“หญิง-ตุลย์” วิวาห์ธีมดิสนีย์ อาฟเตอร์ปาร์ตี้มินิคอนเสิร์ต เผยแหวนแต่งงาน 2.17 กะรัต เพราะเจอกันปี 2017 เผยปีนี้ได้เจ้าบ่าวเป็นของขวัญ จากนี้ขอเป็นนักวิ่ง ไม่เปลี่ยนใจมีลูกแม้ “แม่น้อย” จะหยอดทุกวัน ให้คำมั่นสัญญาจะทะเลาะกันไม่เกิน 24 ชั่วโมง
ถือฤกษ์ดีวันเกิดจัดงานวิวาห์ไปเลยวันเดียวกันสำหรับ “หญิง รฐา โพธิ์งาม” และหวานใจ “ตุลย์ ตุลยเทพ”โดยทั้งคู่ได้ออกมาเปิดใจกับสื่อมวลชนถึงงานวิวาห์ในวันนี้ เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาว่า….
หญิง : “คือห้ามแตะเลย แค่มองเดินมาเห็นเพื่อนเจ้าสาวยืนรอน้ำตาก็มาแล้ว รู้สึกประทับใจ มีพี่ๆ ท้ังผู้ใหญ่ในวงการ ผู้จัดละคร รวมถึงพี่ๆ หลายๆ คนที่ฝากคำอวบพรมาให้ ก็ตื้นตัน”
ตุลย์ : “ด้วยความที่คนไม่เยอะ จะมีแต่แขกที่สนิทจริงๆ มา รู้สึกอบอุ่นดี ไม่ต้องใหญ่แต่มีความหมาย”
หญิง : “แต่ละคนที่ขึ้นมาให้พร เขาก็มีเวลาให้พรเราจริงๆ จากความรู้สึก บางคนกำลังจะรดน้ำสังข์ก็น้ำตาไหลไปกับเราแล้ว เพื่อนๆ เองที่อยู่รอบๆ ตัวเรา พี่ๆ ที่เคยทำงานกับเราก็มากันหมด ก็ดีใจ เจนนี่ (เจนนิเฟอร์ โปลิตานนท์) กับพี่อั๋น (ศราวุธ นวแสงอรุณ) ก็บินมาเลย เขาไม่ได้กลับมาเมืองไทยเลย 3 ปี ตั้งแต่โควิด ก็ประทับใจที่วันนี้เพื่อนอยู่กับเรากันครบแก๊ง”
เผยแหวนแต่งงาน 2.17 กะรัต เพราะเจอกันปี 2017
หญิง : “วันนี้ไม่ได้คิดอะไรเลย ตอนแต่งหน้าไม่เคยคิดโมเมนต์ว่าจะร้องไห้เลย ยังคุยกับช่างแต่งหน้าเลยว่าวันนี้หญิงแต่งหน้ารอบเดียวได้ไหมเพราะว่าขึ้เกียจ เขาบอกว่าเจ้าสาวเขาต้องล้างหน้าแล้วแต่งใหม่อีกรอบนะ เราก็ทำไมล่ะ อ๋อ เขาร้องไห้ เข้าใจแล้วว่าทำไมเขาถึงล้างหน้าแล้วแต่งใหม่ (แหวนกี่กะรัต?) 2.17 กะรัต เพราะเจอกันปี 2017”
เล่าโมเมนต์แม่ลูกร้องไห้ตื้นตัน เป็นวันที่ดีใจที่สุดในชีวิต
หญิง : “เหมือนชีวิตนี้เราก็อยู่กันมาสองคนมาตลอด หญิงเคยได้เห็นแววตานี้ตอนเรียนจบปริญญา แล้วก็มาครั้งนี้ แต่ครั้งนี้มันมากกว่าครั้งที่แล้ว ครั้งนั้นมันเหมือนเราประสบความสำเร็จในฐานะลูกที่เรียนจบให้เขาและให้ตัวเองด้วย แต่วันนี้มันเหมือนเขาพาเรามาส่ง วันนี้แม่ก็พูดอะไรไม่เยอะ เพราะเขาก็พูดเยอะไม่ได้เหมือนกัน พูดแล้วก็ฮึบๆ แม่ก็บอกว่าแม่ดีใจนะ ดีใจที่สุดในชีวิต”
