xs
xsm
sm
md
lg

“ครูปุ้ม” สุดกลั้นน้ำตา 4 ปีที่รอคอยได้รักกลับคืน “ครูชลธี” หมดตัว 10 ล้าน ซึมเศร้า อยากฆ่าตัวตาย

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



เรียกว่าเป็น 4 ปีที่รอคอย สำหรับ “ครูปุ้ม ศศิวิมล ทองมา” หลังจากที่ตกเป็นข่าวครึกโครมสะเทือนวงการ กรณี “ครูชลธี ธารทอง” ครูเพลงและศิลปินแห่งชาติ สะบั้นรัก ฟ้องหย่า แต่สุดท้ายครูชลธีได้กลับมาขออยู่เป็นครอบครัว ที่ จ.กาญจนบุรี ตั้งแต่เดือนมีนาคม พร้อมสารภาพว่าทำผิดศีลข้อ 3 โทษตัวเองทุกวันว่าทำอะไรลงไป โดยกลับมาในสภาพไม่เหลืออะไร เงินหลักล้านเหลือติดตัวไม่ถึงหลักหมื่น รถเบนซ์ก็ถูกนำไปขาย การได้กลับมาหาครอบครัวเป็นสิ่งที่ดีที่สุด

ล่าสุด ครูปุ้ม และครูชลธี ได้เปิดใจผ่านรายการ “คุยทะลุดราม่า” ดำเนินรายการโดย “ปอเปี๊ยะ กาลเวลา” ออกอากาศทางช่องเวิร์คพ้อยท์ โดยเผยว่าเป็น 4 ปีที่รอคอย ที่ผ่านมาเหมือนตกนรก

ปุ้ม : วันที่ 15 มี.ค. ครูชลธีก็โทร.หา บอกว่าพ่อจะกลับบ้าน แม่ก็ถามว่าเกิดอะไรขึ้น เขาก็พรั่งพรูปัญหาที่ไม่สามารถออกสื่อได้ แต่สักพักเขาก็ปิดมือถือ เราก็คิดว่าเราโดนหลอกอีกแล้ว สักพักครูโทรมาใหม่ บอกว่าอยู่ไหน เขาอยู่กลางสนาม มารถสีดำ แล้วรถเบนซ์ไปไหน เขาบอกว่าขายแล้ว พ่อขับรถไปหาปุ้มนะ พอขับมาที่ตึกก็เห็นสภาพแบบนี้ ก็ตกใจมาก ทำไมโทรมขนาดนี้ สภาพที่เห็นตามคลิป ประโยคแรกที่ทัก ก็ถามว่าเกิดอะไรขึ้น

ชลธี : ก็บอกว่าพ่อกลับมาแล้ว จะอยู่กับปุ้ม ไม่ไปไหนอีกแล้ว สิ่งที่ผ่านมา 4 ปี มันเหมือนตกนรก เชื่อว่าที่บ้านจะมีสวรรค์รออยู่ จะมีคนดูแล ที่เราตั้งใจดีๆ ก็ต้องได้ดีตอบ ผมกลับมาก็บอกเขาว่ายังรักเขาอยู่

ปุ้ม : คำว่ารักที่ไม่ได้ยินมานานถึง 4 ปี คิดว่าฝันไป พยายามตบหน้าตัวเอง

หมดเงินเกือบ 10 ล้าน รถเบนซ์ก็ไม่เหลือแล้ว
ชลธี : จากเงิน 8 ล้าน เหลือเงิน 8 พัน ไม่ถึงหมื่น

ปุ้ม : พร้อมความเจ็บป่วยที่พี่ปุ้มต้องดูแล

ชลธี : มาใหม่ๆ อาการแย่ตลอด ขับรถไปก็เวียนหัวไปเหมือนเป็นไข้ ร่างกายไม่ดีเลย พอมาถึงโรงเรียนของครู เห็นเขา กำลังใจผมก็มา ก็บอกตัวเองว่าเราคงไม่ตายแล้วล่ะ เพราะบรรยากาศมันดี เขายังคิดถึงเราอยู่ เหมือนที่เราคิดถึงเขา แต่เราคิดถึงเขามากกว่า ผมก็จอดรถแล้วเดินไปหาเขา

