“บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์” ไม่อยากแฉให้ดรามา “ติ๋ม เพ็ญพร” ได้เงินบริจาค 1.5 ล้าน แต่ถูกคนใกล้ชิดเอาไปใช้ 3 แสน ไม่ใช่คนในครอบครัว ไม่ใช่คนในวงการ แต่เป็นคนที่เคยช่วยเหลือที่เข้ามาบีบน้ำตา และทวงบุญคุณ ตอนนี้เงินบริจาคเหลือ 8 แสนแล้ว โยนให้เป็นหน้าที่ของลูกชายดูแลต่อ ลั่นตกใจตอนทราบข่าวเสียชีวิต เพราะ 6 เดือนที่เจอกันอีกฝ่ายมีความสุข ไม่ท้อและต่อสู้ชีวิตมากขึ้น
เป็นคนที่ช่วยเหลือและดูแล “ติ๋ม เพ็ญพร ไพฑูรย์”อดีตนางแบบหลังจากทราบข่าวว่าได้รับความลำบาก จนทุกอย่างดีขึ้น ได้เงินบริจาคช่วยเหลือสูงถึง 1.5 ล้านบาท งานนี้ “บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์” เผยว่าตกใจมาก หลังจากที่ทราบข่าวว่าติ๋ม เพ็ญพร เสียชีวิตแล้ว โดยในพิธีรดน้ำศพวันนี้ (25 เม.ย.) ที่วัดหลักสี่ บิณฑ์ก็ได้เผยความรู้สึก พร้อมเผยเรื่องเงินบริจาค ที่มีคนใกล้ชิดติ๋ม เพ็ญพรเอาไป 3 แสน
“ทราบข่าวเมื่อเช้านี้ ประมาณ 08.30 น. ลูกน้องที่ดูแลประจำกับพี่ติ๋ม โทร.มาบอกว่าพี่ติ๋มเสียแล้ว ก็ตกใจ เพราะสองสามอาทิตย์ที่แล้ว ลูกชายมารับพี่ติ๋มไปดูแล เราก็คิดว่าดีแล้วแหละ อย่างน้อยลูกแท้ๆ พี่ติ๋มบั้นปลายชีวิตจะได้มีความสุข ได้อยู่กับลูก ให้ลูกดูแล เมื่อวานผมไปล้างป่าช้าศพไม่มีญาติ สัก 6 โมงเย็น ผมยังพูดกับลูกน้องเลยว่าพี่ติ๋มเป็นยังไงบ้าง ลูกน้องบอกว่าลูกชายบอกว่าไม่ต้องห่วง เขาจะดูแลเอง เช้ามาได้ข่าวพี่ติ๋มเสีย ผมก็แบบเฮ้ย เพิ่งถามถึงหยกๆ ว่าเป็นยังไงบ้าง
ถามว่าพี่ติ๋มอายุมากไหม ก็ไม่เท่าไหร่นะ 68 ถือว่าโอเค แต่ด้วยความพี่ติ๋มมีหลายโรครุมเร้าอยู่ด้านใน ตอนเราไปดูแลครั้งแรกเราตกใจมาก ทำไมพี่ติ๋มปล่อยตัวขนาดนี้ พี่ติ๋มบอกว่าไม่ได้ปล่อยตัว แต่ไม่มีใครเข้ามาหาเพราะโควิดมีบ้างเข้ามา เอาอาหารมาให้แล้วปล่อย พี่ติ๋มไม่ได้อาบน้ำเป็นเดือนก็มี
