“ครูปุ้ม” เตรียมยื่นโนติสถึงสาวคู่กรณีที่หลอกเอาทรัพย์สินของ “ครูชลธี” ไป 10 ล้าน ลั่นไม่หวังได้คืนทั้งหมด แต่ขอบ้าน-รถคืน ครูชลธีปล่อยให้เวรกรรมชำระกันไป แต่ขออย่าทำแบบนี้กับใคร มันบาป โล่งใจหลุดพ้น มีความสุขได้กลับมาอยู่กับครอบครัวที่แท้จริง ทำพินัยกรรมแล้ว เผื่อวันข้างหน้าหลงทางอีก ครูปุ้มวอนสังคมอย่าคอมเมนต์ด่าครูชลธี สามีได้รับผลกรรมแล้ว เชื่อหากหย่าตั้งแต่วันนั้น สามีคงตายไปแล้ว ปลอบทุกวัน หมดเงิน 10 ล้าน แต่ยังไม่จน
หลังจากที่ได้กลับมาอยู่กับครอบครัวที่แท้จริงหลังออกจากบ้านไป พร้อมฟ้องศาลประกาศจะหย่ากับภรรยา “ครูปุ้ม ศศิวิมล ทองมา” มา 4 ปี ก็ดูเหมือนว่าครูเพลงและศิลปินแห่งชาติ วัย 83 ปี “ครูชลธี ธารทอง” จะสุขภาพแข็งแรง และมีความสุขกับการได้ชีวิตเดิมคืนมา
โดยวันนี้ (11 เม.ย.65) ครูปุ้ม และ ครูชลธี ได้เปิดใจกับสื่อมวลชน โดยครูปุ้มเผยว่าทรัพย์สินของครูชลธีจำนวน 10 ล้านที่หายจากบัญชีไปไม่คิดจะได้คืนทั้งหมด ยินดีไกล่เกลี่ยกับอีกฝ่าย
ครูปุ้ม : “เงินในบัญชีและทรัพย์สินด้วย น่าจะประมาณนั้น มีเงินสดในบัญชีครู รถเบนซ์ E350 คันนึง ปืน แหวนเพชร ที่หายไป ปุ้มได้คำตอบแล้วว่าทุกอย่างมันหายไปไหน ตอนนี้กำลังติดตามเพื่อขอคืน เงินที่หายไปเราไม่ทราบว่าใครคือคนเบิก มันเป็นการเบิกในแอปฯ ของธนาคารไทยพาณิชย์ ซึ่งมันปรากฎในสลิปมือถือครู มีการโอนออก 20 บาทก็ยังโอน วันนึง 2 หมื่น 5 หมื่น ซึ่งตามนิสัยของครูชลที่อยู่กับปุ้มมา ครูชลไม่เบิกเงินถึง 2 หมื่นต่อวัน ก็เลยสงสัยว่าทำไมเงินถึงออกไปเยอะเหลือเกิน แม้กระทั้งค่าน้ำ ค่าไฟ ปุ้มก็ทราบว่าเป็นของใคร ค่าโทรศัพท์มือถือวันทูคอล 20 บาท 100 บาทก็โอนจากบัญชีครูหมด
ถามว่าโกรธไหมก็จะโทษครูมากกว่าที่ครูไว้ใจใครสักคนนึงมากเกินไป แต่ด้วยหลายๆ อย่าง บอกเลยว่าสภาพครูในตอนนั้นไม่เต็มร้อย คนแก่ก็จะหลงๆ ลืมๆ ทุกวันนี้ครูก็หลงๆ ลืมๆ แล้วครูเป็นคนที่พอไว้ใจใครแกก็เต็มที่ บังเอิญว่าครูมีเงิน 2 บัญชี ปุ้มอายัดไว้บัญชีนึง ถ้าไม่อายัดบัญชีนั้นไว้ก็คงหมด ก็ยังเหลือเยอะอยู่ เป็นส่วนที่ไม่สามารถเบิกได้”
“ครูชลธี” พูดไม่ออก ถูกกดดันรอบด้าน หลังรู้เงินทยอยออกจากบัญชีไปเรื่อยๆ
ครูชลธี : “มันพูดไม่ออก ถูกกดดันรอบด้านเลย คนมีอิทธิพลอะไรก็ไม่รู้เยอะแยะไปหมด”
