ประกาศชัดมาตลอดหลายปีว่าจะขอทำตามความฝันด้วยการโกอินเตอร์ สำหรับ “ปู ไปรยา สวนดอกไม้ ลุนด์เบิร์ก” จากวันนั้นจนถึงวันนี้นางเอกสาวใช้เวลาเกือบ 7 ปี จนในที่สุดก็แคสงานชิ้นแรกผ่าน ได้เล่นหนังฮอลีวูดสมความตั้งใจ
ล่าสุด ปู ไปรยา ได้เดินทางกลับมาที่ประเทศไทยหลังจากที่ถ่ายทำภาพยนตร์เสร็จเรียบร้อยแล้ว ซึ่งปูได้เปิดใจเล่าถึงประสบการณ์ชีวิตในรายการแฉ ถึงมรสุมชีวิตเมื่อ 2 ปีก่อน
“ปูไปอยู่อเมริกามาตอนปี 2020 อยู่ยาวจนกลับมาเมืองไทยรอบนั้น กักตัวครบแล้วได้หนัง ก็เลยบินกลับไปทำงานต่อ หลายคนมองว่าปูเพ้อเจ้อ เป็นนางเอกไทยอยู่ดีๆ แล้วอยากจะไปเป็นดาราฮอลลีวูด ซึ่งปูบอกว่ามันไม่ใช่เรื่องง่ายที่เราจะจากตรงนี้ไป อยู่เมืองไทยเป็นนางเอกมีคนทำให้ทุกอย่าง ไปอยู่ตรงโน้นเราต้องทำเองหมดเลย แต่ปูมีความสุขมากๆ รู้สึกว่าอยู่ที่โน่นเหมือนได้เริ่มต้นชีวิตใหม่ เริ่มชีวิตในแบบที่อยากให้มันเป็นมาโดยตลอด
พยายามหนักมากเพื่อตามฝัน นอกจากถูกปฎิเสธจากการแคสงานแล้วก็ยังไม่มีใครให้กำลังใจในฝันของตนด้วย
“ต้องยอมรับว่าตอนที่จะไปทำงานที่ต่างประเทศ ไม่มีใครให้กำลังใจปูเลย มีแต่คนบอกว่าปูทำไม่ได้ จะไปทำไม ปูพยายามหนักมากๆ แต่ก็ยังโดนปฎิเสธ และตอนนั้นข่าวที่เมืองไทย เลิกกับคู่หมั้นอีก เจอครบทุกอย่าง ตื่นมาก็เจอคนส่งข้อความมาขู่ ด่า จนในใจตอนนั้นไม่มีอารมณ์ทำอะไรแล้ว แต่ก็รู้อย่างเดียวว่าถ้าความฝันมีคุณค่ากับเราเรื่องอื่นตัดออก
โซเชียลไม่สำคัญ ข่าวไม่สำคัญ สำคัญคือพัฒนาฝีมือ ก็ตั้งหน้าตั้งตาแคสงานไปเรื่อยๆ ตอนนั้นจากเพื่อนมี 20 กว่าคน เหลือ 4-5 คน ผู้ช่วยในทีมก็เหลือน้อย เพราะวันที่เราไม่มีอะไร เราจะรู้ว่าใครอยู่กับเราจริงๆ วันที่เราไม่ได้มีกระแส ไม่ได้มีคุณค่ากับเขา คนที่รักเราจริงๆ ก็ยังอยู่”
คอมเมนต์ต่างๆ ในโซเชียลทำตนฝังใจและเป็นแรงผลักดันให้ตัวเองก้าวให้ถึงฝัน จะไม่ยอมปล่อยให้ตัวเองเป็นซึมเศร้าเพราะโซเชียล
