“จีน่า เดอะเฟซ” ฟ้องสไตลิสต์ด่ามิจฉาชีพ เพราะเกินเรื่องไปมาก ชดใช้ไม่ถึงล้าน ไม่ต้องร่วมงานกัน

“จีน่า เดอะเฟซ” ฉะสไตลิสต์ด่าเป็นมิจฉาชีพ เกินเรื่องไปมาก ฟ้องเพราะอีกฝ่ายต้องรับผิดชอบในสิ่งที่ทำ เรียกค่าเสียหายไม่ถึงล้าน ให้ขอโทษทุกช่องทางที่เขียนด่าตน ย้ำทดแทนความรู้สึกไม่ได้ ไม่มีอะไรต้องร่วมงานกัน ยอมรับคลั่งรัก “ทอย” ชมน่ารัก โลกสีชมพู อวยเป็นผู้ชายละมุนไม่ยกให้ใคร เขินเองหวานใจเลิฟซีนกับผู้ชาย ถึงพริกถึงขิง สุดยอด

หลังจากที่โดนดรามาหนัก กรณี “จีน่า เดอะเฟซ” หรือ “วิรายา ภัทรโชคชัย” ได้ขอให้สไตลิสต์คนหนึ่งช่วยออกแบบชุดวาเลนไทน์ให้ แต่พอสเก็ตไฟนอลเสร็จกลับไม่จ้าง ต่อมาปรากฏว่าจีน่าสวมชุดคล้ายกับที่สไตลิสต์คนดังกล่าวออกแบบให้ลงในอินสตาแกรม จนสไตลิสต์ชื่อดังอีกคนที่รู้ข่าวนี้ถึงขั้นประกาศแบน ซัดแรงว่าเป็นนางแบบหรือมิจฉาชีพ จนนำไปสู่การฟ้องร้องสไตลิสต์ จนอีกฝ่ายประกาศขอโทษจีน่า พร้อมยอมชดใช้ค่าเสียหายให้

ล่าสุดในงานเปิดตัวซีรีส์แนวแอ็กชั่นคอมเมดี้ Mafia The Series GUN & FREAKS (มาเฟียเดอะซีรีส์ ปืนกลและคนเพี้ยน) ณ ลานพาร์ค พารากอน ศูนย์การค้าสยามพารากอน จีน่าก็ได้เคลียร์ประเด็นนี้ ก่อนย้ำว่าสิ่งที่อีกฝ่ายขอโทษ และจ่ายค่าชดใช้ ทดแทนความรู้สึกไม่ได้

“เรื่องชุดวันวาเลนไทน์สีแดง ก็ได้เคลียร์กันหมดแล้วเรียบร้อยค่ะ ตามที่แจ้งไว้ในไอจีเลย ขออนุญาตพูดชื่อบุคคลที่เกี่ยวข้องในเรื่องนี้นะคะ คือพอเรารู้เรื่องก็ติดต่อน้องบูมทันทีค่ะ ก็ได้เจรจาพูดคุย เคลียร์และขอโทษทุกอย่างที่น้องติดใจ ก็ได้เคลียร์กันเรียบร้อยค่ะ

ส่วนเรื่องเข้าใจผิดนี่หนูไม่รู้ แต่ตัวหนูกับน้องแบงบูมได้เคลียร์กันแล้วเรียบร้อย แยกเรื่องนะ ส่วนเรื่องของพี่ฮิปโปที่ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องเรื่องนี้ และตัวจีน่าเองก็อย่างที่แจ้งไปว่าไม่เคยร่วมงานหรือว่าจ้างเขามาเป็นสไตล์ลิสต์ส่วนตัว หรือออกแบบชุดส่วนตัวเลย ไม่เคยนะคะ อันนั้นก็อยู่ในส่วนที่เราได้ทำการฟ้องร้องข้อหาหมิ่นประมาทค่ะ” 

โต้ไม่ใช่มิจฉาชีพ ไมได้ขโมยชุดใคร
“(เขาพูดเหมือนเราเป็นมิจฉาชีพ?) ใช่ๆ หนูไม่ได้เป็นมิจฉาชีพ และหนูก็ไม่ได้ขโมยชุดใคร หรืองานใคร ตอนเห็นข่าวก็ตกใจ ตอนที่หนูเห็นข้อความที่เขาได้โพสต์ว่าเป็นนางแบบ นักแสดง หรือมิจฉาชีพ อันนั้นก็ทำให้เรารู้สึกว่ามันเกินเรื่องไปมากๆ เลย และทำให้เราได้รับความเสียหายมาก มีผลกระทบต่อเรื่องงานมากๆ ก็เลยปรึกษาผู้ใหญ่ที่เราเคารพและเอ็นดูเราโทร.มาบอกว่าแบบนี้ควรจะฟ้องร้อง เราก็ตัดสินใจอยู่นานมาก เพราะเรารู้จักกัน เราก็ไม่อยากจะไปขึ้นศาลกับคนที่รู้จัก สุดท้ายเรื่องมันบานปลายไปมาก 3 วันได้ ก็เลยตัดสินใจว่าฟ้องแล้วกัน คนเข้าใจผิดแบบเกินเรื่องไปมากๆ เลย

