกับแม็กเลย ทำไมแม็กมาโยนความผิดให้พี่”
แม็ก : “แม็กไม่อยากจะเป็นแม็กคนที่เป็นแบบนั้นแล้ว แม็กไม่เคยเป็นแบบนั้น ไม่เคยบ้า”
เอ็มมี่ : “ลุกขึ้นๆ ไม่ต้องนั่งคุกเข่า แม็กกำลังทำให้ทุกคนดูพี่ว่าพี่ใจร้าย”
แม็ก : “พี่เอ็มมี่ไม่ได้ใจร้ายกับแม็กนะครับ แม็กเองที่เป็นคนทำให้พี่เอ็มมี่ดูใจร้าย”
เอ็มมี่ : “แม็กบอกว่าพี่ไม่ได้เป็นเจ้าของค่าย พี่เอ็มมี่ไม่ได้ดูแลแม็ก ไม่ได้สนิทกัน วันที่แม็กนอนฉีกขา พี่ถามหน่อย แม็กทำแบบนี้ได้ยังไง ใครเสีย พี่เสียไหม”
แม็ก : “ไม่มีคำแก้ตัวอะไรแล้ว พี่เอ็มมี่จะให้อภัยหรือไม่ให้ก็แล้วแต่ แต่แม็กมาขอโทษพี่เอ็มมี่ แล้วก็อยากทำงานในวงการบันเทิง ไม่อยากให้เป็นทุกข์ต่อกันแล้วครับ ถ้าวันนี้มันยังคาราคาซัง กลับบ้านไปมันก็ไม่รู้จะบอกคนที่บ้าน บอกแม่บอกยายยังไงแล้ว เขาก็คงตกใจเหมือนกัน อยู่มาแม็กไม่เคยโต้ตอบใคร แต่วันนั้นทำไมแม็กถึงทำขนาดนั้น แม็กเจออะไรมาบ้าง แต่แม็กขอไม่โทษอะไรแล้ว ขอโทษตัวเองที่พลาด แม็กอายมากที่แม็กพลาด แม็กขอโทษจริงๆ ขอโทษครับ ขอโทษ (เอาดอกไม้เข้าไปไหว้เอ็มมี่ ที่นั่งร้องไห้อยู่) แม่หนูขอโทษ หนูขอโทษ”
เอ็มมี่ : “(ร้องไห้) ทำไมตอนนี้กล้าเรียกพี่ว่าแม่อะ ทำไมก่อนหน้าบอกไม่สนิท”
แม็ก : “หนูขอโทษๆๆ ไม่อยากทุกข์แล้ว แค่นี้หนูก็ไม่รู่จะอยู่ยังไงแล้วเหมือนกัน”
เอ็มมี่ : “ทำไมต้องทำให้พี่เสียหายขนาดนี้ (ร้องไห้) ถ้ากูไม่รับดอกไม้วันนี้ แม่xกูหมาเลยใช่เปล่า”
แม็ก : “ไม่เกี่ยวๆ หนูไม่ได้มาขอให้แม่อภัยให้ หนูแค่มาขอขมาในสิ่งที่หนูทำพลาด แม่ก็รู้ว่าหนูเจ็บ”
เอ็มมี่ : “ทีตอนนี้กล้าเรียกกูว่าแม่ ก่อนหน้านี้บอกไม่สนิท รู้ไหมคนด่าทั้งประเทศเลย ดอกไม้นี้ถือว่าขอโทษพี่เดย์แล้วกันนะ ขอโทษผู้บริหารยามาทุกๆ คน ไม่ใช่แค่พี่นะ รับดอกไม้ก็ส่วนเรื่องของดอกไม้ แต่เรื่องกฎหมายก็ขอให้เป็นเรื่องกฎหมาย จากนี้ไปเราจะได้ไม่ต้องมายืนตากแดดสัมภาษณ์แบบนี้อีก คนรักเราเขาก็จะยินดีกับเรา แต่ถ้าคนที่เขาเกลียดเรา เขาก็จะบอกว่าพวกเราแสดง เข้าใจยัง คนจะดังนอนอยู่เฉยๆ เราก็ดัง ไม่ต้องไปทำอะไรแบบนี้กับใครอีก”
