ลูกชาย จัดพิธีรดน้ำศพ “วิทยา” แบบภูษาโยง เผยยังไม่พร้อมแถลง เหตุติดใจการตายพ่อ

วงการบันเทิงสูญเสียอย่างต่อเนื่อง หลังจากเมื่อวานนี้ (21 เม.ย.65) นักจัดรายการวิทยุชื่อดังระดับตำนาน “วิทยา ศุภพรโอภาส” หรือ “เสี่ยแหบ” ผู้บุกเบิกคลื่นลูกทุ่ง FM จากไปอย่างสงบในวัย 72 ปี ส่วนสาเหตุของการเสียชีวิตนั้น ทางด้านของ “เป้ ศุภวิทย์ ศุภพรโอภาส” ซึ่งเป็นลูกชายคนโตได้ออกมาโพสต์เฟซบุ๊ก Vitaya Supaporn O Pas เผยว่าทางครอบครัวติดใจสาเหตุการเสียชีวิต เชื่อไม่ได้เกิดจากมะเร็งปอด แต่เป็นเพราะสมองตาย ตอนนี้รอผลชันสูตรอยู่ ทำให้หลายคนเกิดความคลางแคลงใจถึงสาเหตุดังกล่าวว่าความจริงเป็นอย่างไร

โดยวันนี้ ครอบครัวได้เคลื่อนร่างของ “วิทยา ศุภพรโอภาส” มาบำเพ็ญกุศล ที่ ศาลาเมรุ วัดราชวรินทร์ เขตธนบุรี กรุงเทพนมหานคร โดยได้บรรจุร่างไว้ในหีพศพเพื่อทำพิธีรดน้ำศพแบบภูษาโยง ในเวลา 15.00 น. เนื่องจาก “เป้” ลูกชาย เผยว่า ผู้เป็นพ่อได้สั่งเสียไว้ อยากให้ทุกคนเห็นพ่อในภาพหล่อๆ เหมือนเดิม

บรรยากาศภายในงานเป็นไปอย่างโศกเศร้า โดยเฉพาะ “นัยนา ศุภพรโอภาส” ภรรยา และ “นุ้ย ศุภนุช” ลูกสาวคนเล็ก ที่ยังอยู่ในอาการเสียใจและยังทำใจไม่ได้ที่ต้องสูญเสียเสาหลักของครอบครัวไปอย่างไม่มีวันกลับ ด้านลูกสาวคนกลาง “นุ่น ศุภมาศ” อยู่ต่างประเทศ วันนี้จึงไม่สามารถมาร่วมงานได้ สำหรับคนดังในวงการบันเทิงได้เดินทางมาร่วมไว้อาลัยมากมาย อาทิ วินัย พันธุ์รักษ์, ครูสลา คุณาวุฒิ, รุ่ง สุริยา, สดใส รุ่งโพธิ์ทอง, จอมขวัญ กัลยา, จันทร์จวง ดวงจันทร์, ชมพู ฟรุตตี้ ฯลฯ

ด้าน “เป้ ศุภวิทย์” ลูกชาย ยังไม่สะดวกให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับประเด็นที่ตนเองติดใจการตายของพ่อ เนื่องจากอยากจัดเตรียมงานศพให้เรียบร้อยก่อน ส่วนพรุ่งนี้จะแถลงข่าวชี้แจงหรือไม่นั้นจะแจ้งผ่านทางเพจเฟซบุ๊กผู้เป็นพ่ออีกครั้ง โดยหลังจากรดน้ำศพผู้เป็นพ่อเสร็จแล้ว เจ้าตัวถึงกับกลั้นน้ำตาเอาไว้ไม่อยู่ น้ำตาคลอด้วยความเสียใจ

