xs
xsm
sm
md
lg

ช่องวัน, ช่อง 3 ขอลองสักตั้ง “ละครวาย” ช่วงไพร์มไทม์ เรทติ้งไม่ได้ แต่กระแสปังและกำลังซื้อสูง!

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ถือเป็นปรากฏการณ์ใหม่ของหน้าจอ “ทีวีดิจิตอล” เมืองไทยเลยก็ว่าได้ สำหรับการนำเอา “ความวาย” มาสู่สายตาคนดูทีวีทั่วประเทศแบบจริง แบบจัง ผ่านหน้าจอในช่วงเวลาไพร์มไทม์ ทั้งของ “ช่อง 3” และ “ช่องวัน”

เรียกว่างานนี้มากันแบบไม่หมกเม็ดหรือว่ายัดไส้ สอดเข้ามากลางตอน แต่ท้ายที่สุดก็จบลงด้วยพระเอก นางเอก แฮปปี้แอนดิ้งเหมือนแต่ก่อนแต่อย่างใด

ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า “ความเป็นวาย” มีอยู่ใน “ซีรีย์วาย” มาแต่ไหนแต่ไรแล้ว เพียงแต่ไม่ได้ถูกนำเสนอในช่วงเวลาที่เรียกว่า “ไพร์มไทม์” เพราะเวลานี้ถือว่ามีมูลค่าค่อนข้างสูง บางช่องราคาโฆษณานาทีละ 700,000 บาท ทำให้แต่ละช่องไม่อยากเสี่ยงต้องเลือกหาเลือกเฟ้นหาละครที่ถ้าออนแอร์แล้วจะต้องเรียกทั้งกระแสและเรียกทั้งลูกค้า เอเจนซี่ต่างๆ ให้ตัดสินใจมาซื้อโฆษณา

เรียกว่า "ปลอดภัยไว้ก่อน" แม้เนื้อหาและวิธีการนำเสนอจะวนเวียนอยู่กับเรื่องราวเดิมๆ ก็ตาม

แต่การที่ “ช่อง 3” ตัดสินใจเอา “คุณหมีปาฏิหาริย์” มาออนแอร์ในช่วงเวลา 20.20 น. หรือ “ไพร์มไทม์” ซึ่งเป็นการดำเนินเรื่องของ “พระเอก-นายเอก” จริงจังเป็นครั้งแรก ไม่ต่างอะไรกับ “ช่องวัน” ที่สร้างซิทคอมวายเรื่องแรก “รักเดียว” และล่าสุดก็ได้ปล่อยทีเซอร์ 2 เรื่องอย่าง “เวลากามเทพ” และ “คุณชาย” ที่นำเสนอความเป็นเพศที่สามได้อย่างชัดเจนออกมา จึงถือเป็นปรากฏการณ์ที่น่าสนใจแลดูเป็นการ "เสี่ยง" ไม่น้อย

ต้องยอมรับว่าการนำเสนอความรักแบบชายรักชาย หรือ “BoysLove” ในสังคมไทยสำหรับคนดูละครบ้านเราส่วนใหญ่แล้ว บางส่วนอาจจะยังไม่เข้าใจ และบางคนอาจจะยังไม่เข้าถึงจึงทำให้มีกระแสคอมเม้นท์ต่างๆ ออกมาวิจารณ์โดยที่บางคนยังไม่เคยได้ดูเลยด้วยซ้ำ

ทั้งที่ในความเป็นจริงมันก็ไม่ได้แตกต่างไปจากละครรักโดยทั่วๆ ไปในรูปแบบนึง เพียงแต่เป็นการนำเสนอผ่านตัวละครที่เป็น “ผู้ชาย” เท่านั้น