ถ้าถามผลกระทบหนูเรื่องงาน ผู้ใหญ่ในวงการ และพวกสไตล์ลิสต์ หรือดีไซเนอร์เขาก็ได้โทร.ตรงถึงผู้จัดการของหนู บางคนที่สนิทมากก็โทร.ตรงหาเราเลยว่าจริงไหม เป็นยังไง นี่คือผู้ใหญ่ที่เขาได้ทำการถามไถ่ก่อนว่าเรื่องจากฝั่งเราเป็นยังไง พอเราได้อธิบายเขาก็เก็ต ให้เราทำในส่วนที่เราอยากทำเลย”

คดีสิ้นสุดแล้ว คู่กรณีต้องขอโทษในติ๊กต๊อก เฟซบุ๊ก ไอจี สตอรี่ ทุกช่องทางที่เขียน ค่าเสียหายไม่ถึงล้าน
“ตอนนี้สิ้นสุดแล้วค่ะ จบ คือทางเขาก็ต้องออกมาขอโทษ และไลฟ์ขอโทษในติ๊กต๊อก โพสต์ขอโทษในเฟซบุ๊ก และในสตอรี่ไอจีค่ะ และมีค่าใช้จ่ายนิดหน่อยค่ะ ไม่ถึงล้าน แต่พอเราได้คุยกันต่อหน้าศาล ก็มีการลดหย่อนให้ค่ะ เพราะเราก็คนรู้จักกัน ก็หลายแสนค่ะ แต่ศาลท่านก็ลดให้ เราก็ให้ขอโทษในช่องทางที่เขาออกมาเขียนถึงเราค่ะ ก็จะมีในติ๊กต๊อก เฟซบุ๊ก และอินสตาแกรม” 
 
ย้ำไม่เคยจ้างเป็นสไตลิสต์ส่วนตัว ไม่มีอะไรที่ต้องร่วมงานกันอยู่แล้ว
“ตัวหนูกับพี่ฮิปโปต้องบอกว่าหนูไม่เคยว่าจ้างหรือจ้างเขามาเป็นสไตล์ลิสต์ส่วนตัวหรือออกแบบชุดส่วนตัวอยู่แล้ว เพราะฉะนั้นก็ไม่ได้มีอะไรที่จะต้องร่วมงานกันอยู่แล้วค่ะ ถามว่าพอใจไหมกับเงินค่าเสียหาย กับสิ่งที่เขาโพสต์ขอโทษ เอาตามความจริงมันไม่มีอะไรทดแทนกันได้ แต่หนูว่าเขาก็ต้องรับผิดชอบในส่วนที่เขากระทำ

ส่วนกับน้องแบงบูม คุยกันตั้งแต่วันแรกเลยที่รู้เรื่อง ก็ได้มีการโทร.ตรงพูดคุยกันเลยว่าข้องใจตรงไหน ไม่เข้าใจตรงไหนให้บอก เราผิดพลาดตรงไหน ตามที่ชี้แจงในไอจีเลย คือพอได้พูดคุยกันว่าเปลี่ยนคนนะ เธอไม่บอกฉัน ก็พูดคุยตามประสาคนที่ทำงานด้วยกัน และค่อนข้างที่จะรู้จักและสนิทกันค่ะ เราก็ยื่นไปว่าจะให้เราทำอะไรไหม ขอโทษผ่านสื่อไหม หรือว่าค่าใช้จ่ายอะไรไหม หรือลบรูปไหม ทั้งนี้น้องแบงบูมเองก็น่ารักมาก บอกว่าไม่ต้องการอะไรเลย ฉันเคลียร์ใจกับเธอ บูมก็เข้าใจแล้วว่าเจตนาไม่ได้คิดไม่ดี ก็เลยจบกันตรงนั้น แต่เขาก็บอกว่าเขาไม่สามารถหยุดสถานการณ์ของพี่ฮิปโปได้ เพราะฉะนั้นก็ให้เป็นฝั่งพี่ฮิปโปไปเคลียร์เอง

