xs
xsm
sm
md
lg

“แพท ณปภา” ทำใจแล้ว แม่ป่วยวิกฤตอยู่ห้องไอซียู หยุดหายใจ 3 นาที ถ่ายละครไปร้องไห้ไป

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



“แพท ณปภา” ทำใจแล้ว แม่วิกฤตอยู่ไอซียู หยุดหายใจ 3 นาที สมองตายบางส่วน ชักตลอดเวลา ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ 100 เปอร์เซ็นต์ ลั่นต้องถ่ายละครไปร้องไห้ไป

ทำเอาสาวแกร่งอย่าง “แพท ณปภา ตันตระกูล” น้ำตานองหน้า จากที่เจ้าตัวโพสต์ภาพทีมของ “ดร.บุ๋ม ปนัดดา วงศ์ผู้ดี” ได้เข้าไปช่วยเหลือเรื่องเครื่องออกซิเจนให้กับคุณแม่ที่บ้าน ล่าสุดเจ้าตัวได้มาร่วมงาน EVEANDBOY BEST SELLING AWARD 2021 ณ EVEANDBOY The Underground Siam Square One ชั้น LG พร้อมกับลูกชายตัวน้อย “น้องเรซซิ่ง” และน้องสาว “นาฟ ฉัฐนันท์ เถาศิริพันธ์” สาวแพทก็เผยว่าตอนนี้คุณแม่รักษาตัวที่ห้องไอซียูแล้ว และมีอาการหยุดหายใจไป 3 นาทีด้วย

“จริงๆ ตั้งแต่วันนั้นจนถึงวันนี้ สถานการณ์มันเปลี่ยนไปเยอะมาก จากวันที่เราลงรูปไปเป็นแค่ว่าแพทอยากจะขอบคุณแม่บุ๋ม คือเครื่องออกซิเจนที่บ้านมันมีปัญหา และเราก็อยากจะได้ตัวใหม่ เราก็เลยถามผู้รู้เฉยๆ ว่าแม่คะ ถ้าลูกอยากได้เครื่องออกซิเจน ลูกควรไปซื้อที่ไหน ปรากฎแม่ส่งทีมมาที่บ้านเลย มาดูแลให้

แต่ถ้าถาม ณ วันนี้แม่อยู่ไอซียูแล้วค่ะ ก็คือเมื่อ 2 วันที่แล้วคุณแม่หยุดหายใจ คือคุณแม่มีอาการหายใจได้น้อยลงค่ะ และตอนที่เห็นอาการคือแพทถ่ายละครอยู่ คนที่บ้านก็บอกว่าแม่ไม่ไหวแล้ว เขาก็พาออกไปส่งโรงพยาบาล ก่อนถึงโรงพยาบาลประมาณ 3 นาทีแกหยุดหายใจไป คุณหมอก็ต้องปั้มขึ้นมา ตอนนี้ก็อยู่ไอซียู คือคุณแม่เขามีอาการอัลไซเมอร์อยู่แล้ว เป็นมา 10 กว่าปีแล้ว ซึ่งอาการของเรื่องสมองมันไม่ได้ดีอยู่แล้วถูกไหมคะ แต่พอมีเรื่องของการหยุดหายใจไป เลยทำให้สมองตายไปบางส่วน ซึ่งยังไม่มีกำหนดออกจากไอซียู และยังหายใจเองไม่ได้ค่ะ”

บอกตอนนี้ยังอยู่ขั้นวิกฤต หายใจเองไม่ได้
“ตอนนี้คุณแม่ยังเป็นผู้ป่วยวิกฤตของโรงพยาบาลค่ะ และให้ดูเป็นวันต่อวัน ณ ตอนนี้พอเข้าโรงพยาบาลไปแล้ว คุณหมอก็เริ่มมีการตรวจ พบว่ามีการติดเชื้อในกระแสเลือด แต่เชื้อยังเพาะไม่ได้ เนื่องจากความดันหลายๆ อย่างยังไม่เข้าที่ คุณหมอก็ให้ยาฆ่าเชื้อแบบโดยรวมไปก่อนค่ะ และเนื่องจากคุณแม่มีอาการทางสมองอยู่แล้ว ตอนนี้คุณแม่ก็มีอาการชักตลอดเวลา ก็ต้องดูเรื่องของอาการชักอีก