ครูปุ้ม : “ครูชลไม่ได้โอนเงินเอง ถ้าใครมาบอกว่าครูชลโอนเงินเอง ปุ้มเถียงใจขาดเลย เพราะมือถือครูยังทำไม่เป็น ยังให้เราเปิดแอปฯ ธนาคารให้หน่อย บางทีรหัสธนาคารยังลืมเลย แล้วเงินที่ออกไป ล่าสุดเดือนมีนาคม มีการโอนออก 5 หมื่น 2 ครั้ง แล้วถ้าครูชลมีอะไรกลับมาปุ้มจะไม่ว่า ปกติแกใส่แหวนเพชร 2 วงก็หาย ดีนะนาฬิกาโรเล็กซ์ กับโครุ่ม สร้อยคอยังเหลือกลับมา”
“ครูปุ้ม” ยินดีไกล่เกลี่ย อยากให้มาเคลียร์กันดีๆ มากกว่าต้องดำเนินคดีกันตามกฎหมาย ไม่คาดหวังได้คืนทั้งหมด
ครูปุ้ม : “ตอนนี้ได้ขอสเตทเมนต์เพื่อหาที่มาที่ไปของเงิน ถ้าคุยกันดีๆ ไม่รู้เรื่องเราก็คงต้องดำเนินการตามกฎหมาย เราควรจะเอาสิทธิ์ตรงนี้ที่เป็นของปุ้ม ของครูแล้วของลูกๆ ทั้งสองคนคืนมาบ้าง เราเห็นรายจ่ายทั้งหมดแล้วภายใน 4 ปี มันเป็นอะไรที่ไม่ได้เกี่ยวกับตัวครูเลย อะไรก็ไม่รู้จิปาถะ แม้แต่เครื่องสำอาง ก็ยังงงว่าครูใช้เครื่องสำอางอะไรพันกว่าบาท ค่าเสื้อผ้า กระเป๋ายี่ห้อแบรนด์เนมดังๆ ซื้อมาได้
เรายินดีไกล่เกลี่ย เราพยายามจะไม่ทำอะไรที่มันจะไปถึงกฎหมาย เพราะเราไม่อยากให้ครูขึ้นศาลแต่ปุ้มก็จะให้ทนายส่งโนติสไปขอคืนในส่วนนี้ๆ ส่วนที่เราต้องเสียเราก็ต้องเสีย แต่ชีวิตครูคืนมาพี่ปุ้มโอเคแล้ว ไม่คาดหวังว่าจะได้คืนทั้งหมด”
ไม่รู้จะพูดยังไง แต่เชื่อว่าจะต้องได้ทรัพย์สมบัติคืน “ครูปุ้ม” โอด “ครูชลธี” เครียดมาก ถึงขั้นอยากฆ่าตัวตาย
ครูปุ้ม : “สิ่งที่มองว่าจำเป็นที่เราจะต้องได้คืนคือที่ดิน รถ ที่ดินเรารู้ว่าเขาเอาเงินไปซื้อ แต่เป็นชื่อของคนอื่น ในราคา1.5 ล้าน รถก็จะมีรถเบนซ์ แล้วก็ฟอร์ด ปุ้มได้คุยกับทนายมามส่วนนึงว่าเรามีความประสงค์อยากได้ตรงไหนคืน แต่ก็ยังไม่มีเสียงตอบรับอะไรมา ถ้าเขาดูอยู่ก็อยากจะบอกว่าอะไรที่เป็นของครูก็คืนมาเถอะ คุณเองก็ได้ไปเยอะแล้ว ครอบครัวเราเสียหายมากมาย
ตอนนี้ครูแก่ตัวลงทุกวัน เราก็ต้องใช้เงินในการรักษาพยาบาลครู คืนมาเถอะ คุณก็ได้ไปเยอะ สงสารครูเถอะ ตอนนี้ครูเหมือนจิตตกไปแล้ว ซึมเศร้า วันๆ นั่งมองแต่บัญชี มองแต่แอปฯ ทั้งวันจริงๆ เรามองแล้วก็… นี่คือเรื่องจริง แกมีมือถือ แกกดแอปฯ ดู แล้วพูดว่าแม่…เงิน เราเห็นแล้วสงสาร เช้ามากดแอปฯ เงินดู เรานึกในใจว่า 4 ปีที่ผ่านมาทำไมพ่อถึงไม่ทำแบบนี้ เงินมันไปไหน พ่อไม่ตาม ปุ้มเลยบอกว่าพ่อช่างมันเถอะ เดี๋ยวเราก็ได้ เราก็ไปดูสลิปรายได้ของแกรมมี่ มีค่าลิขสิทธิ์เดือนนึงได้ 3 แสน พอได้ปุ๊บบัญชีมันเหมือนรีบเอาออกๆๆ มันออกไปไหน ครูเขาเสียดายนะ”
