“ไบรท์ วรวิทย์” โล่งใจ ศาลวินิจฉัยเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์เพลง “ถอนตัว” แต่เพียงผู้เดียว ลั่น “เบิร์ด” เข้ามาทักทาย อยากจบเรื่องนี้ แต่ไม่ได้คุยกับ “ฮาร์ท” ย้ำตนไม่มีปัญหา หากจ่ายค่าลิขสิทธิ์ถูกต้อง แต่ที่ผ่านมา 10 กว่าปีนำเพลงของตนไปใช้โดยไม่จ่ายเงินสักบาท สบายใจวันนี้ได้กู้ชื่อเสียง
วันนี้ (19 เม.ย.65) เวลา 10.00 น. “นายวรวิทย์ นิมมานศิริกุล” หรือ “ไบรท์” นักร้อง-ผู้ประพันธ์เพลง ”ถอนตัว” ได้เดินทางมาที่ศาลทรัพย์สินทางปัญญา ชั้น 5 บัลลังก์ 4 ศูนย์ราชการ แจ้งวัฒนะ อาคาร A พร้อมด้วยทนายความ เพื่อฟังคำพิพากษา คดีละเมิดลิขสิทธิ์เพลง “ถอนตัว” ที่เจ้าตัวยื่นฟ้องต่อนักร้องดูโอ้รุ่นใหญ่ เบิร์ท กุลพงศ์ บุนนาค, ฮาร์ท สุทธิพงศ์ ทัดพิทักษ์กุล และ แชมป์ ศุภวัฒน์ พีรานนท์ (จำหน่ายออกจากคดีเนื่องจากเสียชีวิต) ฐานละเมิดลิขสิทธิ์เพลง
โดยหลังจากใช้เวลาประมาณ 1 ชม. ไบรท์ จึงได้ออกมาให้สัมภาษณ์ว่า ตอนนี้เบื้องต้นถือว่าตนชนะ 3 ใน 4 เหลือแค่ต้องสู้ในชั้นอุทธรณ์ต่อไป ส่วนคดีแพ่งที่เรียกร้องค่าเสียหาย 5 ล้านบาทไม่น่ามีปัญหาอะไรแล้ว เพราะศาลตัดสินชัดเจนว่าลิขสิทธิ์เพลงเป็นของตนจริงๆ
“คดีละเมิดลิขสิทธิ์เพลง ถอนตัว ซึ่งผมเป็นผู้ประพันธ์เพลงกับเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ วันนี้ศาลท่านก็ได้วินิจฉัยแล้วว่าผมเป็นผู้ประพันธ์เพลงและเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ที่แท้จริง ในส่วนของการละเมิดลิขสิทธิ์นั้น ศาลวินิจฉัยว่าทางจำเลยทั้ง 3 มีเจตนาที่จะละเมิดจริง เพราะมีชื่อของผมเป็นผู้ประพันธ์อยู่ในปกซีดีของค่ายแกรมมี่ และในปกดีวีดีของทางจำเลยเอง รวมไปถึงลิขสิทธิ์เพลงนี้สามารถตรวจสอบความเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ได้ที่แกรมมี่ตลอดเวลา จึงไม่มีเหตุผลตามอ้าง ที่จำเลยอ้างว่าไม่รู้ ไม่ทราบครับ
แต่ที่ติดขัดในวันนี้คือส่วนของการแจ้งความร้องทุกข์ของผม คือมันเกินระยะเวลาของอายุความไป เพราะฉะนั้นก็จำเป็นต้องอุทธรณ์ในขั้นต่อไปครับ และในส่วนของคดีแพ่งไม่มีปัญหาครับ เพราะความเป็นเจ้าของสิทธิ ความเป็นผู้ประพันธ์มันชัดเจนแล้ว และเจตนาที่เขาละเมิดก็ชัดเจนแล้ว ก็ต้องต่อสู้กันต่อไปในขั้นอุทธรณ์และในคดีแพ่งครับ
ตอนนี้ผมก็ถือว่าชนะในส่วนของความเป็นผู้ประพันธ์ ความเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ และฝั่งจำเลยก็มีเจตนาที่จะละเมิดจริง อันนี้คือออกมาในทางเรา เหลือแค่ข้อเดียวคือเรื่องของอายุความที่เราไปแจ้งความช้าไป ก็คือ 4 ข้อเราเหมือนชนะไป 3 ข้อ ก็ต้องอุทธรณ์สู้กันต่อไป แต่ส่วนของแพ่งไม่น่ามีปัญหาแล้วครับ ก็เรียกไป 5 ล้านบาทครับ ก็แล้วแต่ว่าศาลท่านจะพิจารณาเท่าไหร่ที่เหมาะสมครับ
เมื่อกี้ก็ได้เจอคู่กรณีครับ ตัวพี่เบิร์ดก็เข้ามาทักทาย เข้ามาคุยบอกว่าเขาก็อยากให้จบ แกก็เข้ามาคุยครับ ก็ได้คุยกันนิดหน่อย วันนี้เขาก็มาทั้งสองคนเลยครับ จริงๆ ก็เป็นศิลปินร่วมวงการนะ เป็นรุ่นพี่รุ่นน้อง ผมก็เป็นคนแต่งเพลงที่สร้างชื่อเสียงให้เขาระดับนึงในยุค 15 ปีหลังของเขา จริงๆ ก็เหมือนประสบความสำเร็จมาด้วยกัน ก็ถ้าเขาคิดถึงใจเขาใจเรา เขาเอาไปสร้างประโยชน์ได้เงินมา ก็น่าจะตัดจ่ายเราทุกๆ ครั้งที่ผ่านมา มันก็จะไม่มีปัญหาอะไรเลย แต่เขาเอาไปเล่น 10 กว่าปี ผมไม่เคยได้ตังค์สักบาทเดียว มีแต่แกรมมี่ที่จ่าย ทำสิ่งที่ถูกต้องตลอด
