“นิก คุณาธิป” พร้อม “แก๊งเพื่อนชั้นสอง” ตั้งโต๊ะแถลงเปิดใจไม่เคยทำร้ายร่างกาย “แตงโม” ชีวิตไม่เคยทำร้ายผู้หญิง บอกข่าวนี้กระทบกับตนมากทำลูกค้าหายเกลี้ยงตนถึงขั้นสติหลุดเพราะเจอแต่เรื่องหนักๆ ที่ตนไม่ได้ทำ ยืนยันตอนที่เลิกก็จากกันด้วยดีและตนยังคอยช่วยซัปพอร์ตอดีตแฟนสาวหลายๆ เรื่องด้วยซ้ำ บอกไม่ได้อยากมีปัญหาหรือมางัดข้อกับ “โม อมีนา” แค่อยากให้คนได้รู้ความจริงในส่วนของตนบ้าง ย้ำตั้งแต่คบแตงโม 2 ปีไม่เคยมีชื่อโม อมีนา พร้อมต่อสายตรงหาคนอยู่ในเหตุการณ์ ยัน โม อมีนาไม่ได้ชี้หน้า แถมยังยิ้มให้
กลายเป็นประเด็นขึ้นมาทีเดียวกับกรณีพิพาทของนักแสดงสาว “โม อมีนา พินิจ”และ “นิก คุณาธิป ปิ่นประดับ” อดีตแฟนหนุ่มของนักแสดงสาวผู้ล่วงลับ “แตงโม ภัทรธิดา (นิดา) พัชรวีระพงษ์”ที่ฝั่งโม อมีนา ออกมาเปิดใจในรายการหนึ่งบอกว่าแตงโมเคยโดนอดีตแฟนเด็กทำร้ายถึงขั้นกระโดดถีบ จากนั้นหนุ่มนิกก็ออกมาโพสต์ว่าอยากให้อีกฝ่ายระบุตัวว่าหมายถึงใคร เพราะตอนนี้ทัวร์มาลงที่ตนหนักมาก ซึ่งสาวโม อมีนา ก็ออกมาย้ำอีกครั้งว่าไม่ได้พูดถึงใครฉะนั้นอย่าร้อนตัว
ล่าสุดนิกมาพร้อมกับเพื่อนสมาชิกแก๊งชั้นสอง ตั้งโต๊ะแถลงข่าวเปิดใจเกี่ยวกับกรณีนี้โดยสมาชิกในกลุ่มคือ อ้อย, แพม และ แตนซึ่งเป็นแม่บ้านของแตงโม ซึ่งนิกเผยว่าทุกคนคือพยานที่อยู่ด้วยกันมาตอนที่ตนและแตงโมคบกันแทบจะกินนอนด้วยกัน 24 ชม.จนกระทั่งเลิกกันทุกคนก็รับรู้มาตลอด และเป็นพยานในเหตุการณ์ที่ตนถูกกล่าวหาว่ากระโดดถีบแตงโมได้
“กรณีข่าวที่เกิดขึ้นมันมาจากรายการๆ นึงและได้รับผลกระทบถึงตัวผมนะครับ มีทัวร์มาลงที่ผมเยอะมากๆ ทุกอย่างที่เขาพูดในรายการหลายๆ อย่างเขาบ่งบอกว่าเป็นเรา เช่นคำว่าน้องแฟนที่อายุน้อยที่สุด ก็น่าจะเป็นผม ที่มันบ่งบอกอยู่แล้ว เรื่องการทำร้ายร่างกาย ผมกล้ายืนยันตรงนี้ว่าตั้งแต่คบกันมาไม่เคยทำร้ายร่างกายแน่นอนครับและไม่ใช่แค่กับโมกับแฟนทุกๆ คนของผม ผมไม่เคยทำร้ายผู้หญิงครับ เรื่องเหตุการณ์ที่เขาพูดมา ตอนแรกผมได้โทร.ถามเพื่อนๆ ว่าทำไมเขาถึงพูดแบบนั้น ผมก็ได้โทร.หาพี่แพมเขาก็บอกว่าโมพูดอย่างนี้จริงๆ ผมก็งงว่าทำไมเขาถึงพูดอย่างนั้นเพราะว่าคนที่อยู่ในเหตุการณ์เขาก็ยืนยันให้เราได้ว่าไม่เคยทำอย่างนั้น
