xs
xsm
sm
md
lg

“ปอย ตรีชฎา” เจ้าของโรงงานผลิต ไม่ได้คิดว่าเป็นดารา ขอบคุณยกเป็นไอดอลวางตัวแพง สวยและทรงพลัง

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



“ปอย ตรีชฎา” ไม่เคยหยุดเรียนรู้ ปีนี้จบปริญญาโท ศึกษาเรื่องการรักษาโรค และโรคมะเร็ง พ่วงตำแหน่งเป็นเจ้าของโรงงานผลิต ขอบคุณยกเป็นไอดอลวางตัวแพง สวยและทรงพลัง ลั่นไม่โสดแล้ว แต่ไม่อยากตอบ เพราะไม่ได้รู้สึกว่าตัวเองเป็นดาราแล้ว

นานๆ จะออกมารับงานในเมืองไทยสักที หลังจากที่หันไปเอาดีกับงานโกอินเตอร์ ล่าสุด “ปอย ตรีชฎา เพชรรัตน์” เผยว่าการกลับมารับงานพรีเซ็นเตอร์สบู่ครั้งนี้ ค่าตัวไม่ถึง 8 หลัก พร้อมเผยสถานการณ์ที่เมืองจีน

ถามว่าค่าตัว 8 หลักไหม ก็ไม่นะ การคุยกันนี่เราก็มีการคุยกันในต่างประเทศด้วยค่ะ และก็ดราฟสัญญา ปอยก็พอทราบเรื่องนี้อยู่แล้วค่ะ (เราเป็นพรีเซนเตอร์หรือพาร์ตเนอร์?) ไม่ใช่ค่ะ ปอยยังติดสัญญาที่ฮ่องกงเหมือนเดิม ฉะนั้นการรับงานก็จะต้องผ่านทางบริษัททางฮ่องกงค่ะ ส่วนเรตการรับงานน่าจะเป็นเรต US นะคะ”

ใกล้เปิดประเทศแล้ว อั้นมาเกือบ 2 ปี ส่วนสถานการณ์เมืองจีนดีขึ้น
“ปอยกลับค่ะ แต่ปอยคิดว่าคงไม่ได้รับงานที่ไทยเยอะเหมือนเดิม เพราะยิ่งช่วงนี้ก็ยิ่งใกล้เปิดประเทศและเราอั้นกันมาเกือบ 2 ปี โดยปกติแล้ว เมื่อก่อนเวลาเราไปทำงาน สมมติว่าจะต้องเข้าไปที่จีนคือปอยจะต้องกักตัว สิริรวมเกือบ 1 เดือน แล้วปอยมีทีมงานจากไทยไปด้วยหลายท่านหลายๆ ท่านพอปอยพูดถึงเงื่อนไขแล้ว หลายท่านก็เซย์โน คือ 30 วัน เขาไม่ได้ทำอะไร ก็ค่อนข้างลำบาก ตอนนี้เหมือนประเทศใกล้ๆ เปิดค่ะ ทุกธุรกิจก็ต้องรีบทำ มีหลายโปรเจกต์ที่ปอยเคยค้างไว้จนสุดท้ายเขาต้องตัดจบไปเลย แล้วก็มีหลายโปรเจกต์ที่เคยสัญญาว่าจะไปทำก็ต้องไปถ่าย

ตอนนี้นโยบายของประเทศจีน ซีโร่เคส ถ้าสมมติมีการระบาดในมณฑลไหนก็จะมีการบริหารจัดการในเมืองนั้นเลย เช่นล่าสุดสถานการณ์ในเซี่ยงไฮ้ค่อนข้างรุนแรง ตอนนี้ดีขึ้นแล้ว คือแล้วแต่ว่าปอยจะไปทำงานที่เมืองไหน ส่วนใหญ่ก็ประมาณ 2-3 เมือง ปักกิ่ง เซี่ยงไฮ้ แล้วก็อยู่ที่กวางโจว

จริงๆ ช่วงโควิดมีงานเข้ามาตลอดเลยค่ะ ช่วงนั้นคือยินดีให้เราไปกักตัว อย่างที่บอกว่าจริงๆ ปอยไปได้นะ ปอยไม่ได้ซีเรียส แต่ว่าทีมงานไปไม่ได้ อีกอย่างหนึ่งเท่าที่ทราบตอนนี้การทำงานที่ฮ่องกงหรือจีน การจัดระเบียบทางกฎหมายค่อนข้างยุ่งยาก ก็เลยรู้สึกว่าจริงๆ แล้วเราไม่ได้เร่งรีบไปไหน

สถานการณ์ที่ผ่านมา จริงๆ เขาคุมเข้มตลอดเวลา เราก็มีความกังวลอยู่นะคะเพราะว่ามีครั้งนึงที่ปอยมีโอกาสไป จำได้เลยว่าการออกไปซื้ออาหารหรือการออกไปพบปะเพื่อน เป็นเรื่องต้องห้าม ปอยรู้สึกว่าบางทีต่างบ้านต่างเมือง ยิ่งเราอยู่เมืองไทยนานๆ ก็จะยิ่งคิดถึงเมืองไทย แล้วเวลาเราไปอยู่เมืองนอกก็ไม่ได้พบปะใคร รู้สึกคิดถึงบ้าน คิดถึงเพื่อน แล้วอินเทอร์เน็ตที่จีนก็ไม่ได้ถูกอนุญาตให้เล่นเท่าไหร่มากค่ะ

