"เอาจริงๆ แค่เรามีแฟนแล้วเราป่วย เรายังคิดเลยว่าเขาจะทิ้งเราไหม แล้วยังเป็นแฟนปู แบล็คเฮด แต่เขาไม่ทิ้งเรา นุ๊กดีใจมาก มันไม่ใช่แค่มีแฟนเป็นดารา แต่เขาคือคนที่รักเราจริงๆ และเราก็รักเขามากๆ เหมือนกัน หนูขอบคุณเขาจนไม่รู้จะขอบคุณยังไง”
...
ย้อนกลับไปเมื่อหลายปีก่อน ถ้าเอ่ยถึง "พริตตี้" แล้วคงต้องยอมรับว่าภาพลักษณ์ต่องานที่ว่านี้ในความรู้สึกของใครหลายคนมันคงจะไม่ใช่อะไรที่ดีนักและได้รับการยอมรับสักเท่าไหร่ ไม่ใช่แค่เต้นกินรำกินเหมือนกับบรรดานักแสดง-นักร้องเท่านั้นหากแต่ยังถูกมองในระดับที่ต่ำรองลงไปอีกต่างหาก
อย่างไรก็ตาม เมื่อเวลาผ่านไป สาวๆ หลายคนที่อยู่ในแวดวงนี้ต่างก็พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าการเป็นพริตตี้ของพวกเธอใช่ว่าจะ "ทำแค่" แต่งหน้าตาสวยๆ แต่งตัวโป๊ๆ โชว์อกโตๆ เท่านั้น หากแต่ยังจำเป็นจะต้องมีทักษะและความสามารถเฉพาะทางไม่ต่างไปจากการงานในสายอื่นๆ ด้วยเช่นกัน
แม้จะไม่สามารถลบภาพเก่าได้ทั้งหมดและจริงอยู่ที่อาชีพนี้ก็ยังเป็นงานแฝงของสาวๆ บางส่วน แต่ถึงวันนี้ภาพลักษณ์ของการเป็นพริตตี้เองก็ต้องถือว่าได้รับการยอมรับมากขึ้น
ที่สำคัญก็คือในเรื่องของ "รายได้" ซึ่งไม่ได้แตกต่างไปจากงานวงการบันเทิงแขนงอื่นๆ แต่อย่างใด
หนึ่งคนที่เป็นตัวอย่างในเรื่องนี้ได้เป็นอย่างดีก็เห็นจะเป็นพริตตี้คนดังอย่าง "นุ๊กซี่ อัญพัชญ์ วัฒนาตันติรัตน์" วัย 34 ปีที่หลายคนอาจจะแปลกใจว่าทำไมข่าวคราวการเสียชีวิตของเธอถึงได้รับการพูดเป็นอย่างมาก
ด้วยปัญหาเรื่องเงินของครอบครัว หลังเรียนจบ ม.6 ทำให้ หญิงสาวตัดสินใจออกมาทำงานหาเงินเอง ทั้งเป็นแม่ค้าและอื่นๆ กระทั่งมาลงเอยที่สายงานพริตตี้
จากค่าตัวในระดับพัน เธอพัฒนาตัวเองไต่ตัวเองขึ้นไประดับหมื่น, แสน ความมีชื่อเสียงของเธอยังยืนยันได้จากการรับตำแหน่ง Top Pretty Thailand ในปี 2016 พร้อมกับฉายาอีกมากมาย ทั้ง พริตตี้เงินล้าน, นางฟ้ามอเตอร์โชว์ ฯ รวมไปถึงงานถ่ายแบบให้กับนิตยสารหลายๆ เล่ม และการเป็นหนึ่งในสมาชิกเกิร์ลกรุ๊ปแนวเซ็กซี่ one 9 stand ที่ล้วนการันตีถึงการเป็นพริตตี้งานชุกระดับแถวหน้าในบ้านเราของเธอได้เป็นอย่างดี
ชื่อของหญิงสาวมาเป็นที่ฮือฮามากๆ ในราวๆ ช่วงปี 2559 หลังมีข่าวว่าเธอเป็นแฟนกับ "ปู อานนท์ สายแสงจันทร์" นักร้องวง "แบล็คเฮด" นั่นเองที่ทำให้ "นุ๊กซี่" กลายเป็นที่จับตาของสื่อกระแสหลักและของใครหลายคน
แน่นอนว่าในตอนนั้นส่วนใหญ่ต่างก็มองเหมือนกันว่าการคบหาของทั้งสองอาจจะเป็นเพียงข่าวสีสันข่าวหนึ่งที่อาจจะจบลงในเวลาไม่นาน เพราะฝ่ายชายเป็นถึงนักร้องดังระดับประเทศ ส่วนฝ่ายหญิงแม้จะมีชื่อก็จริงแต่ก็ยังถูกมองว่าเป็นแค่พริตตี้เท่านั้น
แต่สุดท้ายทั้งคู่ต่างก็พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าหลายคนคิดผิด โดยเฉพาะอย่างยิ่งนับตั้งแต่ฝ่ายหญิงป่วยด้วยโรคร้ายก็ยิ่งถือเป็นบทพิสูจน์ได้เป็นอย่างดีว่าทั้งคู่รักและห่วงใยกันขนาดไหน
"นุ๊กไม่เคยคิดเลยว่าจะได้เจอรักแท้ตอนที่เราป่วย พอเรามีคนที่รักอยู่ข้างๆ จริงๆ รู้สึกว่ามันคือสิ่งที่ดีที่สุดของนุ๊กเลย โชคดีมากจริงๆ ที่มีเขาค่ะ ไม่เคยคิดเลยว่าคนที่ฉันชอบตอนเด็กๆ วันนี้เป็นแฟนฉัน และเป็นคนที่ดูแลฉันในวันที่ฉันป่วย (หัวเราะ) มันที่สุดแล้วค่ะ โชคดีมากค่ะ"
"เอาจริงๆ แค่เรามีแฟนแล้วเราป่วย เรายังคิดเลยว่าเขาจะทิ้งเราไหม แล้วยังเป็นแฟนปู แบล็คเฮด แต่เขาไม่ทิ้งเรา นุ๊กดีใจมาก มันไม่ใช่แค่มีแฟนเป็นดารา แต่เขาคือคนที่รักเราจริงๆ และเราก็รักเขามากๆ เหมือนกัน หนูขอบคุณเขาจนไม่รู้จะขอบคุณยังไง”
"เมื่อก่อนเขาอาจจะคิดว่าให้นุ๊กมาดูแลเขาตอนแก่ (หัวเราะ) แต่เราดันมาป่วยก่อน ก็ผลัดกันค่ะ นุ๊กคิดว่าหลังจากนี้ถ้าไม่มีอะไรก็ไม่มีอะไรต้องห่วง ถ้ากลับบ้านหลังจากนี้ก็ไม่น่าจะต้องมีคนดูแลหรืออะไรขนาดนั้นแล้วถ้ายังไม่ป่วยนะคะ..." (บทสัมภาษณ์เมื่อวันที่ 26 ก.พ.2565)
อย่างไรก็ตาม ที่ชวนเศร้าใจก็คือบทพิสูจน์ชีวิตครั้งนี้ของเธอจบลงด้วยด้วยความออกจะโหดร้ายเกินไปนั่นเอง...