ตุลย์ : “วันนี้ไม่ได้พูดอะไร แม่พูดตั้งแต่งานคราวที่แล้วไปแล้ว แม่น้อยก็ฝากดูแลหญิง รักหญิงให้ได้เท่าครึ่งนึงที่คุณแม่รัก ซึ่งผมก็บอกไปว่าไม่มีทางได้ครึ่งนึงหรอกครับ(หัวเราะ)เพราะแม่รักหญิงมากๆ เลย แต่ก็ให้คำสัญญากับแม่น้อยไปว่าจะดูแลหญิง จะใช้ชีวิตไปด้วยกัน มีอะไรก็ปรึกษากันไป เป็นเพื่อนคู่คิดกันไป”
ธีมงานประยุกต์ความเป็นเจ้าหญิงในเรื่องต่างๆ
หญิง : “นี่ชุดที่ใส่แถลงข่าวก็เป็นชุดสโนไวท์นะ วันนี้เสื้อผ้าก็จะมีเรื่องราวสตอรี่ของละครที่เราชอบ เดี๋ยวเป็นงานกลางคืนจะเป็นลุคเจ้าหญิงอะไร แล้วอาฟเตอร์ปาร์ตี้จะเป็นอะไร และอาฟเตอร์ๆ จะเป็นอะไรต้องรอดูกัน ชุดจะเป็นในลักษณะประยุกต์เอาไม่ได้แต่งเต็มเป็นเจ้าหญิงออกมาจากการ์ตูน แต่ให้มีกลิ่นแฟนตาซี”
ตุลย์ : “(เป็นเจ้าชาย?) เป็นอะไรก็ได้ที่เขาให้เป็น”
หญิง : “กะเทย(หัวเราะ) แล้วก็คิดว่าเขาพูดกับตัวเอง”
ยก “ตุลย์” เป็นของขวัญวันเกิดในปีนี้
หญิง : “หญิงเกิดวันพฤหัสบดีที่ 19 พ.ค. แล้วปีนี้มันพอดีเป๊ะเลย บวกกับคุณตุลย์เขาฉลาด ก็คือวันแต่งงานกับวันเกิดก็ของขวัญชิ้นเดียวเลย เขาก็รวบเลย เราก็ไปดูดวงมาด้วย เปิดปฎิทินล้านนาวันที่ 19 เป็นวันดี ก็ดีใจที่มันมีเรื่องดีๆ เกิดขึ้นในวันนี้”
ตุลย์ : “งานแต่งงานเป็นของขวัญ”
หญิง : “เขาก็เป็นเหมือนของขวัญ เป็นสิ่งดีๆ ที่เข้ามาในชีวิตเรา มาในช่วงเวลา 4 5 6 ปีที่รู้สึกว่าหญิงทำให้พี่ตุลย์เป็นเวอร์ชั่นที่ดีที่สุดของเขา และพี่ตุลย์ก็ทำให้หญิงเป็นเวอร์ชั่นที่ดีที่สุดของตัวหญิงเองก็เป็นเรื่องที่ดีค่ะ”
“ตุลย์” เผยอยู่ด้วยกันแล้วสบายใจ ลงตัว ได้กลับมาเจอกันในจังหวะที่ใช่
ตุลย์ : “หญิงเป็นคนที่อยู่ด้วยแล้วรู้สึกสบายใจ เราคุยกันได้ทุกเรื่อง เวลาเรามีปัญหาแล้วเขาให้คำปรึกษาเราได้ คือไม่ใช่ผู้หญิงที่เป็นผู้หญิงมาก เขาจะมีความแมนๆ เป็นได้หลายอย่าง เป็นแฟนก็ได้ เป็นเพื่อนก็ได้”
หญิง : “หญิงว่าความสัมพันธ์เราเหมือนเบสต์เฟรนด์ด้วยค่ะ จริงๆ เรารู้จักกันมาก่อนที่จะมีความสัมพันธ์ในลักษณะแฟน เราเป็นพี่น้องกันมาก่อน เคยปรึกษาเรื่องชีวิตกันมาก่อนในครั้งหนึ่ง แล้วพอกลับมาเจอกันครั้งนี้ก็ตัดสินใจคบกันในอีกรูปแบบหนึ่ง เหมือนเราผ่านช่วงเวลาที่เราได้เห็นเขาในเวอร์ชั่นที่ซ่าสุดๆ ในยุคหนึ่ง พอวันนี้เป็นเวอร์ชั่นในมุมที่เขาเป็นผู้ใหญ่ขึ้น