ไม่ใช่แค่ปอยที่รอให้สถานการณ์ดีขึ้นนะคะ ปอยเห็นว่าแม้แต่ทางบริษัท ทางผู้ลงทุนสร้างภาพยนตร์เองก็ตาม ทุกคนรอสถานการณ์นิ่ง เพราะว่าคนที่เป็นนักแสดงในเรื่อง ไม่ใช่แค่ปอยคนเดียวที่มาจากต่างประเทศ บางทีก็ฝรั่งก็มี คือถ้ามีมุมใดมุมนึงกระทบกับงานเขาก็คงไม่กล้าเริ่มลงทุนอะไร”

เผยทุกโปรเจกต์ที่คุย เลื่อนหมด แต่ช่วงโควิดอยู่ๆ ก็ได้เป็นเจ้าของโรงงานผลิต
“ตอนนี้ที่คุยกันคือคุยกันตั้งแต่ 2021 แล้ว แต่ว่ามันก็ถูกเลื่อนมาจนปีนี้ แต่ยังไม่มีการพูดถึงวันที่ชัดเจน แต่โปรเจกต์เราทราบแล้วว่าเกี่ยวกับอะไร แต่ในเรื่องของวันเวลายังไม่ทราบ ถามว่าเราอึดอัดไหม ไม่อึดอัดค่ะ จริงๆ ปอยอยากให้สถานการณ์มันดีขึ้นก่อน อันนี้คือสิ่งที่ปอยอึดอัดมากกว่าเพราะว่าถ้าปอยต้องไปทำงานที่โน่นแล้วยังมีความกังวลทางที่บ้าน ในช่วงโควิดมันมีอะไรเกิดใหม่ขึ้นมากมาย อยู่ๆ ก็มาเป็นเจ้าของโรงงานผลิต เลยรู้สึกว่ากลายเป็นเราที่มีภาระหน้าที่รับผิดชอบที่เมืองไทยเพิ่มขึ้น เราเลยต้องมีการบริหารจัดการเวลาตัวเองในการทำงาน ซึ่งปอยอยู่ไทยนานมากเลยค่ะ ปอยอยู่ไทยนานที่สุดแล้วตั้งแต่เริ่มทำงานต่างประเทศ”
 
คาดปีนี้จบปริญญาโท บอกที่ผ่านมาเรียนแบบฟูลไทม์ ไม่มีการประนีประนอม ต้องพยายามมากกว่าคนอื่น แต่ไม่เรียนต่อปริญญาเอก
คือเป็นโรงงานรับผลิตผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร เป็นโรงงาน มันก็เลยมีงานวิจัยด้วย แล้วก็เรียนหนังสือด้วย เรียนอยู่ คิดว่าปีนี้คงเรียนจบปริญญาโทค่ะ ที่มหาวิทยาลัยมหิดล สาขาวิชาชีววิทยาศาสตร์การแพทย์ระดับโมเลกุล คือในสถาบันมีให้เลือกแค่สองสาขา ปอยเลยคิดว่าทางเจนเนติกส์ หรือพันธุกรรมเป็นเรื่องที่น่าสนใจ เช่น วัคซีน พวกนี้มันเกี่ยวข้องกับพันธุกรรมหมดเลย ปอยรู้สึกว่ามันเป็นเรื่องใกล้ตัวเลยอยากเรียน

ถามว่าจะเรียนให้สุดไปถึงไหน เบื้องต้นปอยคิดว่าแค่จบปริญญาโทก่อน เรื่องที่จะเรียนต่อในระดับปริญญาเอกขอพักเลยเพราะว่าสิ่งที่ปอยเรียนเกือบ 3 ปี เป็นการเรียนที่ฟูลไทม์ คือปอยไม่รู้ว่าการเรียนสาขาอื่นเป็นยังไง แต่ที่นี่เป็นการเรียนแบบฟูลไทม์ต้องเรียนจันทร์ถึงศุกร์ เช้าถึงเย็น ไม่ใช่ว่าเรียนอาทิตย์ละวัน ไม่มี แล้วมาตรฐานของมหาวิทยาลัยค่อนข้างสูงมาก คือไม่มีการประนีประนอมเลย คือถ้าเราไม่ผ่านคิวซีก็เสียชื่อมหาวิทยาลัย ฉะนั้นทุกสิ่งทุกอย่างที่ปอยเรียน ด้วยความที่ปอยไม่ได้เป็นคนเก่งเท่าคนอื่น ปอยต้องพยายามมากกว่าคนอื่น และก็หนักกว่าคนอื่นมากเลย”