“คุณพ่อสั่งไว้ อยากให้ทุกคนเห็นพ่อหล่อๆ เหมือนเดิม ให้ทุกคนจำภาพเดิมคุณพ่อไว้ทั้งหมด พรุ่งนี้จะแถลงข่าวไหม ยังไม่ได้คิดเลย แต่เดี๋ยวผมจะแจ้งอีกทีหนึ่งทางเพจคุณพ่อนะครับ เพราะว่าวันนี้อยากโฟกัสตรงนี้ให้เรียบร้อยก่อน ให้งานดำเนินไปได้ด้วยดี เพราะว่าตั้งแต่เช้ามา ก็ไปรับคุณพ่อมา พิธีเยอะครับวันนี้ แขกผู้ใหญ่ก็มา ก็ขอให้มันนิ่งก่อนนะครับ แล้วเดี๋ยวเราค่อยคุยกันครับ”

ในขณะที่ “ครูสลา คุณาวุฒิ” ได้เผยเสียงสั่นว่า “แกเหมือนเป็นครูของพวกเราทุกคน ด้วยความที่พี่วิทยามีบทบาทสำคัญต่อวงการเพลงลูกทุ่งมาก คือการเกิดขึ้นของลูกทุ่ง FM เนี่ย มันทำให้เกิดปรากฎการณ์ใหม่ของวงการเพลงลูกทุ่ง แล้วความมีน้ำใจของพี่วิทยา ก็เมตตาน้องๆ ทุกคน แล้วผมก็เป็นคนหนึ่งในนั้น ที่ได้เจอพี่เขาครั้งแรกก็ตื่นเต้นมาก ถ้าทุกวันนี้ก็คือเรียกว่าเป็นไอดอล เราได้เจอแกตั้งแต่เป็นนักจัดรายการ เวทีไหนเราก็เห็นแก เราไม่คิดว่าอยู่มาวันหนึ่ง เราจะได้นั่งใกล้ๆ แล้วแกก็เดินมาตบบ่า

โดยส่วนตัวที่ครูรู้จักแก แกเป็นคนบัญญัติสัตย์ อย่างตอนที่เจอครั้งแรกที่ตึกลูกทุ่ง FM เขาก็เดินมาตบบ่า ว่าสลานายคือซุป’ตาร์นักแต่งนะ แกพูดคำนี้ แต่ครูก็ไม่ได้ปลื้มกับคำนั้นหรอก แต่ครูดีใจที่คนที่มาตบบ่าครู คือวิทยา ศุภพรโอภาส ซึ่งเป็นคนที่เราชื่นชมมาก ในทุกมิติที่เห็น ที่เขาอยู่บนพื้นที่สื่อ แล้วอยู่มาวันหนึ่ง ท่านมาเมตตาแล้วก็ให้กำลังใจเรา แล้วก็มีบทบาทอย่างยิ่งในการผลักดันเพลงลูกทุ่ง จนแข็งแรงมาจนวันนี้ ผมว่าพี่วิทยาน่าจะเป็นเรี่ยวแรงสำคัญคนหนึ่งนะ ที่ทำให้เพลงลูกทุ่งของเราเดินทางมาถึงวันนี้ได้

เพราะฉะนั้นความผูกพัน ก็เกิดขึ้นโดยอัตโนมัติ รวมไปถึงพี่วิทยากับแกรมมี่ ก็ถือว่าใกล้ชิดกัน แล้วล่าสุดก็คือหลังจากวันเวลาผ่านไป มาสู่โลกสังคมโซเชียลเนี่ย ก็สื่อสารกันทุกวัน พี่วิทยาส่งไลน์หาผมทุกเช้า แล้วก็ส่งข้อมูลชิ้นงานของท่าน ไปให้ช่วยกันแชร์ ก็เป็นอยู่อย่างนี้ประมาณ 3-4 ปีหลัง แกเพิ่งหยุดส่งไลน์ให้ผม เมื่อวันที่ 29 มีนาคมที่ผ่านมานี่เอง ก็ไม่ได้เอะใจอะไร เข้าใจว่าเป็นเรื่องปกติ เพราะมีบางช่วงห่างหายบ้าง 2-3 วัน แล้วก็ส่งมาใหม่

