xs
xsm
sm
md
lg

“หมอของขวัญ” ไม่ใช่นกสองหัว แฉ “แซน” รวยสุดบนเรือ! เชื่อรูปด้านหลัง “แตงโม” ของจริง

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



“หมอของขวัญ” เชื่อรูปด้านหลัง “แตงโม” ของจริง ฟาดกลับ “แซน” เพื่อนที่ถ่ายรูปเพื่อนแบบนี้ ไม่ต้องรู้จักก็ได้ ลั่นเป็นคนที่รวยที่สุดบนเรือ แค่สัตว์เลี้ยงก็ 10 ล้านแล้ว โต้ดรามาเป็นนกสองหัว แค่อยู่ข้างความถูกต้อง

รายการเป็นเรื่องใหญ่ ออนแอร์ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 17.10 – 17.55 น. ทางช่อง JKN18 ดำเนินรายการโดย “เพชร กรุณพล เทียนสุวรรณ”ได้สัมภาษณ์ “หมอของขวัญ ฟูจิตนิรันดร์” เคลียร์ทุกประเด็นดรามา คดี “แตงโม นิดา”พร้อมโฟนอิน “ทนายเดชา กิตติวิทยานันท์”ทนาย “คุณแม่ภนิดา ศิระยุทธโยธิน”

ได้ดูการแถลงข่าวของตร.มั้ย?
หมอของขวัญ : วันนี้นอนตื่นตี 5 เลยค่ะ ตื่นเต้นมาก หมอคงเหมือนคนไทยทุกคน ที่อยากให้ความยุติธรรมเกิด แล้วก็ฝากความหวังว่าจะคลายข้อสงสัย

ทนายเดชาอยู่ในสาย วันนี้เห็นบอกว่าพี่เดชากับคุณแม่พอใจกับการแถลงของตร.?
เดชา : ครับ

คุณแม่ก็ยังมีข้อสงสัย แต่ไม่กล้าถามตร. แม่สงสัยว่สาน้องไปฉี่จริงๆ หรือเปล่า มีการใช้กำลังกันหรือเปล่า?
เดชา : ไม่หรอกครับ ผมคุยกับตร.ส่วนตัวหมดแล้ว การตรวจร่างกายก็แน่นอนว่าไม่มีการทำร้ายร่างกาย ถ้ามีการต่อสู้กันร่างกายต้องมีบาดแผล บาดเจ็บ มันไม่มี

รอยช้ำคุณจ๊อบ คุณปอ คุณโรเบิร์ตมีมั้ย?
เดชา : ไม่มีครับ อะไรที่ดูแล้วรูปคดีเสียหาย ตร.ไม่ตอบอยู่แล้ว อันนี้เป็นหลักสากล

หลายคนไม่เข้าใจคำว่าสำนวนในคดีที่ไม่สามารถบอกได้ รองแต้มเคยบอกว่ามันอาจเป็นข้อต่อสู้ได้?
เดชา : ใช่ครับ บอกหมดเขาก็เอามาต่อสู้ได้ สร้างพยานหลักฐานเท็จมาสู้อะไรต่างๆ คดีก็เสียหาย

สรุปรอยแผลเกิดจากใบพัดเรือ?
เดชา : ใช่ครับ ตร.ที่แถลงเขาไม่ได้เป็นคนดำเนินการเอง เขามีหมอนิติวิทยาศาสตร์ หมอนิติเวช ผู้เชี่ยวชาญด้านเรือ และมีการทดสอบ มีการเทียบเคียงกับเคสเดียวกันในต่างประเทศ เขาทำหลายอย่าง ผมเห็นแล้วครับ ไม่ใช่ตร.เป็นคนทำนะ เดี๋ยวจะเข้าใจผิด ตร.มีหน้าที่รวบรวมพยานหลักฐาน แสวงหาข้อเท็จจริง แต่ผู้เชี่ยวชาญต่างๆ ไม่ได้มาจากตร. มาจากบุคคลภายนอก มาจากนิติเวช พฐ. แล้วมีอาจารย์หมอจากภายนอก จากมหาวิทยาลัยเยอะแยะ หลายคนไม่เข้าใจการทำงานของตร. คิดว่าตร.ทำอยู่คนเดียว ตร.ไม่ได้มีความเชี่ยวชาญตรงนั้น เขาใช้บุคคลภายนอก ใช้อาจารย์แพทย์จากหลายมหาวิทยาลัยเลย โดยเฉพาะการผ่าครั้งที่สอง

ให้ไว้ใจได้ว่ามีหน่วยงานอื่นมาเกี่ยวข้องกับการพิสูจน์?
เดชา : คดีนี้พยานเป็นบุคคลภายนอกเกือบทั้งหมด รอฟังจำนวนพยานเยอะเยอะ ผู้เชี่ยวชาญ 16 คน เป็นบุคคลภายนอกหมด ไม่ใช่ตร.
 
