xs
xsm
sm
md
lg

“ป้าแจ๋ว” เปิดใจ ในวันเรตติ้ง 0 “คุณหมีปาฏิหาริย์” ช่อง 3 โอเค เพราะโฆษณายังแน่น

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



“ป้าแจ๋ว” ไม่เฟล “คุณหมีปาฏิหาริย์” เรตติ้ง 0 ลั่นแค่ยอดคนดูเพิ่มขึ้นทุกวันก็ดีใจแล้ว ช่อง 3 ใจกว้าง โอเคกับเรตติ้งเท่านี้ เพราะโฆษณาก็ยังแน่น ภูมิใจถูกจริตชาวต่างชาติ ติดเทรนด์ทวิตเตอร์ฟิลิปปินส์ ติดอันดับ 20 เว่ยป๋อจีน พร้อมเผยสิ่งที่อยากกลับไปแก้ไข ลั่นหากช่อง 3 อนุมัติให้ทำอีกก็จะทำ

ถูกพูดถึงเป็นอย่างมาก สำหรับ “ป้าแจ๋ว ยุทธนา ลอพันธุ์ไพบูลย์” และละคร “คุณหมีปาฏิหาริย์” ละครสายวายเรื่องแรกของช่อง 3 ที่ออนแอร์ในช่วงไพรม์ไทม์ ที่ตอนนี้ถึงแม้เรตติ้งจะไม่แตะเลข 1 เลยด้วยซ้ำ แต่สำหรับป้าแจ๋ว เจ้าตัวเผยว่าสุดภูมิใจ อย่างน้อยตอนนี้ตกคนดูได้เพิ่มขึ้น ขณะที่ช่อง 3 ก็ไม่ได้คาดหวังเรื่องเรตติ้ง
 
“ตอนนี้สบายใจไประดับหนึ่ง จากผลตอบรับที่อยู่ในทวิตเตอร์อยู่ในออนไลน์มันพุ่งตรงเข้ามาหาเราเยอะ ต่างชาติเขาก็สนใจเรื่องนี้แล้วก็สนุกสนาน ตรงนี้ก็ดีใจแต่ที่ดีใจกว่าก็คือตอนนี้มีคนทวิตมาบอกว่าพ่อกับแม่ชวนดู จริงๆ เขาไม่กล้าดูแต่ตอนนี้แม่เป็นฝ่ายชวน หรือว่าดูกับคุณย่าคุณยายซึ่งคุณย่าคุณยายก็ไม่เคยรู้จักละครวาย ดูไปก็สนุกชอบเต้าหู้ ตอนนี้รู้สึกว่าตัวละครมันได้ทำหน้าที่ ตามที่เราได้คาดหวังเอาไว้มันเป็นละครเพื่อครอบครัวจริงๆ มันสร้างความเข้าใจซึ่งกันและกัน

ถามว่ากระแสมันเป็นไปตามที่เราตั้งใจไว้ทีแรกไหม ตอนนี้เป็นแล้ว ก่อนหน้านั้นมันไม่ได้เป็นไปอย่างที่เราหวัง คือเราหวังให้คนในครอบครัวได้ดูร่วมกัน แต่ตอนนี้เริ่มได้แล้ว ตอนนี้มีความสุขมากไปที่ไหนก็มีคนทัก อย่างเราไปหาหมอตา คุณหมอยังบอกว่าได้ดูบอกว่ามันมีประโยชน์กับครอบครัวนะ”