หลังจากนั้นทั้งคู่ก็ออกมาให้สัมภาษณ์พร้อมกันต่อหน้ากล้องอีกครั้ง แม็กลั่นรู้ว่าตัวเองงี่เง่าเอง
แม็ก : “มันพูดไม่ออก คือไม่รู้จะพูดอะไร รู้ว่าตัวเองผิด ไม่เคยคิดจะก้าวร้าว แต่วันนั้นทั้งหมดมันปะทุจริงๆ มันเลยพลาด เราพูดแรงจริงๆ ไม่รู้สิ แม็กรู้สึกว่าถ้าแม็กเป็นคนงี่เง่าแบบนั้นตั้งแต่เข้ามาในวงการ จะไม่มาพูดแบบนี้ครับ”
เอ็มมี่ : “แล้วคำพูดที่บอกว่า เอ็มมี่เข้าวงการสะอาดหรือสกปรก ทำไมชีวิตฮาเวิร์ด หวัง ถึงเป็นอย่างนั้น ไอ้คำพวกนี้มันออกมาได้ยังไง มันเหมือนแม็กเตรียมมาหมดแล้ว”
แม็ก : “แม็กจะไม่แก้ตัวอะไร มันเป็นความคิด ณ ตรงนั้น แล้วตอนที่เป็นลมทำแบบพี่เอ็มมี่ วันนั้นแม็กไม่ได้หัวเราะเลยนะแม่ แม็กซีเรียสกับมันเพราะคิดว่าแม็กโดนกระทำแบบนั้นจริงๆ ขอไม่โทษอะไรแล้ว ขอโทษตัวเอง มันโคตรเหนื่อยแล้ว อยากให้ที่บ้านสบายใจแล้ว อยากให้พี่เอ็มมี่ ให้ค่ายสบายใจแล้ว”
เอ็มมี่ : “รับดอกไม้ก็ส่วนดอกไม้นะคะ การขอโทษกันเอ็มมี่ก็มองว่ามันก็เป็นสิ่งที่ควรเกิดขึ้น และมันเป็นสิ่งที่เอ็มมี่คิดไว้อยู่แล้ว รู้อยู่แล้วว่าภาพนี้มันต้องเกิดขึ้น เพราะอยู่ด้วยกันมา เขาก็รู้ว่าจริงๆ เราเป็นคนยังไง ถึงบอกว่าอย่ามีเรื่องกันเลยเคยบอกแล้ว เพราะเอ็มที่โกรธคือโกรธ รักคือรัก รักคือให้หมดใจ ไม่ได้เสียใจแต่เอ็มมี่คนเดียว”
ด่าตัวเองทำไมก้าวร้าว ทั้งที่เขาให้โอกาสแล้ว
แม็ก : “คือเรามองว่าพี่เอ็มมี่เขาก็มีลูก 3 คนแล้ว เราก็มองย้อนไปที่แม่เราเหมือนกัน เขาเป็นผู้ใหญ่มีวุฒิภาวะ แล้วเราตัวแค่นี้ ทำไมไปก้าวร้าวเขา มันก็คือพฤติกรรมที่ไม่ดี เขาเป็นคนให้โอกาสแม็กเอง แต่ทุกอย่างมันพังเพราะปัจจัยหลายๆ อย่าง ที่เราสองคนก็ไม่ได้สร้างขึ้นตั้งแต่แรก แต่แม็กโดนยุโดนปั่นบ้าง วันนั้นพอไปงาน เราไม่มีผู้จัดการส่วนตัว เห็นอะไรคิดอะไร ก็พูดไปทั้งตั้งใจไม่ตั้งใจ แต่มันคือความผิดพลาด แต่แม็กอยากจะแก้ไขตรงนี้ แล้วจะไม่ทำอีก ให้เป็นเคสตัวอย่าง อย่าเอาเยี่ยงอย่าง”