เราเองก็เช่นกัน ยังคุยกันว่าถ้าวันนั้นเราไม่ได้เป็นพี่น้องกัน วันนี้คงไม่เกิดขึ้นหรอก หญิงก็คงยังเป็นเด็กที่ไม่ได้เรียนรู้ไม่ได้มีประสบการณ์ในชีวิต ก็คงทะเลาะและเลิกกันไปจบกันไปเหมือนแฟนเก่าๆ ที่เราเคยคบมา แต่ว่าวันนี้เราดันมาเจอคนที่ใช่ ในเวลาที่ใช่ ในจังหวะโมเมนต์ที่ใช่ ก็เลยคิดว่ามันน่าจะใช่แล้วแหละเป็นคนนี้แหละ”
จากนี้ขอเป็นนักวิ่ง ยังไม่คิดวางแผนมีลูก “แม่น้อย” พูดหยอดให้เปลี่ยนใจทุกวัน
หญิง : “ก็เป็นนักวิ่งเลยค่ะ(หัวเราะ) เรื่องลูกเป็นเรื่องที่เราคุยกันตั้งแต่วันแรกที่เราเจอกันอยู่แล้วว่าเราไม่ได้โฟกัสเรื่องนั้นเท่าไหร่ แต่ว่าไม่ได้ถึงขั้นหญิงแอนตี้ไม่ชอบเด็ก ไม่ใช่อย่างนั้นนะ ไม่กดดันตัวเอง หญิงมีเพื่อนที่มีลูกและพยายามที่จะมีลูก หญิงรู้สึกว่ามันมีทั้งความสุขและความทุกข์ในเวลาเดียวกัน บางทีคนที่อยากมีแต่ไม่มีก็ทุกข์ คนที่มีแล้วก็ทั้งสุขทั้งทุกข์ในเวลาเดียวกัน หญิงเลยรู้สึกว่าถ้าเขาจะมาก็มา ถ้าไม่มีก็ไม่เป็นไร ปล่อยธรรมชาติเลย และเราก็อายุมากแล้วด้วย ส่วนใหญ่ก็เอนเอียงไปทางอยากใช้ชีวิตในรูปแบบที่เราอยากทำ
แม่อยากมีอยู่แล้ว แม่ก็พูดทุกวันค่ะ น้ำหยดลงหิน (หัวเราะ) หญิงว่าคนเรามันก็มีความคิดที่เปลี่ยนไปทุกวันนะ หญิงไม่รู้ว่าอนาคตจะเป็นยังไง แต่ ณ วันนี้ตอนนี้หญิงคิดว่ายังไม่เกิดขึ้นเร็วๆ นี้ค่ะ”
ก่อนหน้านี้มีโมเมนต์ไม่เชื่อเรื่องความรัก แต่ “ตุลย์”เป็นคนทำให้เปลี่ยนความคิด
หญิง : “ก่อนที่พี่ตุลย์เข้ามา หญิงคิดแล้วแหละคือหญิงมีเพื่อนที่ยังไม่ได้แต่งงานเยอะ เราก็รู้สึกว่าวันหนึ่งเราก็คงอยู่กับคนกลุ่มนี้แหละ เพราะว่าคนที่แต่งงานมีลูกแล้วเขาก็มีชีวิตของเขา ก็คือปลงแล้วนะ ใช้ชีวิตไปวันๆ ทำงานแล้วมีความสุขกับทุกวัน แต่ว่าวันที่เขาเดินเข้ามา มันเหมือนเราได้ใช้ชีวิตในอีกมุมหนึ่ง การออกกำลังกายบ้าง บางเรื่องที่เราคิดว่าคิดแบบนี้มาตลอด แต่เขากลับให้มุมมองอีกแบบหนึ่ง ซึ่งเราก็น่าจะคิดได้แบบนี้เหมือนกันเนอะ
มันทำให้เรารู้สึกว่า บางครั้งเวลาเราคิดอะไรคนเดียวอยู่ในโลกของเราคนเดียวก็จะมีจุดจบที่เราสรุปแต่ละเรื่องด้วยตัวเราเองในแบบของเรา แต่พอมีอีกคนหนึ่งมาช่วยคิด มาช่วยออกความเห็น สอนเราในเรื่องๆ หนึ่งมันสามารถมีจุดจบหลายแบบเหมือนกัน เรารู้สึกว่าก็ดีเหมือนกันมีใครอีกคนเข้ามาในชีวิตเรา”