ปุ้ม : สภาพเขาแขนซ้ายพุพองเลย

ชลธี : ไม่มีใครดูแล ไม่มีใครสนใจเลย เขามองผมเหมือนไม่มีค่า ผมถามตัวเองว่านี่ฉันเป็นอะไรวะ ทำไมต้องมาเป็นที่รองรับอารมณ์ชาวบ้าน ผมไปอยู่ที่นั่นวันแรก มีเงินไปเกือบ 10 ล้าน อีกสักพักก็หายไปเรื่อยๆ เรารู้ว่าเงินทยอยหาย แต่เราแกล้งทำเป็นไม่รู้

ปุ้ม : ช่วงป่วยก็เป็นโทรศัพท์เครื่องใหม่ เจอสลิปการโอน จากแอปฯ ธนาคาร โอนไป 2 หมื่น 3 หมื่นในวันเดียวกัน บางวันไม่ต่ำกว่า 5 หมื่น โอนติดๆ กัน จนวินาทีสุดท้าย 14 มีนา แต่เราไม่รู้ใครโอน ครูอาจแอบโอนเองก็ได้ เราไม่รู้ แต่หมดเลยค่ะ ครูไม่เคยจนขนาดนี้ โชคดียังมีบัญชีอื่นที่เราเก็บไว้ ทราบข่าวว่าถึงขั้นจะเอาบ้านหลังที่เราอยู่ไปขายอีก แต่ไม่รู้ใครคิดนะ นี่ครูเล่าให้ฟัง จะขายบ้านเราไปซื้อบ้านหลังใหม่ ไปอยู่กับใครไม่รู้

การต่อสู้ของครูปุ้ม และความรู้สึกของ “เมียหลวง”
ปุ้ม : ตอนนั้นโกรธนะ พยายามถามครูชลตลอดว่าเราผิดอะไร เขาไม่ตอบ เขามาศาลก็ไม่คุยกับเรา ครูชลขึ้นไปกับเลขาฯ นึกภาพตรงนั้น ความรู้สึกเมียหลวง เราก็โกรธ ทำได้เว้ย ประมาณนี้ 4 ปีบอกเลยว่าต้องต่อสู้ เราเป็นคนที่ความถูกต้องต้องมาก่อน ในโซเชียลบอกว่าเขาหมดรักแล้วทำไมไม่หย่า เหมือนตำหนิเรา จะเหนี่ยวรั้งดื้อดึงทำไม แต่จิตสำนึกเรารู้ดี ว่าคนนั้นไม่ได้มาดี ยังไงครูต้องซมซานกลับมา และไม่มีใครอยู่กับครูได้ นอกจากเรา เราถึงต่อสู้ทุกอย่าง จนความยุติธรรมเกิดขึ้น และเราก็ชนะทุกอย่าง ล่าสุดไม่ได้เปิดเผยที่ไหนมาก่อน เมื่อวันที่ 4 เม.ย. ก็ฟ้องครั้งที่สอง แต่อีกฝ่ายไม่ได้ยื่นคำให้การใดๆ ก็สืบฝ่ายเดียว สืบทางออนไลน์ ศาลก็ตัดสินให้อีก 3 แสน จาก 3 ล้านก่อนหน้านี้ ชนะอีกได้เพิ่มอีก 3 แสน

บ่อยครั้งร้องไห้คนเดียว
ปุ้ม : ครั้งแรกที่ครูชลไปใหม่ๆ เหตุการณ์นี้ไม่มีใครรู้ เราเป็นครอบครัวอบอุ่นตลอด ไม่เคยบอกใคร มีแค่คนดูแลที่สนิท เรานอนแบบจะอยู่เพื่อใคร นอนแบบน้ำตาไหล (ร้องไห้) ถ้าไม่ลุกขึ้นมาสู้ก็ตายนะ ตอนนั้นเราไม่อยากมีชีวิตอยู่ ยิ่งเฟซบุ๊กครูชล ใช้รูปคู่กัน ไปไหนด้วยกัน สนุกสนานมาก คิดดู พาครูไปลำปาง ไลฟ์สดตั้งแต่บ้านถึงลำปาง สนุกสนาน ให้เมียนอนอยู่บ้าน จริงๆ แล้วไม่ใช่การกระทำของครูหรอก เขาเจตนาให้เราได้เห็น