จริงๆ มันไม่ใช่การกระโดดถีบครับ จริงๆ ผมไม่อยากจะพูดถึงเรื่องนี้อีกแล้วเพราะมันเป็นเรื่องส่วนตัว เรื่องของคนเป็นแฟนกันมันต้องรู้กันแค่สองคน แต่ในเมื่อมันมีเรื่องแบบนี้มาผมก็ต้องออกมาปกป้องตัวเอง จริงๆ เหตุการณ์ ณ วันนั้นผมไม่อยากพูดถึงเพราะเขาก็ไม่ได้อยู่แล้ว ก็ขอโทษกับคนที่อาจจะไม่พอใจกับสิ่งที่ผมกำลังจะพูด คือทั้งผมกับโมในตอนนั้นเรามีปัญหาชีวิตกันทั้งคู่ โมช่วงนั้นก็ไม่ค่อยมีงานและมีรายจ่ายค่อนข้างเยอะเพราะเขาเป็นคนที่เลี้ยงทั้งครอบครัวเดือนๆ นึงเขาต้องหาหลัก 2-3 แสนบาท
ส่วนตัวผมก็มีปัญหากับพี่พชร์ (พชร์ อานนท์) ณ ตอนนั้นก็ไม่มีงาน รายจ่ายก็เยอะเดือนละเป็นแสนเหมือนกันมันก็เครียดกันทั้งคู่ก็เลยทะเลาะกันบ่อยเพื่อนๆ ก็รู้ว่าเราทะเลาะกันบ่อยจริงๆ แต่วันที่เราทะเลาะกันผมเลือกที่จะเดินหนีออกมาและเขาก็ถีบมอเตอร์ไซค์ผม จะล้มมอเตอร์ไซค์ผม ผมก็เลยวิ่งเข้าไปเพื่อที่จะกันและน้องนุชที่อยู่ในเหตุการณ์วิ่งเข้ามาห้ามเพราะเขาตกใจว่าผมจะไปทำร้ายโมหรือเปล่า ก็เลยชนกันผมเลยเสียหลักไปโดนโมก็เลยล้มไปทั้งคู่”
แพม : “คนที่อยู่ในเหตุการณ์จริงๆ แพมเรียนเลยว่ามีอ้อนกับนุช และด้วยความที่นิกเขาแจ้งแล้วว่ามีอาการซึมเศร้าทั้งคู่น้องเขาทะเลาะกันแทบทุกวันอยู่แล้ว แต่เดี๋ยวสักพักมันก็ดีกัน แล้ววันนั้นคุณพ่อแตงโมเรียกทั้งคู่และเคลียร์เรียบร้อยให้ทุกคนขอโทษกันกอดกันแล้วก็จบซึ่งเรื่องมันนานมาก”
นิก : “จากนั้นก็คบกันอีกพักใหญ่ๆ เป็นปีเลยครับยืนยันว่าตั้งแต่คบกันมาไม่เคยมีการทำร้ายร่างกายครับ ยืนยันกับทุกคนเลยครับ”
แพม : “คือมันอาจจะมีมือโดนกันบ้างมีการยื้อยุดฉุดกระชากสำหรับคนเป็นแฟนกันอยู่แล้วค่ะ”
นิก : “แต่ถ้าบอกว่ากระโดดถีบมันรุนแรงเกินไปกว่าที่จะรับได้ครับ เพราะผมฟังยังคิดว่าเป็นผู้ชายกระโดดถีบผู้หญิงผมก็ไม่โอเคเหมือนกัน วันนี้ก็เลยต้องออกมาพูดบ้างครับ”
เชื่อ “โม อมีนา”พูดถึงตนแน่ๆ