ซึ่งก่อนหน้านี้คุณแม่ก็มีอาการชักบ้างนะคะ เราก็ดูแลโดยการให้ยากันชักมาตลอด แต่ตั้งแต่คุณหมอปั้มขึ้นมา เราก็กังวลมาก เพราะเราไม่เคยเห็นแม่ชักตลอดแบบนี้เลย คุณหมอก็บอกว่าเป็นผลมาจากการให้ยาด้วย และเป็นผลจากการที่มีการปั้มหัวใจด้วย ก็เลยต้องคุมเรื่องการชักและประสาทตาไม่ทำงานด้วย แกก็จะเหมือนหลับตาไม่ได้ คุณแม่ไม่ตอบสนอง ตอนนี้ใช้เครื่องช่วยหายใจ 100% ค่ะ”

บอกถ่ายละครไป ร้องไห้ไป
“คือวันที่อยู่กองถ่ายแม่ก็เข้าโรงพยาบาล เราก็ร้องไห้ไปด้วย แล้วก็เข้าฉากด้วย คือแพทไม่อยากลากองพี่แอน (แอน ทองประสม) พี่เคน (ธีรเดช วงศ์พัวพันธ์) ค่ะ แล้วมันเป็นคิวสุดท้ายของแพท เหลืออีก 3 ฉากสุดท้าย คือแพทได้ไปรับเชิญเรื่องซุป’ตาร์ แล้วมันเหลืออีกนิดเดียว คือเราก็โทร.ตลอด แล้วก็ลุ้นตลอด และที่บ้านเขาก็ไม่ได้รอรถพยาบาล เราคิดว่ามันไม่ทัน เราก็เลยไปส่งโรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุด

ระหว่างนั้นเขาบอกแม่ยังหายใจ พอสักพักแม่หยุดหายใจ เราก็ถามว่าถึงไหนแล้ว เขาบอกเลี้ยวเข้ามาแล้ว แต่แม่หยุดหายใจแล้ว เราก็ไม่รู้จะทำยังไง แต่คนทั้งกองก็รอ สถานการณ์ตอนนั้นก็คือร้องๆๆ เสร็จก็ฮึดขึ้นมาเข้าฉาก พอคัตก็กลับมาโทร. แล้วก็ร้องๆๆ แล้วก็ฮึบไปเข้าฉากต่อ”

เผยช่วงนี้เข้าออกโรงพยาบาลทุกวัน
ก็ยังต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ 100% ความดันโอเค ชีพจรโอเค คุณหมอก็จะค่อยๆ ลดจาก 100% เป็น 80% เป็น 70% เป็น 50% ขึ้นอยู่กับว่าผู้ป่วยสามารถหายใจเองได้มากน้อยแค่ไหน คือก่อนหน้าที่คุณแม่ไม่สื่อสารมาสักระยะแล้ว แต่แกยังกลืนได้ คือเรื่องตอบโต้ไม่มีแล้ว แต่แกก็ยังหลับตา ยังหายใจเอง และยังป้อนข้าวโดนการกลืนได้โดยไม่ต้องใส่สาย แต่หลังจากนี้เป็นต้นไปไม่มีอีกแล้วค่ะ ความหวังที่คุณแม่จะออกจากโรงพยาบาลตอนนี้ยังไม่มีค่ะ

