เป็นประเด็นฉาวโฉ่กลางงานประกาศผลรางวัลออสการ์ 2022 กันเลยทีเดียวหลังจากที่ในระหว่างการประกาศผลรางวัลทางด้านของนักแสดงดัง "วิล สมิธ" ได้เดินขึ้นไปตบหน้า "คริส ร็อก" หลังอีกฝ่ายมีการพูดถึงทรงผมของภรรยาตนเอง
โดยเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อ "คริส ร็อก" ได้ล้อเลียนทรงผม “จาดา พิงค์เก็ต สมิธ” ด้วยการเปรียบเทียบกับ "เดมี มัวร์" ใน G.I. Jane ทำนองว่าเธอควรแสดงนำในภาคต่อไป
ในตอนนั้น "จาดา พิงค์เก็ต สมิธ" ทำได้แค่กรอกตาและแสดงออกว่าไม่พอใจอย่างเห็นได้ชัด ขณะที่ผู้ชมส่งเสียงหัวเราะออกมา จนกระทั่ง วิล สมิธ ทนไม่ไหวเดินขึ้นเวทีตบ คริส ร็อก หน้าหัน พร้อมสบถหยาบคายไม่ให้เอ่ยชื่อภรรยาออกจากปากของเขาอีก ทำเอาผู้ชมที่อยู่ในงานและทางบ้านต่างช็อกไปตามๆ กัน
ที่ผ่านมา "จาดา พิงค์เก็ต สมิธ" ต้องประสบกับการสูญเสียเส้นผม จนผมร่วงหนักจากอาการ ภูมิต้านทานผิดปกติที่ส่งผลต่อรูขุมขน ทำให้ผมร่วงเป็นกระจุก ซึ่งเธอต่อสู้กับอาการนี้มานานหลายปีและเปิดเผยเรื่องนี้ครั้งแรกเมื่อปี 2018 โดยที่เธอต้องโพกศีรษะไว้ตลอด
“ผู้คนมากมายถามฉันเยอะมากว่าทำไมถึงเอาแต่ใส่ผ้าโพกหัวตลอดเวลา ค่ะ ฉันไม่เคยพูดถึงเรื่องนี้เลย มันไม่ง่ายเลยที่จะพูดถึงเรื่องนี้ แต่ฉันว่าฉันต้องพูดแล้วล่ะ”
“ตอนที่รู้ครั้งแรกคือตอนที่ฉันอาบน้ำแล้วผมร่วงติดมือมาเยอะมาก แล้วฉันก็ ‘โอ้ พระเจ้า ฉันกำลังจะหัวล้านเหรอ?’ มันเป็นหนึ่งในช่วงเวลาของชีวิตที่ฉันสั่นเทาไปด้วยความกลัว นั่นเลยเป็นเหตุผลที่ฉันตัดผมแล้วก็ค่อยๆตัดสั้นขึ้นเรื่อยๆ”
ตอนนี้เจ้าตัวกล้าที่จะเปิดเผยตนเองแบบไร้ผ้าโพกศีรษะ ซึ่งเธอได้กล่าวในคลิปที่โพสต์ลงไอจีเมื่อเดือน ธ.ค. 2021 ว่า...“ตอนนี้ ฉันทำได้แค่หัวเราะค่ะ อย่างที่คุณรู้ ฉันกำลังทรมานจากภูมิต้านทานผิดปกติจนส่งผลต่อรูขุมขน ดูนี่สิมันมีรอยเส้นตรงนี้ ดูสิ ฉันแค่อยากโชว์ให้ดู"
"มันอาจจะยากหน่อยที่จะปิดบัง ฉันเลยคิดว่า ฉันแค่แชร์ให้ทุกคนรู้จะได้ไม่ต้องถามอะไรฉันอีก” ซึ่งเธอยังได้กล่าวด้วยว่าเธอต้องพึ่งพาการฉีดสเตียรอยด์ ซึ่งแม้จะช่วยได้บ้างแต่ก็ไม่สามารถรักษาให้หายได้
อย่างไรก็ตาม ในส่วนของการแสดงความรักและต้องการที่จะปกป้องภรรยาของ วิล สมิธ อาจทำให้หลายคนกังขาในความรักเมียของพระเอกดังอยู่ไม่น้อย ว่าเป็นเพราะรักจริงๆ หรือแค่การแสดง ทั้งที่ก่อนหน้านี้ทั้งคู่ก็มีเรื่องนอกใจกันอยู่บ่อยๆ