เราจ่ายค่าออกแบบไปแล้วด้วยค่ะ แต่ก็จ่ายตามจำนวนเต็มที่เราเคยร่วมงานกัน ไม่ใช่แค่ค่าออกแบบ ซึ่งตัวจีน่าก็โทร.ไปบอกว่าอยากได้แบบไหน”

ร่วมงานกับสไตลิสต์คนต่อไป ต้องดูที่เจตนา
“อย่างวันนี้หนูก็มีสไตล์ลิสต์ตัดชุดให้ค่ะ (ยิ้ม) จริงๆ หนูว่ามันต้องดูที่เจตนาด้วยค่ะ ก็ขอบคุณผู้ใหญ่ทุกคนเลยที่เข้าใจและเอ็นดูหนูมากๆ ขอบคุณมากๆ เลยค่ะ (ยกมือไหว้) ก็ยังมีคนเข้าใจสถานการณ์ ถ้าได้ฟังเรื่องตั้งแต่ต้นจนจบโดยที่ไม่ได้ใช้อารมณ์เลย และฟังทั้งสองฝ่ายจากตัวหนูและตัวน้องแบงบูมเองที่ไม่ใช่พี่ฮิปโป หนูเชื่อว่าทุกคนเข้าใจค่ะ”

รับ “ทอย ปฐมพงศ์ เรือนใจดี” เครียดแทนตน
“ก็มีบ้างค่ะ แต่ก็ด้วยความที่ผู้ชายแหละ เขาก็จะไม่ค่อยได้แสดงว่าเขารู้สึกอะไรมาก แต่เขาก็จะบอกว่า 1 2 3 ต้องยังไง ก็มีปรึกษาเขาด้วย พอโทร.หาน้องแบงบูมเสร็จ ก็สายตรงถึงเลยว่ามันเกิดเรื่องนี้ๆ และเล่าตั้งแต่ต้นจนจบ ส่วนเขาแนะนำอะไร ก็ขอเก็บไว้สองคน (ยิ้ม)”

รักแฮปปี้ ฝ่ายชายน่ารัก โลกสีชมพูตลอด ดิฉันคลั่งรัก
“ความรักแฮปปี้ค่ะ ก็ขอบคุณทอยด้วยที่น่ารักค่ะ เขาเสมอต้นเสมอปลายค่ะ อยู่กับเขาก็โลกสีชมพูตลอดเวลาค่ะ (หัวเราะ) ถามว่าคลั่งรักไหม มันก็เหมือนทุกคู่แหละ ดิฉันคลั่งรัก จริงๆ กว่าจะลงตัวกันก็นานพอสมควรค่ะ ด้วยความที่เราค่อนข้างแมนมาก ก็ต้องลดลงมาเยอะมากๆ ในความแมนนี้ แต่ตอนนี้ก็บาลานซ์กันแล้วโดยที่ไม่ได้รู้สึกอึดอัด หรือว่าจะต้องมีการลดหย่อนตัวเองลง ตอนนี้เหมือนทุกอย่างมันลงล็อกแล้วค่ะ”

ชมเล่นเลิฟซีนถึงพริกถึงขิง สุดยอด เขินเองอีกฝ่ายเลิฟซีนกับผู้ชาย อวยเป็นผู้ชายละมุน ไม่ยกให้ใคร
“ถามว่าได้ดูละครเขาไหม อย่าเพิ่งถามเรื่องนี้ ยังไม่ได้ดู เดี๋ยวโดน (หัวเราะ) ตัดตรงนี้ออกได้มั้ย เพราะเขาก็ถามอยู่ จริงๆ ก็ได้ดูตามที่เขาตัดมาค่ะ มีเลิฟซีนถึงพริกถึงขิง ก็จะขอชมผ่านสื่อได้ไหม เรื่องนี้เป็นเรื่องที่เขาเล่นได้สุดยอดมาก เวลาเขาเลิฟซีนกับผู้ชายก็เขินนะ ทำไมหนูเขินไม่รู้ ไม่หัวร้อน แต่มันเป็นฟีลอุ้ย (ยิ้มเขิน) ส่วนคนชมเขาว่าละมุน เนอะ แต่ตัวจริงเขาก็เป็นอย่างนี้ คือครึ่งนึงเขาจะมีความละมุนมาก เขาค่อนข้างมีนิสัยผู้หญิงมากๆ เลย แต่อีกมุมนึงเขาจะมีความกวน ผสมๆ กันแล้วแต่สถานการณ์ ถามว่าผู้หญิงอยากได้ผู้ชายแบบนี้ ใช่ไหม ถามว่าให้ไหม ก็ให้แค่ในละครพอ (ยิ้ม)”