“เมย์ เฟื่องอารมย์” ตื่นเต้น เป็นผู้จัดละครช่อง 3 เรื่องแรก ลั่นใจสั่นไปหมด ไม่ได้รู้สึกแบบนี้นานแล้ว ลุ้นกับงานชิ้นนี้ จนเส้นเลือดในตาแตก แต่เป็นความเครียดที่มีความสุข
แม้จะเคยผ่านงานผู้จัดมาบ้าง แต่พอผันตัวเองมาเป็นผู้จัดละครให้ช่อง 3 เรื่องแรก ก็ทำเอา “เมย์ ปทิดา กำเนิดพลอย” หรือ “เมย์ เฟื่องอารมย์” ออกอาการตื่นเต้นอยู่ไม่น้อย โดยละครเรื่อง “ปมเสน่หา” กำลังจะออกอากาศทุกวันพุธ-พฤหัสบดี เวลา 20.30 น. ทางช่อง 3 กด 33 เริ่มวันแรกพุธที่ 6 เมษายนนี้ ซึ่งเมย์เล่าว่าตอนนี้นอกจากเลี้ยงลูกแล้วก็มีงานเบื้องหลังนี่แหละที่ตนทุ่มสุดตัว ส่วนงานเบื้องหน้านั้นตอนนี้ยังหาโอกาสงานเบื้องหน้าให้ตัวเองไม่เจอ
“ก็คิดถึงนะ แต่พอเราได้มาทำตรงนี้ก็ชอบแบบนี้เหมือนกัน ก็ชอบอยู่ข้างหลัง เราได้บอกคนอื่นให้ทำอย่างนั้นอย่างนี้ อยากให้เขาดีดั่งใจ อยากให้เขาสวยหล่อ โดยที่เมื่อก่อนเราจะเป็นฝ่ายทำตามที่เขามาบอกให้เราเป็นอย่างนั้นอย่างนี้ แต่ถามว่าคิดถึงข้างหน้าไหมก็คิดถึง แต่ก็ชอบแบบนี้แล้ว
ไม่กล้าบอกว่าลาเบื้องหน้าแล้ว แต่ยังหาโอกาสเบื้องหน้าในด้านการแสดงไม่เจอดีกว่า มีคนติดมาชวนเล่นละครอยู่เหมือนกัน แต่เป็นที่ตัวเรายังไม่พร้อมที่จะเล่นละครด้วย หนึ่งเมนหลักของเมย์ก็คือเป็นคุณแม่ ต้องดูแลลูก สองเมย์มีธุรกิจ สามคือการเป็นผู้จัดละคร ก็จะมีการประชุม การเตรียมงาน ทั้งหมด 3 อย่างนี้ก็เต็มที่แล้ว ถ้าจะมีอย่างที่สี่ ทำงานเบื้องหน้าเล่นละครยาวๆ เมย์คิดว่าไม่น่าได้”
ตื่นเต้นกับการเป็นผู้จัดละครช่อง3 ครั้งแรกในเรื่อง “ปมเสน่หา”
“ตื่นเต้นค่ะ ลุ้นมาก ไม่เคยใจเต้น ใจสั่นขนาดนี้มานานมากแล้ว ยิ่งละครใกล้จะออนแอร์หัวใจมันยิ่งเต้นตุ๊บๆๆๆ มันจะรัวๆ ไม่ได้มีความรู้สึกนี้มานานมากแล้ว ปมปริศนาก็เป็นละครดรามา แซบๆ ครบทุกรส ตอบโจทย์คนดูละคร
ตอนตัดทีเซอร์ก็เครียดมาก เพราะเราคาดหวัง ด้วยงานที่เราทำเอง เราสร้างมันมา ก่อทุกอย่างรวมมันขึ้นมาเป็นงาน เราทำมันทุกขั้นตอนจริงๆ มันมีความคาดหวังอยู่แล้ว พอได้มาเห็นเป็นชิ้นงานจริงๆ มันก็ตื่นเต้น เราอยากให้มันดี เราไม่ได้จ้างๆ แล้วก็ปล่อยไปให้คนอื่นทำ นี่เราตั้งใจทำ เราตั้งใจกับมันทุกขั้นตอน เรามองแล้วมองอีก มองซ้ายมองขวา เรากังวลว่ามันจะดีไหม มันจะได้ไหม พอตั้งใจมาก ความคาดหวังมากมันเลยตามมาแบบไม่ได้ตั้งใจ เราก็ลุ้น คาดหวังกับฟีดแบ็ก เราอาจจะคิดว่ามันดีที่สุดแล้ว แต่คนอื่นเขาอาจจะเฉยๆ กับมันก็ได้ เราก็กลัวจะเป็นแบบนั้นเลยเกิดความเกร็งขึ้นมา ว่ามันดีจริงๆ ใช่ไหม”