แม้ว่าเรื่องราวความสัมพันธ์ระหว่าง วิล สมิธ กับ จาดา พิงค์เก็ต สมิธ ที่แต่งงานกันตั้งแต่ปี 1997 มักจะถูกเก็บเป็นความลับและไม่เปิดเผยออกสื่อเท่าใดนัก แต่เมื่อปีที่แล้ว วิล สมิธ ได้พูดถึงข่าวลือที่มีมานานที่กล่าวหาว่าทั้งคู่ไม่ใช่คนที่รักเดียวใจเดียว และมีชีวิตแต่งงานแบบเปิด ที่ปล่อยให้ต่างฝ่ายต่างมีความสัมพันธ์กับคนอื่นได้ ซึ่งเขาได้ให้สัมภาษณ์กับ GQ ว่า
“จาดา ไม่เชื่อในเรื่องการแต่งงาน จาดามีคนในครอบครัวที่มีความสัมพันธ์ไม่ธรรมดา เราเชื่อใจกัน และให้เสรีภาพแก่กัน โดยเชื่อว่าทุกคนต้องมีทางของตัวเอง และชีวิตแต่งงานไม่ใช่การถูกจองจำ”
วิล สมิธ ยังยอมรับด้วยว่าตัวเขาเองยังเคยจินตนาการถึงการสร้างฮาเร็ม สนุกนานกับหญิงสาวไม่ซ้ำหน้าด้วย แต่สุดท้ายเขาก็ไม่เคยทำตามที่จินตนาการไว้
ส่วนทางด้าน จาดา พิงค์เก็ต สมิธ เคยมีข่าวว่าเธอมีสัมพันธ์ลับกับ ออกัส อัลซินา นักร้อง-นักแต่งเพลง ซึ่งข่าวลือเรื่องความสัมพันธ์ดังกล่าวระหว่าง จาดา กับ ออกัส อัลซินา เกิดขึ้นเป็นเวลาหลายปีขณะที่ จาดา ยังคงมีสถานภาพสมรสกับ วิล สมิธ
โดย จาดา พบกับ ออกัส อัลซินา ครั้งแรกในปี 2015 ขณะที่เธอไปให้กำลังใจลูกๆ ทั้ง เจเดน และ วิลโลว์ ขณะขึ้นแสดงที่ Wireless Festival ในกรุงลอนดอน ซึ่ง จาดา ได้เผยว่า เธอกับอัลซินา เป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน และมันเริ่มต้นขึ้นจากการที่เขาต้องการความช่วยเหลือ ทั้งด้านสุขภาพกายและสุขภาพใจ
ออกัส อัลซินา มีปัญหาด้านสุขภาพหลายอย่างทั้งเรื่องเกี่ยวกับตาและตับ นอกจากนั้นยังเดินไม่ได้ชั่วคราว และในอดีตยังเสพติดยาแก้ปวด Percocet ด้วย
หลังจากหลายปีที่ปฏิเสธข่าวสัมพันธ์รัก ทางฝั่ง อัลซินา ก็ได้เปิดปากพูดถึงเรื่องนี้เองเมื่อปี 2020 โดยระบุว่า เขามีความรักอย่างเหลือล้นให้กับ จาดา พิงค์เก็ต สมิธ และยอมรับว่าเคยคบหากันกับ จาดา โดยที่ วิล สมิธ เป็นฝ่ายขอแยกทางและอวยพรให้กับความรักของเขากับ จาดา
ส่วนทางด้าน จาดา เองก็ได้พูดถึงข่าวลือนี้โดยเรียกมันว่า “ความพัวพัน” พร้อมยอมรับว่าก่อนหน้านี้เธอและวิล สมิธ เคยแยกทางกันจริง แต่ความสัมพันธ์ที่เธอมีกับ ออกัส อัลซินา ได้จบลงแล้ว และมันยังทำให้ความสัมพันธ์ของเธอกับสามีแข็งแรงมากขึ้นด้วยเช่นกัน
“สิ่งหนึ่งที่ฉันต้องพูดเกี่ยวกับคุณและฉัน คือเราไม่เคยมีความลับต่อกันค่ะ...ในทุกความสัมพันธ์ไม่ว่าจะแบบไหน การพยายามทำความเข้าใจความรักให้ลึกซึ้ง มันจะถูกหลอมรวมให้เป็นไฟที่ลุกโชนขึ้น”
เรียกได้ว่าสัมพันธ์รักระหว่างทั้ง วิล สมิธ กับ จาดา พิงค์เก็ต สมิธ แม้จะเคยต้องร้างลากันไป แต่สุดท้ายทั้งคู่ก็กลับมาเป็นครอบครัวและรักกันยิ่งขึ้นกว่าเดิม