อยู่กับ “ตุลย์” แล้วรู้สึกปลอดภัย มีปัญหาหันหน้าคุยกัน ไม่มีอีโก้ โกรธกันไม่เกิน 24 ชั่วโมง
หญิง : “ข้อหนึ่งเลยเขาเป็นคนที่อยู่ด้วยแล้วสบายใจ เรารู้สึกปลอดภัยเวลาอยู่กับเขา ไม่ต้องมีความกลัวอะไร เราผ่านความกลัวมาเยอะมากเลยในชีวิต เรามีประสบการณ์เรื่องความรักทั้งดีและไม่ดี เรามีความกลัวมาตลอด พอมาเจอคนที่ทำให้เราไม่กลัวเลย เขาพร้อมพิสูจน์ตัวเองอยู่เสมอว่าพี่เป็นอย่างนี้ เขาทำให้เราเชื่อได้มากๆ กดดันไหมคะ(ถามตุลย์)
ตุลย์ : “ไม่กลัวเลย (ยิ้ม)”
หญิง : “ไม่กลัวเลย ก็เลยรู้สึกว่าอยู่ด้วยแล้วสบายใจ หญิงว่าคนที่เราอยู่ด้วยแล้วเรารู้สึกปลอดภัย สบายใจ วันดีๆ มันมีเยอะค่ะ แต่วันที่ไม่ดีเราพร้อมที่จะหันหน้าคุยกันด้วยเหตุผลไม่มีใครวางว่าฉันเป็นอีโก้ ฉันจะงอน ฉันจะไม่สนใจ คือเราไม่เคยโกรธกันเกิน 24 ชั่วโมงเลยนะ คือเราคุยกันเสมอว่าเมื่อไหร่ที่มีปัญหาหรือไม่พอใจ จะมีใครสักคนยอมก่อนเสมอ ไม่ใช่เขานะ ไม่ใช่หญิงนะ คือต่างคนจะไปด้วยธรรมชาติเอง ก็เลยรู้สึกว่าต้องเป็นคนแบบนี้แหละมั้งจะอยู่ได้ในชีวิต”
เล่าโมเมนต์หรือภาพจำที่ประทับใจที่มีต่อกัน
หญิง : “ก็เยอะนะคะ พี่ตุลย์เป็นผู้ชายที่ผู้ชายมากๆ โมเมนต์ความหวานที่สวีตเขาจะไม่ค่อยมี มันจะเป็นโมเมนต์เล็กๆ น้อยๆ อย่างเช่น เราหลับอยู่ในรถเขาก็จะกระแทกให้เราตื่น (หัวเราะ) อันนี้โมเมนต์ๆ (ยิ้ม)”
ตุลย์ : “จำได้แม่นมาก”
หญิง : “จำได้แม่น คือเขาเป็นคนที่ขับรถคนเดียวแล้วจะเหงาหรืออะไรสักอย่าง แล้วหญิงก็จะเป็นคนที่นอนในรถ คือส่วนใหญ่จะเป็นโมเมนต์เวลาที่ถ้าพอจะจำได้เป็นเรื่องของการวิ่งฮาล์ฟมาราธอนครั้งแรก คือมันเป็นเรื่องใหม่สำหรับเราแล้วมันเป็นการวิ่ง มันเป็นเรื่องของการสู้กับความคิดของเราคือเราหยุดเมื่อไหร่ก็ได้ขาเราเนอะ เขาจะคอยนวด คอยชัxพอร์ต อยากให้เราทำให้ได้ พอเราทำได้เราก็ขอบคุณเขา