เผยช่องโอเคกับเรตติ้ง เพราะไม่คาดหวังเรตติ้ง
ไม่มีพูดเลย ช่องโอเคกับเรา ช่องเขารู้ตั้งแต่แรกแล้ว เจ้านายทุกคนของเราบอกแล้ว ตั้งแต่ต้นว่าเรื่องนี้เขาไม่คาดหวังเรตติ้งอะไรเลย เขาหวังแค่ว่าขอให้เรื่องนี้เป็นกระแส เป็นที่พูดถึงของคนหมู่มาก เขาก็แฮปปี้ ซึ่งตอนนี้เจ้านายของเราก็แฮปปี้ ส่วนหนึ่งที่ว่ามันไม่ได้มีกระแสแค่ประเทศไทยอย่างเดียวมันยังมีกระแสไปต่างประเทศด้วย ตอนนี้คนฟิลิปปินส์ชอบมาก มันไปติดเทรนด์ทวิตเตอร์ที่ฟิลิปปินส์ด้วย ในขณะที่ญี่ปุ่นเขาก็รอเวอร์ชั่นซับญี่ปุ่นออกมาให้ดู ตอนนี้คนเกาหลีก็ยังไม่ได้ดู คนฟิลิปปินส์ดูแล้วไต้หวันดูแล้วรวมถึงคนจีนที่ไม่ใช่จีนไต้หวัน เขาก็เริ่มมีการพูดถึงกันและละครของเราก็ไปติดอันดับที่ 20 ของเว่ยป๋อด้วย หมายถึงว่าเป็นที่น่าสนใจ อาจจะได้ดูหรือไม่ได้ดูก็ได้แต่เป็นที่น่าสนใจของคนจีนในแผ่นดินใหญ่”

เข้าใจคนไทยยังมองแค่เรตติ้ง แต่การฝากชีวิตไว้กับเรตติ้งอย่างเดียว จะเครียดเกินไป
“จริงๆ เราเข้าใจเรื่องเรตติ้งของการขายโฆษณาในช่อง แต่ว่าทั่วโลกก็มีปัญหากับเรตติ้งแบบนี้เหมือนกัน อย่างสมมติว่า ในประเทศไทยเราใช้ตัวสุ่มวัดแค่ 1,000 คน มันน้อยมากกับคนที่เป็นหลายล้านคนในประเทศไทย มันอาจจะทำสถิติได้แต่มันอาจจะไม่สมบูรณ์นัก เพราะฉะนั้นการฝากชีวิตไว้กับเรตติ้งอย่างเดียวมันก็ทำให้เราเครียดไปเปล่าๆ ตอนนี้เราเลยมีความรู้สึกว่าตัวเลขมันมีความสำคัญในการขาย แต่ในขณะเดียวกันพฤติกรรมการบริโภคของคนดูไม่เหมือนเดิมแล้ว ไม่ได้ดูทีวีตอนเวลาออกอากาศจริง ไปดูย้อนหลังก็ได้ หรืออยากจะไปดู 16 ตอนรวดเดียวจบก็ได้

แต่สิ่งที่ดีที่สุดในตอนนี้ หลังจากที่เราพูดว่าอยากให้คนดูช่วยกันดูในเวลาเรียลไทม์เพื่อที่จะช่วยเรตติ้ง ทุกคนก็เปิดช่อง 3 ในเวลาเรียลไทม์ ซึ่งทุกคนมีกล่องหรือไม่มีกล่องก็ไม่รู้ แต่เขาคิดว่าการเปิดทีวีของเขาสามารถทำให้เรตติ้งเราดีขึ้นเราก็ชี้แจงว่าอาจจะไม่ได้ดีขึ้นอย่างนั้นต้องไปดูใน 3 พลัสด้วย บางบ้านเขาก็ทำนะ ดู 3 พลัส ในมือถือมันเล็กเกินไป เขาก็เปิดทีวีช่อง 3 ไว้ด้วย เพื่อให้มียอดวิวขึ้น”

ดีใจยอดวิวเพิ่มขึ้น ตกคนดูได้แล้ว
“ตอนนี้ยอดอยู่ใน 3 พลัส มากขึ้นจนเราดีใจ ยอดดูย้อนหลังก็เยอะ ยอดดูที่เป็นออนไทม์ก็โอเคดีกว่าเดิมเยอะมาก เรารู้สึกว่าคนดูให้ความสนใจและพูดต่อกันเยอะ ซึ่งเรามีความรู้สึกว่าถ้าไม่มีการพูดต่อ เราก็แย่เหมือนกัน แต่พอทุกคนพูดต่อกันไปเราก็รู้สึกว่าคนดูถูกเราตก(หัวเราะ) เราไม่ได้ตกคนดูที่เป็นวัยรุ่นอย่างเดียว เรายังตกคนดูที่เป็นผู้ใหญ่ด้วย ทำให้รู้สึกว่าเป้าหมายของเราค่อนข้างประสบความสำเร็จพอสมควรแล้ว ละครของเราอาจจะจบภายในอาทิตย์หน้าแล้ว แต่ไม่ต้องกลัวดีเอ็นเอของละครยังอยู่ใน 3 พลัส ใน Netflix อีกยาวนานหลาย น่าจะเป็นปี ถ้ามีคนชอบก็จะมาดูย้อนดูซ้ำหรือดูใหม่มีการพูดถึงไปเรื่อยๆ ถึงจะไม่ได้ประสบความสำเร็จเปรี้ยงป้างทางด้านตัวเลขเรตติ้งในตอนนี้ แต่ในระยะยาวเราคิดว่าละครเราน่าจะสร้างกระแส และสร้างเรื่องให้ดูต่อไปอีกยาวนานแค่นี้เราก็ดีใจแล้ว”

