“ฝ้าย เวฬุรีย์” ติดโทรศัพท์มือถือ จนมีอาการหมอนรองกระดูกคอเสื่อม! กลัวเป็นอัมพฤกษ์ อัมพาตมาก

“ฝ้าย เวฬุรีย์” เผยมีอาการหมอนรองกระดูกคอเสื่อมจากการใช้ชีวิตที่ติดมือถือมากเกินไป นอนขยับตัวไม่ได้ กลัวมากว่าจะเป็นอัมพฤกษ์ อัมพาต หมอบอกควรปรับเพื่อชีวิตที่เหลืออยู่ เล่าเบื้องต้นมีอาการออฟฟิศซินโดรมสะสม ทั้งๆ ที่ไม่ได้ทำงานนั่งติดโต๊ะ ตอนนี้แม้จะกลับมาใช้ชีวิตได้เหมือนเดิมแล้ว แต่ก็ยังคงมีอาการอยู่เป็นระยะ

แอดมิทเข้าโรงพยาบาลเพราะคอขยับไม่ได้ ทำให้ไม่สามารถใช้ชีวิตประจำวันได้ ได้แต่นอนอยู่บนเตียง ซึ่งหลังจากอาการดีขึ้นสามารถกลับมาใช้ชีวิตเป็นปกติได้ “ฝ้าย เวฬุรีย์ ดิษยบุตร” ก็มาเล่าประสบการณ์ของตัวเอง จากพฤติกรรมที่ติดมือถืออย่างหนักจนทำให้มีอาการหมอนรองกระดูกคอเสื่อม

“เคยเป็นมาก่อนหน้านี้แล้วจนต้องแอดมิทโรงพยาบาล ตอนแรกกลัวมากว่าเราจะเป็นอัมพฤกษ์ อัมพาต เพราะมันนอนไม่ได้ มันลุกขึ้นมาไม่ได้เลย หันหัวไม่ได้ ขับรถทำอะไรไม่ได้เลย ปรากฏว่าไป MRI พบว่าหมอนรองกระดูกมันปลิ้น กล้ามเนื้ออักเสบหลายจุดพร้อมกัน คือมันเป็นเรื้อรังมานานแล้วแต่เราไม่ยอมไปหาหมอ เพราะเราคิดว่ามันจะหายเองได้เหมือนที่เคยเป็นมา ที่เจ็บอยู่พักแล้วมันก็หายเอง

คิดว่าหลายคนก็คงมีอาการแบบนี้ บอกเลยว่าอย่าชะล่าใจ บางทีเราเล่นมือถือ แล้วเราก็เกร็งโดยที่เราไม่รู้ตัว อยากบอกทุกคนว่าถ้ามีอาการปุ๊บอยากให้ไปพบคุณหมอกายภาพเลยจะดีที่สุด ของฝ้ายคือปล่อยไว้จนต้องไปแอดมิท คือใช้ชีวิตไม่ได้เลย ต้องมีคนทำให้ทุกอย่าง เหมือนคนเป็นอัมพฤกษ์ อัมพาตเลย คือตกใจมาก ตอนนั้นต้องใส่เฝือกที่คอ พออาการดีขึ้นก็ไปทำกายภาพ พยายามยืดให้มากขึ้น ไม่อยู่ในท่าใดๆ ก็ตามนานๆ ไม่เล่นมือถือมากเกินไป”

สาเหตุมาจากติดมือถือ และมีนิสัยคอยื่น เดินไหล่ห่อโดยไม่เคยรู้ตัวมาก่อน
“คือฝ้ายติดมือถือหนักมาก ก็จะอยู่ในท่าเดิมๆ เป็นเวลานาน ก้มหน้ากดๆๆ ไม่ลุกไปไหน เป็นคนขี้เกียจคนนึง จนสุดท้ายอาการมันก็เกิด ก็ใช้เวลาไม่นานในการรักษา แต่พอหายได้สักพัก อาการมันก็กลับมาอีก เพราะการใช้ชีวิตของเรามันไม่เปลี่ยน ฉะนั้นคนที่มีอาการแบบนี้ก็จะต้องเข้ารับการกายภาพบำบัดอยู่เสมอๆ คือพอมันเป็นแล้วเหมือนมันก็เป็นเลย มันไม่กลับมาเหมือนเดิม แต่ถ้าเรากายภาพบำบัด มันก็จะดีขึ้น สำคัญคือเราจะต้องเปลี่ยนวิธีการดำเนินชีวิตของเรา