มารู้ข่าวอีกที ก็คือกลางดึกของคืนวันที่เสียครับ พี่โน้ต เชิญยิ้ม โทร.มาบอกว่าครูครับ พี่วิทยาไปแล้วนะ มันเหมือนเราได้รับข่าว ว่าญาติประสบอุบัติเหตุ เราไม่รู้สึกว่าท่านป่วยแล้วไปรักษาเลย ก็เลยยังช็อกอยู่ ไม่เรื่องอาการป่วยเลย พี่วิทยาไม่เคยพูดเรื่องนี้ อย่างคลิปล่าสุดที่ผมได้ดู ก็คือวันที่แกพูดถึงพี่เอก สรพงศ์ ชาตรี แกก็ไว้อาลัย ผมก็เข้าไปดูในยูทิวบ์ แกก็แข็งแรงปกติ ห่างกันไม่นานเองนะ เพราะฉะนั้นจึงไม่ได้คิด ว่าพี่วิทยาป่วย เขาไม่เคยแสดงอาการป่วยให้เห็น ยิ่งกับน้องๆ ยิ่งไม่มีทางเลย

ด้วยความที่พี่วิทยา มีผู้หลักผู้ใหญ่ที่เกี่ยวข้องหลายคน ตัวผมเองก็ขอรอเป็นส่วนหนึ่งของทุกงาน ที่จะทำให้ เพราะเชื่อว่าผู้หลักผู้ใหญ่ในวงการ คงจะต้องพูดคุยกัน แล้วเราก็พร้อมที่จะให้ความร่วมมือ ที่สำคัญก็คือ ในนามของคนทำเพลงลูกทุ่งคนหนึ่ง ผมว่าเราจะไม่ลืมคนคนนี้เลย โดยเส้นทางพี่วิทยา อาจจะไม่มาทางลูกทุ่งอย่างที่เราเห็นนะ แต่แกมีพลังอย่างยิ่ง ในการทำลายกำแพงบางอย่าง ทำให้ลูกทุ่งเข้ามาอยู่ใน FM ได้

ถ้ามองในวันนี้ มันเหมือนเป็นเรื่องง่ายๆ นะ แต่ในวันนั้นมันยาก แต่พี่วิทยาก็เป็นกำลังสำคัญ ที่ทำให้เพลงลูกทุ่งเรา สามารถข้ามกำแพงมาอยู่ใน FM และต่อมาทุกอย่างก็ไหลเข้าหากัน เขาเป็นศูนย์รวมของวงการลูกทุ่ง เป็นกำลังหลักเลยที่ทำให้ วงการเพลงบ้านเราพัฒนามาจนถึงวันนี้ เราจะเห็นว่าวันนี้เพลงมันไม่มีกำแพงแล้ว คนร้องสตริงก็ร้องลูกทุ่งได้ คนร้องหมอลำก็ร้องสตริงได้ มันอยู่ด้วยกันได้หมดเลย แต่กว่ามันจะเป็นแบบนี้ได้ มันเคยมีกำแพง แต่คนที่ทำลายกำแพงได้คือพี่วิทยา ศุภพรโอภาส”

ให้กำลังใจครอบครัว จะสานต่อเจตนารมณ์ต่อไป
“ภรรยาแกก็เล่าถึงอาการป่วย แล้วก็เล่าถึงว่าพี่วิทยาเคยจะชวนไปเยี่ยมห้องอัด แล้วก็ให้กำลังใจเขาไป อยากบอกพี่วิทยา ว่าน้องๆ ทุกคน…(เสียงสั่น) ผมว่าเราสำนึก พี่เขามีบุญคุณกับวงการเพลงลูกทุ่ง มาจากไปอย่างกะทันหันเราก็คิดถึง แล้วเราก็อยากจะบอกทุกคนว่า ชื่อนี้มีความสำคัญอย่างยิ่ง ในการสร้างเพลงลูกทุ่งหรือสังคมเพลงเรา ให้แข็งแรงร่วมกันได้ เราคิดถึงและเราจะสานต่อเจตนารมณ์ของพี่เขาครับ”

สำหรับกำหนดการหลังจากนี้ ครอบครัวจะมีพิธีสวดอภิธรรม ไปจนถึงวันที่ 28 เม.ย. 65 ก่อนจะบรรจุศพไว้ 100 วัน เพื่อขอพระราชทานเพลิงศพต่อไป