เอาประสบการณ์คนเบื้องหน้ามาใช้กับงานเบื้องหลัง ดีใจที่ทุกคนแฮปปี้ที่ได้ร่วมงานกับตน
“ก็ดีใจที่นักแสดงทุกคนแฮปปี้กับกองเรา ตอนแรกเราก็คิดในใจว่าเขาก็คงพูดไปอย่างนั้นแหละ พูดจาอวยผู้จัด ไม่อวยไม่ได้ แต่ไม่เลยเพราะมีคนอื่นมาเล่าว่าน้องๆ เขาไปพูดกับคนอื่นลับหลังเรา จนลอยมาถึงหูเราว่าถ้ามีโอกาสได้ทำงานกับเราให้ทำเลย เราก็รู้สึกว่าทุกคนแฮปปี้จริงๆ ใครไม่สบายใจอะไรก็สามารถคุยได้หมด หนูไม่ชอบอะไร ติดอะไรบอกพี่มาเลย เพราะเราเข้าใจ เราเคยเป็นนักแสดงมาก่อน เรารู้ว่าการทำงานมันต้องมีความสุข เราเคยผ่านการทำงานที่กดดัน เราเหนื่อย เราเครียด การทำงานที่มันไม่ได้ดั่งใจ เราผ่านมาหมดแล้ว การเป็นผู้จัดของเรา เราเลยเข้าใจนักแสดงทุกคน พี่เขาใจหมดว่าน้องๆ คิด รู้สึกยังไง เราก็จะซัปพอร์ตเตรียมไว้ให้เขาหมด เพราะเรามีประสบการณ์ เราผ่านมันมาหมดแล้ว”
เครียด นั่งตัดต่อ ควบคุมงาน จนเส้นเลือดในตาแตก
“เมย์ก็นั่งทำ นั่งตัดต่อ ดูงาน เราก็ลุ้นเพราะเราทำเอาหมดทุกขึ้นตอน อยู่ดีๆก็เกิดขึ้นมา ก็ไม่รู้ว่าเกิดจากสาเหตุอะไร ตอนแรกก็ไม่คิดนะว่าเป็น วันนั้นตื่นขึ้นมาก็ตกใจว่าเส้นเลือดในตาแตก เกิดอะไรขึ้น ก็มานั่งคิดว่าเมื่อคืนเราคงทำงาน นั่งจ้อง นั่งดูหน้าจอเยอะไป นี่เพิ่งดีขึ้น ยังเป็นรอยอยู่เลย
ก็มาคิดว่าเกิดจากอะไร หรือเราเครียด หรือเราจ้องหน้าจอคอมมากไป ก็รักษาด้วยตัวเอง หยอดตาเอา ไม่ได้ไปหาหมอ มันก็ค่อยๆ ดีขึ้น เมย์เองเห็นก็ยังตกใจเลย เราก็ไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อน ยังคิดว่ามันเป็นได้ยังไง ก็มาคิด คือเราอยู่หน้าจอทั้งวันจริงๆ คงจะใช้สายตาเยอะไป เราก็ทุ่มเทกับเรื่องนี้มากๆ อยากให้มันออกมาดีที่สุด”
เป็นความเครียดที่มีความสุขแม้เลือดตาแทบกระเด็นออกก็ตาม
“ต้องรอละครออนก่อน ก็ลุ้นกับฟีดแบ็กอยู่เหมือนกันว่าจะออกมาดีไหม ณ วันนี้ก็ทำดีที่สุดแล้ว ทำเต็มที่แล้ว ตอนนี้ก็ยังต้องทำอยู่ ยังไม่เสร็จ ถึงจะเครียดแต่ก็มีความสุข เพราะเป็นงานที่เราเลือกเองว่าเราอยากจะทำมัน เป็นความเครียดที่มีความสุข ที่เราได้ทำสิ่งที่เราชอบ ถึงแม้วันนี้เราจะไม่ได้ทำเบื้องหน้า แต่เราก็ยังทำงานเบื้องหลัง ได้อยู่ในสายงานที่เรารักอยู่ ยังได้สัมผัสกับกองถ่าย นักแสดง บทบาทอยู่ การทำงานผู้จัด เราเครียดในทุกเรื่องอยู่แล้ว เราตั้งใจเต็มที่ เพราะพอขึ้นเรื่องใหม่เราก็เหมือนเริ่มต้นใหม่ การเริ่มต้นใหม่มันก็มีความเครียดอยู่แล้ว”