เป็นข่าวดังไปทั่วโลกกับกรณีนักแสดงคนดัง "วิล สมิธ" ตบหน้า "คริส ร็อก" ระหว่างทำหน้าที่อีกฝ่ายกำลังทำหน้าที่พิธีกรบนเวทีออสการ์ครั้งที่ 94 จนเจ้าตัวถูกวิจารณ์หนักกระทั่งต้องออกแถลงการณ์ขอโทษพร้อมประกาศลาออกจาก “อะคาเดมี่” องค์กรผู้มอบรางวัลออสการ์ในเวลาต่อมา
โดยถึงตอนนี้หลายคนก็เริ่มพูดถึงอนาคตของเจ้าตัวกันแล้วว่าจะเป็นอย่างไร หลังเรื่องดังกล่าวส่งผลกระทบไม่น้อยกับเขา หนึ่งในนั้นก็คือทางด้านของสตรีมมิงเจ้าใหญ่อย่าง Netflix ที่ได้ออกมาประกาศหยุดพักโครงการภาพยนตร์แอ็กชันเรื่อง Fast and Loose ของเจ้าตัวในทันทีที่เกิดเรื่องขึ้น
ล่าสุดทางด้านนักแสดงและพิธีกรชื่อดังอย่าง "วูปี โกลด์เบิร์ก" ที่ได้ออกมาทำนายอนาคตของ "วิล สมิธ" ผ่านรายการ “The View" ที่เธอจัดเมื่อวันที่ 4 เมษายนที่ผ่านมา พร้อมแสดงความเห็นว่าเรื่องที่เกิดขึ้นจะไม่ส่งผลอะไรกับเขา และ "วิล สมิธ" จะกลับมาเป็นปกติในเร็วๆ นี้
“เห็นได้ชัดว่าโครงการในอนาคตของวิล สมิธบางโครงการกำลังมีปัญหา” โกลด์เบิร์กซึ่งเมื่อสัปดาห์ที่แล้วออกมาวิพากษ์การกระทำของ วิล สมิธ ยาวเหยียดกล่าว “คำถามคือเขามีเส้นทางกลับมาหรือไม่? ใช่ แน่นอนเขามี เขาจะสบายดี เขาจะกลับมา ไม่ต้องห่วง"
ขณะที่ "แอนนา นาวาร์โร" (Ana Navarro) พิธีกรร่วมในรายการก็แสดงความเห็นว่า เธอไม่เห็นด้วยหาก Netflix ตัดสินใจที่จะยกเลิกโครงการภาพยนตร์ดังกล่าว พร้อมระบุว่าตลอดระยะเวลา 30 ปีที่ผ่านมาทางด้านของ วิล สมิธ เองได้ทำสิ่งดีๆ ไว้อย่างมากมาย
“เขามีอาชีพการงานมากว่า 30 ปี ซึ่งเขามีภาพลักษณ์ที่ดี เป็นแบบอย่างที่ดี เขาเป็นคนใจบุญสุนทาน เขาทำทุกสิ่ง” นาวาร์โร กล่าว “พวกเราทุกคนไม่ควรถูกตัดสินโดยช่วงเวลาที่เลวร้ายที่สุดของเรา เราควรถูกตัดสินโดยอาชีพทั้งหมดของเรา"
"เสียงวิจารณ์และคำตัดสินที่ออกมามันจะอยู่กับเขาตลอดชีวิตที่เหลือ มันจะไปอยู่ในมรณกรรมของเขา แต่มันควรกำหนดชีวิตของเขาหรือไม่? มันควรกำหนดอาชีพของเขาหรือไม่? ไม่ ไม่อย่างแน่นอน ดังนั้นฉันคิดว่า Netflix และทุกคนกำลังทำผิด และฉันหวังว่าพวกเขาจะพิจารณาใหม่ เพราะเราควรจะสามารถแยกงานศิลปะของเขาออกจากสิ่งที่เขาทำได้"
"วิล สมิธ" ประกาศเมื่อวันที่ 1 เมษายนว่าเขาขอลาออกจากสถาบันเพื่อรับผิดชอบกับเรื่องที่เกิดขึ้น แต่เจ้าตัวก็ยังต้องเผชิญกับ “การถูกระงับ การขับไล่ หรือการลงโทษอื่นๆ” จาก Academy ซึ่งประณามการกระทำรุนแรงของเขาโดยมีรายงานว่าทางอะคาเดมีเองจะมีการประชุมคณะกรรมการถึงเรื่องนี้ครั้งต่อไปในวันที่ 18 เมษายน