คือมันก็มองได้เป็นเรื่องของการใช้ชีวิตคู่เหมือนกันนะ ถ้าวันหนึ่งใครบางคนที่เดินอยู่มันเหนื่อยหรือท้อแล้วแต่อีกคนดันท้อไปด้วยไม่รอ ฉันไม่รอฉันไปก่อนนะ แล้วก็ปล่อยเราเดินคนเดียวมันก็เหนื่อยเหมือนกันนะแต่ถ้าเขาพร้อมที่จะลดตัวเขาลงแล้วก็พยายามผลักดันเราแล้วก็ให้จบไปด้วยกันเราก็รู้สึกว่าคนแบบนี้ก็น่าจะใช่ แต่หลังจากนั้นเราก็ตกลงกันให้เขาวิ่งเพซเขา เราวิ่งเพซเรา ต่างคนก็ต่างวิ่ง ตกลงกันได้ก็ไปเจอกัน มีโมเมนต์นั่นแหละ โมเมนต์เดียว สนามนั้น ทีเหลือเขาก็วิ่งเพซเขา (หัวเราะ)”
ตุลย์ : “มันก็มีเรื่อยๆ แต่ว่าไม่ได้มีโมเมนต์ไหนที่จำได้ประทับใจเป็นพิเศษแต่คือรู้สึกว่าตลอดเวลาที่ผ่านมาเขาคอยชัปพอร์ต คือเวลาไหนที่เราต้องการเขา เขาจะอยู่ตรงนั้นคอยดูแลเราตลอดเวลา”
อาฟเตอร์ปาร์ตี้เป็นมิมิคอนเสิร์ต
หญิง : “มินิคอนเสิร์ต กลัวมาก ไม่ได้กลัวอะไร กลัวอํอฟ (ปองศักดิ์ รัตนพงษ์) กลัวมาก แล้วก็กลัวคนนี้ (ชี้ตุลย์) จะไปแย่งไมค์เพื่อน (หัวเราะ) กลัวมาก”
ตุลย์ : “ขอไว้แล้วไมค์ส่วนตัว”
หญิง : “โมเมนต์แก๊ง 2002 ราตรี มีแน่นอน ขอไมค์ไว้แล้ว 5 ตัว เมื่อวานถามแพลนเนอร์มีไมค์กี่ตัวคะ มี 4 ตัวครับ 5 ได้ไหม เดี๋ยวเอามาอีกตัวงานนี้เอาจริงๆ เหมือนเราได้กลับมาเจอคนที่เรารัก อย่างเมื่อเช้าก็รุ่นผู้ใหญ่ เอาจริงๆโควิดก็ทำเราไม่ได้เจอใครเยอะ ตอนเย็นก็เหมือนเพื่อน อย่างออฟเองหญิงก็แทบไม่ได้เจอเลยตั้งแต่ไม่ได้ถ่ายซิทคอมด้วยกัน เหมือนการได้กลับมาเจอกัน ได้คุยอะไรกัน”
ให้คำมั่นสัญญาจะทะเลาะกันไม่เกิน 1 วัน
หญิง : “ส่วนใหญ่ถ้าเรามีปัญหาอะไรหรือมีอะไรที่เราไม่เข้าใจเราก็จะรีบคุยกัน เราจะไม่ทะเลาะกันเกิน 1 วันเพราะเชื่อว่า หมายถึงให้จบวันนั้น อาจจะไม่ใช่วันนั้น อาจจะไม่ใช่ตอนนั้น คือหญิงเชื่อเสมอเวลาคนเราร้อน หูเราไม่ได้ยินอะไรแล้ว ได้ยินเสียงตัวเอง หญิงก็จะบอกพี่ตุลย์ถอยคนละก้าวเนอะ แต่ว่ามันจะต้องมีใครสักคนที่ยอม มันก็มีนะอารมณ์ ไม่เอาไม่ยอม แต่สุดท้ายก็ต้องกลับมาถามตัวเองว่าแล้วมันเสียเวลา 3-4 ชั่วโมงกับการงอแงการงอนแทนที่เราจะมีเวลา 3-4 ชั่วโมง
ในการทำความเข้าใจแล้วก็พูดคุยกันดีๆ ไหม ก็บอกเขาเสมอว่าเราจะพยายามเคลียร์ปัญหาซึ่งกันและกันถึงแม้ว่าบางครั้งคน 2 คน พอเคลียร์ปุ๊บไม่ใช่ว่าเข้าใจกันแล้ว ดีกันนะ มันก็ยังมีจุดที่เรารู้สึกว่าทำไมไม่เข้าใจ ทำไมเราต้องคิดแบบนั้นก็ต้องเอาตัวเองไปนั่งในที่ของเขาดู แล้วก็ลอฃคิดแบบเขาดู เขาก็เอาตัวเองมานั่งในที่เรา เราก็โอเค คนเรามันไม่จำเป็นต้องเข้าใจหรือต้องเหมือนกันหรือคิดอะไรเหมือนกันทุกเรื่อง เรามีสเปซตรงกลางไว้เสมอ โอเคยูคิดแบบนี้เราคิดแบบนี้ แต่เราอยู่ด้วยกันได้”