นิก : “ถามว่าอาจจะเป็นการสื่อสารที่ผิดพลาดหรือเปล่าอันนี้ไม่แน่ใจเหมือนกันครับ ว่าคนที่พูดเขารับสารมายังไง แต่พอเขาพูดเราก็รู้ว่าเป็นเราแน่เลยต้องแสดงตัวครับ ถามว่าอยากจะไปเคลียร์กับเขาเองก่อนไหม คือผมมีคุยกับนุชเพราะนุชรู้จักเขาก็อธิบายให้นุชฟังว่าเรื่องราวมันเป็นอย่างนี้นะ นุชเขาอยู่ในเหตุการณ์ก็น่าจะไปอธิบายให้ฟังโน้นเข้าใจ แต่ฟีดแบ็กยังไงผมไม่แน่ใจเพราะนุชคุยกับพี่ฮิปโปด้วย เขาบอกจะไปคุยผมก็ไม่รู้ว่าคุยหรือเปล่า
แต่ถามว่าเคยรู้จักกับเขาไหม ตั้งแต่คบโม 2 ปีตอนนั้นไม่เคยมีชื่อนี้เลยครับ ไม่รู้จักเลยครับซึ่งในส่วนวันงานไว้อาลัยที่บอกว่ามีชี้หน้าเนอะ ผมก็ไปงานและเจอพี่เขาพี่เขาก็เข้ามาต้อนรับผมก็สวัสดีเขาก็รับไหว้เขายังบอกเลยว่าขาดเหลืออะไรบอกพี่ได้นะ ก็คือพูดดีมาก มีพยานยืนยันด้วยนะว่าเขาพูดจริงๆ มีจูโน่ที่เป็นสต๊าฟด้วยและมีพี่เต้ผู้จัดการพี่พิ้งกี้เขาก็อยู่กับผม มันไม่ได้มีการชี้หน้า หรืออะไรที่บอกว่าผมหนีกลับบ้านก่อนจริงๆ ผมบอกกับทางสต๊าฟไว้แล้วว่าผมจะไปแค่แป๊บเดียวเพราะผมไม่อยากเป็นข่าวผมอยากไปร่วมไว้อาลัยจริงๆ
ผมมั่นใจว่าเขาพูดถึงผม ถามว่าร้อนตัวไหม ผมรู้ตัวว่าเขาพูดถึงผมและเหตุการณ์ที่ผมไปถามพี่แพมมันตรงกับเหตุการณ์นี้ เขาไม่ต้องออกมาพูดหรอกครับว่าหมายถึงใครเพราะมันชัดเจนอยู่แล้วจากสัมภาษณ์เขาล่าสุดมันก็ยืนยันแล้วว่าเขาหมายถึงใคร ถ้าเขาไม่ขอโทษเราจะฟ้องไหม ไม่เป็นไรครับคงไม่ฟ้องอะไรทั้งนั้น”
เผยกระทบหนักจนลูกค้าตอนนี้ไม่เหลือแล้ว
นิก : “มันตั้งแต่เหตุการณ์ตอนที่โมเคยออกมาพูดแล้วผ่านมานานแล้ว ตอนนี้มันก็เหมือนย้ำไปอีก แต่ตอนนั้นผมก็สัมภาษณ์ในส่วนของผมไปทั้งหมดแล้วและบอกว่าจะพูดเรื่องนี้เป็นครั้งสุดท้ายตอนนั้นพอเขามาพูดอีกครั้งคนก็เชื่ออีกและผมรู้สึกว่าเขาไม่ใช่เจ้าตัวเขาไม่ได้รู้เรื่องทั้งหมดจริงๆ ไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์ด้วยซ้ำ
ซึ่งมีผลกระทบทุกอย่างครับผมค่อนข้างจะทำงานอยู่ในโซเชียลซะส่วนใหญ่ ก็ไม่มีงานครับ จริงๆ มันเริ่มตั้งแต่ข่าวที่แล้วที่ผมสัมภาษณ์เป็นกลางว่าคำว่ากระติก (ผู้จัดการแตงโม) น่ารักนะตอนโน้นเลย คนก็อ่านแค่พาดหัวข่าวเขาก็คิดว่าผมชมกระติก ลูกค้าถอนหมดเลยเพราะตั้งแต่ข่าวตอนนั้น เราก็พยายามทำให้มันดีขึ้นมาตลอดให้ข่าวนั้นมันซาไป จริงไม่จริงไม่รู้แต่ผมพยายามทำให้มันดีพอมีติดต่อมา ตอนนี้ลูกค้าก็ถอนครับ เจตนาวันนี้ก็คือผมจะมาบอกว่าผมบริสุทธิ์ใจผมไม่เคยทำร้ายผู้หญิงอย่างที่เป็นข่าวครับ ทุกคนแก๊งชั้นสองรู้ทุกเรื่องเพราะเราอยู่กันเป็นครอบครัวกินนอนด้วยกันเที่ยวด้วยกัน”
