xs
xsm
sm
md
lg

“ตูมตาม” อินดี้จัด คุกเข่าขอ “อาหลี” แต่งงานที่สะพานพุทธ อยากให้ฝ่ายหญิงมั่นใจในความรัก

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



“ตูมตาม” เผยแพลงแต่ง “อาหลี” อีก 3 ปี หลังเซอร์ไพรส์คุกเข่าขอวิวาห์ เปิดโอกาสให้ฝ่ายหญิงเติบโตในสายงาน ใช้ชีวิตให้เต็มที่ รับอินดี้ขอแถวสะพานพุทธ ขอเพื่อให้ฝ่ายหญิงมั่นใจในความรัก ใช้ใจแลกใจ ลั่นอยากใช้ชีวิตด้วยกัน แฮปปี้งานรุมยาวถึงปี 66 ขออภัยผู้จัดหลายคนที่ไม่อาจร่วมงานด้วย

หลังจากที่ทำเซอร์ไพรส์ คุกเข่าขอแฟนสาว “อาหลี อัฐริญญา” นักแสดงหน้าใหม่แต่งงานเมื่อวันวาเลนไทน์ที่ผ่านมา ล่าสุด “ตูมตาม ยุทธนา เปื้องกลาง” ได้เผยกลางงานบวงสรวงละคร “บัลลังก์ลูกทุ่ง” ลั่นอยากให้ฝ่ายหญิงมั่นใจ

“ตอนนี้ก็รอไปเรื่อยๆ (หัวเราะ) หมายถึงว่าทำงานไปเรื่อยๆ ก่อน เพราะว่าจริงๆ แล้วเราแต่งงานต้องรอเจ้าตัวพร้อมด้วยนะ คือขอเขาไว้ก่อน ผมถือว่าขอหมั้นอะไรแบบนี้ เรารักเขา เรารักกัน เรารู้สึกว่าเจตนามันโอเคแล้วทั้งหมด ที่เหลือคือจะได้ไม่ต้องมากังวลเรื่องอื่น ใช้ชีวิตกันไปทำงานกันไป ถึงเวลาที่เหมาะสมยิ่งช่วงเวลาแบบนี้ผมว่าในการจะทำอะไรหลายๆ อย่าง มันต้องดูสถานการณ์บ้านเมืองด้วย เพราะเราใช้ชีวิตไม่ได้ปกติกัน ก็อยากให้เขามั่นใจ ใช้ชีวิตไปแล้วก็ทำงานให้มีความสุขยังไงเราก็ต้องไปถึงวันนั้นแน่ๆ”

โมเมนต์ขอแต่งงานเป็นไปอย่างปกติ แถมฝ่ายหญิงก็รู้ เพราะปิดไม่เนียน
“ปกติมากครับ จริงๆ ผมแค่รู้สึกว่า มันไม่ได้มีอะไรที่เป็นเรื่องความพิเศษไหมมากกว่า แค่รู้สึกอยากให้เขาได้ในทุกสิ่งที่ผู้หญิงคนหนึ่งควรจะได้รับ ซึ่งเขาก็รู้ (หัวเราะ) ผมเป็นคนปิดไม่เนียน แต่พอถึงโมเมนต์จริงๆ ก็ตื่นเต้นกันแหละ ไม่ได้เตรียมอะไรเลยครับ ซื้อแหวนก็พอแล้ว”

ไปขอกันที่สะพานพุทธครับ (หัวเราะ) สงสัยดูหนังฝรั่งเยอะ ชอบขอตามสะพาน (หัวเราะ) เราก็อินดี้กันมากไม่มีการเตรียมงานอะไรทั้งสิ้น ก็ตั้งกล้องถ่ายกันเองเพราะว่าผมถ่าย Vlog อยู่แล้ว ถ่ายยูทิวบ์อยู่แล้ววันนั้นก็ไปถ่ายกัน ก็คุยกันเรื่อยๆ สุดท้ายก็ขอ ไม่ได้พูดอะไรมากครับ แค่บอกว่าเราแต่งงานกันไหมแค่นั้นเลย เขาก็อึ้งๆ นะ แต่ก็ไม่มาก เขารู้เยอะกว่าผมอีก (หัวเราะ)

ส่วนเรื่องเขาจับไต๋เราได้ จริงๆ ก็บอกว่ารู้อยู่แล้วแหละ อยู่ดีๆ ชวนไปซื้อดอกไม้ ก็โอเคๆ แต่อันนั้นไม่สำคัญมาก แต่สำคัญตรงที่ว่าเรื่องระหว่างผมกับน้อง เราค่อนข้างคุยกันตลอดเวลา ค่อนข้างที่จะปรึกษาหารือกันแทบทุกเรื่อง มันเลยทำให้ทุกอย่างที่เราตัดสินใจทำต่างๆ นานา มันส่วนตัวมาก มันหลบหลีกยากมากที่เขาจะไม่รู้”

จุดมั่นใจจนขอแต่งงาน
“ผมรู้สึกว่ามันตั้งแต่จุดเริ่มต้น ก่อนที่จะมีความรักครั้งนี้ผมเคยให้สัมภาษณ์กับพี่นักข่าวไปแล้ว ว่ามันเกิดขึ้นยากมากในความรักครั้งนี้ เพราะว่าผมคิดเยอะมาก เตรียมการเยอะมาก แล้วก็รู้สึกว่าถ้าไม่เจอคนที่เรารู้สึกจริงๆ เราก็จะไม่เริ่มมันแล้ว ก็คงไม่มีแล้ว คือผมพูดเป็นกลางๆ ว่าในทุกความสัมพันธ์ การเริ่มครั้งนี้มันเริ่มด้วยแพชชั่นของความรักที่เรารักเขา ที่เราชอบในตัวเขา ที่เรารู้สึกตื่นเต้นในตัวเขาอยู่เสมอ เราก็เลยเริ่ม