ไกล่เกลี่ยแล้วแต่เอ็มมี่
เอ็มมี่ : “ต้องถามทนายค่ะ”
ทนาย : “ยังไกล่เกลี่ยได้ค่ะ ต้องแล้วแต่พี่เอ็มมี่ ว่าจะรับคำขอโทษมากน้อยแค่ไหน เป็นเงื่อนไขของการที่เราตกลงกันมากกว่าค่ะ แล้วแต่คำให้การจำเลย”
ปล่อยให้เป็นเรื่องกฎหมาย
เอ็มมี่ : “ก็อยากที่บอกค่ะ ใครผิดคนนั้นก็ต้องขอโทษอยู่แล้ว ถ้าอะไรที่มันดำเนินมาถึงขนาดนี้แล้ว เอ็มมี่ก็มองว่าก็ปล่อยให้เป็นเรื่องของกฎหมาย เดี๋ยวขึ้นไปเคลียร์กันข้างบนดีกว่า จบยังไงเดี๋ยวจะมาอัปเดตพี่ๆ สื่อค่ะ”
เตรียมขอโทษหลังบ้านอีกครั้ง
แม็ก : “ตอนนี้ไมค์มันจ่อ การขอโทษมันก็เลยไม่ได้รู้สึกทัชขนาดนั้น ผมจะไปขอโทษพี่เอ็มมี่หลังบ้านอีกทีหนึ่งกับทางค่าย เพราะตรงนี้มันไม่เพียงพอ มันเขิน มันหลายอย่างเพราะผมมั่นใจว่าการที่เราไปคุยกัน มันจะรู้สึกได้มากกว่าตรงนี้ครับ ตรงหน้าจอมันไม่สำคัญ
ถามว่าจะมีโอกาสกลับมาทำงานด้วยกันไหม คือตัวเอ็มมี่เอง ไม่ได้มีแต่เคสแม็กคนเดียว ก่อนหน้านี้ก็มีใครหลายคนที่ทะเลาะกับเรา เราก็ให้โอกาสเขาตลอด ก็ให้งานเขา ช่วยเขาในหลายๆ เรื่อง ทุกอย่างยังเหมือนเดิมสำหรับหนู ทำงานได้กับทุกคน ใครจ้างมาเราก็ไปอยู่แล้ว อะไรที่เป็นเงิน อย่างที่บอกเรามีหนี้ เราก็ใช้อยู่ ลูกก็มีอีก คือทำงานได้ ขอแค่มีคนจ้าง”
ต่อมา “แม็ก เดอะสตาร์” ก็ได้เปิดใจทั้งน้ำตาขอโทษเอ็มมี่ ลั่นเหมือนผีเข้าให้สัมภาษณ์แบบนั้น
“ตั้งแต่เกิดเรื่องจนมาถึงวันนี้เราเจออะไรมาเยอะ ตั้งแต่เรื่องน้องทอย และก็เรื่องข่าวที่ทำให้เราเสียหาย ส่งผลกระทบกับพ่อแม่ ยาย คนต่างจังหวัดบ้านๆ เขาก็รู้สึก แล้ววันนั้นทุกอย่างถาโถมมาทีเดียว ที่ผ่านมาผมไม่เคยพลาด ไม่เคยโมโหขนาดนี้ ทุกอย่างผมเคยยอมมาตลอด 10 กว่าปี นิ่งเงียบ ไม่เป็นตัวของตัวเอง ทำอะไรก็ไม่ได้ งานก็ไม่มี พอมาเจอข่าวนี้เจอผลกระทบ ผู้ใหญ่รอเราทำงาน แต่ใจเราไม่พร้อม เพราะเรารู้สึกไม่สบายใจที่เราได้ล่วงเกินและก้าวร้าวกับผู้ใหญ่ในวงการ พี่เอ็มมี่เขาก็เป็นผู้ใหญ่ในวงการคนนึง เราเป็นครู แล้วเราพลาดเอง เราอายเด็กนะ เหตุผลบางทีมันคุมอารมณ์ไม่อยู่หรอกครับ ตอนนั้นด้วยระยะเวลา และโดนไมค์สัมภาษณ์ ถามมาเราก็ตอบ