อ้อย : “อ้อยสนิทกับพี่แตงโมมากนะคะตั้งแต่อยู่ด้วยกันมาประมาณ 5 ปีอยู่ด้วยกันเกือบทุกวันพี่โมก็จะทักให้มาหาเกือบทุกครั้งเวลาอยู่คนเดียวหรือแกป่วยเป็นซึมเศร้า ถามว่าเห็นสองคนนี้ทะเลาะกันบ่อยไหม เคยอยู่ในเหตุการณ์แต่มันไม่ได้ตลอดเวลา แป๊บเดียวเดี๋ยวก็ดีกัน คือพี่โมเป็นทั้งพี่สาวและก็เพื่อนในเวลาเดียวกันอยู่ด้วยกันเกือบทุกวันเลิกงานพี่โมก็จะโทร.หาทุกวัน ว่าให้มาหาหน่อย แต่เรื่องงานไม่ได้ดูแลค่ะ เป็นเพื่อนพี่น้องเลยเวลาจะไปโรงพยาบาลพี่โมก็จะโทร.มาหาบอกว่าพาเขาไปหาหมอหน่อยนะเป็นแบบนี้ตลอดตั้งแต่รู้จักกันมา”
นิก : “พวกเพื่อนๆ จะอยู่ตั้งแต่ตอนที่คบกันจนถึงวันที่เลิกกันทุกคนก็อยู่”
แพม : “ส่วนกับคุณโม อมีนารู้จักว่าเป็นนักแสดง”
แตง : “5 ปีที่อยู่ดูแลไม่เคยเห็นนะคะ ถามว่ารู้จักแก๊งฮิปโปหรือแอนนาไหมพวกนั้นหนูรู้จักตอน 2 เดือนสุดท้ายก่อนโมจะเสียชีวิต ที่โมไปถ่ายละครคุณชายก็มีว่าจ้างฮิปโปขับรถพาไปกองละครแค่นั้น 2 เดือนนะคะ เพราะว่าแตงดูแลโมทุกอย่างตลอดเวลาค่ะ ตั้งแต่คุณพ่ออยู่ (ร้องไห้) จนคุณพ่อเสียก็มีแต่หนูและเพื่อนๆ ชั้น2 หนูไม่เคยรู้จักพวกนั้นนะคะอยากให้เข้าใจพวกเราด้วย ไม่ได้มีโอกาสได้ออกมาพูดเพราะว่าเป็นคนธรรมดาไม่ได้เข้าถึงสื่อแบบนี้ได้ วันนี้มีโอกาสหนูในนามที่ดูแลโม (สะอื้น)จะบอกว่าอยู่ด้วยตลอดทุกวัน”
ลั่นไม่ได้อยากมีเรื่องแต่มาเพื่อพิสูจน์ตัวเอง
นิก : “ที่พี่เขาบอกกับผมว่าถ้าเกิดน้องเปิดก่อนคือผมไม่ได้เป็นคนเปิดนะวันนี้ผมก็ไม่ได้มาเปิดผมมาเพื่อจะพิสูจน์ตัวเองว่าผมไม่ได้เป็นอย่างนั้นครับ ผมรู้สึกว่าโดนหาเรื่องครับ เพราะผมโดนดรามาตั้งแต่ตอนที่โมเสียนะครับ ผมไปงานก็โดนสัมภาษณ์ผมก็โดน โดนมาตลอดเวลา 1-2 เดือนนี้ ก็งงนะ และเรื่องเก่าๆ ที่เคยมีมาที่เคลียร์จบแล้วไม่ได้ถูกพูดถึงแล้วก็ถูกรื้อฟื้นขึ้นมาทุกเรื่อง
