“กอฟ อัครา” เผยหายจากงานแสดงไปกว่า 8 ปี ไปลองทำงานอย่างอื่นที่อยากทำ แต่ตอนนี้กลับมารับงานแสดงเหมือนเดิมแล้ว เพราะรักงานภาพยนตร์มากที่สุด ปัดหายไปมีครอบครัว แต่ยอมรับมีคนรู้ใจแล้ว เผยหน้าเปลี่ยนเพราะเปลี่ยนทรงผม และน้ำหนักลดไปเกือบ 10 กิโล บอกอยากเปลี่ยนลุคดูบ้าง
หายหน้าหายตาจากงานแสดงไปนานทีเดียว สำหรับพระเอกหนุ่ม “กอฟ อัครา อมาตยกุล” ที่ตอนนี้เปลี่ยนมาเป็น “กอฟ อัครา ลูคัส”เป็นที่เรียบร้อย โดยเจ้าตัวให้เหตุผลว่าไปทำงานอยู่ต่างประเทศนาน เพื่อให้ดูมีความอินเตอร์ขึ้นก็เลยเปลี่ยน และครั้งนี้เป็นการกลับมารับภาพยนตร์ครั้งแรกในรอบ 8 ปีกับเรื่อง ของแขก ด้วย
“ก็น่าจะประมาณเกือบ 8 ปีครับ ห่างไปยาวมาก ก็ไปๆ มาๆ อเมริกาและเมืองไทยครับ ได้ลองไปทำหลายๆ อย่าง คือเราอยากลองอะไรที่มันนอกเหนือจากงานแสดง เราก็ได้ลองหมดแล้ว ก็เลยกลับมา เพราะจริงๆ สิ่งที่เรารักก็คือการแสดงภาพยนตร์ ก็เลยรู้สึกว่าน่าจะฤกษ์ที่ดี เพราะผมรู้สึกว่าหนังเรื่องนี้น่าจะเป็นอะไรที่แปลกใหม่
ก็ได้ลองทำหลายอย่างครับ ลองทำธุรกิจบ้างเล็กๆ น้อยๆ กับเพื่อนที่อเมริกา และอาจจะไปเรียนอะไรบางอย่างที่เราเอามาใช้ได้เกี่ยวกับการแสดง เพราะว่าตอนนี้เราสนใจที่อยากจะทำเบื้องหลังด้วย มันก็น่าจะเป็นจังหวะที่ดีที่เราได้กลับเข้ามาใหม่ เพราะครั้งนี้ก็ได้กลับมาเป็นพระเอกอีกครั้งนึง และอาจจะอยากสานต่อทำเบื้องหลัง เขียนบท ซึ่งตอนนี้ก็มีโปรเจกต์อยู่เหมือนกันครับ”
บอกที่หายไปเพราะเหมือนจุดอิ่มตัว
“ไม่หรอกครับ ตอนนั้นมันเหมือนจุดอิ่มตัวในการแสดง เราก็เลยอยากทำอะไรที่มันแตกต่างดูบ้าง ได้หายไปจากการแสดงพักนึง และพอหายไป 7-8 ปีเราก็รู้ว่าสิ่งที่เรารักจริงๆ คือการแสดงภาพยนตร์ ถามว่าเพราะคลื่นลูกใหม่เยอะขึ้นด้วยหรือเปล่า คืออย่างเราก็จะมีลุคของเราอยู่แล้ว แต่เราอยากลองไปทำอะไรที่มันแตกต่างดูบ้าง เราจะได้พัก ไปลองอะไรใหม่ๆ มันทำให้เรามีพลังขึ้น
ที่กลับมาก็อยากจะทำเรื่องการแสดงด้วย แต่เราก็อยากจะลองเบื้องหลังด้วย แต่ถามว่าจะกลับมาถาวรเลยมั้ย ถ้ามีที่น่าสนใจก็รับครับ ตอนที่หายไปได้ค้นพบตัวเองหรือยังเหรอ ผมรู้สึกว่ามันเป็นโอกาสที่ดี เพราะเราได้ค้นหาตัวเอง ได้ทำอะไรในสิ่งที่เราไม่เคยลอง เราก็ได้ลองหลายๆ แบบ พอถึงเวลาเราก็รู้ว่าเรามีความสุขกับอะไร ก็เลยกลับมาตรงนี้ครับ”
