“ปันปัน เต็มฟ้า” เผยเตรียมใจไว้แล้วว่าคุณพ่อต้องจากไปสักวัน แพทย์วินิจฉัยคุณพ่อจากไปด้วยโรคหัวใจ ซึ่งเป็นโรคประจำตัว โอดอีกนิดเดียววันที่ 27 พ.ค. ก็จะถึงวันเกิดของคุณพ่อแล้ว รู้สึกผิดน่าจะให้เวลาพ่อมากกว่านี้แต่อีกใจก็รู้ดีว่าตนได้ทำเต็มที่แล้ว บอกที่ผ่านมาพยายามสตรองเพื่อให้คุณพ่อมั่นใจว่าตนดูแลตัวเองได้
หลังจากเมื่อวานที่ผ่านมา (5 พ.ค.2565) นักร้อง-นักแสดงสาว “ปันปัน เต็มฟ้า กฤษณายุธ” ลูกสาวของอดีตนักร้องชื่อดังผู้ล่วงลับ “แหวน ฐิติมา สุตสุนทร” โพสต์ไอจีแจ้งข่าวร้ายว่าได้สูญเสียคุณพ่อ “บรรเจิด กฤษณายุธ”หรือที่รู้จักกันดีในชื่อของ “ปุ๊ กรุงเกษม” ไปอย่างกะทันหัน สร้างความรู้สึกเศร้าเสียใจให้กับคนที่ทราบข่าวทั้งคนในวงการและนอกวงการต่างเข้ามาคอมเมนต์แสดงความเสียใจ และเป็นกำลังใจให้กับปันปันในช่วงเวลาที่ยากลำบากนี้
โดยในวันนี้ ปันปันได้เคลื่อนร่างคุณพ่อมาบำเพ็ญกุศล ณ ศาลา 4 วัดธาตุทอง พระอารามหลวง เขตวัฒนา กรุงเทพมหานคร เพื่อทำพิธีรดน้ำศพ เวลา 16.00 น. และสวดอภิธรรม เวลา 19.00 น. ซึ่งปันปันได้ออกมาเปิดใจกับสื่อมวลชนถึงสาเหตุการเสียชีวิตของคุณพ่อว่าเกิดจากป่วยเป็นโรคหัวใจ รักษามานานกว่า 10 ปี เสียใจที่ไม่ได้อยู่กับพ่อช่วงลมหายใจสุดท้ายของชีวิต เนื่องจากพ่ออาศัยอยู่ที่บ้านที่หัวหิน ส่วนตนทำงานอยู่ที่กรุงเทพฯ ตั้งใจวันเกิดพ่อ 27 พ.ค. จะไปฉลองวันเกิดด้วยกัน แต่ก็ไม่มีวันนั้นแล้ว
“คุณพ่อมีอาการของโรคหัวใจเป็นพื้นอยู่แล้ว เคยทำบอลลูนไป 2 รอบ คุณพ่ออายุ 79 ปีแล้ว เลยเริ่มมีอาการอื่นๆ เข้ามา เช่น เดินยาก อ่อนเพลีย หลายๆ อย่างค่ะ เมื่อวานคุณพ่อไปค่อนข้างไว อยู่ที่บ้านที่หัวหิน ก็ดูแลกันตามปกติ ตอนนั้นยังทำงานอยู่ที่ กทม. คุณพ่อบอกอยากจะไปทานอาหาร ก็เลยให้คนดูแลไปเอาอาหารมาให้ หลังจากนั้นก็เป็นอาการช็อก แต่อยู่บนเตียงนะคะไม่ได้ล้มอะไร เหมือนวูบไปเลย บนเตียง น้ำตาไหล เป็นอาการช็อก ก็เลยเรียกรถพยาบาลมารับ แกอ่อนแรง ก็ให้ออกซิเจน พอถึงโรงพยาบาลก็ปั้มหัวใจ ประมาณ 40 นาที
ปันมาทราบตอนที่พ่อขึ้นรถไปแล้ว ก็รออัปเดตอยู่ ระหว่างนั้นปันก็เตรียมตัวจะไปหัวหิน เพราะรู้ว่าอาการเริ่มไม่ดีแล้ว ก่อนหน้านี้เหมือนคุณพ่อมีอาการท้องเสีย ซึ่งมันก็เป็นสัญญาณไม่ค่อยดีเท่าไหร่ กับคนสูงอายุแล้วท้องเสียหนัก”
แพทย์วินิจฉัยว่าเสียชีวิตจากโรคหัวใจ ซึ่งเป็นโรคประจำตัว