ถ้าอนาคตมีอีกผมพูดตรงๆ ว่าเหนื่อยมากๆ ผมไม่ได้เกี่ยวอะไรด้วยมานานมากแล้ว ผมเลิกกับโมมา 2 ปีกว่าแล้วเราจบกันดีด้วยนะมันเพิ่งมามีหลังๆ ที่เพิ่งมาเป็นข่าวก่อนที่เขาจะเสีย 1-2 เดือนผมก็แค่คิดว่าทำไมมันต้องเป็นอย่างนี้ทั้งๆ ที่ตอนที่เราเลิกกันทุกคนก็อยู่ต่างคนต่างบอกว่าเราจบกันด้วยดีนะ จะพูดถึงกันในสิ่งที่ดีนะ แต่ก็ไม่เข้าใจว่าทำไมช่วงหลังๆ ถึงเป็นอย่างนี้ก็แอบเสียใจนิดนึงครับ”
บอกโดนดรามาเยอะทำให้ตนเครียดซึมเศร้าบางทีก็มีก้าวร้าว
นิก : “ตอนเลิกกันเราเคลียร์ใจกันดีมากจริงๆ พอเจอแบบนี้เครียดมากครับหนักมากเพราะกระแสดรามาทำให้ชีวิตคนๆ นึงเปลี่ยนเลยนะ ความคิดทุกอย่างมันเปลี่ยนทำไมบางทีผมถึงดูหัวร้อนอยากจะให้เข้าใจว่าบางทีเราอยู่เฉยๆ ทุกคนมาด่าเราใส่เราอย่างเดียวทั้งที่บางทีไม่ได้ผิดอะไรเลย อย่างเรื่องกระติกน่ารักนี่ผมงงมากพยายามสัมภาษณ์ให้เป็นกลาง อาจจะมีความคิดที่ว่าตำหนิติเขาว่าทำไมอย่างนั้นอย่างนี้ แต่สุดท้ายแล้วผมไม่ได้อยู่ในเรือ ผมก็เลยเลือกที่จะสัมภาษณ์ให้มันเซฟทุกฝ่ายที่สุดเพราะเราไม่รู้เรื่องจริงๆ
มันก็มีผลต่อสภาพจิตใจผมเพราะผมโดนดรามามานานแล้วตั้งแต่เข้าวงการมา เอาจริงๆ เพิ่งมาโดนดรามาไม่กี่ปีที่หนักๆ เลยแต่ก่อนไม่เคยมีเลยไม่เคยมีข่าวเรื่องผู้หญิงไม่มีข่าวเรื่องทำร้ายผู้หญิงไม่เคยมีอะไรที่ไม่ดีเลย มากสุดก็แค่ทะเลาะกับพี่พชร์ ซึ่งเป็นเรื่องปกติมากๆ เราเข้าใจกันอยู่แล้วทะเลาะกันเดี๋ยวก็ดีกัน
สมมติถ้าเขาไม่จบ คือผมจบแค่นี้ ถ้าเขาจะพูดอะไรต่อก็แล้วแต่เขาครับ ถ้ากระแสไปเชียร์ฝั่งโน้นก็ไม่เป็นไรครับผมไม่ได้ตั้งเป้าหมายว่าเขาจะต้องเข้าใจ ผมแค่อยากมาเคลียร์ในส่วนของผมถ้าเข้าใจ 10-20% แต่อีก 80% ไม่เข้าใจก็ไม่เป็นไรครับ ถือว่าผมทำดีที่สุดแล้ว ต่อไปจะไม่มีการโพสต์อะไรแล้วครับคือผมไม่ได้โกรธนะถ้าจะพูดผมแค่รู้สึกว่าตอนที่เราไปเจอกันที่งานที่ผมพิมพ์ว่าทำแจ๋วทำเก่ง ตอนแรกผมบวกกับเขานะ คือความรู้สึกเป็นบวกเพราะเจอแล้วเขาพูดดีกับผมทุกอย่างดี แต่สุดท้ายเขาพูดว่าชี้หน้านั่นนี่ผมเลยรู้สึกว่าทำไมตอนเจออีกอย่างตอนที่ไม่ได้เจออีกอย่าง”
จากนั้น “นิก”ได้ต่อสายถึง “นุช” ถามเรื่องที่ให้ช่วยคุยกับ “โม อมีนา” ซึ่งนุชเผยว่ายังไม่ได้คุยกันเพราะว่าไม่ได้รู้จักกันเป็นการส่วนตัวจากนั้นนุชก็ส่งสายต่อให้กับ “จูโน่” ให้พูดถึงเหตุการณ์วันที่นิกกับโม อมีนาเจอกันในงานพิธีไว้อาลัยแตงโมว่าได้มีการทะเลาะหรือมีเหตุการณ์ไม่ปกติอะไรกันหรือเปล่า
