xs
xsm
sm
md
lg

"พั้นช์ วรกาญจน์" ลั่นถึงอดีตสามี เป็นความโชคดีอย่างหนึ่งที่มาเจอตน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



หลังเมื่อต้นปีที่ผ่านมาทางด้านของนักร้องสาว “พั้นช์ วรกาญจน์ โรจนวัชร” ได้ออกมาเปิดเผยว่าตนเองได้เลิกรากับสามีที่แต่งงานกันมานานกว่า 4 ปี

ล่าสุดทางด้านของนักร้องหญิงก็ได้มีการพูดถึงเรื่องนี้อีกครั้งผ่านรายการ Club Friday Show เมื่อวันที่ 26 มีนาคมที่ผ่านมา และเรื่องราวความรักของเธอก็น่าสนใจไม่น้อยเลยทีเดียว

ต้องไม่ดื่ม : นักร้องหญิงเผยว่าเธอเริ่มคบหากับอดีตสามีจากการที่มีเพื่อนแนะนำ และต่างถูกใจกันและกัน อีกฝ่ายถือว่าเป็นคนเรียบร้อย มีสัมมาคาราวะ พูดเพราะ ที่สำคัญไม่ใช่คนดื่มเหล้าเมายาซึ่งเป็นเรื่องที่เธอคิดไว้เป็นอันดับแรกๆ หากจะมีแฟน เนื่องจากพ่อของเธอมีพฤติกรรมเช่นนั้นและทำให้แม่ต้องลำบาก

จับได้นอกใจ : หลังจากคบหากันได้ประมาณ 1 ปี ทั้งสองก็เลื่อนสถานะเป็นแฟนกัน แรกๆ ทุกอย่างก็ดูหวานชื่น แทบจะไม่มีการทะเลาะเบาะแว้ง เพราะต่างฝ่ายต่างเป็นคนสบายๆ ไม่จู้จี้ จุกจิก กระนั้นด้วยเวลาที่ผ่านไปเรื่อยๆ ความรู้สึกจากแฟนก็เป็นเหมือนเพื่อนกัน กลายเป็นความเคยชินกันมากกว่า

ช่วงหลังๆ ความรักทั้งสองไม่หวานเหมือนก่อน ไม่ค่อยที่จะดูแลกันและกันเท่าไหร่ จนถึงช่วงที่ใกล้จะแต่งงานนักร้องหญิงก็จับได้ว่าแฟนหนุ่มนอกใจแอบคุยอยู่กับผู้หญิงอีกคน ในตอนแรกเธอตัดสินใจที่จะเลิก แต่เมื่อมาคิดว่าเธอเองก็มีส่วนผิด เพราะที่ผ่านมาเธอเองก็แทบจะไม่ได้สนใจแฟนหนุ่มเลยทำให้เดินหน้าคบกันต่อไป


ไร้โมเมนต์หวานความโรแมนติก : พั้นช์เล่าว่าแฟนหนุ่มของตนเองแม้จะเป็นคนสุภาพแต่ก็แทบจะไม่มีความโรแมนติกหรือทำอะไรหวานๆ เซอร์ไพรส์เลยและเจ้าตัวก็เป็นแบบนั้นมาตั้งแต่ต้น ขณะที่ตัวเองก็ร้องขอมาโดยตลอด

หลังจากคบหากันมานานกว่า 8 ปี ทั้งสองก็ได้แต่งงานกัน แน่นอนว่ามันไม่มีโมเมนต์หวานๆ ในการขอแต่งงานจากฝ่ายชาย ไม่มีการคุกเข่า ไม่มีแม้การเอ่ยปาก หากแต่เป็นผู้ใหญ่ของอีกฝ่ายที่เข้ามาพูดทำนองว่าคบกันมาก็นานน่าจะแต่งกันได้แล้ว นั่นเองที่ทำให้ทั้งสองแต่งงานและใช้ชีวิตด้วยกัน