ร้องไห้มา 4 ปี ทุกครั้งที่นึกถึงเรื่องนี้น้ำตาไหลออกมาเอง เราห่วงครู ห่วงทุกอย่าง ห่วงชื่อเสียง ยิ่งเห็นในคอมเมนต์ต่างๆ ทำไมครูถึงเป็นถึงขนาดนี้

ชลธี : ผมว่าเขามีสิทธิ์ร้อง คนเราต้องระบายออก อย่าไปอัดอั้น แล้วจะหมดไปเอง แต่ที่ผมคิด ผมบอก อยากบอกให้รู้ว่าหมดเวลาร้องแล้ว หยุดเถอะ เพราะต่อจากนี้ไม่เหมือนเก่าแล้ว ทุกอย่างกลับมาหมดแล้ว

โล่งใจวันที่กลับมา แต่ยังหวาดระแวง
ปุ้ม : ตอนนั้นยังหวาดระแวงอยู่ว่าจริงไหม มาหลอกเราอีกไหม แต่ ณ วันนี้รู้แล้วว่าคงไม่ไปไหนแล้ว ไปก็คงไม่ไหวแล้ว เขาตัดขาดแล้วกับอดีตที่ผ่านมา

ชลธี : อดีตผ่านไปถือว่าเป็นบทเรียน คิดว่าคงไม่เจอมันอีก ผมเชื่อเขาอย่าง เขาเป็นคนซื่อ ผมเป็นคนคิดเยอะเอง

ชีวิตใหม่ของครูชลธี เผยซึมเศร้า คิดฆ่าตัวตาย เขียนพินัยกรรมกลางรายการ
ปุ้ม : ตอนนี้ต้องดูแล ล้างแผล ทายาให้ทุกวัน ดูแลอาบน้ำแต่งตัว เพราะครูไม่คล่องเรื่องการดำเนินชีวิต ต้องอยู่กับครูตลอด เป็นทั้งภรรยา พยาบาล แม่บ้าน คนรับใช้ เป็นทุกอย่าง (หัวเราะ)

ชลธี : ลิขสิทธิ์เพลงก็ให้เขาดูแล เพราะผมอายุมากแล้ว ป้ำๆ เป๋อๆ

ปุ้ม : ปกติดูแลตลอดอยู่แล้ว แต่ 4 ปีมีคนอื่นมาจัดการ ตอนนี้กลับมาทุกอย่างแล้ว ซึ่งที่ผ่านมามีคนมาปรึกษาเยอะมาก เรื่องบ้านเล็กบ้านใหญ่ ก็จะตั้งกองทุนช่วยเมียหลวงอยู่ ตรงนี้เป็นจุดประสงค์หลัก อยากทำงานตรงนี้ ในเมื่อเรามีประสบการณ์ สัญญาจะดูแลครูชลและลูก 2 คนอย่างดี เมื่อวานเกิดเหตุการณ์สงสารครู ครูมีสภาวะค่อนข้างซึมเศร้า เจอคอมเมนต์แรงๆ ด่าคุณครู ก็อยากบอกว่าท่านมีสิทธิ์ด่า แต่ให้อยู่ในขอบเขต อยากให้มองเห็นคนๆ นึงที่เขาทำผิดพลาด และสำนึก เมื่อวานท่านซึมเศร้าเลยและบอกว่าอยากฆ่าตัวตาย ก็อยากฝากคนโพสต์แรงๆ อยากให้เรียนรู้เรื่องพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์นิดนึง เราไม่ได้อยากฟ้อง แต่อยากให้นึกถึงสภาพจิตใจคนๆ นึง เราอยู่กับครูมาตลอด ก็สงสารครู (ยกมือไหว้) ไม่ได้ตำหนิใครนะ แต่มันเห็นหมดหน้าเฟซใคร ตอนนี้สภาพจิตใจครูแย่มาก กำลังเยียวยาตัวเอง

ชลธี : ลิขสิทธิ์เพลง 5 พันเพลงจะให้ครูปุ้มดูแล ถ้าล้มหายตายจาก ให้แบ่งค่าลิขสิทธิ์ 3 ส่วน ส่วนหนึ่งให้ครูปุ้ม อีกสองส่วนให้ลูกชาย 2 คน











กำลังโหลดความคิดเห็น