จูโน่ : “ไม่มีทะเลาะนะเพราะว่าผมพาพี่นิกเข้าไปพี่โม อมีนาก็เจอพี่นิก พี่โมก็คล้ายๆ สวัสดีพี่นิกแล้วบอกว่าจูโน่ฝากดูแลพี่นิกด้วยนะประมาณนี้ครับ ถามว่ามีชี้หน้ากันไหม ไม่มีนะ แกก็ยิ้มปกติ หลังไมค์เขาก็ไม่เคยพูดถึงพี่นิกเลยครับ”
“แก๊งเพื่อนชั้นสอง” เผยเคยเจอแต่ “ฮิปโป” ที่พา “แตงโม” ไปกองถ่ายส่วนคนอื่นไม่เคยเห็น
อ้อย : “(ทางแอนนาฮิปโปบอกว่าก่อนหน้านี่เขาก็ผลัดกันมาดูแลโมกับเพื่อนๆ) พวกเราดูเองแก๊งชั้นสอง”
แตง : “ไม่มีใครเข้ามา มีแต่ฮิปโปที่พาเขาไปกองละครคุณชายกลางคืน เขาไลฟ์สดหนูก็ช่วย แต่ในบางครั้งถ้าฮิปโปมาเขาก็จะช่วย ถามว่าเขาเคยบอกจะเปลี่ยนผู้จัดการจากกระติกเป็นแอนนาไหมอันนี้ไม่ทราบค่ะ เขาไม่เคยพูดกับหนูเรื่องงาน หนูไม่เกี่ยว หนูดูแลโมดูแลคุณพ่อแตงโมจ้างค่ะ คือคุณแตงโมให้ออกจากงานมาเลยเมื่อ 5 ปีที่แล้วเลยค่ะเพื่อดูแลน้องอีสเตอร์ก็มาทำงานในฐานะแม่บ้านค่ะ”
แพม : “จริงๆ ถ้าไม่มีเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเราก็คงไม่ออกมาเพราะว่าเราเป็นคนธรรมดาอยู่เงียบๆ นิ่งๆ ดีกว่าส่วนเรื่องที่แอนนาหางานให้แตงโม อันนี้เราทราบเพราะว่าแอนนาหางานให้จริงๆ (ก่อนที่แอนนาและฮิปโปจะเข้ามาใครเป็นคนดูแลงานให้แตงโม?) เป็นกระติกค่ะเราดูแลแค่ในฐานะเพื่อน”
บอกวันนี้ได้พูดก็โล่งใจขึ้น
นิก : “โล่งขึ้นครับถึงจะมีแค่ไม่กี่เปอร์เซ็นต์ที่เข้าใจ เพราะว่าตอนนี้ก็ต้องยอมรับว่าหลายคนก็ตีตราผมไม่ดีไปแล้วอยากให้มองในมุมที่ดีบ้างในมุมที่คนอื่นไม่รู้ข่าวมันออกมาในทิศทางที่ว่าผมอย่างนั้นอย่างนี้จริงๆ ตั้งแต่คบกันเราช่วยเหลือกันมาตลอดทุกคนก็รู้ว่าผมช่วยเหลือตลอดอยากให้มองผมใหม่หน่อยให้โอกาสผมสักหน่อยเพราะว่าบางทีผมหัวร้อนเพราะผมโดนบีบมาเยอะมากๆ ในชีวิตช่วงนี้
จริงๆ ผมอยู่เงียบๆ มาตลอดเลยตั้งแต่เลิกกับโมผมไม่เคยออกมาอะไรเลยแม้แต่ครั้งเดียว ก็ไม่มีอะไรจะฝากกับพี่โมครับและครั้งนี้ผมก็ไม่ได้ออกมาเพื่อจะงัดอะไรด้วยผมแค่มาพูดในมุมของผมที่เขาอาจจะไม่รู้ให้เข้าใจผมมากขึ้นผมไม่ได้จะงัดหรือทะเลาะกับใครทั้งนั้นชีวิตผมช่วง 3 ปีที่ผ่านมาผมพยายามทำงานที่ผมรักงานในวงการ อย่างหนังก็มีติดต่อเข้ามาแต่ผมกำลังจะหมดสัญญากับพี่พชร์ก็ค่อยว่ากันครับ
