xs
xsm
sm
md
lg

“ใบเตย อาร์สยาม” พยายามให้ลูกติดพี่เลี้ยง! ฟุ้งดวงเปิดแล้ว ขอลุยธุรกิจ 100 ล้าน เบรกสามีอย่าเพิ่งปั้มลูก

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



“ใบเตย อาร์สยาม” ดวงเปิดแล้ว หวนกลับมาโหมงาน พยายามให้ลูกติดพี่เลี้ยงให้มากที่สุด เบรกสามีปั้มลูก ขอแซ่บอีกหนึ่งปี เชื่อหมอดูบอกปีนี้เป็นปีที่ดีเหมือนตอนแน่นอก ลงทุน 8 หลักธุรกิจเปิดคลินิกศัลยกรรมและความงามครบวงจร 6 หุ้นเกือบ 100 ล้าน

กลับมาคึกคักมีงานติดต่อตรึมแล้ว สำหรับ “ใบเตย อาร์สยาม” สุธีวัน กุญชร ล่าสุดมีทั้งงานนักร้อง นักแสดง รวมทั้งลงเงินหุ้นเปิดธุรกิจ คลินิกศัลยกรรมและความงามครบวงจร ที่ลงขันกัน 6 คน เป็นเงินสูงถึง 100 ล้านบาท จนต้องขอเบรกปั้มลูกคนที่สองไปก่อน
 
“ช่วงนี้เป็นดวงที่เหมือนกับว่าดวงเปิด (หัวเราะ) ก็ด้วยความที่ละครเร่งถ่าย เร่งปิดกล้อง ก็เลยมีการถ่ายที่ไม่เคยพบเคยมาก่อน ก็คือถึง ตี 4 ตี 5 แต่ใบเตยก็เข้าใจนะคะ เพราะว่าตลอดระยะเวลาช่วงที่เราเริ่มถ่ายละครกันมา ทั้งใบเตย ทั้งน้องเปา ทั้งทุกคน คือเราทยอยติดโควิด มันก็เลยทำให้เราได้หยุดกันไปต่อเนื่อง ดังนั้น ณ วันนี้ใบเตยก็เลยเข้าใจกองถ่ายทั้งหมด เนื่องจากเขามีคิวออนแอร์เดือนกรกฎราคม ดังนั้นเขาจึงจำเป็นที่จะต้องเร่ง และอะไรที่เราช่วยได้เราก็ช่วย ซึ่งอาทิตย์นี้เกือบทุกวันเลย ตื่นเช้ามาวันนี้ก็ไม่นึกว่าตัวเองจะไหวเหมือนกันนะคะ (หัวเราะ) แต่ก็สู้ค่ะ สู้มากเลย

ณ วันนี้ก็ไม่กลัวทรุดค่ะ แต่ถ้าเป็นเมื่อก่อนสมัยที่ยังเด็ก สักประมาณ 10 ปี 15 ปี ที่แล้ว ก็คงกลัวค่ะ แต่เดี๋ยวเราก็ใช้พวกวิตามินช่วย ใช้วิชามารต่างๆ ช่วย อย่างเช่น รีบนอน รีบหลับ รีบตื่น และก็ทานวิตามินบำรุงร่างกายให้มันมีพลังงานในการทำงานอยู่เสมอ เร่งงานหลายอย่างก็โอเคค่ะ โอเคมาก เพราะเอาจริงๆ ตัวใบเตยเองก็ห่างหายจากการทำงานไปนานพอสมควร ตั้งแต่หลังแต่งงาน จนกระทั่งมีน้อง และก็มาช่วงโควิดอีก ซึ่งมันก็ทำให้ใบเตยคิดถึงการทำงานมากเหมือนกัน คิดถึงฟีลที่ได้เจอกับผู้คน ได้เจอกับแฟนเพลง”

งานหนักแบ่งเวลาลำบาก
“ช่วงนี้แบ่งลำบากมากเพราะว่าใบเตยมีละคร ซึ่งคิวละครใบเตยต้องให้เขาแบบเต็มที่ และงานคอนเสิร์ตก็เริ่มกลับมาแล้วด้วย ไหนจะธุรกิจที่ใบเตยต้องดูแลอีก รวมถึงซิงเกิ้ลใหม่ที่ใบเตยทำร่วมกันกับทางเวิร์คพอยท์ และก็ซิงเกิ้ลทิ้งท้ายกับทางอาร์สยาม”