เรารู้อยู่แล้วว่าพูดชื่อไม่ได้ ผมอาจจะพลั้งพูดชื่อพี่เขาไป ความในใจที่มี อาจจะเป็นความจริง ไม่จริงไม่รู้ ต้นสายปลายเหตุไม่รู้ แต่ด้วยคำพูดของพี่พิธีกรท่านนั้นบอกว่าผู้จัดเป็นคนส่งมา มันทำให้เราเกิดความโกรธแต่ ณ วันนี้ ผมไม่โกรธอะไรเลย แต่พี่เอ็มมี่จะโกรธอะไรผมก็ได้ แต่วันนี้ผมอยากทำงานแล้ว วันนี้มาด้วยความสบายใจ มาพร้อมคำขอโทษ และอยากให้น้องๆ คนในวงการ เราเป็นเด็ก บางครั้งเหตุผลก็ไม่จำเป็น เราเป็นเด็ก เราทะเลาะกับผู้ใหญ่ เราก็แค่ไปขอโทษเขา”
สำนึกผิดที่ก้าวร้าวเอ็มมี่
“สำนึกผิดอยู่แล้ว เพราะมันไม่ใช่สิ่งที่ดี เวลาที่เราขอโทษกับผู้ใหญ่ เราไม่ต้องหาเหตุผล เด็กก็คือเด็ก ผู้ใหญ่คือผู้ใหญ่ เราพาดพิงชื่อเขาให้เกิดความเสียหาย เราอายุแค่นี้ พี่เอ็มมี่เขาลูก 2 แล้ว คิดถึงแม่เราบ้าง ถ้าเราไปก้าวร้าวล่ะ อย่าได้ทำ เอาเคสแม็กเป็นเยี่ยงอย่าง ทุกคนผิดพลาดได้หมด ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา แม็กไม่เคยพลาดเรื่องตอบคำถาม”
ร่ำไห้อายนักเรียนตัวเองหนักมาก ไม่เคยพลาดแบบนี้
“ผมนัดทนายท่านหนึ่งไว้แล้ว แต่เขาบอกว่าเขาไม่ว่าง เราไม่รู้เรื่องกฎหมายจริงๆ เรียนมหาวิทยาลัยกว่าจะจบก็ 8 ปี ผมเป็นคนเรียนไม่เก่งนะ เต้นได้ ร้องเพลงได้ เล่นละครพอได้ กฎหมายไม่รู้เลย เพราะฉะนั้นเวลาตอบอะไรไปก็ไม่ทันตั้งตัว เป็นคนตรงๆ ผู้ใหญ่หลายคนบอกว่าแม็กเป็นคนตรงเกินไป เวลาตรง จริงใจมันดี แต่อย่าลืมเวลาอยู่หน้ากล้องมันต้องเก็บไว้ อย่าตรงไปหมด แต่ผมรู้สึกการตรงเป็นสิ่งที่ดี ตั้งแต่วันที่ให้สัมภาษณ์งานนั้น ผมได้เป็นตัวของผมเองมากขึ้น ผมอยากจะโยกย้ายส่ายเอวอย่างที่ผมเป็น ผมจะเป็น LGBTQ ได้อย่างเต็มตัว แล้วก็ขอโทษพี่เอ็มมี่ แม็กซิมมากๆ ครับ สิ่งที่ผมทำไปมันเป็นสิ่งก้าวร้าว ไม่มีใครอยากพลาด(ร้องไห้) อายนักเรียนตัวเองมาก”
อยากเคลียร์ให้จบวันนี้ ลั่นที่ผ่านมาเจอโควิด ก็ไม่พอกิน