ทำไมถูกแจ้งข้อหาประมาท 3 คน?
เดชา : มันเคยมีคดีประเภทประมาทหลายคนมาแล้ว เคยออกข้อสอบผู้พิพากษาก็มี เช่น เราสองคนไปแย่งปืน เขากำลังจะฆ่าตัวตาย แย่งไม่ระวัง ต่างคนต่างประมาท เขาเกิดตายมา สองคนนั้นก็มีความผิดทั้งคู่ ยกตัวอย่างนะ อย่างกรณีนี้ประมาท 3 คน ตร.ไม่แถลงว่าประมาทยังไง เป็นเรื่องถูกต้องแล้ว เพราะว่าเดี๋ยวอัยการเขาต้องเอาไปบรรยายฟ้อง ถ้าเขาบรรยายฟ้องเสร็จ เดี๋ยวผมจะเอามาอ่านให้ฟัง แต่ผมพูดคร่าวๆ แล้วกัน การประมาท 3 คน แซน โรเบิร์ต ปอ ต้องดูว่าแต่ละคนมีหน้าที่อะไร และตัวเองไม่ทำหน้าที่อะไร ไม่ระมัดระวังอะไร หลายๆ คนรวมกัน ทำให้แตงโมตกไปตาย หลักๆ ประมาณนี้ แต่อันนี้เป็นความลับ ตร.ไม่ตอบ ก็ถูกต้องแล้ว

บางคนบอกว่าแจ้งข้อหาดูอ่อน อย่างทิ้งขยะปฏิกูลดูเบาไป?
เดชา : การแจ้งข้อหาต้องดูว่ามีพยานหลักฐานรองรับมั้ย กฎหมายเขียนไว้ชัด ก่อนแจ้งข้อหาต้องมีหลักฐานตามสมควร สมมติ คุณเพชรไม่ได้ทำผิด ไปแจ้งข้อหาฆาตกรรม ตร.ก็ซวยติดคุกติดตะรางนะ พยานหลักฐานมีอยู่แค่นั้น ทิ้งขวดไวน์ แก้ว ทำลายหลักฐาน ประมาท มีอยู่แค่นั้น ไม่มีหลักฐานว่าฆาตกรรม ไม่มีมีด ไม่มีคราบเลือด ถ้าแจ้งไปเขาก็แจ้งความตร. กลั่นแกล้ง ไปทำไม่ได้ ต้องแจ้งตามพยานหลักฐาน

ก่อนตร. แถลง มีทั้งความเชื่อ ความคิด และข้อเท็จจริง ซึ่งอาจไม่ตรงใจใครหลายๆ คน ตร.ก็รู้อยู่แล้วว่าการออกมาพูดวันนี้ คงทำให้เกิดกระแสความไม่ชอบด้วยเช่นกัน คิดว่าพูดแบบนี้ทำให้ความน่าเชื่อถือน้อยลงมั้ย?
เดชา : ผมเห็นใจตร.นะ ผมแถลงข่าวเสร็จ ผู้การสืบโทรหาผม ผมบอกไม่เป็นไรหรอก ใครด่าก็ด่าไป เรารู้อยู่แก่ใจทำดีทำชั่ว ทำเต็มที่หรือเปล่า ไม่สามารถทำให้คนถูกใจได้ คดีนี้แปลก มีคนเกี่ยวข้องเยอะ มีคนสงสัยเยอะ แต่ตร.ทำงานตามพยานหลักฐาน พยานหลักฐานมีแค่ไหนก็แค่นั้น มันทำได้แค่นี้

คุณหมอฟังแล้วรู้สึกติดใจตรงไหนในคดีนี้มั้ย?
หมอของขวัญ : ก็ติดใจเหมือนคนอื่นติดใจกันทั่วประเทศ พอดีเมื่อวานนี้ได้อ่านสัมภาษณ์ทนายเดชา ทนายเดชาบอกว่าเดี๋ยวคนก็ลืมแล้วแต่อยากบอกว่าคดีนี้เป็นคดีที่คนไม่ลืมนะคะ

