“เอ็มมี่ แม็กซิม” พ้อชีวิตเพราะเหนื่อย เครียดเจอแต่เรื่องหนักๆ ต้องขึ้นศาลฟ้อง จากนี้ถึงขอโทษก็ไม่ให้อภัย แถมต้องต่อสู้กับผู้มีอิทธิพล จนกระทบการเลี้ยงลูก ไม่รู้ต้องพบจิตแพทย์ไหม
โพสต์ข้อความคิดถึงพ่อที่จากไป พร้อมบอกว่าหลายคนเอาปัญหามาให้ จะสู้หรือปกป้องตัวเอง แต่ดูเหมือนต้องเก็บความเครียดเอาไว้ทั้งหมด ทุกอย่างอันตรายและไม่ปลอดภัย ชีวิตเกิดมาไม่เคยท้อและเครียดขนาดนี้ ซึ่งล่าสุด “เอ็มมี่ แม็กซิม” หรือ “อมลวรรณ ศิริกิตติรัตน์” ก็ได้เผยที่มาของโพสต์ดังกล่าว รับเหนื่อยต้องขึ้นศาล และสู้กับผู้มีอิทธิพล
“มันเหนื่อยเหลือเกิน อีกไม่กี่วันจะวันเกิดแล้วด้วย เลยรู้สึกว่าเวลาเราจะปกป้องตัวเองคนนั้นก็เป็นแบบนั้น คนนี้เป็นแบบนี้ เลยรู้สึกเหนื่อย มันหลายเรื่องมาก ช่วง 2-3 วันนี้มันก็ไม่ใช่แค่ประเด็นเดียว ก็เลยรู้สึกว่าที่เราทำก็เพื่อปกป้องตัวเองนะ ทำไมต้องเกิดเรื่องขึ้นกับเอ็มมี่ด้วย ทั้งเรื่องคนมีอิทธิพล เรื่องอะไรต่างๆ นานา สัปดาห์นี้มีเรื่องศาล 3-4 คดี มีเรื่องคนมีอิทธิพลอีก เรื่องที่ศาลเราไปยื่นฟ้อง ศาลประทับรับฟ้องทุกเคสค่ะ อันนี่คือเรื่องคนในวงการ พฤษภานี้เขาต้องประกันตัวค่ะ
เมื่อไหร่ที่หมิ่นประมาทคือเป็นคดีอาญา ถ้าศาลรับฟ้องแสดงว่ามีความผิดจริง ศาลนัดอีกทีเดือนพฤษภาคม คือจริงๆ ก่อนที่เอ็มมี่จะเดินก้าวขึ้นบัลลังก์ ก็ภาวนาว่าให้มานะ มาเจอหน้า แต่พูดคำว่าขอโทษแค่นี้พอ ก็ลุ้นหนักมากว่าให้มา เอ็มที่โกรธง่ายหายเร็ว แต่ตั้งแต่วันนั้นก็ยังไม่มีการติดต่ออะไรมาเลย พอเขารู้ว่าต้องประกันตัว ก็ถึงมีการติดต่อเพื่อนเราไป แต่ก็ไม่ได้ติดต่อเอ็มมี่อีก จนป่านนี้ก็ยังไม่มีการติดต่อขอโทษอะไรมาเลย ก็ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของกฎหมายค่ะ”
ประกาศิตไว้แล้ว หลังจากนี้ต่อให้มาขอโทษ ก็ไม่ให้อภัยแล้ว
“เอ็มมี่แล้วแต่ทนาย ทนายทำงานเหนื่อยนะ เอ็มที่โกรธง่ายหายเร็ว ไม่ได้ใจร้ายใจดำ แล้วมีการติดต่อคนใกล้ตัวเอ็มมี่ไป แต่ก็ไม่มีการติดต่อขอโทษอะไร”
เครียดจนกระทบกับการเลี้ยงลูก ไม่รู้ต้องไปพบจิตแพทย์ไหม
“มีผลต่อการเลี้ยงลูก เอ็มมี่ไม่เคยอารมณ์ร้อนกับลูก แต่เมื่อเช้านี้ก็บ้า ก็รู้สึกว่าต้องเอาเขามากอด แล้วบอกเขาว่าขอโทษนะ ลูกก็ตกใจ เรื่องมันหลายเรื่อง ไม่รู้ว่าจะต้องเข้าพบจิตแพทย์ไหม แต่คิดถึงพ่อมากกว่า มีความรู้สึกว่าเมื่อก่อนจะได้ยินเสียงพ่อ บอกรักน้องต้อมนะ น้องต้อมสู้ๆ แต่วันนี้ไม่ได้ยินเสียงนั้นแล้ว เราอยู่คนเดียวเราสู้แล้ว ก็ต้องปล่อยให้เป็นหน้าที่ของกฎหมาย”
ที่ผ่านมาก็หนัก แต่ก็สู้มาตลอด ด้วยอายุที่มากขึ้นด้วยมั้ง และเรื่องราวมันก็หนักขึ้นๆ คนเราหัวใจก็ก้อนเนื้อนะ (สามีว่ายังไงบ้าง?) ก็จับมือ แล้วก็บอกว่าหนูไม่มีพ่อแล้ว หมายถึงพ่อเอ็มมี่นะคะ แต่แม่ยังมีพ่อนะ เราจะสู้ทั้งหมดไปด้วยกัน
อย่างเรื่องอิทธิพล เขาก็ทำมาตั้งแต่เอ็มมี่ท้องแล้วนะ แล้วเราก็กลัวก็รู้จะปรึกษาใคร จนพี่หนึ่ง เอพริล (ณัฐธีร์ พัสวีดิลกภัทร์) พรรคไทยเป็นหนึ่ง เขาก็ไปกับเอ็มมี่เลย จริงๆ อยากไปตั้งนานแล้ว แต่เขาเพิ่งได้รับอนุญาตยอมจากพรรคพวก ก็เลยพาเราไป เราไม่เคยทำร้ายใคร ไม่เคยทำลายอนาคตใคร ก็ต้องปล่อยให้เป็นหน้าที่กฎหมาย และไม่ต้องติดต่อเอ็มที่มาแล้วไปเจอกันที่ศาล ตั้งแต่เป็นข่าว มีติดต่อมาทางพี่หนึ่งว่าขอคุย ขอเจรจา แต่เอ็มมี่แล็วแต่พี่หนึ่งเลย”
ทุกวันนี้จัดการชีวิตต้องตั้งสติ ไม่คิดสั้น
“ก็ต้องตั้งสตินะ อย่างวันนี้ก็ต้องคิดมาว่าจะตอบพี่ๆ ยังไง นั่งรถมาก็ร้องไห้ ต่อหน้าสื่อเอ็มมี่เข้มแข็งมาก แต่จริงๆ อ่อนแอมากนะ ส่วนเรื่องคิดสั้นไม่คิดค่ะ ก็พยายาม”