“หน่อง ธนา” เผยสาเหตุเลิก “แพรวา” เกิดจากปัญหาเล็กๆ น้อยๆ ปรับกันแล้วแต่สุดได้แค่นี้ ย้ำไม่มีมือที่สาม ตกลงจบกันผ่านโทรศัพท์ ตั้งแต่วันนั้นยังไม่ได้คุย เฮิร์ตหนักเลิกกันทั้งยังรัก ดีกว่าเกลียดจนมองหน้าไม่ติด พร้อมเจอและเป็นเพื่อนกันอีกครั้ง ครอบครัวให้กำลังใจ “วันใหม่” รู้แต่ไม่ถาม สภาพจิตใจดีขึ้นแต่ยังไม่ร้อยเปอร์เซ็นต์ ไม่ได้ปิดใจแต่ก็ไม่ได้เปิด สเปกเหมือนเดิมไม่ได้ทำให้เปลี่ยน ดีที่ได้มาเรียนรู้กัน
หลังสาว “แพรวา ณิชาภัทร ฉัตรชัยพลรัตน์”ออกมายอมรับกับสื่อ ว่าเลิกรากับแฟนหนุ่มรุ่นพี่ “หน่อง ธนา ฉัตรบริรักษ์”ไปแล้ว ตามข่าวลือ แต่เป็นการจากกันทั้งที่ยังรัก และตอนนี้ก็พร้อมมูฟออน ล่าสุดวันนี้ (13 พ.ค.) ก็ถึงคิวของฝ่ายชาย ที่จะเป็นฝ่ายออกมาพูดบ้าง โดยหนุ่มหน่อง ได้เผยถึงความสัมพันธ์ครั้งนี้ ในงานฉลองวันเกิดครบรอบ 60 ปี ชูชัย ชัยฤทธิเลิศ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เจมพีช กรุ๊ป ที่โรงแรมชูชัยบุรี ศรีอัมพวา ว่าจบลงด้วยดีเหมือนที่ฝ่ายหญิงบอก แต่สภาพจิตใจ ก็ยังเฮิร์ตอยู่ ดีขึ้นจากช่วงแรก แต่ไม่ได้ร้อยเปอร์เซ็นต์
“สภาพจิตใจตอนนี้ ก็…ดีขึ้นแล้วครับ ที่แพรวาออกมาพูด ก็ได้ดูครับ แต่ไม่ได้คุยเลย ตั้งแต่ที่จบกันไป ก็ไม่ได้ติดต่อกันเลยครับ มันก็เป็นอย่างที่น้องว่าแหละ ว่ามันคือรวมๆ แล้วมันเป็นเรื่องของการทำความเข้าใจกัน ว่าหลายๆ เรื่องเนี่ย คุยกันแล้วอาจจะไม่เข้าใจกัน แต่ว่ามันก็คืออย่างที่น้องบอกแหละ ว่าเราทั้งสองคนปรับกันมาแล้ว ไม่ใช่ว่ามีปัญหานิดหน่อยถึงแยกกัน ไม่ใช่อย่างนั้น ทุกอย่างคือผ่านกระบวนการนั้นมาทั้งหมดแล้ว เราประคับประคองกันมาดีแล้วครับ”
ปัญหาเกิดจากเรื่องเล็กๆ น้อยๆ หลายเรื่องรวมกัน
“โห…ผมว่าก็หลายๆ เรื่อง เรื่องเล็กๆ น้อยๆ แหละ คือไม่มีเรื่องใหญ่เลย เรื่องเล็กๆ หลายเรื่องรวมกัน”
ตัดสินใจยุติความสัมพันธ์กันทางโทรศัพท์ หลังจากนั้นยังไม่ได้เจอกันเลย
“ถ้าตอนนั้นคือโทรศัพท์ครับ (ไม่ได้เจอหน้ากันเลยใช่ไหมหลังจากนั้น?) ใช่ๆ ไม่ได้เจอหน้า ไม่ได้มีการติดต่อเลย ไม่ได้พิมพ์ด้วย”
ไม่มีสัญญาณเตือน เพราะปรับกันมาเรื่อยๆ แต่มันสุดได้เท่านี้
“สัญญาณเตือนจริงๆ มันก็ไม่มีนะ แต่มันก็จะเห็นอยู่แล้ว ว่าหลายครั้งที่ความคิดเราไม่ตรงกัน แต่ว่าอย่างที่บอก เรื่องสัญญาณเตือน เราอาจจะไม่เห็น เพราะเราค่อยๆ ปรับกันมาเรื่อยๆ อยู่แล้วครับ แต่ว่าพอถึงจุดหนึ่งแล้ว เราก็ต้องมาคุยกัน ว่ามันอาจจะสุดได้เท่านี้นะ”