“ใช่ เรื่องคดีแล้วแต่พี่เอ็มมี่จะเรียกร้องค่าเสียหาย แต่ว่าอยากจะบอกว่าตั้งแต่โควิดมา 2 ปี ดาราหลายคนไม่มีงานเลย ดาราหลายคนเป็นซึมเศร้า มีดาราหลายคนที่เสียชีวิตจากตรงนี้ ผมสอนเต้นก็แล้ว แต่ก็ไม่พอกินที่บ้าน ณ วันที่เราเซ็นสัญญากับค่าย ทุกอย่างดูดีไปหมด แต่เพราะเหตุการณ์ข่าวที่เราไม่ได้ทำ น้องทอยทอยก็ไม่ได้ตั้งใจ ไม่มีใครอยากให้เรื่องมันเกิดขึ้น แต่พอเรื่องมันเกิดขึ้น แล้วก็มีผลเสียต่อเนื่อง แล้วเรายังโดนเอาไปพูดให้เสียหายอีก มันต่อเนื่องจนมากเกินไป มันหนักเกินไปจนมันระเบิดออกมา มันเป็นจังหวะที่เราโดนถามเรื่องพี่เอ็มมี่ด้วย มันเลยถาโถมเลยทีเดียว (อย่างคดีตอนนี้ได้ยินว่าศาลประทับคำฟ้องของเอ็มมี่แล้ว?) ผมไม่รู้เรื่องกฎหมายเลย มีอย่างเดียวก็คือมาขอโทษเขา
ผมไม่ได้คุยกับพี่เอ็มมี่นอกรอบเลยครับ ผมโทร.หาเขาไปรอบหนึ่ง คุณแม่เขารับ คุณแม่เขาบอกว่าพี่เอ็มมี่เขาใจดีอยู่แล้ว เดี๋ยวคุณแม่บอกให้ แต่ผมก็ยังไม่ได้คุยกับพี่เอ็มมี่ แต่ผมคิดว่าพี่เอ็มมี่เขาเป็นคนสู้เหมือนเรา ขอโทษที่เข้าใจผิดพี่ไป จะไม่สนแล้วว่าเรื่องข่าวมันเกิดขึ้นจนไปถึงพี่พิธีกรคนนั้นได้อย่างไร ไม่สนอะไรแล้ว อยากทำเพลงที่ตัวเองอยากจะทำแล้ว เราต้องเปลี่ยนเพลงจากเพลงที่มีความหมายอ่อนแอ ไม่เอาแล้ว เพลงต่อไปจะเป็นแบบพี่มาช่า ที่เป็นสไตล์ของแม็กครับ”
ไม่คาดหวังว่าอีกฝ่ายจะยกโทษให้
“แม็กไม่คาดหวัง เวลาที่เราไปพูดล้อเลียนใคร ต้องบอกก่อนวันนั้นแม็กไม่ได้หัวเราะเลย สิ่งที่แม็กทำมันเกิดจากความซีเรียส โกรธ ไม่ได้ตลก เก็บกดมาก อย่างที่บอกความจริงเป็นอย่างไรไม่สนแล้ว ตอนนั้นมันโกรธมากจริงๆ จึงทำไป คำพูดมันแรงนะ สกปรกหรือสะอาด แต่นั่นไม่ใช่เหตุผลแล้ว วันนี้มาขอโทษพี่เอ็มมี่ เขายกโทษหรือไม่ยกโทษให้ไม่เป็นไรเดี๋ยวคนก็จะมีพูดว่ามีคนมาคอมเมนต์ว่าดาราทะเลาะกัน เดี๋ยวกระเช้า มีดอกไม้มาให้ ผมไม่มีอะไรมาครับ ผมไม่ได้ขับรถชนคนตาย เราไม่ได้ขโมยของของใคร
