“ท็อป นรากร - ต้าวหยอง” หมอลำวง “ระเบียบวาทะศิลป์” ภูมิใจอนุรักษ์และสืบสานหมอลำให้คงอยู่เป็นที่ยอมรับของคนรุ่นใหม่ เผยหมอลำเข้ามาเปลี่ยนชีวิต มีบ้าน มีเงินดูแลครอบครัว เคยได้พวงมาลัยมากสุดคืนละ 6 หลัก เล่าต้องมีวิธีตั้งรับกับแม่ยกที่คลั่งรักจะกระชากตกจากเวที
เป็นหมอลำดาวรุ่งพุ่งแรงสุดๆ ในยุคนี้สำหรับ “ท็อป นรากร กันจันทึก” และ “ต้าวหยอง ยุคลเดช ปัจฉิม” พระเอกและแดนเซอร์หมอลำคณะระเบียบวาทะศิลป์ ที่วาดลวดลายลำเรื่องพร้อมโชว์สเต็ปแดนซ์เอว 4 จี จนครองตำแหน่งขวัญใจแม่ยกทั่วประเทศ
ล่าสุด “ท็อป-ต้าวหยอง” ก็ได้เข้าสู่วงการบันเทิง ประเดิมงานชิ้นใหม่กับภาพยนตร์เรื่องแรก ฮักเจ้าอีหลี แถมช่วงนี้ยังเดินสายเข้ากรุงเทพฯ เปิดเวทีหมอลำ “ระเบียบ วาทะศิลป์ X มิสแกรนด์ ไทยแลนด์” ทำเอาแฟนคลับหลั่งไหลมาให้มอบพวงมาลัย แถมยังได้แฟนนางงามมาเป็นแฟนคลับเพิ่มอีกด้วย
ต้าวหยอง : “วันนั้นพวงมาลัยก็ได้เยอะครับ ด้วยความรักความเอ็นดู ก็ได้แฟนคลับจากแฟนนางงามเพิ่มขึ้นด้วย”
ท็อป : “เป็นการเปิดโลกทัศน์ให้กับแฟนๆ ภาคกลางที่ยังไม่เคยมีโอกาสได้ชมหมอลำ เลยได้เห็นหมอลำกันอย่างจริงจังว่าที่เขาพูดถึงมันเป็นยังไง อาจจะมีแฟนหมอรำที่มีระเบียบวาทะศิลป์แล้วชอบ มันก็สนุกดี ก็เลยเริ่มมาติดตามพวกเราเพิ่มขึ้นด้วย”
ต้าวหยอง : “ก็เต้นกันตั้งแต่เพลงแรกเลยจนคอนเสิร์ตจบ วิ่งเปลี่ยนชุดกันสนั่นเลย”
ภูมิใจเป็นคนรุ่นใหม่สืบสานให้วงการหมอลำกลับมาเฟื่องฟูไม่เลือนหายไป ขอเป็นตัวแทนคนรุ่นใหม่อนุรักษ์และสืบสานวัฒนธรรมอีสานให้คงอยู่ต่อไป
ต้าวหยอง : “รู้สึกภาคภูมิใจนะครับ เอาตรงๆ แต่ก่อนผมไม่ชอบเลย พี่ชายชวนเข้ามาอยู่ในวงการระเบียบวาทะศิลป์ ผมก็ลังเลจะไปดีไม่ไปดี สุดท้ายก็ตัดสินใจเพราะแม่อยากให้มาด้วย พอได้สัมผัสบรรยากาศแล้ว พี่ๆ ศิลปินทุกคนอบอุ่นดี เป็นบรรยากาศที่ดีมากๆ”
ท็อป : “ผมก็ดีใจมากๆ ที่ทุกวันนี้ไม่ว่าจะเป็นทุกเพศ ทุกวัย ที่สำคัญคือทุกภาคให้การสนับสนุนและชื่นชอบในบทเพลงหมอลำ ตอนนี้ผมคิดว่าหมอลำมันไม่ตายไปไหน ทุกคน ทุกภาค ทุกวัยชอบความสนุก แล้วหมอลำมันตอบโจทย์ความสนุกแน่นอนอยู่แล้ว คิดว่าทุกคนจะช่วยกันสนับสนุนหมอลำ และอนุรักษ์บทเพลงหมอลำ วัฒนธรรมอีสานกันต่อไป
ผมคิดว่าตัวผมมีพรสวรรค์ในด้านนี้ ก็เลยอยากจะต่อยอดพรสวรรค์ของตัวเองด้านการเป็นหมอลำ ผมใฝ่ฝันที่อยากจะเป็นพระเอกหมอลำ ในเมื่อเราเลือกที่จะมาตรงนี้แล้วก็อยากจะให้มันสุดๆ ไปเลย การได้เจอกับแฟนๆ หมอลำ มันคือเสน่ห์ของหมอลำและทำให้เรามีความสุข พวกเขาเหมือนครอบครัวของเรา รักเราเหมือนลูก เราก็รักเขาเหมือนแม่ นับถือทุกคนเหมือนพี่น้อง เป็นญาติของตัวเอง ไม่ว่าผมจะไปจังหวัดไหนก็ตาม จะมีแม่ๆ มาหา เหมือนเรามีแม่ทุกจังหวัดครับ”
