xs
xsm
sm
md
lg

“แจ็ค แฟนฉัน” สารภาพ มีทุกวันนี้เพราะมูเตลู ชี้นำทางจนปลดหนี้ได้

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



 “แจ็ค แฟนฉัน” เผยเคล็ดลับงานดีเงินปัง เพราะมูเตลู ตรงไหนว่าดีไปกราบหมด ปลดหนี้ได้เพราะการไปมูเตลูที่ถ้ำนาคา กลับมาแล้วดวงเปิด ชีวิตพลิก จนตอนนี้มีแต่คนมาปรึกษาเรื่องการมูเตลูแทนดาราสายมูรุ่นพี่ “มดดำ คชาภา ตันเจริญ”

วันนี้ แจ็ค แฟนฉัน ได้มาพูดคุยกับ MGR ออนไลน์ พร้อมเล่าถึงเส้นทางสายมูเตลูและแนวคิด ความเชื่อ ที่หลอมรวมทำให้กลายเป็น แจ็ค แฟนฉัน ในวันนี้ว่า…

“น่าจะมาจากยายผม ยายผมแกเป็นเจ้ามือหวย ก็จะชอบมู จะมีการทำบุญก่อนหวยออก แต่แกเสียไปแล้ว แกชอบทำบุญ ตื่นเช้ามาใส่บาตรทุกวัน ชอบช่วยเหลือคน แม่ก็จะได้รับตรงนี้จากยาย ก็จะพาผมไปไหว้ แกจะชอบพาผมไปไหว้หลวงพ่อโสธร หลวงปู่ทวด หลวงพ่อนเรศวร ที่อยู่ปราจีนบุรี เราไปไหว้ก็ลองขอดู มามูหนักสุดก็กับพี่มดดำนี่แหละ"

"การมูเปลี่ยนชีวิตที่ทำให้เราสบายใจ ทำให้เรามีความคิดที่เราอยากจะช่วยเหลือ อยากจะแบ่งปัน คิดดีทำดี บางคนไม่เชื่อเรื่องมูหรือสิ่งศักดิ์สิทธิ์ก็มีเยอะ แต่ผมเป็นคนที่เชื่อว่าถ้ามันไม่เกิดขึ้น มันจะมีข่าวทำนองนี้ออกมาบ่อยได้ยังไง มันต้องมีอะไร ถ้ามันไม่มีมันก็คงจะหายไปนานแล้ว ก็ลองดู ไม่เสียหาย เราคิดอย่างนี้ เราก็ไหว้และมีสติ คิดดีทำดี ผมเชื่อว่าการมีอะไรมาเตือนสติเรา มีอะไรที่มายึดเหนี่ยวจิตใจเรา มันจะทำให้เราสบายใจ สิ่งดีๆมันก็จะเกิด"

"สำหรับผมถ้าได้ยินที่ไหนเขาว่าดี เขาว่าศักดิ์สิทธิ์ก็ไปลองหน่อย แต่ก็จะไม่รู้ว่าองค์ไหนช่วย เพราะไหว้เยอะมาก(หัวเราะ) ผมจะสายทุกทาง จะมีเพื่อนๆ รุ่นพี่เป็นเซียนพระด้วย ก็จะไปสายนี้เหมือนกัน ก็ไปลองดู ชอบเหมือนกันครับ พระนี่เป็นอะไรที่ผมไม่กล้าขายเลย ถึงจะมีคนเสนอราคามาให้ดีแค่ไหน ไม่เอาเลย ยังไม่พร้อม ยังไม่ลำบาก ถ้าลำบากจริงๆ ของชิ้นสุดท้ายที่จะขายคือพระ พระเครื่องถือเป็นของมีค่าที่สุดสำหรับผมเลย ของพวกนี้ก็เหมือนกับการมู ถ้าไม่เจ๋งจริงก็คงไม่มีใครไหว้กัน ยกมือไหว้มันสำคัญมากเลย ต้องเจ๋งเขาถึงไหว้"