เห็นนั่งแถลงข่าวกับคุณแม่ คุณแม่พูดเรื่องเงินที่เรียกร้อง สามารถเพิ่มได้ตามความรู้สึกของคุณแม่ พอพูดเรื่องเงิน ทำให้ภาพของคุณแม่ดูไม่ดี ได้มีการพูดกับคุณแม่เรื่องนี้มั้ย?
เดชา : ตอนนั้นแกตอบคำถาม แกโมโห เพราะมีคนไปทำข่าวปลอมเรื่องคุณเบิร์ด แกก็โมโห เลยพูดไป บอกว่าด่ากันนักจะเรียกให้เยอะๆ ไม่ได้เป็นเรื่องเป็นราวอะไร

คนก็ด่าคุณแม่ว่าหิวเงิน เดี๋ยวจะไม่ได้สักบาท อยากให้อธิบายตรงนี้?
เดชา : แกยังไม่ได้คิดเลย ต้องรอให้อัยการสั่งฟ้องก่อน คดีนี้ไปเทียบกับหมอกระต่าย เขาเรียกตั้ง 140 ล้านมั้ง การเรียกค่าเสียหายคดีอุบัติเหตุหรือประมาทแบบนี้ เขาจะเรียกเท่าไหร่ก็ได้ จะเรียกร้อยล้านพันล้านเรียกได้หมด ไม่ใช่เรื่องแปลก คดีหมอกระต่ายเรียกตร. 70 ล้าน เรียกกทม.อีก 70 เป็น 140 ล้าน ถ้าลูกความผมจะเรียกก็ไม่ใช่เรื่องแปลก ไม่คิดมากหรอก เป็นการใช้สิทธิ์ตามกฎหมาย

แต่ทำให้ภาพคุณแม่ดูไม่ดี?
เดชา : อันนั้นก็ว่ากันไป คุณแม่ก็ไม่ได้อ่าน ก็ว่ากันไป

การแจ้งข้อหาคนอื่นๆ ที่ใส่ร้าย พูดจาด้วยถ้อยคำหยาบคาย?
เดชา : ดำเนินคดี เดี๋ยวว่างๆ ก็รวบรวมแจ้งความดำเนินคดีไป เอาเฉพาะคนที่ใส่ร้าย ตอนนี้รวบรวมหลายรายอยู่ เฉพาะคนที่ใส่ร้ายเรา ถ้าวิจารณ์โดยสุจริตเราก็ไม่ทำอะไร

คนชื่ออัจฉริยะ ดำเนินคดีด้วยมั้ย?
เดชา : อันนั้นเป็นเรื่องตร. ตร.เขาก็ดำเนินการของเขาอยู่แล้ว วันนี้เขาก็พูดแล้ว เขารวบรวมคดีไปส่วนนึงถ้าอันไหนผิด ก็เป็นการใช้สิทธิ์

กล้อง CCTV ที่ตร.เอาออกมา มองอะไรไม่เห็นเลย?
เดชา : ตาคนก็เหมือนกันหมด ไม่ชัดเจนอยู่แล้ว แต่เรามองด้วยใจเป็นกลาง ตร.อธิบายเรื่องแสงและเงา เขาอธิบายว่าวัตถุดำๆ มันหายไป เรามองกลางๆ อย่าไปมองอคติ ตร.ไม่ได้บอกว่าชัดนะ เขาบอกวัตถุดำๆ หายไป ลองฟังดีๆ ให้ความเป็นธรรมกับตร.บ้าง

วันนี้ทีมเพื่อนแตงโมบอกว่าไม่ว่าตร.หรือคุณแม่จะพูดยังไง เขามีหลักฐานบางอย่างเดี๋ยวจะไปขอยื่นกับศาล จริงๆ ทำได้มั้ย?
เดชา : ทำไม่ได้ อย่างนี้ดีกว่า ไหนๆ ตร.เขาสรุปสำนวนจบแล้ว ไม่มีอำนาจสอบสวน สมมติคนรักแตงโมจริงๆ ที่อยากจะหาสาเหตุการตาย ที่ไม่ได้หาแสง ใครก็แล้วแต่ มีพยานหลักฐานอะไรก็แล้วแต่ คุณมายื่นให้ผม เดี๋ยวผมจะไปยื่นให้อัยการให้ เพราะผมมีอำนาจ เป็นผู้มีส่วนได้เสียในคดีเลย คุณเพชรช่วยบอกได้มั้ย เขาไปยื่นเองไม่ได้ เขาไม่ใช่ผู้มีส่วนได้เสียในคดี ไปเปิดกฎหมายดูนะครับ