แต่ถ้าพูดตามความเป็นจริงคือเราไม่รู้จริงๆ ครับว่าเราจะรักกันไปได้ยาวแค่ไหน หรือเราจะเป็นยังไง เราไม่รู้เราแค่อยู่กันทุกๆ วัน เพราะฉะนั้นผมเรียกมันว่า Last chance คือโอกาสสุดท้ายแล้ว สำหรับการที่จะใช้ชีวิตในฐานะของการมีความรัก ก็ทำให้เต็มที่เลย ลุยเต็มที่ อะไรที่ทำได้ทำให้หมด แล้วถ้าเกิดว่ามันประสบความสำเร็จมันก็ดีอยู่แล้ว ถ้าไม่ประสบความสำเร็จเราก็เข้าใจแค่นั้นเอง”

อยากใช้ชีวิตอยู่ด้วยกัน
“ใช่ครับ ผมรู้สึกว่าเราใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันหรือใช้ชีวิตที่แชร์กันอยู่แล้ว มันโอเค มันลงตัว ถามว่าคลั่งรักหนักกว่าเดิมไหม ก็เหมือนเดิมครับ (หัวเราะ) จริงๆ ผมไม่ได้คลั่งรักนะ ผมแค่รู้สึกภูมิใจในตัวเขา รู้สึกภูมิใจในความรักของเรา ก็เลยพูดเพราะผมพูดตลอดอยู่แล้วถ้ามีผมก็ชัดเจนของผมอยู่แล้ว”

แพลนแต่งอีก 3 ปีให้แฟนได้เติบโตในสายงาน ได้ไปใช้ชีวิต
“จุดเริ่มต้นเลย เราคุยกันไว้ประมาณ 3 ปีครับ เพื่อให้น้องได้ทำงานให้น้องได้เติบโตในสายงานของเขา ให้เขาได้ใช้ชีวิตไปก่อน ผมเองก็พร้อมแต่งงานแล้ว แต่ว่าเราพร้อมคนเดียวไม่ได้ต้องให้เขาพร้อมด้วย ให้เขาได้เติบโตด้วย น้องกับผมห่างกัน 4 ปี ผมว่า 4 ปีมันก็มีอะไรหลายอย่างที่เขาต้องเจอในชีวิตปล่อยให้เขาใช้ชีวิตด้วยเหมือนกัน”

ก็เรียกว่าเป็นการทำให้เขามั่นใจดีกว่า ทำให้เขารับรู้ว่าเรารักเขา เราจริงใจต่อเขามากๆ แต่ตีตราจองไหม ผมคงใช้คำว่าเราถือครองความรักร่วมกันดีกว่า คงไม่มีใครจองใครแต่เราซื่อสัตย์ เราเอาใจมาแลกกันครับผม”

แฮปปี้งานรุม ต้องขออภัยผู้จัดที่รับไม่ไหว
หลังจากนี้น่าจะรันอีกประมาณ 3 เรื่อง 3 กองถ่าย ออนแอร์ประมาณ 2 ไปถึงปี 66 ส่วนที่มองว่าแน่น จริงๆ แล้วมันยาวมาก รับไม่ไหวเลยครับ ต้องบอกอย่างนี้ เราเป็นนักแสดงเนอะ ปีนี้เราทำงานก็คือทำหน้าที่นักแสดงจริงๆ แค่นั้นเอง งานก็เลยเข้ามาเยอะมากในเรื่องของแสดง แต่รับไม่ได้หมดครับ อันนี้ต้องขออภัยผู้จัดหลายๆ คนด้วยจริงๆ เพราะว่าคิวมันทับซ้อน ผมอยากทำงานให้ดี อยากทำงานให้คุ้มค่ากับที่เขาจ้างผม เพราะฉะนั้นผมเลยรู้สึกว่า รับทีละเรื่องแล้วโฟกัสให้ได้ทีละเรื่อง อะไรแบบนี้ดีกว่า จะได้คุณภาพจริงๆ

การวางคิวก็วุ่นวายเหมือนกัน จริงๆ แล้วผมโชคดีที่ผมไม่เคยติดผมรอดทุกซีซั่นจริงๆ อาจจะเป็นเพราะว่าเราไม่ได้ออกไปเจอคนเยอะด้วย อยู่แต่บ้าน มันก็มีโมเมนต์นั่งรอ เพื่อนนักแสดงบางคนติดโควิดเราก็มีพักกองอะไรบ่อยๆ แต่ก็ไม่เป็นไรเพราะว่ามันคาบเกี่ยวแล้วก็ทำให้ระยะเวลาเลื่อนไปอีกเรื่อยๆ แต่ก็เข้าใจเพราะเป็นเหตุการณ์ที่ใครไม่อยากให้เกิด

คิวงานก็เลื่อนครับ แต่ว่าไม่ได้มีอะไรเพราะว่าต้องบอกว่าอีเวนต์ต่างๆ เลื่อนหมดอยู่แล้ว มียกเลิกไปเลยก็มี เพราะฉะนั้นมันไม่ได้มีอะไรทับซ้อนมาก มีแต่เรื่องของละครที่ต้องเคลียร์ แล้วละครมันคือการทำงานของคนหมู่มาก มันจำเป็นมากที่จะต้องเคลียร์สถานการณ์ให้ปลอดภัยจริงๆ ถึงเริ่มงานกัน”









กำลังโหลดความคิดเห็น