ถ้ำนาคาทำพลิกชีวิต กลับมาก็มีงาน มีเงิน ปลดหนี้ได้
“ถ้ำนาคาพลิกชีวิตครับ รวมถึงตัวผมด้วยที่ผมก็ขยัน จะไหว้พญานาคอย่างเดียวแล้วไม่ทำงานมันก็ไม่ใช่ ท่านก็ไม่ช่วยหรอก มันก็ต้องควบคู่กันไป ผมว่าสิ่งศักดิ์สิทธิ์เขาก็คงอยากให้เราคิดดีทำดี ทำสิ่งดีๆ ช่วยเหลือคน บางอย่างที่ขอเราก็อาจจะไม่ได้นะ แต่มันเป็นอะไรที่ยึดเหนี่ยวเรา พอเราขอแล้วเหมือนคอยเตือนสติให้เราทำดีๆ อย่าทำไม่ดีนะ ทำให้เราคิดดี คิดชอบ ชีวิตเราก็ดีขึ้น"

"เวลาที่ไปขอ แล้วไม่ได้ ก็อย่าไปโกรธ บางทีเราอาจจะไม่ถูกกับที่นั่นก็ได้ ไม่ถูกในที่นี้คือเราอาจจะไม่ได้มีความผูกพันกับเขา ชาติที่แล้วเราอาจจะไม่ได้เป็นลูกหลานเขาก็ได้ คุณทำไม่ดีมารึเปล่า ไม่ใช่ว่าท่านไม่ศักดิ์สิทธิ์นะ"

"มันแล้วแต่เรานะ ที่ผ่านมาพญานาคไม่เห็นมีใครไปเลย เพิ่งจะมาบูมๆ กัน ก็ตามหมอดูปีนั้นๆ เขาจะบอกว่าปีไหนเหมาะจะไหว้อะไร ผมว่าเขาต้องรู้อะไรมาแหละ ก่อนหน้านี้ก็กุมารไข่เนอะ ถ้าสุดสำหรับผมปีที่แล้วจนถึงปีนี้ก็คือถ้ำนาคา ผมว่าที่นั่นมีอะไรเยอะอยู่ เป็นที่ที่พระขึ้นไปปฏิบัติธรรม ที่นั่นเป็นที่ที่ฝึกสมาธิ ฝึกจิตของเราให้นิ่ง”

แต่ใดๆ ให้ยืนหนึ่งในการพรคือ ไหว้พ่อแม่ก่อนออกจากบ้าน
“เหมือนเวลาเราออกไปทำงานนอกบ้านเราก็จะต้องไหว้พ่อแม่ก่อน ก็ไม่ต่างกัน พ่อแม่ก็คือพระในบ้านของเรา ผมเชื่อเรื่องนี้ เพียงแต่วัยรุ่นยุคใหม่ที่เขาอาจจะไม่เชื่อเรื่องนี้เพราะว่ามีข่าวพระกินเหล้า ไม่ไหวดีกว่า มันเหมือนว่ามันไม่ผิดที่เด็กจะมองอย่างนั้น ต้องเข้าใจว่าเพราะมันเห็นอย่างนั้น”

ด้วยนิสัยชอบลองทำให้เสพติดการมูเตลู
“เป็นเด็กอยากรู้ครับ ก็ลองดู ตั้งจิตสื่อถึงท่านดีๆ คุยกับท่าน สำคัญเลยคือไม่ลบหลู่ ชีวิตมีวันนี้ได้ก็เพราะมูนี่แหละ เพราะเราคิดดีทำดี และการทำดีกับพ่อแม่ นี่คือปาฏิหาริย์ที่ทำให้ผมมีงานมีเงินในทุกวันนี้ ผมก็ทำตามคำสอนของผู้ใหญ่ที่รักและเคารพ การมีงานเยอะในทุกวันนี้ การที่คนให้ความสนใจเรา มันไม่ใช่เรื่องง่ายเลยในทุกวันนี้ เราต้องมีโชคมากๆ"

"เราไปแล้วเราได้จริงๆ เราไม่ได้ตอแหลคน แต่ถ้าเราไปไหว้แล้วเราไม่ได้ แต่เราพูดอันนั้นคือตอแหลคน มันไม่ดี แล้วเขาจะมาจับโป๊ะ ตอนนี้ทำอะไรต้องมีสตินะ เพราะโลกโซเชียลมันน่ากลัว”

เชื่อหมอดูเลยได้อาชีพใหม่ยูทูปเบอร์
“จุดเริ่มต้นของการเป็นยูทูปเบอร์คือมาจากรายการขอของดาราก่อน ที่มาทำเพราะไปเจอหมอบี เขาก็ทักว่าดวงโซเชียลเราดีนะ ก็เลยลอง แต่มาคิดเหนื่อยนะ ไหนจะต้องลงทุนซื้อกล้องซื้ออะไรอีก แล้วเราก็ทำไม่เป็น ก็ไปถามหมอดูอีกว่าชัวร์ใช่ไหม เขาก็บอกว่าใช่ ยุคนี้มันตลกอย่างเดียวไม่ได้แล้ว ต้องใจบุญ ก็เลยปิ๊งไอเดีย ได้มา 1 รายการ"