ครูชลธี : “ไม่รู้จะพูดยังไง แต่เชื่อว่าเดี๋ยวครูก็ได้กลับคืนมา”
ครูปุ้ม : “บอกครูตลอดว่าไม่ต้องกังวล เราไม่จนหรอก ใครทำอะไรก็ได้อย่างนั้น ทุกวันนี้เฉพาะเงินเดือนศิลปินแห่งชาติ เงินค่าส่วนแบ่งของแกรมมี่ก็พอกิน เพราะครูกินไม่เยอะหรอก พยายามปลอบใจครู ตัวปุ้มก็มีเงินเดือน ไม่เคยเกาะครูกินเหมือนที่ผ่านมา ครูเขาเครียดมากนะ ถึงขั้นจะฆ่าตัวตาย เพราะคิดเรื่องนี้ กับเรื่องตามสื่อโซเชียลที่หลายๆ คนโจมตี ด่าครูแรง แต่ปุ้มก็เข้าใจนะ มีวันนึงที่เราน้ำตาไหล เขาดูเสร็จแล้วเขานอน บอกเขาอยากฆ่าตัวตาย ครูเขารับรู้ แต่แค่ไม่พูดออกมา
เรื่องทั้งหลายทั้งปวงจริงๆ แล้วเราไม่โทษใครคนใดคนหนึ่ง เราโทษที่ตัวครูนี่แหละที่เขาประพฤติตัวไม่ถูกต้อง ก็อยากจะขอโทษสังคม ขอโทษทุกๆ คน ต่อไปหลังจากนี้จะไม่มีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นอีกแล้ว”
ยันเรื่องลิขสิทธิ์เพลง “ครูชลธี” ไม่คิดถือเองอยู่แล้ว หลังอีกฝ่ายยึดลิขสิทธิ์โดยอ้างว่าครูชลธีจะเอาไปดูแลเอง
ครูปุ้ม : “เขาไม่ถือหรอก เขาจะเอาไปดูแลหมดเลย ลักษณะดำเนินการหมดทุกเรื่อง ปุ้มรู้หมดแล้วว่ามีการไปจัดเก็บค่าลิขสิทธิ์แถวพัทยาแล้วมีการโอนเงินเข้าบัญชีผู้ชายอีกคนนึงที่อยู่บ้านนั้นแต่ไม่รู้เป็นใคร พอดีเรามีสลิปอยู่ เลยงงว่าครูรู้ไหม ถ้าครูบอกไม่รู้ แล้วโอนไปเท่าไหร่ก็ไม่รู้ ยอดนั้นยอดเดียว 8 พันบาท แล้วเดือนนึงมันจะเท่าไหร่ เขาบอกเก็บได้หลาย แต่เป็นการโอนเงินเข้าบัญชีคนๆ นึง เพื่อหลบเลี่ยงอะไรสักอย่าง ช่วงนั้นเป็นช่วงที่ครูชลฟ้องหย่ากับปุ้ม ก็เลี่ยงที่เข้าบัญชีครู แล้วไปเข้าบัญชีอีกคน จะได้ไม่ต้องแบ่งรายได้ แล้วเงินตรงนั้นตอนนี้อยู่ที่ไหน รวมทั้งเงินในบัญชีครูชลโอนเข้าไปที่คนๆ นี้ แล้วคนๆ นี้เขาอยู่บ้านหลังเดียวกัน แค่ตอนไปเป็นพยานที่ศาล เขาบอกไม่รู้จักคนนี้ ก็เลยงง ศาลก็หัวเราะ คุณไม่รู้จักกันแล้วคุณไปเป็นพยานในศาลได้ยังไง เราก็สืบมาหมดแล้วว่าเขาเป็นใคร”
ที่ผ่านมาไม่ยอมหย่าเพราะต้องการสู้เพื่อ “ครูชลธี” ลั่นหากหย่าครูชลคงตายไปแล้ว
ครูปุ้ม : “ยอมรับว่าเมื่อ 4 ปีที่แล้วเราเจออะไรเยอะมาก มรสุมสารพัดเรื่อง วันๆ มีแต่หมายศาลมาแปะ หมายตำรวจ หมายเต็มบ้านไปหมด ตอนนั้นคิดทุกวันกลับบ้านไปจะเจออะไร ก็ถามตัวเองว่าเราผิดอะไร เราก็ต่อสู้มา สิ่งที่ปุ้มบอกตัวเองคืออะไรที่ไม่ถูกต้องเราต้องทำให้มันถูก เราไม่ยอม ใครหลายคน สังคมก็บอกในเมื่อครูหมดรักเราแล้ว ทำไมเราไม่ยอม เราก็บอกไปว่าเราต้องการรักษาชีวิตครู ถ้าปุ้มยอมหย่า รับรองอีกไม่กี่วันครูก็ตาย ซึ่งครูชลบอกเองว่าถ้าพ่อไม่กลับมาวันสองวันพ่อก็ตาย โรคต่างๆ รุมเร้า ถามว่าทำไม แกบอกไม่มีใครดูแล เขานอนอยู่ในห้องแคบๆ”