ตอนนี้ไอซียูเขาไม่ให้เข้าอยู่แล้ว เราก็จะผลัดกันไปดู เช่นวันนี้แพทเสร็จงานก็จะเข้าไปเฝ้าสักชั่วโมงนึง พอคุณหมอมาตรวจเสร็จ แพทก็กลับบ้านเอาลูกนอน คือไอซียูผู้ป่วยวิกฤตเขาจะมีพยาบาลดูแล 24 ชม. อยู่แล้ว และไม่ให้คนเฝ้า แต่ให้คนเยี่ยมแล้วก็กลับ เราก็จะเข้าไปดูอาการ พูดคุยกับคุณหมอ สอบถามอาการต่างๆ ค่ะ”

บอกพ่อยังทำใจไม่ได้ แต่ก็มีคุยเรื่องถ้าจะต้องปั้มหัวใจครั้งต่อไป
“จริงๆ แพทเตรียมใจทุกวันนะคะ หลังๆ มาที่อาการแม่ไม่ได้ดีมาก เราก็เตรียมใจทุกวัน แต่จริงๆ เราก็รับไม่ได้หรอก แต่เราก็เข้าใจในตัวโรคตั้งแต่แรกอยู่แล้ว เราก็แค่ทำหน้าที่ของเราให้ดีที่สุดจนวินาทีสุดท้าย ก็มีการคุยกับคุณพ่อว่าถ้าคุณแม่หยุดหายใจอีกครั้ง เรายังจะปั้มขึ้นมาไหม ตอนนี้ก็รอลงมติว่ายังไง เพราะเรากลัวแม่เจ็บ เราคิดว่าครั้งนี้แกก็เจ็บแล้วด้วย แต่คุณพ่อบอกว่ายังทำใจไม่ได้กับการที่ไม่มีแกอยู่ ต่อให้อยู่ด้วยการใช้เครื่องช่วยหายใจก็ยังอยากให้อยู่ก่อน ตอนนี้ในครอบครัวก็ช่วยกันดูแล คืออย่างวันที่แพทไม่อยู่ เขาก็จะคอยเป็นคนวิ่งไปแทนเรา”

นาฟ : “คือวันนั้นนาฟอยู่สยาม พอพี่แพทโทร.มาก็รีบขับให้ไวที่สุดเพื่อไปหาคุณยาย ตอนนั้นรู้เลยว่าสภาพจิตใจเขาแย่มาก ก็ทักไปบอกว่าเดี๋ยวเขาก็หาย เป็นกำลังใจ คือรู้ว่าเขารักยายมาก”

แพท : “คือต่อให้เบรกงานก็ไม่มีผลอะไร แพทมองว่าทุกวันนี้การที่ไปโรงพยาบาลแพทก็เยี่ยมได้แค่นี้ สุดท้ายก็เป็นหน้าที่ของคุณหมอ เราไปก็ไปนั่งแล้วก็พูดกับแกได้แค่นั้น สุดท้ายเราก็ฝากความหวัง และอยากให้แกสู้ไปอีกสักครั้งนึง ตอนนี้ก็ให้กำลังใจกันเองในครอบครัว แพทก็คุยกับคุณพ่อ คือถ้าเป็นก่อนหน้านี้แพทอาจจะเคว้งกว่านี้ แต่พอคุณพ่อกลับมาอยู่ด้วย เราก็เลยเหมือนมีคนให้คำปรึกษาว่าเราจะไปทางไหน เพราะเราเคยเจอเหตุการณ์อย่างนี้ตั้งแต่คุณปู่แล้วว่าจะปั้มไม่ปั้ม วันนี้มีครอบครัวอยู่ใกล้ๆ เราก็ช่วยกันคิด ช่วยกันตัดสินใจค่ะ”

บอกไม่มีเวลาให้เรื่องความรักส่วนตัวแล้ว
“ไม่มีเวลาเลย แพทเอาลูกไปเยี่ยมคุณทวด พอเสร็จก็กลับเอาไอ้ตัวเล็กนอน เช้าไปส่งที่โรงเรียน งานเราก็แคนเซิลไม่ได้ คือละครคิวมันมาหมดแล้ว ทุกคนต้องมารอเรา เราก็คิดว่าเรารีบทำ รีบเสร็จ รีบกลับไปดูแม่”











กำลังโหลดความคิดเห็น