ผมไม่ได้เจอ 3 ปี สภาพที่เข้าไปวันนั้น โห ถ้าพี่ติ๋มมีคนดูแล คงไม่เป็นแบบนี้ แต่ด้วยเหตุการณ์ ณ ปัจจุบันโควิดก็ทำให้พี่ติ๋มก็ไม่ได้รับการดูแลเท่าที่ควร และปัญหาเรื่องเงิน เพราะหนึ่งเขาบอกว่ามีเพื่อนที่รักกันในวงการบันเทิง เขาจะพูดถึงพี่ตุ๊ก ดวงตา ,เดือนเต็ม สาลิตุล คนนั้นคนนี้ส่งเงินมาให้บ้าง ทีละพันสองพันสามพันก็แล้วแต่ แกก็จะขอ ยังพอเป็นค่าห้องให้ได้
พอผมเข้าไปปุ๊บ ก็บอกว่าพี่ติ๋มต้องดูแลตัวเอง พี่ติ๋มบอกว่าไม่มีเงิน งั้นเบื้องต้นผมก็ช่วยไป และลงเลขที่บัญชีให้ พี่ติ๋มได้เงินช่วยมาประมาณ 1.5 ล้าน ผมยังดีใจว่าถ้าพี่ติ๋มใช้อย่างประหยัด พี่ติ๋มสามารถประคองตัวอยู่ได้ 5 ปี 10 ปีก็ยังได้เพราะค่าห้องประมาณเดือนละ 3 พัน แต่ทุกอย่างก็ไปตามวาระของแต่ละคน เมื่อเช้าก็ตกใจว่าพี่ติ๋มเสียแล้ว ทางนี้บอกว่าลูกก็พาแม่มาส่งรพ. และกลับไปที่บ้าน แม่ก็ไม่สามารถปั้มหัวใจได้ ประมาณครึ่งชม. ผมก็บอกว่าโอเค ผมจะไปที่รพ. ที่พี่ติ๋มรักษาตัวอยู่ และรับร่างมาอยู่ที่วัด สั่งโลงสั่งอะไรให้เรียบร้อย
จริงๆ ผมสามารถเป็นเจ้าภาพให้พี่ติ๋มได้หมดทั้งสามวัน ดูแลได้หมดเลย แต่ด้วยความที่หนึ่ง เราไม่ใช่ญาติพี่ติ๋ม เป็นแค่คนในวงการที่รู้จักกัน เคยร่วมงานประมาณเกือบ 40 ปี ที่เคยเดินแบบกับพี่ติ๋ม นานมาก แต่ไม่เคยร่วมงานการแสดง เคยแต่เดินแบบด้วยกัน ผมสามารถทำให้พี่ติ๋มได้ แต่พี่ติ๋มมีลูก ผมเพิ่งทราบเมื่อกี้เองว่าพี่ต่อลาภ กำพูศิริ เป็นสามีพี่ติ๋มทั้งแต่สมัยอยู่ในวงการบันเทิงพี่ติ๋มไม่เคยบอกอะไรเลย บอกแค่ว่ามีลูกชาย แต่ไม่เคยบอกว่าลูกชายเกิดจากใคร ก็เพิ่งมาอ้าว ก็ขอบคุณที่ครั้งนึงเข้าไปดูแลอดีตภรรยา แต่พี่ติ๋มก็มีลูกชายอยู่ พี่ติ๋มมีเงินเหลืออยู่ในธนาคาร
ลูกชายบอกว่าจะขอทำตรงนี้ให้แม่ครั้งสุดท้าย ก็ไม่เป็นไร เราจะดูแลเรื่องโลง และเป็นเจ้าภาพให้หนึ่งคืน นอกนั้นลูกชายดำเนินการ ก็ถือว่าหน้าที่ลูกชายทำให้แม่ แต่ถ้าลูกชายไม่ทำ ผมก็สามารถทำได้เลย แม้ไม่ใช่ญาติพี่น้อง อย่างน้อยได้ช่วยเหลือคนในวงการด้วยกัน”
ยันติ๋มชอบสันโดษ อยากอยู่คนเดียว 6 เดือนที่เจอกันทำให้มีความสุขมากขึ้น ไม่ท้อและต่อสู้ชีวิต