คาดเป็นการทดลองออนแอร์ช่วงไพรม์ไทม์ของละครสายวาย
“คิดว่าอาจจะเป็นอย่างนั้นเหมือนกัน เพราะว่าจริงๆ การสร้างพฤติกรรมใหม่ให้กับคนดู มันต้องมีการทดลองก่อน ถ้าทดลองแล้วมันไม่ดี อาจจะต้องย้ายไปอยู่ในเวลาที่มันสมควรจะอยู่ก่อนไหม เป็นช่วง 5ทุ่มไหม ถ้าเกิดมีเรื่องที่เหมาะกับตอนสองทุ่มครึ่ง ถึงแม้จะเป็นตัวละครที่เป็นชายๆ หรือว่าเป็นหญิงๆ ก็ตามถ้าเขาคิดว่าเหมาะสมที่จะออกได้ พฤติกรรมคนดูเริ่มเปลี่ยนไปแล้ว ช่องอาจพิจารณาใหม่ให้กลับมาออกช่วงเวลาไพรม์ไทม์แต่เดี๋ยวนี้ต้องบอกเลยว่าช่วงเวลาไพรม์ไทม์ไม่ใช่ไพรม์ไทม์ เวลาไพรม์ไทม์ที่แท้จริงมันไม่มีแล้ว เราจะสร้างปรากฎการณ์อย่างไรให้คนกลับมาใช้เวลาช่วงไพรม์ไทม์ อย่างละครของเราที่คนเขาอยากดูช่วงเวลาอ่อนแอจริง เพราะเขาไม่อยากตกข่าวเราก็มีความรู้สึกว่าตรงนี้มันสนุกสนานดีที่คนเริ่มกลับมาดูละครในช่วงเวลาไพรม์ไทม์ มีหลายคนไดเร็กมาบอกว่าเขาไม่ได้ดูละครทีวีนานแล้ว และก็ไม่ได้ดูช่อง 3 มาหลายปีแล้ว นี่เป็นครั้งแรกเป็นเรื่องแรกที่เขาได้กลับมาดูช่อง 3 ใหม่ เขาก็คิดว่าช่อง 3 ใจกว้างมากที่ทำละครแนวนี้ออกมาให้คนดู ในวงกว้างได้ดู ช่วงเวลาสองทุ่มครึ่งได้
 
ถึงเรตติ้งต่ำกว่า 1 แต่โฆษณายังเหมือนเดิม
“มันก็ไม่ได้สำเร็จตูมตาม แต่ที่แน่ๆ ช่องเริ่มเห็นทางแล้วว่ากระแสของการดูละครออนไลน์มันก็มีผลต่อละครเรื่องหนึ่งเหมือนกัน แม้ละครเรื่องคุณหมีจะมีเรตติ้งไม่ค่อยสูง เรตติ้งอาจจะได้แค่หนึ่ง หรือต่ำกว่าหนึ่ง แต่โฆษณาก็ไม่ได้หนีหายไปไหน โฆษณามีอยู่เหมือนเดิมไม่ได้น้อยลง ยังแน่นอยู่ เราก็เลยรู้สึกว่าช่องน่าจะเก็บเรื่องราวที่คุณหมีออกอากาศแล้วได้เรตติ้งแค่นี้ แต่โฆษณายังเต็มอยู่ แล้วก็มีกระแสจากออนไลน์อย่างนี้ คิดว่าน่าจะเอาไปประมวลใช้กับเรื่องอื่นๆ ต่อไปในอนาคต

