ร้อนแรงไม่น้อย กรณีที่ “ทิดไพรวัลย์ วรรณบุตร” ออกโรงฉะ “สีกาตอง” หลังแฉ “อดีตพระกาโตะ” มีสัมพันธ์ลึกซึ้งจนสะเทือนวงการสงฆ์ โดยต่อมาสีกาตองเปิดหน้าให้เห็นกันเต็มๆ โดยเผยว่าไม่มีเหตุผลต้องปิดหน้าอีกแล้ว อีกทั้งสาเหตุที่ออกมาแฉ ก็เพราะอยากปกป้องพระพุทธศาสนา ขณะที่ทิดไพรวัลย์ได้เผยถึงเรื่องนี้กลางรายการโหนกระแสชนิดน่าสนใจว่า สีกาตองจะทำเหมือนเป็นนางเอกเรื่องนี้ไม่ได้ ต้องรับผิดชอบด้วย
“เรื่องแบบนี้ถามว่ามีไหมตอนบวช มันมี แต่จุดจบหรือบทสรุปไม่เหมือนกัน เคสแบบนี้มีตัวอย่างเยอะ พระปวดหัวเอายางมารัดหัวก็มี อันนั้นโดนสาปเละเทะเลย ไม่เห็นมีใครเอาตาลุงคนนั้นไปขึ้นคอนเสิร์ตบ้างเลย แต่นี่เอาขึ้นคอนเสิร์ต มีคนพร้อมให้อภัยเยอะแยะ ผมไม่ได้พูดว่าพระปราชิกไม่ควรได้โอกาสหรือมีที่ยืน เขาควรได้รับ แต่เขาควรได้รับในบทบาทไหน ผมว่าสังคมต้องช่วยกันตระหนัก ไม่ใช่ไปกรี๊ดกร๊าด ชื่นชม เหมือนเขาไม่ได้ทำอะไรผิดเลย
สำหรับผม กฎหมายไม่ควรมีสองมาตรฐาน ว่ากันไปตามกฎหมาย อะไรที่เข้าข่ายอยู่ในลักษณะการทำความผิด เช่นการข่มขืนกัน มีการแบล็กเมล์ ยักยอกเอาเงินวัด ก็ควรไปดำเนินการตามกฎหมาย แต่สิ่งที่วัดไม่เคยทำคือการสร้างฐานข้อมูลเป็นทางการ ที่จะเช็กประวัติได้ ว่าคนนี้เป็นสมี ต้องปราชิกแล้ว และไม่ควรกลับมาบวชได้อีก ไม่ว่าวัดไหน
เคสนี้จะไปว่าแต่กาโตะฝั่งเดียวไม่ได้ ต้องว่าสีกาตองด้วย คุณเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เรื่องนี้มันเกิดขึ้น ฉะนั้นคุณจะทำเหมือนคุณคือนางเอกของเรื่องนี้ไม่ได้ คุณต้องรับผิดชอบ คุณรีดเงินหรือแบล็กเมล์เขาจริงไหม ถึงคุณไม่รู้ตอนแรกว่าเงินมาจากไหน แต่คุณรู้ตอนหลังแล้วว่าเงินนี้มีที่มายังไง คุณจะคืนไหม หรือจะรับเงินนี้อยู่ ถ้าคุณยังรับอยู่คุณคือคนที่แย่มาก แต่ถ้ามีศักดิ์ศรีต้องคืนไป เพราะเงินนี้คือเงินบาป ส่วนคุณสองคนจะมีอะไรกันก็เรื่องของคุณ แต่คุณต้องไม่แสวงหาประโยชน์จากเงินที่มาจากความศรัทธาจากเรื่องนี้”