“ครูชลธี” ดีใจได้กลับมาอยู่กับครอบครัวที่แท้จริง ร่างพินัยกรรมยกสมบัติให้ลูกเมียหมดแล้ว เรื่องที่ผ่านมาปล่อยให้เป็นเรื่องของเวรกรรมชำระไป
ครูชลธี : “ดีใจที่ได้เจอลูก ก็บอกเขาว่ารักเขา ยังไงเขาก็ลูก ลูกๆ ก็เข้าใจ”
ครูปุ้ม : “เขาก็บอกกับลูกๆ ว่าต่อไปนี้พ่อจะไม่ไปไหนแล้ว พ่อได้ทำพินัยกรรมไว้ให้กับพี่ปุ้มและลูกๆ ทั้งหมดแล้ว เผื่อในวันข้างหน้าครูจะเดินหลงทางอีกครั้งนึง เพิ่งจะร่าง ยังไม่ได้เซ็นถูกต้องตามกฎหมาย เรายังไม่มีเวลาพาครูไปทำเรื่องที่อำเภอ
ครูชลธี : “ตอนนี้ผมไม่มีอะไรแล้ว เหลือแต่ตัว วันนี้ได้กลับมาอยู่บ้าน เจอลูก เจอเมียที่แท้จริง ได้มาอยู่กับความจริง ต่อไปนี้คงจะไม่มีใครมานั่งโกหกเราอีกแล้ว หลุดพ้นมาแล้วก็โอเค อยู่ต่อไป พอหลุดมาแล้วเราก็โอเค ผมอยู่นรกต่อไปผมไม่ไหว ถ้าให้ผมพูดมันจะมากกว่านี้อีกหลายเท่า ผมไม่พูดดีกว่า ก็ปล่อยให้เวรกรรมชำระไป วันนี้ผมให้อภัย อย่าก่อเวรกรรมกันอีก ทำกับผมแล้วอย่าไปทำกับใครอีก มันเป็นบาป”
ตอนนี้สุขภาพของ “ครูชลธี” ดีขึ้นมาก วอนสังคมเลิกคอมเมนต์ด่าครูชล เพราะครูได้รับผลกรรมแล้ว อยากให้เปลี่ยนเป็นให้กำลังใจแทน
ครูปุ้ม : “ตอนนี้ปุ้มไปไหนไม่ได้เลย เหนื่อยมาก แล้วแกก็ไม่เอาใครนอกจากปุ้ม จะเรียกหาตลอด ก็จะมีแม่บ้านคอยช่วยดูแลแบบไปเช้าเย็นกลับ เราไปไหนก็ต้องรีบกลับบ้านเพื่อกลับมาดูแลครู สุขภาพครูตอนนี้ก็ดีขึ้นเยอะแล้ว”
ครูชลธี : “วันนี้ผมมีความสุขดีมากครับ ขอบคุณที่ให้โอกาสผมได้พูด ให้สังคมได้รับรู้ พ่อคิดยังไง คนอื่นคิดยังไง ก็ได้รับรู้ อยากฝากกับประชาชนทุกคน ถ้าเราคิดดีทำดี ก็ย่อมจะได้ดี”
ครูปุ้ม : “สุดท้ายอยากจะวอนสังคมนะคะ ไม่ต้องรักครูชลมากก็ได้ แต่ก็อยากให้เห็นใจครู ตอนนี้ครูชลแกต้องการกำลังใจ ต้องการการเยียวยา ไม่ต้องคอมเมนต์ด่าก็ได้ แต่ขอให้มีสิ่งดีๆให้กับครูบ้าง ครูผิดไปแล้ว ครูก็ได้รับสิ่งที่ครูทำแล้ว ก็ฝากขอโทษสังคมด้วยนะคะ ที่ต้องมาเสพเหตุการณ์เรื่องราวของครูชล กับครูปุ้มมา 4ปี ต่อไปนี้จะมีสิ่งดีๆ ให้กับทุกคน ต่อไปนี้จะสร้างสรรค์ผลงานเพลงให้กับวงการลูกทุ่งอีก กราบขอบคุณทุกคนที่ให้โอกาสครูชลนะคะ”