คือเราไม่รู้จะระบายกับใครด้วย ถ้าเรามีผู้จัดการส่วนตัว หรือคุณแม่อยู่ใกล้ เราคงระบายให้เขาฟัง แต่เรารู้สึกว่าอยากให้แม่ให้ยายที่อยู่เชียงใหม่ได้พักดีกว่า ให้ความเครียดออกสื่อก็มากพอแล้ว ผมว่าวันที่ผมให้สัมภาษณ์ครั้งนั้น ผมคิดว่าผมรับมือไหว แบกรับไว้คนเดียว ไม่ได้ปรึกษาใคร”
ไม่รู้ป่วยไหม แต่ “แตงโม นิดา พัชรวีระพงษ์” เคยแนะนำให้ไปหาหมอ เพราะบอกว่าตนเป็นซึมเศร้า
“เราก็ได้โพสต์ไปในทวิตเตอร์ แม็กไม่มั่นใจว่าเราเป็นหรือเปล่า แต่ว่าตอนนั้นได้คุยพี่แตงโม ภัทรธิดา เขาก็แนะนำให้แม็กไปหาหมอ บอกว่าแม็กเป็นซึมเศร้า แต่แม็กไม่ยอมรับฉันสามารถฟังเพลงแล้วเต้นได้ ฉันเอาอยู่ ฉันอยู่มา 12 ปี ไม่ค่อยมีงาน มีละคร 3 เรื่อง ฉันยังอยู่ได้เลย ฉันทำได้แค่นี้”
ไม่ได้กลับลำ แค่ยอมรับความผิดพลาด
“ถ้าคำว่ากลับลำ ก็เหมือนกับเด็กนักเรียน หรือนักศึกษาที่ทำอะไรผิด แล้วไม่มีสิทธิ์จะแก้ตัวเหรอครับ แม็กไม่เชื่อว่าชีวิตนึงไม่มีใครพลาด และครั้งนี้แม็กเหยียบพลาดเอง ซึ่งตั้งแต่ 2-3 ปีแรก แม็กไม่เคยพลาด แต่เพิ่งมาพลาดตอนนี้เพราะว่ามันไม่ไหวแล้ว มันแบกรับไม่ไหวแล้ว อยากให้มองว่าก่อนหน้านั้นแม็กเจออะไรมาบ้าง แล้วยอมมาตลอด”
ร่ำไห้แสร้งมีความสุขแต่โคตรหนัก ลั่นครั้งก่อนให้สัมภาษณ์ไม่เป็นตัวเอง ผีเข้า ขอโทษทำให้เสียชื่อ
“ขอบคุณติ๊กต็อกมาก เราแสร้งมีความสุข แต่พอเรามาดูจริงๆ โคตรหนัก (ร้องไห้) ไม่อยากร้องไห้ เดี๋ยวคนหาว่าแสดง มันไม่จำเป็นต้องแสดง เพราะ 12 ปีที่เจอมามันหนักมากพอแล้ว ถ้าผมเป็นดาราดังแล้วโดนแบบนี้ ผมคงพราว แต่นี่งานก็ไม่ค่อยมี แล้วโดนข่าวไม่ดีมาตลอด โดนดักทุกทางเลย แล้วจะให้ยืนอยู่ได้ไง อย่าลืมว่านักแสดงถ้าย้อนไปเมื่อ 10 ปีก่อน ถ้าเป็น LGBTQ หรือเป็นเกย์ ไม่ได้รับการยอมรับ พอมีข่าวปุ๊บ ผู้จัดเขาไม่เอาเราแน่นอน ละครที่กำลังจะได้ เราก็ต้องเสียมันไป แต่ ณ วันนี้ผมเป็นตัวเองมากขึ้น วันที่ให้สัมภาษณ์ครั้งนั้นรู้สึกว่าไม่ใช่ตัวเอง เหมือนผีเข้า ปีศาจเข้า ไม่คิดว่าตัวเองเป็นได้ขนาดนั้น เลยทำให้ผู้หญิงคนหนึ่ง อย่างพี่เอ็มมี่เขาเสียชื่อเสียง ขอโทษจริงๆ ครับ”