ถ้าเขาบอกว่าไม่ไว้ใจพี่ จะยื่นให้ใครได้บ้าง?
เดชา : ก็คุณแม่แตงโม ไว้ใจมั้ยล่ะ มอบให้คุณแม่แตงโม ให้คุณแม่พาไปยื่นที่สำนักงานอัยการ ถ้ามีอะไรที่เป็นประโยชน์ อย่าไปพูดว่าไม่ไว้ใจ มองคนอื่นเป็นคนร้ายหมด เราเป็นคนดีคนเดียวหรือไง ก็ไม่เข้าใจเหมือนกัน คนในสังคม

มุมคุณหมอไว้ใจมั้ย?
หมอของขวัญ : ค่าของคนอยู่ที่ผลของงาน ถ้าเขาไม่ไว้ใจเรา ทั้งที่เรามีอำนาจโดยตรงในการรับผิดชอบตรงนั้น เราต้องถามตัวเองแล้วว่าทำไมเขาถึงไม่ไว้ใจเรา

ล่าสุดถูกเอาแชตออกมา ว่าคุณหมอเป็นนกสองหัว ตกลงอยู่ข้างไหนกันแน่ อยู่ข้างแตงโม หรืออยู่ข้างแซน?
หมอของขวัญ : หมออยู่ข้างความถูกต้อง ข้อแรกหมอต้องการทวงคืนความยุติธรรมให้กับคนตายที่พูดไม่ได้ สองในฐานะคนรู้จัก เห็นคนรู้จัก ซึ่งตอนนี้เขาให้สัมภาษณ์ว่าไม่รู้จักเรา

เขาบอกคุณหมอพอซะที ยังไม่อิ่มอีกเหรอ?
หมอของขวัญ : โอเค ไม่รู้จักได้ แต่อย่างนี้ค่ะ คนที่ถ่ายรูปเพื่อนแขนใหญ่ ติดผ้าอนามัยแล่บขนาดนั้นแล้วบอกว่าสวยดี ไม่รู้จักก็ได้ค่ะ หมอก็ไม่ได้อยากรู้จักค่ะ แต่ ณ วันนั้นเราหวังดี ว่ากุนซือหรือทนายที่บอกให้เขาสัมภาษณ์แบบนี้หรือเรื่องอะไรที่ดูบ้ง การที่เรารู้สึกว่าเฮ้ย ถ้าคุณมีที่ปรึกษาที่ดี ทนายที่เก่ง คุณจะหลุด คำว่าหลุดไม่ได้หมายถึงหลุดคดี หลุดจากการเป็นจำเลยของสังคมไปได้ มันไม่มีอะไรเลย หมอไม่เชื่อว่าเขาจะสามารถฆ่าใครได้ หมายถึงเขาคนเดียวนะ ไม่เชื่อว่าเขาจะเป็นฆาตกรฆ่าใครได้ ดังนั้นมันไม่แปลกไม่ใช่เหรอ ที่เราจะแนะนำทนายที่ดี แนะนำทางที่ดีให้คนที่เรารู้จัก แต่ถ้าความหวังดีของหมอทำให้เขาบอกว่าเขาไม่รู้จักหมอ และหมอหิวแสง คนแบบนี้หมอไม่รู้จักก็ได้ค่ะ

ตั้งแต่เกิดเรื่อง ก็ไม่เชื่อว่าเป็นฆาตกรรม?
หมอของขวัญ : หมออกมาพูดจนช้ำว่าคนบนเรือไปแล้ว หมอต้องยืนยันว่าถ้าฆาตกรรมต้องมีแรงจูงใจ หมอยังเชื่อโดยสุจริตใจว่าเป็นอุบัติเหตุ แต่การกระทำหลังอุบัติเหตุ โดยเฉพาะคนเป็นเพื่อน 20 ปีเพื่อนกินอยู่ง่าย เพื่อนตายกลับบ้าน ถ้าอยู่ตรงนั้นแล้วหาน้องให้เจอ ให้มีหลักฐานครบ จะทำให้ประชาชนเคลือบแคลงสงสัยและบานปลายอย่างนี้มั้ยคะ