เพราะตอนนี้ลูกค้าก็ไม่ได้ดูแค่ตัวเลขเรตติ้งอย่างเดียว เขาก็ไปดูยอดเทรนดิ้งที่ติดอยู่ในเทรนด์ ทวิตเตอร์ อย่างคุณหมีไม่ได้ติดเทรนด์ทวิตเตอร์ ที่หนึ่งในทุกตอน แต่จะอยู่ใน 5 อันดับแรกทุกครั้ง แล้วที่แปลกคือเวลาออกอากาศไม่ตรงกันหมด ก็เราออกอากาศตอนสองทุ่มครึ่งไปจบสี่ทุ่มครึ่ง แล้วประมาณ 23.45 น. ทางชาแนล Netflix กับ 3 พลัส ก็จะออกซ้ำใหม่ก็จะมีคนจากต่างประเทศเข้ามาดู มันก็เลยทำให้ตำแหน่งของเทรนดิ้งในทวิตเตอร์มันไม่ตกหายไป หลังจากละครจบมันยังคงวนเวียนอยู่จนตีสามตีสี่กลับมาขึ้นอันดับใหม่ข้ามวันไปเลย อันนี้น่าจะเป็นอันที่เอเจนซี่เห็นแล้วว่าตัวละครมันสามารถวนเวียนอยู่ในอันดับเทรนดิ้งของละครอยู่ตลอดเวลาตราบใดที่เปิดชมละครตัวนี้อยู่ ความนิยมมันน่าจะมาจากเรื่องเหล่านี้ด้วย การซื้อโฆษณาน่าจะเกิดขึ้นจากความนิยมเหล่านี้ด้วย

เม็ดเงินโฆษณาไม่ได้หายไปไหนเลย ตัวละครไม่ได้ทำให้ช่องขาดทุน เพราะว่าช่องก็ยังขายโฆษณาได้ สองตัวละครก็ยังขายไปในแพลตฟอร์มต่างๆ ซึ่งก็เป็นรายได้ส่วนหนึ่งสำหรับอินเตอร์เนชั่นแนลบิสิเนสของช่อง ซึ่งทำให้ต้นทุนในการผลิตอาจจะเสมอตัวไปแล้ว ที่เหลืออาจจะต้องไปหากำไรจากการทำกิจกรรมหรือการขายอื่นๆ ต่อไปครับ”

คาดละครมีกำไรแล้ว หากเทียบกับการลงทุน
“คิดว่าน่าจะเป็นอย่างนั้น ถ้าเกิดเทียบกับการลงทุนนะ แต่เราก็ไม่รู้ว่าการขายไปแพลตฟอร์มอื่น เขาขายกันในราคาเท่าไหร่ เรื่องบิสิเนสเราไม่รู้ แต่ที่แน่ๆ รู้ว่าอยู่ในจุดที่คุ้มทุนแล้ว”

จากคนทำละครเรตติ้งคู่กรรมสูงสุดถึง 25 วันนี้เรตติ้งไม่ถึง 1 ถ้าเป็นเมื่อก่อนคงใจหาย แต่ตอนนี้ไม่คิดว่าแย่
“ถ้าเป็นแต่ก่อนคงรู้สึกใจหาย เคยทำคู่กรรมเรตติ้งสูงสุด 25 แต่ละครเดี๋ยวนี้เรตติ้งสูงสุด 5 เท่านั้นเอง แล้ว 5- 6 ก็ไม่ได้ทุกเรื่องด้วย ส่วนมากที่ประคับประคองตัวเองอยู่ได้เรตติ้งก็อยู่ที่ 2-3 ภาพรวม แต่ถ้าเป็นช่อง 7 อาจจะเป็น 4-5 แค่นี้ถือว่าเยอะแล้ว การที่เราได้ต่ำกว่าหนึ่ง เราก็ไม่คิดว่ามันแย่มากถึงขนาดนั้น ตอนแรกดูตัวเลขอาจจะตกใจนิดนึง แต่พอดูผลประกอบการจากคนที่ดูผ่านออนไลน์แล้ว เรามีความรู้สึกว่าไม่น่าตกใจอย่างที่คิด เพราะว่าพฤติกรรมคนดู ไม่ได้ดูตามปกติอย่างที่เคยเป็นมา เพราะฉะนั้นการที่เราได้ไม่ถึง 2-3 มันก็อาจจะอึดหน่อยในครั้งแรก แต่พอผ่านไปสองสามอาทิตย์เราสำรวจพฤติกรรมของคนดูแล้ว เรารู้สึกได้ในทันทีว่าไม่ได้เฟลมากขนาดนั้น ตัวเลขมันทำให้เรารู้สึกใจเสียจริง แต่ด้วยพฤติกรรมคนดู ส่งผลมาให้เราโดยตรงในระหว่างที่ละครออนแอร์มันทำให้เรารับรู้ว่าคนดูให้ความสนใจละครเรื่องนี้มากพอสมควร และมากขึ้น