ท็อป : “รำเรื่องต่อกลอนทุกวันนี้จะปรับให้ลำน้อยลง แต่จะรำให้แฟนๆ ทางบ้านรู้เรื่องราวของบทละคร เราจะเน้นเพลงเต้นเป็นดนตรีสนุกๆ โจ๊ะๆ เอาไว้ให้คนหน้าเวทีได้เด้า”
ต้าวหยอง : “ไม่ค่อยได้ซ้อมลำหรอกครับ จะซ้อมเต้นแทน ตอนนี้ยังรำไม่ค่อยเป็นเลย ซ้อมเต้นหนักมาก”
ท็อป : “พวกเราทีมงานระเบียบวาทะศิลป์ก็อยากจะขอสืบสานวัฒนธรรมอีสานต่อไป เราก็จะยังยืนหยัด เคียงคู่ระเบียบวาทะศิลป์ ช่วยกันนำวัฒนธรรมอีสานมาเผยแพร่ให้กับทุกคนได้รู้จักทั่วประเทศ ทั่วโลกเลย”
หมอลำเปลี่ยนชีวิต มีเงิน มีบ้านให้ครอบครัว
ท็อป : “สำหรับผมคือเปลี่ยนเยอะมากจริงๆ ตัวผมไม่ได้มีเงินอะไรเลย แต่พอมาอยู่ตรงนี้แล้วก็มีบ้าน มีเงินส่งให้แม่ใช้ โดยที่แม่ไม่เคยเอ่ยปากขอเรา เราก็ส่งให้ตลอด”
ต้าวหยอง : “ผมจะคอยดูพี่ๆ ว่าเขาใช้ชีวิตกันยังไงบ้าง ก็ปรับตามเขา”
ท็อป : “ช่วงนี้จะแสดงถึงเช้าไม่ได้ ด้วยสถานการณ์และเหตุผลอีกหลายอย่าง ถ้าเป็นแถวภาคอีสานจะแสดงได้ แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะทุกงาน กทม.ไม่สามารถแสดงถึงเช้าได้เลย ตอนนี้คิวแสดงเราก็ออนทัวร์กันใน กทม. ก่อน คิวงานเกือบเต็มทุกวันเลยครับ เราก็ลุ้นกันวันต่อวันว่าจังหวัดนี้ ตอนนี้เราสามารถแสดงได้ไหม บางทีไปตั้งเวทีเรียบร้อยแล้ว กางเต็นท์แต่งหน้าเสร็จแล้วมายกเลิกก็มี”
ต้าวหยอง : “คือลุ้นกันวันต่อวันเลยครับ งานไหนเขายกเลิกพวกเราก็เศร้า ต้องขนของกลับบ้าน”
แย้มเคยได้พวงมาลัยมากสุดคืนละ 6 หลัก เผยต้องมีวิธีตั้งรับกับแฟนคลับ เพราะบางครั้งแฟนคลับก็คลั่งรักจะกระชากตกจากเวที
ต้าวหยอง : “เยอะสุดก็คืนนึง 6 หลัก”
ท็อป : “ยังไม่เคยได้หลักล้านสักทีนึง”
ต้าวหยอง : “(แฟนคลับคลั่งรักกระชากต้าวหยองตกเวที) ตอนนั้นเป็นเป็นเพลงเต้น เขาก็รำหน้าเวที เขาอาจจะเมาด้วย ก็เข้าใจดีว่าเขาอยากจับมือเรา แต่บางทีเขาก็กระชากแรงไป เราเลยตกใจ แต่ว่าไม่เจ็บครับ ก็เจอแบบนี้บ่อยอยู่เหมือนกัน แต่ผมก็ไม่ได้เจ็บตัวอะไร”
ท็อป : “มันก็จะมีเทคนิคอยู่ ผมเองก็โดนแบบนี้บ่อยเหมือนกัน เราก็เข้าใจแฟนเพลง เราอยู่บนเวทีก็ต้องระวังตัวเองด้วย เราต้องเข้าใจว่าบางสถานการณ์แฟนๆ อาจจะไม่เต็มร้อยแล้ว แต่ก็ส่วนน้อยที่เราจะเจอ แฟนๆ น่ารักทีเยอะครับ”