"ก็ไปปรึกษาพี่แจ๊ส ชวนชื่นว่าผมอยากทำรายการ เขาก็แนะนำ ผมตั้งเป้าหมายเลย หนึ่งผมต้องเป็นหนี้ ผมเลยไปซื้อรถมา 1 ล้าน ที่นี้ก็ต้องทำงานใช้หนี้ แล้วก็ไปซื้อกล้อง ถ่ายพี่แจ๊สเลยเทปแรก เราก็ทำไม่เป็น กล้องสั่น พี่แจ๊สด่าโปรดักชั่นเหี้-อะไร ปรากฎว่าล้านวิว ทำเรื่อยๆ เริ่มมา เริ่มสนุกไปกับมัน เงินก็เข้ามา จนผ่อนรถหมด คือผ่อนไวมาก เรารู้สึกว่าชีวิตมันเปลี่ยน หมอบีพูดตรงนะ แล้วเพลงก็มาอีก มันไม่แป๊ก แล้วจะไม่ให้เชื่อหมอดูได้ไง ก็ลองดูอีกด้วยการขึ้นรายการใหม่ แฟนฉัน 1 คืน"

"ก็เกิดจากไอเดียที่ว่าเราเป็นเด็กรุ่นใหม่ที่ไม่ชอบตอแหลคน ผมไปเลื่อนดูไอจีดารา ก็เห็นว่าลงภาพปกติไลก์น้อย พอใส่บิกินี่ไลก์กันเป็นแสนเลย ก็เลยเอาไอเดียนี้มา ยังไงถ้าเห็นหน้าปกเราอยู่ในอ่างกับผู้หญิงก็คงจะเข้ามาดู มันไม่ผิดนะที่เรามีไอเดียแบบนี้ แต่ถ้ามองว่ามันดูอนาจารไหมก็แล้วแต่คุณแล้ว ซึ่งเรามีการเซฟอยู่แล้ว เราจะไม่มีมีคุกคาม เราจะไม่ทะลึ่งตึงตัง เราจะทะลึ่งแบบน่ารัก ฝรั่งเองเขาก็มีใส่บิกินี่เล่นน้ำกับเพื่อนนะ ไม่แปลก เราไม่ทะลึ่งไปเรื่องเซ็กส์ แต่ก็ขึ้นไว้ว่า 18+ เพื่อความหน้าสนใจ สเต็ปต่อไปเราจะทำรายการเด็กด้วย หาทำไปเรื่อยเปื่อย ฟุ้งไปเรื่อย แล้วก็ลองทำดู มันไม่มีอะไรเสียหายถ้าเราจะลองทำก่อน ไม่เวิร์กก็เลิก แยกย้าย”

ความปังฉุดไม่อยู่ทำให้เกิดรายการใหม่ชวนดาราลงอ่าง “แฟนฉัน1คืน”
“เราชอบลงอ่าง เลยคิดว่าทำก็น่านะดี เลยเกิดรายการแฟนฉัน 1 คืนขึ้นมา ผมจะเป็นคนโทร.เอง ผู้หญิงเขาไม่ได้กลัวเรา เราตลกไง ไม่ได้มีซิกแพ็ก ผมจะโทร.ไปบอกว่าเธอในไอจีน่ารักมาก อยากทำรายการ เราอยากให้คนดูหุ่นสวยๆ ของเธอ เราว่ามันน่าจะมานะ ความน่ารักของเธอดูเซ็กซี่ดี เขาก็จะตอบมาว่าเราต้องทำยังไงบ้าง ก็ดีลกัน"

"แต่จะบอกเขาว่าตอนจบลงอ่างกับเราหน่อย บางคนก็มาเลย อีแจ็ค!!! บางคนก็บอกจะดีเหรอ เราอ้วนอยู่ ต้องลดน้ำหนักก่อน มันก็ไม่ได้เสียหายอะไร มันก็เหมือนการเล่นน้ำกับเพื่อน เราไม่ได้มีความคิดไม่ดีกับเขา เราเองก็คิดว่าเขายอมมาให้เรา เราก็ไม่กล้าไปหื่นใส่เขา จิตใจเขาต้องใจกับเรามากนะ เขาถึงยอมทำให้เรา”