ตุลย์ : “มันคือการลดทิฐิของแต่ละคน”
บอกรักกันทุกวัน
หญิง : “บอกทุกวันเลยว่า เลิฟยู ถ้าความในใจคงเป็นห่วงเขาในเรื่องของ คือเขาเป็นคนออกกำลังกาย สุขภาพดีอยู่แล้ว แต่บางทีอะไรที่มันมากเกินไป ก็อยากให้เขาบาลานซ์ชีวิตทั้งซ้ายและขวาของเขาให้ดีเท่านั้นเลย แต่อย่างอื่นไม่มีอะไรต้องเป็นห่วงเลยเชื่อว่าด้วยตัวเขาเอง ความคิดและสติ หญิงว่าเขาเป็นคนที่ผ่านทุกปัญหาได้แน่นอน แต่ว่าเรื่องของการเวทความบาลานซ์ของชีวิตบางอย่างก็อยากให้เขาเวทดีๆ”
ตุลย์ : “จริงๆ ก็บอกรักทุกวัน ก่อนอนเราก็ต้องบอกกัน เราจะไลน์หากันก่อนนอนว่า เลิฟยู”
หญิง : “ก่อนนอนก็จะบอกว่า ไนท์นะ เลิฟยู ตื่นมาก็ มอร์นิ่ง ต้องส่งหากันตลอด เป็นเรื่องที่ทำตั้งแต่วันแรกที่รู้จักกันจนถึงวันนี้ค่ะ แต่เดี๋ยวก็ไม่ต้องไลน์แล้วๆ ก็เลิฟยูก่อนนอน (หัวเราะ)”
แพลนฮันนีมูนไปเที่ยวกับเพื่อนๆ ที่ภูเก็ต และพาสามีไปวิ่งมาราธอนที่ชิคาโก
หญิง : “ยังไม่มีฮันนีมูนที่ไปสองคนนะคะ ก็คือมีฮันนีมูนแอนด์เฟรนด์ (หัวเราะ) วันนี้แต่งงานเสร็จเราก็จะพักผ่อน และวันเสาร์พอดีเพื่อนหญิงมาจากต่างประเทศเยอะก็เลยจะพาเขาไปภูเก็ตก่อน แต่ต่างประเทศที่จะไปแน่ๆ เลยพี่ตุลย์จะไปวิ่งมาราธอนที่ชิคาโก ก็การท่องเที่ยวเชิงกีฬา (หัวเราะ) วิ่งแค่ 4 ชั่วโมง ที่เหลือก็เที่ยวหมด ก็อาจจะพาคุณแม่ไปด้วย น่าจะเป็นช่วงเดือนตุลาคมค่ะ จะเป็นช่วงที่ชิลล์ๆหน่อย ทริปแม่ๆ ทริปฮันนีมูนแอนด์มัม”
หลังแต่งงานก็ยังใช้ชีวิตอยู่ทั้ง 2 บ้านไปก่อน
หญิง : “คืออย่างบ้านพี่ตุลย์แต่ก่อนคุณพ่อ พี่สาว และพี่ตุลย์จะอยู่บ้านเดียวกันที่จรัญฯ แล้วคุณพ่อเสียไปเมื่อ 2 ปีที่แล้ว พี่สาวเขาก็เลยต้องอยู่บ้านคนเดียว หญิงก็รู้สึกว่าการที่ให้พี่สาวเขาอยู่บ้านคนเดียวก็ไม่ค่อยปลอดภัย หญิงก็เลยว่าจะไปนอนบ้านพี่ตุลย์แบบ 3 - 4 วัน แล้วก็กลับมานอนบ้านตัวเอง เพราะบ้านเราก็มีคุณแม่ด้วย แล้วก็มีน้องหมาด้วย ก็สลับกันไปอย่างนี้ก่อนแต่ก็มีดูคอนโดที่ซื้อกันไว้เหมือนเป็นเติร์ด เพลส สำหรับเราเพราะใกล้สวน วิ่งง่าย เป็นสถานที่พักผ่อน ก็น่าจะเสร็จปลายปีนี้ แต่ก็ไม่รู้ว่าจะไปอยู่ได้เยอะแค่ไหนค่ะ”