ปัดหายไปมีครอบครัว แต่มีคนรู้ใจแล้ว
“ยังครับ แต่ถามว่ามีความเป็นไปได้ไหม จริงๆ ถ้าเรารู้จักตัวเองดี มีเพื่อนที่ดีสักคนก็เป็นสิ่งที่ดีแล้วครับ คือบางทีเราไม่จำเป็นต้องแต่งงานเสมอ ถ้าเรามีใครสักคนที่เราไว้ใจได้คุยได้ก็ดีครับ ก็มีเป็นคนพิเศษครับ”
บอกต้องเคาะสนิมกันเยอะ และได้เจอนักแสดงใหม่ๆ ด้วย
“ก็ต้องเคาะสนิมเยอะอยู่ครับ การกลับมาครั้งนี้เราอยากจะทำอะไรที่มันแตกต่างด้วย การทำการบ้านก็ต้องเยอะขึ้นครับ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ต้องคุยกับผู้กำกับว่าเขาต้องการแบบไหน และสิ่งที่เราจะให้เขามันตรงกันไหม ก็ดีใจที่ได้ร่วมงานกับน้องทับทิม อัญรินทร์ และน้องโม อมีนา ด้วย ก็เป็นอะไรที่แปลกใหม่ดีครับ และคุยกับน้องสองคนก็บอกว่าเพิ่งเป็นภาพยนตร์เรื่องแรกด้วย ก็คิดว่ามันท้าทายดีครับ ตอนนี้คนก็คงจะรู้แล้วว่าผมกลับมา ก็ถ้าใครที่สนใจก็ติดต่อได้เลยครับ”
เผยเปลี่ยนลุคเพราะเปลี่ยนทรงผม
“ก็ต้องเปลี่ยนลุคกันบ้าง จะให้เหมือนเดิมตลอดคนก็เบื่อ ก็มีบ้างครับ มีการดูแลตัวเองบ้าง ก็เรื่องปกติ แต่อาจจะด้วยเราเปลี่ยนลุค เพราะปกติเราไม่ค่อยได้แต่งหล่อ เอาจริงๆ ตั้งแต่จอมขมังเวทย์ จนไชยา ลุคก็เป็นลุคเซอร์ที่มากกว่าเซอร์ มันคือโทรมครับ (หัวเราะ) ก็พอเปลี่ยนทรงผมมันก็เปลี่ยนลุคแล้ว เพราะแต่ก่อนเราแต่งตัวไม่ค่อยเป็นด้วย แต่เวลาเราออกงานเราก็จะอินกับคาแรกเตอร์ อย่างเรื่องนี้คุยกับผู้กำกับเลยว่าขอลุคใหม่เลย เพราะเราจะได้เปลี่ยนลุคด้วย เพราะที่ผ่านมาคนจะเห็นว่าโหด
ได้ทำศัลยกรรมไหม คือตอนนี้ศาสตร์ในการดูแลตัวเองมันมีหลากหลาย บางทีเราอาจจะไม่ต้องพึ่งมีดหมอก็ได้ แต่เราดูแลตัวเอง อย่างผมคนจะคิดว่าทำไมดูเปลี่ยนไป แต่เพราะน้ำหนักเราลดไปเยอะเลย น่าจะเกือบ 10 กิโล หน้าก็เลยดูชัดขึ้น แต่ถามว่าทำมาไหม ก็แล้วแต่จะคิดครับ (หัวเราะ)
ถ้าจิ้ม ไม่น่าจะจิ้มครับ จะเป็นจิ้มอย่างอื่นมากกว่า (หัวเราะ) อย่างที่บอกว่าการดูแลตัวเองสำคัญสุด และการแต่งตัว ทรงผม บอกเลยว่าแต่ก่อนไม่เคยได้ทำผมทรงนี้ คนทักเลยว่าเราหน้าเปลี่ยน เพราะเราเปลี่ยนทรงผมด้วย การแต่งตัวแต่ก่อนลุคไหนก็ลุคนั้น แต่ตอนนี้มีสไตล์ลิสมาช่วยดูให้ดีขึ้นครับ”