เจอลูกแค่ช่วงตื่นเท่านั้น พยายามให้ลูกติดพี่เลี้ยง เพื่อไม่ให้เสียใจกันทั้งสองฝ่ายหากไม่เจอกัน
“ในหนึ่งวันใบเตยจะได้เจอลูกแค่ช่วงตื่นเช้า ซึ่งใบเตยจะรีบตื่นมาเจอเขาเลยก่อนไปทำงาน หรือไม่ก็ช่วงที่กลับจากการทำงาน อย่างเช่น ช่วง 2-3 ทุ่ม ลูกก็ติดเราค่ะ ติด อย่างตอนเช้าเวลาเขาเห็นพ่อแม่ขึ้นรถออกจากบ้านเขาก็ร้องไห้แล้ว แต่เราก็พยายามทำให้เขาติดพี่เลี้ยงให้มากที่สุด เพื่อไม่ให้เป็นการเสียใจทั้งสองฝ่ายเวลาที่ไม่เจอกัน

ซึ่งถ้าเขาติดพี่เลี้ยงเราก็ไม่น้อยใจนะคะ ไม่ ใบเตยรู้สึกว่าใบเตยไว้วางใจ และอีกอย่างใบเตยก็เป็นเวิร์กกิ้งวูแมนด้วย ฉะนั้นใบเตยจึงไม่อยากให้เขาต้องมาเป็นห่วง ดังนั้นถ้าถามใบเตย ใบเตยคิดว่าให้เขาติดพี่เลี้ยงดีแล้วค่ะในระยะนี้ เนื่องจากสุดท้ายเมื่อเขาโตขึ้น เขาก็คงได้เรียนรู้ว่า พ่อแม่ต้องไปทำงาน ส่วนเขาต้องไปเรียน ใบเตยอยากให้เรียนรู้ตรงนี้มากกว่า”

แฮปปี้จำได้ทุกอย่าง โดยเฉพาะท่าเต้น ได้แม่มาเต็ม คายตะขาบใส่ลูก
“จำเยอะมาก จำทุกอย่าง เป็นเด็กฉลาดมาก โดยเฉพาะท่าเต้นชอบมาก (ยิ้ม) เขาคงเหมือนใบเตยเลยแหละ อย่างบางทีเวลาเขาเห็นใบเตยออกรายการโทรทัศน์ เขาก็จะร้องไห้ เนื่องจากไม่ได้เห็นพ่อแม่ตัวจริง เห็นแต่ในทีวี คือเขาก็จะมีรีแอ็กชั่นที่หลากหลาย แต่ช่วงนี้ก็ดูจะแฮปปี้นะคะ เรียกแม่ เรียกป่าป๊าตลอด

เรื่องฉายแววตอนนี้วัดยากเลยค่ะ แต่ก็คิดว่าเขาน่าจะชอบในเรื่องของการเต้น เรียกได้ว่ามาเต็มแน่นอน ถ่ายทอด คายตะขาบสุดฤทธิ์”

ไม่คาดหวัง อยากให้ลูกเป็นธรรมชาติที่สุด
“ไม่เลย ใบเตยรู้สึกว่าใบเตยอยากให้ลูกเป็นธรรมชาติมากที่สุดในชีวิต ไม่มีการกะเกณฑ์ ไม่มีการตั้งเป้า ไม่มีการบอกกับเขาว่าเขาจะต้องเหมือนแม่ หรือเขาจะต้องเหมือนใคร ใบเตยอยากให้เขาได้เลือกทุกอย่างด้วยตัวเอง ได้เลือกชีวิตด้วยตัวเอง ซึ่งใบเตยคิดว่านั่นเป็นสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับเขา”

ลูกยังไม่มีอาการลองโควิด
“ตอนนี้ยังไม่มีค่ะ ตอนนี้ยังปกติอยู่ แต่คุณหมอก็ให้ดูต่อๆ ไปว่าถ้าหากเขาเกิดมีไข้สูงก็ต้องรีบพาไปโรงพยาบาล เนื่องจากว่าเด็กจะมีเปอร์เซ็นต์ที่จะเป็นลองโควิดมากกว่าผู้ใหญ่อยู่แล้ว ส่วนเราตอนนี้ดีขึ้นมากแล้วค่ะ จะมีก็แค่เวลาแสดงคอนเสิร์ตที่แบบรู้สึกว่าคอยังพังอยู่ ระบบทางเดินหายใจยังค่อนข้างไม่เต็มที่ เรียกว่าเหนื่อย เหนื่อยกว่าเดิมเยอะ คุณหมอบอกว่าต้องใช้ระยะเวลา 3 เดือน ถึงทุกอย่างจะกลับมาเป็นปกติ ส่วนอาการสามีไม่มีอะไรเลยค่ะ พี่แมนแข็งแรงไม่ได้มีปัญหาอะไรเลย”