รับตกใจ “แพรวา” เอ่ยปากขอเลิก แต่ตกลงกัน โอเคแล้ว
“ก็มีครับ ก็มีบ้าง แต่ว่ามันก็เป็นเรื่องสุดท้ายเราตกลงกันแล้ว ว่าโอเคนะ ว่ามันจะต้องเป็นอย่างนี้นะ”
รู้สึกเฮิร์ตตามปกติของมนุษย์ อยู่ที่แต่ละคนจะฮีลตัวเองยังไง แต่ส่วนตัวคืออยู่กับเพื่อนและ “น้องวันใหม่”
“ก็มีครับ มีอยู่แล้ว เป็นมนุษย์เนอะ ต้องมีเรื่องอะไรพวกนี้อยู่แล้ว แต่ว่ามันก็อยู่ที่ว่าทั้งผมทั้งน้อง จะมีวิธีการฮีลตัวเองยังไงบ้าง ของผมก็อยู่กับเพื่อน หรือไม่ก็อยู่กับวันใหม่ (มูฟออนได้หรือยัง?) ในเรื่องของการใช้ชีวิต จริงๆ ก็ถือว่าดีขึ้นในขั้นหนึ่งแล้วครับ แต่ยังไม่ร้อยเปอร์เซ็นต์”
ครอบครัวให้กำลังใจ คอยชวนออกไปข้างนอก
“ก็จะมีแม่กับเฮียบอย (ปกรณ์ ฉัตรบริรักษ์) ก็ทุกคนแหละชวนให้ออกไปข้างนอก หรือว่าวันที่ผมไม่อยากออกไปนอก เขาก็จะบอกว่าออกไปหาเพื่อนไหม ซึ่งผมก็จะรู้ตัว ว่าเมื่อไหร่ที่พร้อมจะออกไป”
มีนักข่าวติดต่อมาถาม แต่ก็ปฏิเสธ เพราะอยากพูดทีเดียว ไม่ได้รอให้ฝ่ายหญิงออกมาตอบก่อน
“จริงๆ ก็จะมีพี่นักข่าว ส่งหรือว่าโทร.มาถามบ้างแล้ว แต่ผมก็ได้แจ้ง ว่าผมขออนุญาตพูดทีเดียวนะครับ แล้วก็ไม่รู้ จะให้ไปเรียกมาก็เกรงใจเหมือนกันครับ”
ยังไม่ได้ติดต่อกันตั้งแต่เลิก แต่มีฝากให้คนใกล้ดูแลน้องด้วย
“คือตอนนี้เนี่ย อย่างที่บอกว่าไม่ได้มีการติดต่อกัน แต่ว่าผมก็จะส่งสารไปผ่านคนใกล้ตัวเขา ว่าก็ฝากดูแลต้องเขาด้วย หรือไม่ก็เป็นคนที่ทั้งเราแล้วก็น้องเนี่ยรู้จัก เขาเองพอเห็นข่าว ก็จะออกมาถามว่าเป็นยังไงบ้าง ผมก็จะบอกว่าเออ มันเป็นอย่างที่ข่าวบอกแหละ ถ้าเกิดว่าน้องไปหาก็ฝากดูแลเขาด้วย”
โอเคที่จะกลับมาเป็นเพื่อนกัน ถ้าไม่จบตอนนี้ อาจจะเกลียดและมองหน้ากันไม่ติด
“เราโอเคครับ เพราะอย่างที่บอกแหละ ตอนสุดท้ายเรียกว่าคุยตกลงกันหมดแล้ว เหมือนถ้าเราไม่จบกันแค่นั้น เราอาจจะ…ใช้คำว่าเกลียด หรืออาจจะแบบแค่ว่ามองกันไม่ติดหรือเปล่า คือถ้าเกิดหยุดกันตรงนั้น ผมอยากให้วันหนึ่งเนี่ย เราเจอกันแล้วเรายิ้มให้กันได้ก็ตกลงกันแล้ว ว่าดีกว่าที่จะเป็นอย่างนั้น”
เลิกกันทั้งที่ยังรักกันอยู่ อนาคตรีเทิร์นไหมยังตอบไม่ได้ บอกเพราะเรารักกันมากพอ ที่จะไม่ทำร้ายกันไปกว่านี้