ยอมรับ มีกระแสก็ต้องถูกด่าบ้างเป็นเรื่องธรรมดา เตือนดารารุ่นน้อง เจอดรามาขอให้มีสติหากรู้ว่าพลาดควรขอโทษ
“คนด่าว่าสกปรก น่าเกลียด มันก็ไม่ผิดที่เขาจะด่าจะว่าเรา ผมว่าจริงๆ แล้วไม่มีใครที่จะชอบเราไปหมดหรอก ไม่มีทางเป็นไปได้ เพียงแต่ว่าเราแค่มีไอเดียแบบนี้ เราก็อยากลอง ถ้าวันนึงเราทำไปแล้วเราโดนด่ามากๆ เราต้องมานั่งทบทวนตัวเอง แค่ตอนนี้มันยังไม่ได้เสียหาย เราเองก็เซฟหลังบ้านเราด้วย อะไรที่เราไปถ่ายแล้วมันดูเยอะไป เราก็ตัดทิ้ง เราต้องเซฟแขกของเราก่อนไม่ให้มีดรามา

"เวลาเจอดรามาก็แก้ปัญหานั้นๆ ไปก่อน ถือว่าผมเตือนรุ่นน้องเรื่องดรามา หนึ่งเลยคือถ้าใครจะมาอยู่วงการนี้ 1-2-3 วันแรก มีสติก่อนนะ มีสติก่อน แล้วทบทวนว่าเพราะอะไร เราผิดใช่ไหม เราผิดจริงหรือเปล่า ผิดจริงต้องขอโทษ กระเช้าต้องมาแล้ว ไปฝึกไหว้ให้สวยๆ มันเป็นเรื่องปกติเลย เพราะเราพลาดไง”

นอยด์เวลาถูกต่อว่าเป็นคนหยาบคาย ไม่ตลก ประสบการณ์สอนหากเป็นพิธีกรตนจะไม่ตลกเลย จะเป็นคนระวังเรื่องปากไวมากๆ
“จะนอยด์กับเรื่องที่คนมาว่าผมหยาบคาย แล้วก็เรื่องโดนด่าว่าไม่ตลก เราก็เข้าใจเขานะ คือเราก็ไม่ได้ตลกไปทุกรายการไง ผมยังไม่รู้เลยว่าตัวผมเองเป็นคนตลกรึเปล่า มันอยู่ที่จังหวะเลย คุยรายการนี้ผมอาจจะตลก แต่ไปอีกรายการนึงผมเหนื่อยแล้ว ก็อาจจะไม่ตลก มันเกิดได้หมด ผมเป็นคนนะ ผมก็เป็นไปตามธรรมชาติของผม ผมก็ทำเท่าที่ได้ ผมก็เต็มที่ที่สุดของผมนะ ผมมองว่ามันเกิดได้หมด เราเพียงแค่ช่างมันกับบางเรื่อง เดี๋ยวมันก็หายไป แต่เราต้องทบทวนตัวเอง"

"แต่เรื่องที่ผมจะระวังมากที่สุดเลยคือความปากไว เวลาผมเป็นพิธีกร ไปรายการสด ผมจะไม่ตลก ต่อให้จะมีคนมาด่าว่าผมไม่ตลก ไม่เป็นไรเลย ผมไม่เสี่ยง เราต้องแยกแยะ พวกคอนเทนต์พวกนี้ผู้ใหญ่ดู เราต้องแยกแยะ มันจะมีที่เราจะแจมความตลกได้ คือช่วงที่แขกตลก เราก็จะไปแจมกับแขก แล้วไปพูดมากกว่าแขกก็ไม่ได้ คนเขามารอดูแขก เราเป็นพิธีกร เราพูดมากไปกว่างานไม่ได้ ก็ต้องเข้าใจตรงจุดนี้ เราเป็นพิธีกร เขาแค่อยากมารอดูแขก เราเองมีหน้าที่โยนคำถาม โยงอะไรต่างๆ เราต้องเข้าใจบริบทของการทำงานด้วย"