“แกอายุค่อนข้างมาก สุขภาพก็จะไม่เต็มร้อยอยู่แล้ว เดินค่อนข้างช้า ต้องมีไม้ช่วย พอมาเป็นอย่างนี้คุณหมอก็เลยวินิจฉัยว่าเป็นเพราะโรคเดิม คือโรคหัวใจ ที่ผ่านมาคุณพ่อก็พยายามที่จะออกกำลังกาย ทานอาหารที่มีประโยชน์ พอมันเป็นในระยะเวลาที่ค่อนข้างนาน อายุมากแล้ว มันก็เลยอาจจะล้มเหลวข้างในด้วย โรคหัวใจคุณพ่อแกรักษามาเป็นสิบปีแล้วค่ะ ตั้งแต่ปันยังเด็กเลย มีทำบอลลูน 2 รอบ แต่ไม่ได้บายพาสอะไรเพราะแกกลัวการผ่าตัดใหญ่”
เพิ่งเจอพ่อช่วงสงกรานต์ที่ผ่านมา ยอมรับว่าเตรียมใจไว้แล้วเพราะพ่ออายุมาก หลังๆ เริ่มอ่อนแรงมาตลอด
“ช่วงสงกรานต์ที่ผ่านมาปันยังเอาข้าวแช่ไปทานด้วยกันอยู่เลย ท่านมาอยู่หัวหินได้ประมาณ 2 ปีแล้ว เราสร้างบ้านไว้ที่หัวหิน มีคนรู้จักอยู่ด้วย มันก็บรรยากาศดีกว่า เสี่ยงต่อโควิดน้อยกว่าที่ กทม. ก็คุยกับคุณพ่อว่าที่หัวหินน่าจะสบายใจกว่า เพราะท่านก็เกษียณแล้ว ที่ผ่านมาปันก็ไปๆ มาๆ เยี่ยมท่าน คนเห็นว่าปันไปหัวหินบ่อย จริงๆ ก็คือไปเยี่ยมคุณพ่อเป็นหลักเลย
ต้องยอมรับว่ามีเตรียมใจไว้ เพราะคุณพ่ออายุมากแล้ว ก่อนหน้านี้เห็นท่านค่อนข้างที่จะอ่อนแรงมาตลอด เลยรู้สึกว่ามันต้องมีสักวันแหละที่วันนี้มันจะเกิดขึ้น แต่พอมันเกิดขึ้นจริงๆ ก็เสียใจนะคะ พอเราทำงานยุ่งเราก็จะรู้สึกผิดว่าเราน่าจะให้เวลามากกว่านี้ จริงๆ แล้วช่วงที่ผ่านมาเราก็ทำเต็มที่เท่าที่เราจะทำได้ที่สุดแล้วในการบริหารอะไรต่างๆ”
เสียใจไม่ได้อยู่ดูใจกัน เผย 27 พ.ค. ก็จะถึงวันเกิดคุณพ่ออยู่แล้ว ซึ่งตนและคุณพ่อมีแพลนจะไปฉลองด้วยกัน
“ก็มีความรู้สึกเสียใจตรงนั้นด้วย เพราะวันที่ 27 พ.ค. นี้เป็นวันเกิดของคุณพ่อด้วย ตอนแรกแพลนกันอยู่เลยว่าจะไปหาแล้วก็ฉลองเบิร์ธเดย์กัน เพราะทุกเทศกาลถึงแม้คุณพ่อจะอยู่หัวหินแต่เราก็พยายามจะไปฉลองด้วยกันให้ครบทุกเทศกาล อีกแป๊บเดียวก็จะถึงวันเกิดคุณพ่อแล้ว ก็เลยรู้สึกเสียใจตรงนี้ด้วย”
หวังให้คุณพ่อกับคุณแม่ได้ไปเจอกันที่บนสวรรค์
“ก่อนหน้านี้ก็ได้มีการให้ความมั่นใจคุณพ่ออยู่เรื่อยๆ ว่าเราดูแลตัวเองได้ เราตั้งใจทำงานทุกอย่าง ทำโปรเจกต์อะไรก็มีการอัปเดตให้คุณพ่อรู้ตลอด คุณพ่อน่าจะไว้วางใจเราแล้วแหละว่า เราโอเค เราเข้มแข็ง ดูแลตัวเองได้ดี ในการลาเราก็บอกคุณพ่อไว้ตลอดให้ความมั่นใจว่าคุณพ่อไม่ต้องห่วง เราเข้มแข็ง สามารถไปต่อได้