“เหตุผลคุยกับพี่ติ๋ม พี่ติ๋มบอกว่าไม่ชอบให้ใครมาอยู่ด้วย ปกติพี่ติ๋มเขาเป็นศิลปินเหมือนกัน เขาชอบวาดภาพ ทำโน่นทำนี่ ลูกชายเล่าว่าเคยอยู่กับแม่ย้อนไปประมาณ 10-20 ปี เคยทำงานกับพี่ตั้ว ที่เสียไปแล้ว ลูกไปอยู่ร้านอาหาร ทำงานตอนกลางคืน กลับมาตอนเช้าก็นอน เย็นไปทำงาน แม่ก็ทำงานเช้า กลับเย็น ก็สลับกัน แม่ก็ไม่ไหว ลูกเองก็รู้สึกไม่ไหว ต่างคนต่างแยกกันไป หลังจากนั้นผมก็ไม่ทราบข่าวอะไรทั้งนั้น จนทราบข่าวว่าพี่ติ๋มแย่นี่แหละ ที่เข้าไปดูแล ที่พูดเพราะคิดว่าพี่ติ๋มชอบสันโดษ เห็นใครทำอะไรจะไม่พอใจ แกก็อยากอยู่คนเดียว ถ้าต้องการอะไรก็โทร.บอกเจ้าหน้าที่ซื้ออันนั้นอันนี้ให้กินหน่อย จะเอาเงินให้
หลังเข้ามาดูแล จะอัดคลิปยิ้มแย้มขอบคุณนะพี่บิณฑ์ เทวดาเดินดินของฉัน ฉันมีความสุขดี ส่งช่างทำผมทาเล็บมาดูสิสวยไหม ฉันไม่เคยตัดเลยนะ แต่พี่ติ๋มก็ยอมตัด เริ่มมีความสุข สามารถไปโน่นไปนี่ได้ มีคนเอารถมารับ มีพยาบาลมาดูแล ให้น้ำเกลือ พอเริ่มมีเงินชีวิตแกเริ่มดีขึ้น เริ่มไม่ท้อ ต่อสู้ชีวิตได้ แต่อย่างที่บอก ตอนไปเจอแก แกเริ่มทรุดมากแล้ว กินอะไรนิดนึงก็ไม่ไหว ไอ อาเจียน ผมเจอแก 6 เดือน ทำให้ชีวิตแกเริ่มดีขึ้น
ตอนทำงานด้วยกันเขาน่ารัก เฮฮา เป็นคนที่เดินแบบสวยที่สุด เป็นเจ้าแม่การเดินแบบเลยก็ได้ เพราะเข้าไปก็เจอรุ่นพี่ พี่ม้า อรนภา กฤษฎี พี่ติ๋ม มีการมาบอกมาสอน เหมือนเราเข้างานใหม่ๆ เราก็ได้วิชาในการเดินแบบ เราก็ได้พี่ม้า พี่ติ๋มสอนเดินแบบให้เป็นสากลมากขึ้น พี่ติ๋มเป็นคนสนุกสนานเฮฮา ต้องย้อนยุคไปดูปี 80 เพ็ญพร ไพฑูรย์ เขาขึ้นอันดับหนึ่งตลอด พวกที่เดินแบบต้องมีพี่ติ๋มตลอด เขาเป็นคนรักษาหุ่น เพรียว ผอมมาตั้งแต่สมัยไหนๆ แต่ไม่ได้ผอมแบบนี้นะเขารักสวยรักงามด้วย จะไม่ปล่อยให้อ้วน เป็นนางแบบที่สวย มีวินัยสูงไม่เคยอ้วนเลย”
เผยยอดเงินบริจาค 1.5 ล้านช่วยเหลือติ๋ม เพ็ญพร มีคนใกล้ชิดเอาไป 3 แสน ไม่อยากแฉว่าใคร ตอนนี้เหลือ 8 แสนแล้ว
“ผมไม่เข้าไปก้าวก่าย ตอนได้เงินบริจาคมา 1.5 ล้าน พี่ติ๋มบอกว่ามีคนมาเอาไป 3 แสน ผมก็ตกใจ ให้เขาไปได้ยังไง ก็เงียบ ไม่ตอบ บอกว่าพี่ติ๋มไม่พูดแล้วกันนะ เขาเอาไปแล้วมีความสุขก็ปล่อยเขาไป เขาเป็นคนแบบนี้ เราก็ถามว่าพี่ติ๋มให้เขายืมไปได้ยังไง เขาก็ไม่พูด ไม่อะไร