นี่คือสิ่งที่เราได้จากประสบการณ์การทำงาน พอได้ทำจริงแล้วเราจะเข้าใจว่าอันนี้เราทำได้ ทำไม่ได้ อันไหนมากไป อันไหนที่เราต้องลด”
เวลาที่เราทบทวนตัวเอง การเป็นคนปากหมาคือสิ่งที่อยากแก้ไขที่สุด
“ปากหมาครับ ผมปากหมามาก คิดอะไรโพล่งมาก่อนเลย บางทีเราไม่ได้เจตนาจะพูดหยาบ พูดไม่ดี แต่เราอยากให้คนขำ ก็ลองๆ โยนไป ผมไม่รู้หรอกว่าใครจะขำเราบ้าง ภาพผมเป็นคนตลก แต่ถ้าอยู่คนเดียวในวันว่างจะไม่เป็นคนขำเลย เป็นคนปกติ จะชอบไปส่อง ไปสืบว่าตอนนี้เขาบ้าอะไรกันอยู่ เขาสนใจอะไรกันอยู่ เราก็จะไปศึกษา เขาเล่นพระองค์ไหน ยังไง เสื้อผ้าแบบไหนที่เขาฮิต เราก็จะไปแล้ว ไปหา ไปดู อยู่ไม่ได้ครับ ออกไปมันทุกที่ ไปตามหา ผมเหงา ผมนิ่งไม่ได้เลย จะนิ่งก็คือตอนนอน กับอยู่บนลู่วิ่ง กับอยู่โรงพยาบาลให้น้ำเกลือ นอกนั้นชีวิตผมไม่นิ่ง ไม่มีวันหยุดเลยครับ เป็นแบบนี้มา 5-6 ปีแล้ว ไม่เคยไปเที่ยวต่างประเทศเลย"

"การเที่ยวของเราคือการทำงาน เราสงสารแฟนเรานะที่ไม่ได้ไปเที่ยวกับเขาเลย คืออยากจะบอกว่าเราไปมาหมดแล้วไง เรากินของอร่อยมากมาในรายการอาหารแล้วไง มันผ่านมาหมดแล้วไง เรากินของอร่อยมาแทบจะหมดแล้ว เราเที่ยวมาหมดแล้ว เราอิ่มเรื่องพวกนี้มาหมดแล้ว สิ่งที่เราจะตื่นเต้นคือการไปสะพานเหล็ก ไปหาของเล่น แต่เขาก็ไม่ไปกับเราไง”

ไม่อยากเป็นแค่ดาราอย่างเดียว เป้าหมายคือทำให้ตัวเองมีความสุขในทุกๆ วัน
“ผมมองว่าผมอยากทำ อยากเป็นอะไรหลายๆ อย่าง ผมอยากลองหลายๆ ทาง แต่ผมไม่ทิ้งละครนะ ผมไม่ดูถูกทุกอาชีพ ผมไม่ดูถูกทีวี ต่อให้ผมมาทางออนไลน์แล้ว แล้วผมโอเค มันทำเงินให้ผม มันได้เงินดีกว่าที่อื่นในอาชีพที่ผมทำอยู่ตอนนี้ แต่ผมไม่ดูถูกทีวีนะ เพราะผมเกิดมาจากทีวี ผมเกิดมาจากหนัง และผู้จัดทุกคน หรือเจ้าของช่องหลายๆ คนอาจจะมองว่าเด็กยุคใหม่จะมองว่าออนไลน์ดีกว่าทีวี แต่ผมไม่ได้มองแบบนั้นเลย ผมมองว่าทุกอย่างต่างมีดีในแบบของมัน"

"สำหรับอนาคตเป้าหมายชีวิตมองไว้ทำยังไงก็ได้ให้ตัวเองมีความสุขในทุกๆ วัน เป้าหมายสูงสุดของผมคือต้องมีทรัพย์สมบัติที่ให้คนที่ผมรักที่สุด เอาไปก่อนที่ผมจะตาย แต่อีคนที่ผมรักจะต้องผ่านอะไรต่างๆ ไปกับผมด้วย ต้องดูว่าเขาจะมาปลอมใส่ผมไหม ที่ผมทำทุกวันนี้ ยอมรับเลยว่ามันทั้งเหนื่อย ทั้งลำบาก แต่ผมก็อดทน เพราะผมรู้สึกว่าอาชีพอื่นหรืออะไรอื่นๆ ก็ลำบากไม่แพ้กัน หรือมันอาจจะมากกว่านี้ ผมก็จะทำให้เต็มที่ที่สุด แล้วผมเองก็มีความฝัน อยากที่จะทำอสังหาฯ อยากเป็นเสือนอนกินตอนแก่ ผมลูกคนเดียวไง แม่เราเราไม่ทิ้งอยู่แล้ว เราอยู่ไหนแม่ไปด้วยในทุกที่”



























กำลังโหลดความคิดเห็น