ตอนนี้พอละครออนเราก็มานั่งดูคนเขาทวิตกัน เราไม่ทวิตอะไรเลย เราเหนื่อย ไม่อยากที่จะทวิตแล้ว เราก็ขำๆ รู้สึกว่าคนดูเขามีการตอบโต้กันเกี่ยวกับเรื่องละครอย่างสนุก เรารู้สึกว่าตัวละครในเรื่องนี้ไม่มีใครเลยที่ไม่ได้ แม้กระทั่ง เจ้าดื้อ หมาที่เล่นเป็น ขึ้นฉ่าย ก็ยังมีแฟนคลับ เราก็เลยรู้สึกว่าเราทำหน้าที่ตรงนี้ให้กับทุกๆ คนที่มีส่วนร่วมในละครเรื่องนี้อย่างดีที่สุดแล้ว”

เผยสิ่งที่อยากกลับไปแก้ไข
“อยากเพิ่มตอน เราตัดทิ้งไปเกือบสามตอนเพราะว่าตอนที่เราตกลงกับ Netflix ไว้มันแค่นี้ในสัญญาเราไม่สามารถเพิ่มหรือลดอะไรได้อีก เพราะฉะนั้นเราเลยต้องตัดให้มันลงตัว ทิ้งเนื้อหาไปเยอะ ถ้าให้กลับไปแก้ก็คงต้องเพิ่มตอนให้เยอะ และแก้เสียงบางส่วนเพราะว่าเวลาเราถ่ายทำวิธีการใช้เสียงของเรา ไมค์มันรับเสียงรอบข้างมาเยอะ เราเกลี่ยให้ดูเรียบเหมือนละครเกาหลีไม่ค่อยได้ อยากที่จะเข้าไปแก้ไขช่วงนี้ที่สุด”

ถ่ายทำแบบใหม่ ใช้กล้องคุณภาพดีแบบซีรีส์ต่างประเทศ
ใช่ เราให้กล้องคุณภาพดี แบบที่ซีรีส์ต่างประเทศเขาใช้กัน เราต้องถ่ายหลายครั้ง เวลาตัดต่อมันจะมีฟุตเทจเยอะมาก มันก็ยากในการตัด แต่ภาพจะชัดมาก และเสียงดีมาก”

ถ้าช่องอนุมัติก็จะทำแนวนี้อีก
“ถ้าช่องอนุมัติให้ทำอีกก็ทำ ถ้าช่องไม่อนุมัติก็ไม่ได้ทำ”

เผยสาเหตุเลิฟซีนน้อย เพราะวายจ๋าไม่ได้
“ถ้าจะวายจ๋าขนาดนั้น ต้องไปฉายตอน 5ทุ่ม ถึงจะแลกแบคทีเรียขนาดนั้น อันนี้เราก็ว่าเยอะแล้วนะ ช่องเขายังตัดออกไปหน่อยเลย มีคนพูดนะ เขาบอกว่าสายวายแค่นี้เขาก็พอแล้วนะ เขารู้สึกว่าไม่ต้องเยอะขนาดนั้น เก็บให้เขากลับไปจิตนาการเองได้บ้าง ถามว่าถอดเสื้อทุกอีพีไหม บ้า(หัวเราะ) ที่บ้านร้อน ตอนนี้เขาไม่ค่อยถอดแล้ว หลังจากนี้จะซับน้ำตากันอย่างเดียว”





กำลังโหลดความคิดเห็น