เรื่องที่ขอ : แม้จะเป็นคนดูสบายๆ เงียบๆ แต่นักร้องสาวก็ยอมรับว่าเธอเองก็อยากมีมุมงุ้งงิ้ง ง้องแง้ง และอยากออดอ้อนกับสามีเหมือนกัน แต่ตลอดมาเธอไม่เคยได้มันเลย โดยที่ผ่านมาก็เป็นเธอเองต้องเป็นฝ่ายเอาใจสามีให้ตลอด แต่ทว่าอีกฝ่ายกลับไม่มีอะไรให้เธอเลยสักครั้ง

โดยเธอเผยว่าช่วงนั้นเธออินกับเพลงของ "ลุลา" ที่ชื่อ "เรื่องที่ขอ" มากๆ เพราะเธอเองก็อยากจะมีโมเมนต์หวานๆ มีอะไรบ้าง และมันก็เป็นเช่นนั้นก็ต่อเมื่อเธอร้องขอเท่านั้นถ้าไม่ร้องขอเลยเธอก็จะไม่ได้ เช่นว่าวันวาเลนไทน์ช่วยทำแบบนี้ให้หน่อยนะ สามีถึงจะยอมทำให้ ซึ่งทำให้เธอรู้สึกว่าทุกอย่างมันไม่ได้ออกมาจากใจของอีกฝ่ายเลย


มีไม่มีก็เหมือนกัน : ตลอดการแต่งงาน 4 ปีบวกกับช่วงที่เป็นแฟนกันรวมทั้งหมด 12 ปี จากความหวานในตอนแรก กลายเป็นความชาชิน สู่ความเฉยเมย แม้เธอพยายามจะค่อยๆ บอกสามีถึงสิ่งที่อยากได้และอยากให้เป็น แต่ทุกอย่างก็เหมือนเดิม ไม่มีอะไรดีขึ้น

แต่จุดที่ทำให้เจ้าตัวตัดสินใจบอกเลิกกับอีกฝ่ายก็เพราะตลอดเวลาเธอรู้สึกว่าเธอเป็นหัวหน้าครอบครัวที่ทำทุกอย่างเพื่อจะต้องดูแลครอบครัวทั้งของตนเองและของสามีอยู่คนเดียวมาโดยตลอดนั่นเอง

"เหมือนมีกับไม่มีมันรู้สึกว่ามันไม่ต่างกันเลย มีกับไม่มีเขามันกลายเป็นว่ารู้สึกไม่ต่างกัน"นั่นคือสิ่งที่นักร้องหญิงรู้สึก

เธอตัดสินใจบอกเรื่องนี้กับครอบครัวและฝ่ายชายพร้อมชี้ให้เห็นถึงเหตุผลต่างๆ จนอีกฝ่ายเหมือนย้อนกลับมาคิดได้ เขาขอโทษเธอพร้อมตามง้อและสัญญาว่าจะปรับเปลี่ยนตัวเอง ทว่าสำหรับเธอมันสายไปแล้ว โดยนักร้องหญิงยอมรับว่าแม้จะรู้สึกเคว้งๆ บ้างในตอนแรกแต่เธอก็คิดว่าการตัดสินใจครั้งนี้เป็นการตัดสินใจที่ถูกต้องแล้ว

"พั้นซ์มั่นใจว่าพั้นช์ตัดดสินใจถูก แล้วสิ่งที่พั้นช์ทำมันเป็นสิ่งที่ตัดสินใจดีแล้ว ไม่อย่างนั้นมันก็ไม่มีอะไรดีขึ้น ไม่มีอะไรดีขึ้นกับตัวเขา เขาจะได้กลับไปดูแลครับครัวเขา ไม่งั้นพั้นช์ก็ต้องดูแล"

"คือแค่เรารู้สึกว่าการคบกันของคนสองคนมันต้องเอื้อกัน มันต้องเอื้อกันทั้งเรื่องจิตใจด้วย ความรู้สึกด้วย พั้นช์เป็นคนที่ไม่เคยเรียกร้องอะไรมากมาย ง่ายๆ สบายๆ มากๆ การที่เขามาเจอพั้นช์เป็นความโชคดีของเขาอย่างหนึ่ง ที่เป็นผู้หญิงไม่ยุ่ง ไม่เรื่องเยอะ ไม่อะไรเลย..."





กำลังโหลดความคิดเห็น