นำมาต่อยอด โรงงานผลิตสิ่งที่แอดวานซ์กว่าชาวบ้าน
“คงเป็นธุรกิจอีกอันนึง ถามว่าปอยได้เอามาใช้ในโรงงานของตัวเองไหม ได้ใช้ แต่ว่ามันแอดวานซ์มากเลย คือกลายเป็นโรงงานเราจะผลิตสิ่งที่แอดวานซ์กว่าชาวบ้าน แต่สิ่งที่เราเรียนรู้คือการรักษาโรค พวกโรคมะเร็ง ปอยรู้สึกว่าสิ่งเหล่านี้ปอยน่าจะเอามาขยายธุรกิจในด้านนี้ ก็อีกไม่นานแล้วค่ะ ปีนี้จบแล้ว ตอนนี้อยู่ในช่วงของการทำวิทยานิพนธ์ค่ะ”

เป้าหมายตอนนี้คือเรียนให้จบ เดินสายมูเตลู
เรียนให้จบก่อนค่ะ สำคัญมาก ยากมาก คือที่เขาบอกให้ไปบนบานศาลกล่าว จุดประทัดนี่ไม่เคยเชื่อมาก่อน คือตอนเรียนปริญญาตรีหรือตอนเรียนมัธยมปอยคิดว่ายากแล้ว อันนี้ยากกว่าคูณร้อยไปเลย มีเดินสายมูเตลูค่ะ ขอให้เรียนจบ ราบรื่น ยากมาก กดดัน จริงๆ มันก็เป็นความสบายใจ สำคัญคือต้องทำการบ้านส่ง ต้องเข้าเรียน การเรียนวิทยาศาสตร์มันหลอกผลการทดลองไม่ได้ ต้องเข้าแล็บ เราปลอมผลไม่ได้ มันเป็นงานที่เราต้องลงมือทำเท่านั้นถึงจะจบ”

ไม่โสด แต่ไม่อยากตอบ ไม่ได้คิดว่าเป็นดารา
“อันนี้ไม่ตอบได้ไหม ปอยมีความรักเยอะมากเลย มีความรักมหาศาล (ที่ไม่ใช่แบบเพื่อนมีไหม?) มีมากมายเลยค่ะ ถามว่าเป็นเพราะเราไม่อยากเปิดเผยไหม ปอยไม่คิดแบบนั้นเลย ปอยไม่ได้คิดว่าตัวเองเป็นดาราด้วยซ้ำ ปอยคิดว่ามันเป็นเรื่องธรรมชาติ ปอยไม่ได้ปิดเลย ไมได้ปิดกั้นเลยค่ะ ถามว่าโสดไหม ปอยไม่โสดค่ะ ขอแค่นี้ก่อนได้ไหม ตอนนี้ก็แฮปปี้ค่ะ เป็นธรรมชาติค่ะ ต้องเป็นกำลังใจกันและกันค่ะ เป็นกำลังใจทั้งเรื่องงานและเรียนค่ะ

ปลื้มมาก โซเชียลยกให้เป็นคนสวยและทรงพลัง
“ติดตามค่ะ ปอยก็เป็นชาวเน็ตคนนึง เวลามีคนชมปอยเยอะๆ ปอยก็รู้สึกดีใจมากๆ เลยนะคะ อย่างที่บอกปอยไม่ค่อยรู้สึกว่าตัวเองเป็นดาราเท่าไหร่ รู้สึกว่าตัวเองเป็นนักธุรกิจ นักศึกษา ด้วยความที่ปอยก็อยู่ในยุคก่อนสมัยที่คนดูทีวีคนก็ยังจำเราได้ทุกบ้าน เวลาที่มีคนชื่นชมเรา พ่อแม่เรา คุณยายก็ภูมิใจ ยายปอยนะเวลาไปที่ไหนมีคนมาชมว่าหลานสวย ชอบ ก็ทำให้คนในครอบครัวยิ้มได้”

ไม่กดดันถูกยกให้เป็นไอดอลการวางตัวแพง
“ไม่เลย เพราะว่าปอยไม่ได้ใช้ของแพงอะไร ไม่ได้กดดันอะไรเลยค่ะ คือการที่คนบอกว่าแพง คำนิยามของคำว่าแพงแต่ละคนมันไม่เหมือนกัน ปอยรู้ตัวว่าปอยไม่ได้พยายามวางตัวให้มันแพง แต่ปอยว่าคนอาจจะนิยามกันไปว่าดูแพง ด้วยแต่ละคนนิยามไม่เหมือนกัน ซึ่งหลายคนอาจจะมองว่าสิ่งที่ปอยทำไม่ได้ดูแพงก็ได้ เพราะว่ามันไม่ได้มีอะไรดูเห็นเป็นตัวเลขขึ้นมาจากตัวปอย เพราะฉะนั้นปอยมองว่ามันขึ้นอยู่กับมุมมองของคนว่าจะมองยังไง ส่วนตัวปอยก็ทำตามธรรมชาติที่เราได้ฝึกฝนและอบรมมาจากคนรอบตัว”





กำลังโหลดความคิดเห็น