ถ้ามีคนมาคอมเมนต์อะไรแนวนี้อีกถามว่าจะฟ้องไหม ครั้งที่แล้วผมก็ฟ้องนะแต่สุดท้ายเขาทักมาขอโทษ เขาบอกว่าเขามีลูกมีเมียที่ต้องดูแลผมพูดตรงๆ ว่าผมเป็นคนใจอ่อน ผมไม่กล้าจะฟ้อง แต่ครั้งนี้ผมขอให้บทเรียนดีกว่าเพราะถือว่าได้เตือนแล้วทุกครั้งเลยพอมาด่าๆ เสร็จปุ๊บสุดท้ายก็มาขอโทษ คือคุณต้องคิดแล้วว่าคำพูดของคุณมันทำให้คนๆ นึงเขาแย่ชีวิตมันพัง”
บอกตอนที่คบกันตนก็ดูแลซัปพอร์ตช่วยเหลือ “แตงโม”ตลอด
นิก : “อย่างตอนนี้แม่มาอยู่กับผมวันแรกผมก็โดนข่าวนี้เลย ผมไม่ได้คุยกับแม่เลย ผมเหม่อไปเลย นั่งดูคอมเมนต์ทั้งวัน คือมันหลุดไปแล้วและต้องขอโทษทุกคนที่ผมอาจจะมีพฤติกรรมที่ก้าวร้าว คืออยากจะให้เข้าใจว่ามันไม่ได้เป็นอย่างนั้นผมเพิ่งจะมาเป็นเพราะว่ามันโดนบีบหลายๆ อย่าง และที่ไปงานโมก็ไปด้วยความตั้งใจอยากไปลากันครั้งสุดท้าย แต่ก็โดนกัดโดนเหน็บอยู่เฉยๆ ผมก็โดน ใครจะพูดอะไรควรที่จะรู้เรื่องจริงๆ ครับ
ส่วนเรื่องดีๆ มันก็มีในช่วงที่เราคบกันผมก็ไม่ค่อยอยากพูดเท่าไหร่แต่ไหนๆ ก็มีแต่เรื่องไม่ดีแล้วเอาเรื่องดีๆ ไปบ้างแล้วกันแล้วก็ไม่เคยพูดที่ไหนด้วยตอนที่พ่อเขาป่วยผมก็เป็นคนซัปพอร์ตเป็นคนดูแล พ่อเขาต้องผ่าตัดพ่อแม่ผมทำงานที่รพ.รามาฯ พ่อแม่ผมเขาก็เป็นคนวิ่งเต้นให้เข้ารพ.รามาฯ ได้ผ่ากับหมอดีๆผมก็ซัปพอร์ตช่วงที่ผมโดนดองงานเพราะมีปัญหากับพี่พชร์ ตอนนั้นผมไม่มีเงิน เขาก็ไม่มี ผมมีเท่าไหร่ผมก็ให้ประมาณนี้ครับ เรื่องอื่นๆ ไม่ต้องพูดครับ
เรื่องทะเลาะมันเป็นเรื่องปกติของทุกคู่ยิ่งเรามีความเครียดกันทั้งสองฝ่าย พออะไรนิดอะไรหน่อยมันก็ทำให้ทะเลาะกันได้ทะเลาะกันไม่ถึง 2 ชั่วโมงด้วยซ้ำ อยากให้คนมองผมในแง่ดีบ้างเพราะว่าผมไม่เคยออกมาพูดหรือทวงบุญคุณ ผมแค่อยากจะพูดให้คนบางคนเข้าใจผมมากขึ้น ไม่ได้เห็นมุมนี้ของผม เห็นว่าผมเจาะหูสักดูเป็นเด็กแว้น ดูเป็นคนไม่ดี จริงๆ ผมก็น่ารักกับเขานะตอนที่เราอยู่ด้วยกัน แล้วตอนที่เราจบกันเราก็จบกันด้วยดี เราเคลียร์ใจกันทุกอย่าง”