ด้วยเหตุผลที่ว่าทำให้รสนิยมการดูละครวายในบ้านเราจึงจำกัดอยู่ที่คนบางกลุ่มและแพลตฟอร์มบางแฟลตฟอร์ม ยังไม่มีใครคิดหาญกล้าจะเอาละครวายแท้ๆ มาออนแอร์ในช่องทีวีหลักและโดยเฉพาะในช่วงเวลาไพร์มไทม์ด้วยแล้วยิ่งเป็นไปแทบเป็นไปไม่ได้

แต่ในยุคที่โลกโซเซียลไปไกลจนบางคนก็อาจจะยังตามไม่ทัน กระแส “ซีรีย์วาย” ในบ้านเรานั้นเลยไม่รู้ถึงการเติบโตแบบก้าวข้ามชนิดใช้คำว่า “ก้าวกระโดด” ก็ไม่น่าจะพอ เพราะในช่วงเดือนที่ผ่านมามีซีรีย์วายที่ออนแอร์ตลอดทั้งเดือน กพ.ตลอดทั้ง 7 วันในทุกแพลตฟอร์มนั้น รวมๆ แล้ว 15-16 เรื่องเลยทีเดียว

นี่ก็จึงเป็นเหตุผลที่ทำให้ช่องใหญ่อย่าง “ช่อง 3” และ “ช่องวัน” มองเห็นว่าช่องทางการเติบโตและต่อยอดไปได้อีกจึงไม่แปลกในที่จะกล้าเสี่ยง ยอมลงทุนดูสักตั้ง!

ด้วยความที่ตัวเองเป็นช่องใหญ่ เป็นผู้ผลิต ถ้าการลองครั้งนี้ อาจจะไม่ปังอย่างที่คิด ก็ไม่ได้เสียหายอะไรมาก เพราะก็ยังมีละครเรื่องอื่นๆ ที่ยังคงเป็นทาร์เก็ตของคนดูช่องอยู่แล้ว แต่ถ้าความเสี่ยงนี้มันคุ่มค่า สิ่งที่ทางช่องจะได้มา มากกว่าเรทติ้งที่เป็นเพียงแค่ตัวเลขนั้น ช่องก็จะได้อะไรกลับคืนมาบ้าง

จริงอยู่ที่ท้ายสุดแล้วแม้ “ละครวาย” เรทติ้งอาจจะไม่ดี เพราะคนดูทั่วไปอาจจะไม่อิน แต่ก็ต้องไม่ลืมว่าที่ผ่านมาทำไม “ซีรีย์วาย” ถึงอยู่ได้? ทำไม “นักแสดงวาย” ถึงมีกระแสตลอดเวลา? คำถามนี้เชื่อว่า ทั้ง "ช่องวัน" และ "ช่อง 3" เองน่าจะได้คำตอบที่ตกผลึกระดับหนึ่งแล้ว

เรทติ้งอาจจะไม่ได้ปังเหมือนละครปกติ แต่เอาเข้าจริงๆ “ความเป็นวาย” ซึ่งมีฐานคนดูเป็นคนรุ่นใหม่ และมีสังคมออนไลน์เป็นหลักก็มักจะสร้างปรากฏการณ์ทั้งกระแสที่ติดทั้งเทรนด์ในช่องทางออนไลน์ต่างๆ ได้ไม่ยาก ยิ่งถ้าเรื่องไหนมีจิ้น มีฟิน มีจิกหมอนกันเข้าไป สาววายพากันปั่นแฮชแทค และบวกกับได้เวลาออนแอร์ที่เรียกว่า “ไพร์มไทม์” มีเหรอ? ลูกค้า เอเยนซีเองจะไม่สนใจ

เพราะแฟนคลับเหล่านี้เหล่านอกจากจะสนับสนุนคู่ที่ตนเองชื่นชอบแล้วก็ยังพร้อมจะซัพพอร์ตในทุกๆ ผลงานของคู่ที่ตนเองชื่นชอบอีกด้วย

เชื่อว่านี่คือสิ่งที่ “ช่อง 3-ช่องวัน” มองเห็นและต้องการ

















กำลังโหลดความคิดเห็น