ตอนนี้เงินเหลือประมาณ 8 แสน ลูกชายเขามาก็เป็นความรับผิดชอบลูกชายไป ลูกชายจะทำอะไรก็แล้วแต่ เรื่องเงินก็ไม่เคยเข้าไปยุ่ง เพียงแต่อยากรู้ว่าเงินพี่ติ๋มหายไปไหน อ๋อ เบิกไปให้คนนั้นคนนี้ เบิกไปซื้อนั่นซื้อนี่ ก็โอเค แต่จากวันที่บริจาค 2 วันเอง ผมให้ลูกน้องไปเช็กว่ามีคนช่วยเยอะไหม ก็อ้าวพี่ติ๋ม ใครเบิกไป 3 แสน นั่นแหละ มีคนเอาเงินไป 3 แสน
ผมทราบว่าใครเอาไปแต่ไม่พูดดีกว่าเป็นเรื่องส่วนตัวเขา ถ้าผมพูดดรามาอยู่แล้ว เป็นคนใกล้ชิดเขาด้วย แต่ไม่พูดแล้วกัน มันจบไปแล้ว พี่ติ๋มก็เสียไปแล้ว ไม่อยากไปรื้ออะไรมากมาย ไม่ใช่คนในครอบครัว ไม่ใช่เพื่อนดารา แต่เป็นคนที่เคยมาช่วยเหลือพี่ติ๋ม เห็นพี่ติ๋มได้รับปุ๊บก็มาทวงบุญคุณ ผมติดต่อ แต่ผมบอกว่าไม่เป็นไร พี่ติ๋มบอกว่าปล่อยเขานะ ไม่ต้องไปยุ่งกับเขาช่างเขาเถอะ เอาไปก็แล้วแต่ ไม่อะไรทั้งนั้น พี่ติ๋มผิดเอง ผมก็บอกว่าไม่เป็นไร ถ้าพี่ทำใจได้ พร้อมให้เขาไปก็จบ ไม่พูด เพราะพี่ติ๋มสั่งไม่ต้องพูด แต่ผมรู้ว่าเป็นใคร
เป็นคำบอกของพี่ติ๋ม พี่ติ๋มขอบคุณทุกคนที่เป็นห่วงพี่ติ๋ม ที่นำเงินบริจาคมาให้ แต่พี่ติ๋มเป็นคนขี้สงสารคน คนนี้เคยดูแล เขามาบีบน้ำตาทุกอย่าง ทำให้พี่ติ๋มใจอ่อนให้เขาไปกดตอนนั้นเป็นบัญชีอันเก่า พอรู้ปุ๊บผมก็เปลี่ยนเป็นบัญชีใหม่ให้พี่ติ๋ม เป็นเอทีเอ็มใหม่ ถ้าเป็นอันเก่าคงหมดไปแล้ว ไม่ต้องไปสืบหรอกว่าใคร ผมรู้ว่าใคร เคยคุยกับเขาด้วย”
ฝากลูกชายทำวันนี้ให้ดีที่สุด
“ผมรู้สึกว่าครั้งแรกที่เราเข้าไป พี่ติ๋มมีชีวิตที่ดีขึ้น มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น วันนี้พี่ติ๋มจากไป ผมก็บอกลูกเขาว่าทำวันนี้ให้ดีที่สุด ในส่วนฌาปนกิจ ลอยอังคาร ครบ 50 วัน 100 วัน ก็ทำให้ครบทุกอย่าง ลูกชายก็รับปากว่าจะทำให้ทุกอย่าง ไม่ว่าพี่ติ๋มหรือใครก็แล้วแต่ หรือคนในวงการ ผมยินดีมาก ถ้าเขาไม่มีใครดูแล ถ้าชีวิตนี้ไม่ไหวจริงๆ ยินดีเข้าไปช่วยเหลือดูแล”