แล้วก็บอกคุณพ่อว่าอยากให้คุณพ่อไปเจอกับคุณแม่ข้างบน อยากให้คุณพ่อมีความสุขเสียที ไม่ต้องมารู้สึกว่าตัวเองอ่อนเพลีย ได้อยู่สบายๆ แข็งแรงข้างบนกับคุณแม่ ความจริงกับคุณแม่คิดถึงทุกวันอยู่แล้ว ไม่มีวันไหนเลยที่รู้สึกไม่คิดถึงคุณแม่ ก็รู้สึกว่าคุณพ่อกับคุณแม่แต่งงานกันก่อนปันจะเกิด 12 ปี ตอนนี้ก็ถึงเวลาที่พวกเขาจะได้กลับไปอยู่ด้วยกันแล้วสองคน เลยอยากจะให้ท่านได้เจอกันจริงๆ และมีความสุข”
ที่ผ่านมาอยากจะสตรองขึ้น เก่งให้ได้เร็วๆ เพื่อคุณพ่อจะได้ไม่ต้องกังวลเมื่อวันนี้มาถึง
“คุณพ่อน่าจะเป็นห่วงเรื่องการใช้ชีวิตโดยรวม ถึงแม้เราอยู่ในวัยทำงานแต่คุณพ่อก็ยังมองเราเป็นเด็กอยู่ เวลามีอะไร เห็นเราเครียดเรื่องงานอะไรไปนิดนึงคุณพ่อก็จะเตือนแล้วว่า take it easy นะ อย่าไปเครียดกับมันมาก แต่เราก็อยากจะเร่งตัวเองด้วย อยากจะตั้งใจทำงานให้เราเก่งเร็วๆ เราคิดว่าเราอยากจะสตรองขึ้นมาให้ได้ เพราะเรารู้อยู่แล้วว่าวันนี้มันต้องมาถึง”
เราก็ทำงานต่อไป อาจจะมีงานประจำด้วย แล้วก็มีโปรเจกต์ธุรกิจของตัวเอง เป็นธุรกิจเสื้อผ้า พยายามที่จะบาลานซ์ตัวเองไม่ให้เหนื่อยจนเกินไป มีเวลาทั้งทำงาน มีเวลาให้ตัวเอง มีเวลาให้เพื่อนด้วย ครอบครัวด้วย ถ้าสมมติงานเริ่มโอเคอีก 2-3 ปี ก็อาจจะเรียนปริญญาโท ซึ่งตอนนี้ยังไม่ได้ไป แต่ก็เป็นความคิดของเราเหมือนกัน (หลังจากนี้ตั้งใจจะทำอะไรเพื่อคุณพ่อบ้าง?) น่าจะเป็นการทำบุญให้ตลอด ทั้งคุณพ่อและคุณแม่ก็จะทำร่วมกัน”
บรรยากาศในงาน มีครอบครัวและญาติสนิทมาร่วมไว้อาลัยเป็นครั้งสุดท้าย โดยปันปันทำหน้าที่ดูแลความเรียบร้อยของงาน รวมถึงดูแลแขกเหรื่อด้วยตัวเอง โดยมีพี่ชายต่างมารดาทั้ง 2 คน อย่าง “ปิยะ บุนนาค”และ “ปรานต์ บุนนาค”คอยเคียงข้างเป็นกำลังใจให้กัน นอกจากนี้ยังมีคนดังในวงการบันเทิงส่งพวงหรีดมาแสดงความเสียใจเป็นจำนวนมาก อาทิ หม่อมราชวงศ์เฉลิมชาตรี ยุคล, ธงไชย แมคอินไตย์, นก ฉัตรชัย-นก สินจัย เปล่งพานิช, ดี้ นิติพงษ์-รุ่งฤดี ห่อนาค, ต๊อด ปิติ-นุ่น วรนุช ภิรมย์ภักดี, ฉอด สายทิพย์ มนตรีกุล ณ อยุธยา-เอส วรฤทธิ์ ไวยเจียรนัย, เพลง ชนม์ทิดา อัศวเหม-เศรณี ชาญวีรกูล ฯลฯ
สำหรับกำหนดการสำคัญหลังจากนี้ จะมีพิธีสวดอภิธรรมไปจนถึงวันอังคารที่ 10 พ.ค. 2565 จากนั้นจะมีพิธีฌาปนกิจในวันพุธที่ 11 พ.ค. 2565 เวลา 17.00 ที่เมรุวัดธาตุทอง