หมอบอกว่าเป็นหมอนรองกระดูกคอเสื่อมไปแล้ว สาเหตุหลักมาจากการเล่นมือถือ และเป็นคนชอบเดินคอยื่น ไหล่ห่อ เป็นบุคลิกที่เราเป็นโดยที่เราไม่รู้ตัวมา 30 ปีแล้ว มันก็ยากที่จะปรับ หมอก็บอกว่าควรจะปรับนะ เพื่อชีวิตที่เหลืออยู่ ก็อยากจะเตือนทุกคนว่าอย่าชะล่าใจหากมีอาการใดๆ ผิดปกติก็ตาม

อาการเริ่มต้นคล้ายกับออฟฟิศซินโดรม
“อาการมันคือออฟฟิศซินโดรมเลยค่ะ ปวดคอ ตึงคอ เอียงไม่ได้ คอเคล็ดเหมือนเรานอนตกหมอน มันเป็นบ่อยๆ จนมันสะสมแล้วก็ออกมาเป็นแบบนั้น ทั้งๆ ที่เราไม่ได้เป็นคนนั่งทำงานออฟฟิศ เราแค่ติดมือถือมาก วินาทีนั้นคือตกใจ เรารู้สึกกลัวมากว่าเราจะเป็นอัมพฤกษ์ อัมพาตรึเปล่า โชคดีที่ตอนนั้นที่เป็นไม่มีละคร แต่เราก็ต้องดูแลตัวเองให้มากๆ เพราะใกล้จะเปิดกล้องละครแล้ว เพราะกลัวเข้ากองไปเล่นฉากตบแล้วจะคอเคล็ดขึ้นมาอีก”

หุ่นเป๊ะขึ้นเพราะป่วยโควิด-19
“เพราะโควิดเลยค่ะ ทำให้ฝ้ายไม่อยากกินอะไรเลย น้ำหนักก็ลง ด้วยตอนนั้นเราก็นอนซม แทบจะไม่ขยับตัวเลย พอดีขึ้น แล้วพบว่าน้ำหนักเราลงมา ก็เลยเปลี่ยนวิธีการกินใหม่ เลือกกินมากขึ้น คือก่อนหน้านี้เราก็พยายามลดน้ำหนักนะ แต่มันไม่ลง ก็ได้แต่ออกกำลังกาย ไม่รู้เหมือนกันว่าลงไปเท่าไหร่ เพราะไม่ได้ชั่งน้ำหนักเลย แต่เสื้อผ้าก็เปลี่ยนไซส์ จากปกติไซส์ m ก็มาเป็น s ภายในระยะเวลา 1 เดือน แต่ก็กังวลมากเลยว่าหลังจากนี้มันจะโยโย่หลังจากที่เรากลับมาใช้ชีวิตแบบเดิม”

รู้สึกภูมิใจกับรูปร่างตัวเองในตอนนี้ ยอมรับที่ผ่านมาการเป็นนางงามร่างใหญ่เหมือนเป็นปมในชีวิต
“ก็รู้สึกภูมิใจที่เราได้รูปร่างแบบนี้มาแล้ว มันเหมือนเป็นปมในชีวิตเราไปแล้ว ที่เราเป็นนางงามร่างใหญ่ ที่ผ่านมาเราอยากจะเอาชนะตัวเองให้ได้ เราอยากเป็นตัวแทนแห่งความพยายามว่าถ้าเราตั้งใจสุดท้ายความสำเร็จมันก็จะมาหาเรา เราทุกคนสามารถที่จะพัฒนาตัวเองได้

ตัวฝ้ายเองสนับสนุนเรื่องของ realsizebeauty นะ แต่เราอยากจะมีความสุขกับการแต่งตัว เราอยากจะเป็นเวอร์ชั่นที่ดีที่สุดของเรา หุ่นเดิมก็แฮปปี้แม้จะมีปม แต่ถ้ามันลงมาได้มันจะดีกว่ามาก เรามีความสุขกับแบบไหนก็เป็นแบบนั้นไปดีกว่า ฝ้ายมีความสุขที่ได้เห็นหุ่นตัวเองกระชับ รู้สึกมั่นใจเวลาใส่บิกินี่ คือตอนอ้วนก็ใส่ เพราะเรามั่นใจไง เราก็จะเชิ่ด มั่นให้สุด แต่เราก็อยากจะเป็นตัวเองในเวอร์ชั่นที่ดีกว่า”