คุณหมอรู้จักสนิทใครบนเรือมากที่สุด?
หมอของขวัญ : รู้จักแซนนานที่สุด เพราะแซนขายกระเป๋าแอร์เมส และหมอซื้อกระเป๋าแอร์เมส ในฐานะแม่ค้า-ลูกค้า

เคยไปทานข้าวกันมั้ย?
หมอของขวัญ : ไม่เคยเป็นเพื่อน และไม่เคยแฮงเอ้าท์ และไม่คิดว่าจะเป็นเพื่อนและแฮงเอ้าท์อีกต่อไป แชตที่หลุดก่อนหน้านั้นเขาปล่อยไม่หมดนี่ว่าคุยอะไรกัน เขาปล่อยกะเบี่ยงเบนประเด็นมาทัวร์ลงที่หมอ ถ้านิสัยแบบนี้ก็ไม่แปลกใจค่ะ

แชตนั้นหมอคุยกับเขาว่าจะปรึกษาเรื่องทนาย เป็นห่วงนะ โกรธฉันหรือเปล่าที่ไปพูดอีกอย่าง?
หมอของขวัญ : ใช่ หนึ่งคือถ้าหมอเลือกคอนเนกชั่นและเห็นแก่ตัว หมอต้องเลือกข้างคนบนเรือเพราะหมอต้องเจอคนอีกเยอะ แต่หมอต้องเลือกค้นหาความจริง และพูดแทนคนตายที่พูดไม่ได้

แต่คุณหมอเอาเงินไปให้เขานะ เราเป็นลูกค้า?
หมอของขวัญ : อันนี้ต้องถามเขา

ที่คุณหมอบอกว่าเจ๋งสุดบนเรือคือแซน คืออะไร?
หมอของขวัญ : แซนเป็นคนมีฐานะมากที่สุดในเรือค่ะ

รวยที่สุดในเรือ ซึ่งคนมองเป็นคนอื่น?
หมอของขวัญ : เอาเฉพาะสัตว์เลี้ยงเขา ก็น่าจะมีเป็น 10 ล้านได้

แซนบอกว่าคุณหมอหิวแสง หยุดซะที เขาอยากให้หยุดเพราะ?
หมอของขวัญ : ถ้าหมอหิวแสง หมอต้องหิวแสงส่องไปในมุมมืดที่คุณปิดบังค่ะ

เคยคุยโทรศัพท์กันมั้ย?
หมอของขวัญ : เอาเป็นว่าถ้าเขาบอกว่าไม่รู้จักหมอ ถ้าเขาเล่นเกมแบบนี้ หมอไม่รู้จักเขาก็ได้ค่ะ อย่างที่พูด หมอเป็นคนซื้อ เขาเป็นคนขาย ใครเสียผลประโยชน์ ก็ขอโทษที่หวังดี หมอก็ต้องเรียนรู้ที่จะจบคนค่ะ
หมอเชื่อว่าเป็นอุบัติเหตุ แล้วคิดว่าเกิดอะไรขึ้นในมุมของเรา?
หมอของขวัญ : หมอไม่รู้เลย อย่างที่บอกว่าช้ำกว่าคนบนเรือก็หมอแล้วล่ะ เรามูฟออนเรื่องนี้ แล้วปล่อยให้เป็นเรื่องเจ้าหน้าที่ แต่ก็สืบเงียบๆ แล้วมาเรื่องเป็นปากเป็นท้องของเรามั้ย เรื่องเศรษฐกิจ เรื่องโควิด ที่กระทบกับเราจริงๆ

รูปที่คุณแซนบอกว่าถ่ายด้านหลัง ในมุมมองคุณหมอ ใช่มั้ย รอยสัก กล้ามเนื้อ ใช่แตงโมมั้ย?
หมอของขวัญ : คิดว่าน่าจะใช่แตงโม แต่ไม่เข้าใจว่าถ่ายด้วยจุดประสงค์อะไร พี่เพชรว่าสวยมั้ย มีผ้าอนามัย แล้วแขนล่ำ สวยมั้ยล่ะ ในมุมมองของผู้ชาย
 
