“เก้า จิรายุ” รอดทหาร เหตุร่างกายไม่สมบูรณ์ แพทย์ลงความเห็นว่าคลื่นไฟฟ้าหัวใจผิดปกติ มีภาวะเสี่ยงไหลตาย ห้ามออกกำลังกายหนัก เลยถูกจัดเข้าจำพวกที่ 4 คือพิการทุพพลภาพ หรือมีโรคซึ่งไม่สามารถรับราชการได้
วันนี้ (9 เม.ย. 65) “เก้า จิรายุ ละอองมณี”เดินทางพร้อมแม่ มาถึงวัดอยู่ดีบำรุงธรรม หรือวัดออเงิน เขตสายไหม เพื่อมารายงานตัวขอคัดเลือกทหารกองเกิน หลังจากที่เจ้าตัวได้ยื่นผ่อนผันมาแล้ว 4 ครั้ง โดยครั้งล่าสุดเมื่อปีที่แล้ว (2564) เจ้าตัวได้ตัดสินใจจะสมัครเข้ารับใช้ชาติ แต่เนื่องจากร่างกายไม่สมบูรณ์ โดยได้นำใบรับรองแพทย์มายื่นกับเจ้าหน้าที่ ซึ่งระบุในเอกสารว่าเป็นคลื่นไฟฟ้าหัวใจผิดปกติ จึงจัดให้อยู่คนจำพวกที่ 3 ให้มารายงานตัวอีกครั้งในปีนี้
โดยในวันนี้ เจ้าตัวได้นำเอกสารใบรับรองแพทย์จากโรงพยาบาลพระมงกุฏเกล้า มายื่นต่อแพทย์จากโรงพยาบาลทหารที่ประจำการที่ศูนย์ โดยแพทย์ได้ลงความเห็นว่า คลื่นไฟฟ้าหัวใจผิดปกติจริง จึงถูกแยกไปจำพวกที่ 4 พิการทุพพลภาพหรือมีโรคที่ขัดต่อการรับราชการทหาร ซึ่งเจ้าตัวก็เผยว่าเกิดการการที่ตนพักผ่อนน้อย และน่าจะมีอาการมานานแล้ว เพียงแต่เพิ่งตรวจพบเท่านั้น
“จริงๆ ผมก็ไม่ได้คิดอะไรเลยปีนี้ เราตั้งใจว่าถ้าไม่มีปัญหาอะไรเราก็สมัครครับ สมัครไปแล้วด้วย แต่มันติดเรื่องร่างกายนิดหน่อย ทีแรกก็เป็นประเภทที่ 3 ครับ เพื่อที่จะเผื่อไปเช็กอาการดูว่ามันจะดีขึ้นไหม พอไปเช็กกับทีมแพทย์วันนี้เขาก็บอกว่าผลมันออกมาเหมือนเดิม เขาก็เลยบอกว่าให้เป็นประเภทที่ 4 ไปเลย ถามว่าอาการนี้เกิดขึ้นตั้งแต่เมื่อไหร่ ก็เหมือนเราตรวจร่างกาย เข้าโรงพยาบาลปกติ เหมือนเราพักผ่อนน้อย เขาก็ตรวจเช็กอัปทุกอย่างที่เกี่ยวกับหัวใจถึงเจอ เพราะถ้าตรวจปกติไม่เจอ ก็ต้องตรวจเป็นคลื่นไฟฟ้าหมอทางหัวใจโดยตรงเขาเป็นคนทำ ผมก็ไม่ทราบว่ารายละเอียดมันประมาณไหน
ที่ผ่านมาก็มีเรื่องของการวูบครับ ผมก็ไม่ทราบเหมือนกันว่ามันยังไง แต่หมอก็บอกว่าเป็นไปได้ที่จะเกี่ยวข้องกัน เขาก็ให้ระวังไว้ก่อน มันก็มีความเสี่ยงเกี่ยวกับพวกไหลไปเลยอะไรแบบนี้ ซึ่งใบรับรองแพทย์ของผมมันเกี่ยวกับคลื่นไฟฟ้าหัวใจ ให้เราพยายามไม่ออกกำลังกายหนัก แล้วก็พักผ่อนให้เพียงพอ จริงๆ มีอีกหลายอย่าง แต่หลักๆ ก็ประมาณนี้ครับ คือมันไม่ใช่รักษาด้วยการกินยา จริงๆ เกิดมามันเป็นแบบนี้มาอยู่แล้ว เราแค่เพิ่งมาเจอเฉยๆ ก็ไม่ได้อะไร เขาว่าให้ทำยังไง เราก็ทำตามระเบียบเขาไป จากนี้ก็ต้องไปตรวจตามอาการครับ แต่ปกติผมไม่ชอบไปตรวจสุขภาพ เป็นคนไม่ชอบเข้าโรงพยาบาลเลย ถ้าไม่จำเป็นจริงๆ หรือไม่ไหวจริงๆ ผมไม่เข้าหรอก แต่จากนี้ก็คงต้องเช็กอัปเรื่อยๆ ครับ”
บอกไม่กระทบงาน เพราะไม่ได้รับงานอะไรไว้ล่วงหน้า
“จริงๆ วันนี้ผมแล้วแต่ดุลยพินิจของที่นี่เลย คือเราตั้งใจว่าเราจะไม่จับใบดำใบแดงอยู่แล้ว ถ้ามันผ่านเราก็สมัครไปเลยดีกว่า จริงๆ ถ้าเกณฑ์ก็เป็นช่วงต.ค.ไปแล้ว เพราะฉะนั้นหลังจากช่วงต.ค.ผมก็ไม่ได้มีอะไรที่รับไว้ก่อนอยู่แล้วครับ ก็เลยไม่ต้องเคลียร์อะไรงานตอนนี้ก็ยังทำปกติ เพราะถ้าต้องเกณฑ์ก็อีกตั้ง 6 เดือน ผมก็เลยไม่ได้เคลียร์งานอะไรล่วงหน้า ไม่ได้รับงานล่วงหน้านานขนาดนั้นด้วย จริงๆ ถ้าไม่มีผลตรวจปกติ ผมก็จะสมัครเลย จริงๆ ผมก็ทำตามกฎได้ทุกอย่างครับ คือผมเฉยๆ กลางๆ กับการเป็นหรือไม่เป็นก็ได้ ก็ตามกฎหมายที่เขาบัญญัติไว้แล้ว ผมก็ทำได้แค่นั้น”