เบรกสามี อย่าเพิ่งปั้มลูกคนที่สองเลย ขอแซบสักปี
“คือสามีก็พยายามค่ะ พยายามตลอด แต่เราก็จะเบรกว่าอย่าเพิ่ง อย่าเพิ่งปั้ม เนื่องจากปีนี้เป็นปีที่ใบเตยตั้งใจแล้วว่าอยากจะทำงานจริงๆ อยากบริหารธุรกิจจริงๆ ใบเตยอยากสะสางงานที่ค้างไว้ให้เสร็จให้หมด และก็อยากจะเริ่มทุกอย่างใหม่ในปีหน้า รวมถึงเรื่องการมีลูกอีกคน ปีนี้ขอทำให้ทุกอย่างมันมั่นคงก่อน ขอเต้นให้ได้แซบเหมือนเดิมอีกสักปีค่ะ”

เชื่อเรื่องมูเตลู
“เชื่อ ก็คือจริงๆ ใบเตยดูหมอมาตั้งแต่ช่วงต้นปีแล้วค่ะ และเขาก็บอกว่าปีนี้จะเป็นปีที่ดีมากๆ สำหรับใบเตย เป็นปีที่ดีที่สุด ดีเหมือนสมัยแน่นอก ดังนั้นใบเตยก็เลยเชื่อ และอีกอย่างใบเตยก็ค่อนข้างได้อะไรดั่งใจหวังจริงๆ มาแล้วด้วย ฉะนั้นปีนี้ใบเตยขอทำงาน ขอทำเงิน ขอทำธุรกิจ ให้มันมั่นคงทุกอย่างก่อนดีกว่า ไปดูมาหลายหมอเลยค่ะ และทุกหมอก็ดูตรงกัน ราศีมีนไงคะ ราศีมีนปีนี้ดีมากๆ

โดยส่วนตัวใบเตยไม่ค่อยได้หนักในเรื่องของเทพเจ้าหรือซื้อพระอะไรขนาดนั้นนะคะ แต่ใบเตยจะเชื่อในแง่ของการดูมากกว่า อย่างเช่น 1 ปี ใบเตยก็ขอดูสัก 1 ครั้ง เพื่อใช้เป็นแนวทางในการเริ่มต้นชีวิตใหม่ในปีนั้นๆ และอีกอย่างคือใบเตยก็ค่อนข้างที่จะเชื่อเรื่องวาจาศักดิ์สิทธิ์ของหมอแต่ละคนด้วยเหมือนกัน ใบเตยจะถนัดทางนี้มากกว่า แต่สุดท้ายแล้วหัวใจหลักเลยก็คือ 90 เปอร์เซ็นต์ มันมาจาก 1 สมอง และ 2 มือ ของเรา ซึ่งนั่นสำคัญที่สุด ถึงใบเตยจะเชื่อหมอดู แต่เราก็ต้องลงมือทำด้วย หลักๆ ณ วันนี้เน้นความสบายใจมากกว่าค่ะ”

จะใช้นามสกุลอาร์สยามตลอดไป แม้ไม่ต่อสัญญาแล้ว
“ใช้ตลอดค่ะ ใบเตยอาร์สยามตลอดไป เราไม่ขอ (หัวเราะ) ใช้นะ ต้องใช้นะ เพราะเอาจริงๆ แล้วเรื่องชื่อของใบเตย มันไม่ใช่การที่พอเราหมดสัญญากับค่ายเราจะต้องคืนกัน มันไม่ใช่ค่ะ เพราะใบเตยรู้สึกภูมิใจกับตรงนี้ และสำหรับคำว่า ใบเตย อาร์สยาม ใบเตยก็เชื่อว่าพี่ๆ ทุกคนก็คุ้นเคยเป็นอย่างดี มันเป็นชื่อที่ดีกับใบเตยมาตลอด ก็ไม่ต้องคุยกับผู้ใหญ่หรอกค่ะ เพราะใบเตยก็ภูมิใจกับทุกอย่างที่ใช้คำว่า ใบเตย อาร์สยาม”

ลงทุน 8 หลักธุรกิจเปิดคลินิกศัลยกรรมและความงามครบวงจร 6 หุ้นเกือบ 100 ล้าน
“ก็มี 8 หลักค่ะ เพราะว่า 6 หุ้นมันเกือบร้อยล้าน ก็ต้องคนละ 8 หลักเลย แต่มันก็จะมีรายละเอียดยิบย่อย ที่เขาเรียกว่าแบ่งหน้าที่ แบ่งความรับผิดชอบในแต่ละคน ก็พี่แมนเป็นคนให้เงินมาด้วย (หัวเราะ) เป็นหนึ่งหุ้น เป็นคนลงเงินค่ะ”









กำลังโหลดความคิดเห็น