คุณหมอบอกว่าถูกข่มขู่ด้วย?
หมอของขวัญ : ไม่ใช่ครั้งแรก ตั้งแต่คอลเอาท์ พูดเรื่องใหญ่ๆ ก็มีประเด็นมาตลอด เอาเรื่องที่เพิ่งโพสต์ไป ตอนแรกขึ้นเบอร์ ก็คิดว่าเป็นแก๊งคอลเซ็นเตอร์ เราอยากทำคอนเทนต์บ้างตลกๆ เพราะมันขึ้นเบอร์ไม่รู้จัก ก็อย่างในคลิปเลย พูดหลายอย่าง เราก็ปรึกษาทนาย ทนายบอกให้ไปแจ้งความ ในใจมีว่าใครแต่ยังไม่ชัวร์ หนึ่งเราต้องเอาความปลอดภัยก่อน ที่ออกมาที่แจ้งเพราะโดนขู่หลายครั้ง ถึงขั้นถูกตาม ต้องเปลี่ยนป้ายทะเบียนรถเลยนะคะ เมื่อเขาขู่เราในที่ลับ เราต้องเอามาไว้ในที่แจ้ง และไปแจ้งความเอาไว้เผื่อมีอะไรเกิดขึ้นกับเรา สองความปลอดภัยสำคัญที่สุด ก็มีการจ้างบอดี้การ์ด

คิดว่าเป็นคนฝั่งบนเรือ หรือคนละฝั่งกับคนบนเรือ?
หมอของขวัญ : หมอคิดว่าไม่ใช่พวกปอ - โรเบิร์ต แต่คนในใจไม่ใช่คนอยู่บนเรือ ส่วนเขามายุ่งทำไม มันมีผลประโยชน์บางอย่างที่พูดไม่ได้

หมออยากคุยเรื่องโควิดด้วย เพราะเขาอยากเปิดประเทศกันแล้ว?
หมอของขวัญ : ต้องบอกเลยว่า เห็นจีนมั้ยคะ โควิดซีโร่ ตอนนี้ทำไม่ได้ เราต้องเรียนรู้ที่จะอยู่กับมัน เราจะเปลี่ยนเป็นโรคระบาด เป็นโรคประจำถิ่นได้ยังไง มันมีแค่ 3 ปัจจัยง่ายๆ อย่างแรกการตรวจ atk ต้องฟรี เข้าถึงง่าย pcr สอง วัคซีนที่มีประสิทธิภาพ เราไม่ได้ด้อยค่าวัคซีนอะไร แต่งานวิจัยสิงคโปร์ ฮ่องกง ชี้ชัดแล้วว่า โมเดอร์น่า ลดอัตราการตายได้ได้ 5 เท่า มากกว่าเชื้อตาย หมอไม่ได้พูดเอง ไม่กันติด แต่กันตาย สามยาที่มีประสิทธิภาพ และจำเพาะเจาะจงกับโรค ซึ่งต่างประเทศก็มีวิจัยมาแล้วว่าแพ็กซ์โลวิด เป็นยาที่เฉพาะเจาะจงกับโควิดเลย ถ้าได้ภายใน 72 ชั่วโมง จะลดอัตราการเข้ารพ.ได้ 89 เปอร์เซ็นต์ โมลนูพิราเวียร์ลดอัตราการเข้ารพ.ได้ 60 กว่าเปอร์เซ็นต์ แต่ฟาวิพิราเวียร์ไม่มีใครเขาใช้แล้ว

แต่เรายังแจกฟาวิฯ กันอยู่เลย แล้วฟ้าทะลายโจรล่ะ?
หมอของขวัญ : ฟ้าทะลายโจรนี่หนักเลยค่ะ หมอเป็นหมอนะคะ เอาเปเปอร์มาคุย เอาการทดลอง ผลวิจัยมาคุย

มันไม่มีเปเปอร์ของฟาวิฯ?
หมอของขวัญ : ไม่มีเปเปอร์ และเราเจอค่าตับสูงเยอะมาก สองมันเป็นยาไข้หวัดใหญ่ ตอนนั้นต้องเข้าใจว่ามันไม่มียาอะไรใช้ ทั้งโลกโควิดก็เป็นโรคอุบัติใหม่ ดังนั้นมีอะไรในมือก็ใช้ไปก่อน แต่ในเมื่อมียาที่จำเพาะเจาะจงแล้ว คำถามคือทำไมไม่นำเข้ามา หรือนำเข้ามา 5 หมื่นชุด คนไทยมี 70 ล้านคน คิดว่าตอนนี้ตัวเลขการติดเท่าไหร่กันแน่









กำลังโหลดความคิดเห็น