“ก็รู้สึกแหละครับ (แสดงว่าอาจจะกลับมารักกันได้อีก?) อันนี้ผมตอบไม่ได้ เพราะว่าจริงๆ ผมก็เห็นหลายคอมเมนต์นะ คือผมก็ได้ตามข่าวแหละ หลายคอมเมนต์บอกว่าเป็นเพราะรักกันไม่มากพอหรือเปล่า ถึงต้องเลิกกัน จริงๆ ความคิดเล่านั้นก็ไม่ได้ผิด ต่างคนต่างคิดได้ แต่ว่าโดยส่วนตัวเนี่ย สำหรับผม…คนที่อยู่ในจุดที่มองเห็นของคนสองคน ผมมองว่าเพราะเรารักกันมากพอ ที่จะไม่ทำร้ายกันไปมากกว่านี้”
คนรอบข้างมีถาม แต่เข้าใจ รอให้ดีขึ้นก่อนคุย
“เพื่อนๆ ก็มีถามครับ เราก็แค่บอกให้เขารับรู้ เขาก็จะโอเค ถ้าเกิดว่าเป็นเราเป็นเพื่อนสนิท เขาก็อาจจะแบบเดี๋ยวค่อยคุยแล้วกัน รอให้เราดีขึ้นก่อน ค่อยมาว่ากัน”
ยืนยันไม่ได้มีมือที่สาม จบกันเพราะเรื่องของคนสองคน
“ไม่มีมือที่สามเลย เป็นเรื่องของคนสองคนเท่านั้นเลยจริงๆ ครับ”
ปัดข่าวลือ “แพรวา” กลับไปหาแฟนเก่า
“อันนั้นก็เห็นข่าว แต่ว่าจริงๆ ก็ตามที่น้องว่านั่นแหละ”
ความรู้สึกดีขึ้นกว่าช่วงแรก แต่ยังไม่ร้อยเปอร์เซ็นต์
“มันดีขึ้นจากช่วงแรก แต่ว่าดีขึ้นแต่ไหนยังตอบไม่ได้ แค่ยังไม่ครบร้อยเปอร์เซ็นต์ ตอนนี้ก็อยู่กับเพื่อนๆ ไปก่อน”
ไม่มีกลับไปเปิดอ่านไลน์เก่าๆ พร้อมเจอหน้ากันได้
“จริงๆ ก็ไม่มีแล้ว คืออย่างที่บอก ถ้าเราเปิด เราก็สามารถพิมพ์ไปหาเขาได้ แต่ไม่ได้บล็อกการติดต่อ พร้อมที่จะเจอได้ครับ”
“น้องวันใหม่” รู้เรื่องเองเพราะเห็นข่าว แต่เข้าใจและรู้ว่ายังไม่ควรถาม
“จริงๆ วันนั้นผมก็ถามน้องเขา ว่ารู้ไหม น้องบอกว่าหนูรู้หมดแล้ว หนูเห็นข่าวหมดแล้ว คือเขาก็คงเห็นข่าวของเขาแหละ ผมเองก็ตกใจ คือเขาเล่นติ๊กต็อก เล่นเฟซบุ๊ก เขาก็จะเห็นข่าว แต่เขาไม่ถาม เขาโตมากนะเขาน่าจะรู้ว่ายังไม่ควรถาม ณ ตอนนี้ ก็ต้องขอบคุณทุกคน ที่เรียกว่าเป็นห่วงพวกเราทั้งคู่ ผมเชื่อว่าเวลาจะฮีลเราทั้งสองคน ให้มันผ่านพ้นเรื่องราวเหล่านี้ไปได้ครับ ส่วนตอนนี้ไมได้เปิดใจแล้วก็ไม่ได้ปิด”
มุมมองความรักและสเปกก็ไม่ได้เปลี่ยน การได้คบกันเหมือนได้เรียนรู้ ว่าเด็กกว่ามีความคิดยังไง
“ก็ไม่ขนาดนั้น การที่เราได้คบกับน้อง ก็เหมือนเราได้เรียนรู้อะไรมากขึ้น กับเด็กอายุเท่านี้ ที่เด็กกว่าเรา ว่าความคิดเขาเป็นยังไง ดีที่ได้มาเรียนรู้กันแหละ (รักครั้งต่อไปต้องเป็นผู้ใหญ่กว่านี้ไหม?) จริงๆ ก็ไม่เกี่ยวกับเรื่องพวกนั้นเยอะครับ ใช่ก็คือใช่ครับ”