แย่กว่านั้นคือเอาไปพูดว่าแชมป์แต่ง อันนี้คือเรื่องที่ไม่ถูกต้อง ผมมาฟ้องร้องก็เพราะผมอยากได้สิทธิความเป็นผู้ประพันธ์ที่ชัดเจน เหมือนประกาศสิทธิให้ชัดเจนว่า ตอนนี้บันทึกเป็นลายลักษณ์อักษรมาแล้ว ว่าความเป็นผู้ประพันธ์คือผม ความเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ชัดเจน มันก็ทำให้ผมเดินหน้าต่อไปในการทำงานเพลง ทำอะไรต่อไปได้ครับ ส่วนของคดีก็ปล่อยไปตามกระบวนการยุติธรรมครับ
ถามว่าเขาขอโทษไหม เขาก็คุยปกติ ไม่ได้พูดขอโทษครั้งนี้ แต่คราวที่แล้วเขาเคยขอโทษผมมา ถามว่าสบายใจขึ้นไหม ก็ดีใจขึ้นครับ เพราะอย่างน้อยที่สุดสิ่งที่เรายืนยันมาตลอดว่าผมเป็นคนแต่ง และผมเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์จริง มันได้ประกาศออกมาชัดเจน ว่าสิ่งที่แกรมมี่ยืนยันมาตลอด สิ่งที่พยานต่างๆ ที่เข้ามาช่วยยืนยันมันเป็นเรื่องจริง วันนี้ศาลก็ได้บันทึกเป็นลายลักษณ์อักษรแล้วว่าไบรท์เป็นผู้ประพันธ์ร่วม และเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์เด็ดขาดแต่เพียงผู้เดียวครับ เพราะฉะนั้นถ้าจะขออะไรต้องมาขอที่ผม เพราะแกรมมี่ยืนยันว่าหากจะขอลิขสิทธิ์เพลงๆ นี้ ต้องขอที่ไบรท์เท่านั้น
ตอนนี้คู่กรณีก็เหลือแค่ 2 คนครับ เพราะแชมป์เสียชีวิตไปแล้วเมื่อปี 63 และต่อ (เอกภพ เกียรติพิริยะ) ผู้ประพันธ์ร่วมอีกคน ก็เพิ่งเสียชีวิตไปเมื่อวันที่ 1 เม.ย.ที่ผ่านมา วันขึ้นศาลคราวก่อนทนายฝั่งจำเลยก็โดนรถชน เสียเงินไปอีกหลายตังค์ ก็เกิดเหตุไม่คาดฝันขึ้นหลายๆ อย่างในคดีนี้นะครับ ก็เป็นเรื่องที่แปลก ผมเชื่อว่าถ้าเรายืนอยู่บนความถูกต้อง เราจะได้รับความเป็นธรรมเสมอ
วันนี้ผมก็รู้สึกดีใจที่อย่างน้อยที่สุดใน 4 เรื่องที่ชัดเจนคือความเป็นผู้ประพันธ์เพลงของผม ความเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์เด็ดขาดแต่เพียงผู้เดียวของผม รวมถึงเจตนาที่เขาเอาไปละเมิดลิขสิทธิ์เป็นเจตนาจริง และการที่เขาเอาไปพูดว่าแชมป์แต่งไม่เป็นความจริง นี่คือสิ่งที่ได้พิสูจน์ 4 ข้อหลักๆ ก็เหลือแค่ขั้นตอนต่อไปที่ต้องดำเนินตามกระบวนยุติธรรมต่อ เหลือแพ่งที่ต้องเรียกร้องค่าความเสียหายต่างๆ คิดว่าทุกอย่างน่าจะจบปีหน้านะครับ ก็อยากให้จบด้วยดีครับ
จากนี้ไปผมก็สามารถที่จะเอาเพลงมาใช้ได้เต็มที่ ไม่มีปัญหาติดขัดอะไรแล้ว และผมสามารถกลับมาทำเพลงได้ เพราะอย่างน้อยชื่อเสียงเกียรติยศของผมก็ได้รับคืนกลับมาในวันนี้ ให้คนได้รู้กันว่าผมเป็นผู้ประพันธ์ที่แท้จริง และเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์เด็ดขาดแต่เพียงผู้เดียวที่แท้จริง ได้กู้ชื่อเสียงกลับมาครับ และได้พิสูจน์สิ่งที่ผมพูดมาตลอดว่าสิ่งที่คู่หูดูโอ้กับแชมป์ไปพูดตามรายการว่าแชมป์แต่ง มันไม่เป็นความจริง เพราะความจริงคือสิ่งที่ศาลวินิจฉัยในวันนี้ ก็คือผมเป็นผู้ประพันธ์ร่วมกับต่อ รวมถึงผมเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ที่แท้จริง อันนี้คือชัดเจนครับ สิ่งที่นำความสบายใจให้ผมที่สุดก็คือเรื่องนี้ครับ”