“ชีวิตช่วงนั้นแย่มาก ฝันก็ไม่ไปถึงฝัน งานแต่งก็ล่ม ข่าวเยอะทุกวัน ตื่นมาโดนด่าทุกเช้า ไปตายซะเถอะอีปู ได้รับพรแต่เช้า ขอบคุณค่ะ (หัวเราะ) แต่ก็ต้องเข้าใจในจุดที่เรายืนอยู่ เราพูดในบางเรื่องไม่ได้ ด้วยหน้าที่จริงๆ และตอนนั้นคู่หมั้นไปแล้ว อุตส่าห์มูตั้งเยอะให้ขอแต่งงาน ไม่รอด (หัวเราะ) ตอนนั้นพินาศมาก
เงินก็เริ่มร่อยหรอ ต้องกรี๊ดใส่หมอน ร้องไห้ พิมพ์สิ่งที่ตัวเองอยากพูดแล้วลบ โทร.หาทุกคนจนคนบอกว่า เหมือนเวลาไปเล่นคลื่น ยิ่งเตะยิ่งดิ้นยิ่งจม ต้องมีสตินิ่ง หยุด นิ่งและทน
ช่วงที่มีข่าวปูปิดโซเชียลไปเลย 5 เดือน ไม่สร้างคอนเทนต์ ไม่ลงไอจี ปิดคอมเมนต์ทั้งหมด เอนเกตเมนต์ตกไม่เป็นไร ปูเลือกสุขภาพจิตดีและความรู้สึกของตัวเอง อยากจะบอกว่าดาราอ่านคอมเมนต์นะคะ แล้วปูก็เป็นคนที่จำจดคอมเมนต์ แต่ปูไม่ฟ้องคน เพราะรู้สึกว่าถ้าเขามาขอโทษปูก็ไม่ได้ทำให้ชีวิตของปูดีขึ้น เพราะปูเข้าใจเขาที่อ่านแล้วก็เขียน ปูเข้าใจในเสรีภาพของความคิดเห็นของคน ก็เลยทนๆ คำพูดบางอันมันก็ฝังในใจเราไปแล้ว และบางคอมเมนต์ปูก็ใช้เป็นแรงบันดาลใจให้ตัวเอง ไปไม่ถึงใช่ไหม เดี๋ยวคอยดู
ปูไม่เป็นซึมเศร้าเพราะปูทำงานสังคมเยอะและเห็นมาเยอะมาก ถ้าจะต้องมาซึมเศร้าเพราะไอจีปูไม่ยอม และก็จะไม่ฟ้องคนด้วย ไม่อยากมานั่งทะเลาะกับเขา อยู่กับตัวเอง โซเชียลคือโลกทิพย์ โลกแห่งความจริงคือการได้มานั่งเจอพูดคุยกัน”
ทั้งดิ้นรน อดทน โดนปฎิเสธจนชิน แต่ก็คุ้มมากกับการได้ชีวิตใหม่ที่ตนเป็นกำหนดเองเสียที ได้เป็นตัวเองในแบบที่ไม่มีใครมาบังคับ
“ตอนที่ให้เอเจนซี่หางานให้ โดนปฏิเสธเยอะ บอกว่าตัวเตี้ยไป หน้าไม่ใช่ นี่ก็ไม่ดี นั่นก็ไม่ใช่ แต่ก็ชินแล้ว เพราะไม่ได้คิดว่าตัวเองสวยหรือสำคัญ แต่คิดว่าตัวเองมีความพยายามก็แค่นั้นแหละ ก็รอไปเรื่อยๆ เหมือนต่อแถวรอตัดผม ต่อแถวรอข้าว เราไม่ได้เป็นเบอร์ต้นๆ ก็รอต่อไป ก็อดทน พยายาม รอจนวันนึงมันจะถึงคิวของเรา
คืออยู่เมืองไทยหาเงินเพื่อไปใช้เมืองนอกเอาไปตามหาฝัน ต้องหาตั๋วเครื่องบินที่ถูกที่สุดจะนั่งเมื่อยยังไงก็ช่างมัน แต่ก็คุ้มมาก ได้ชีวิตใหม่เพราะตั้งแต่เล่นละครมา ก็ไม่ได้รู้สึกว่ามีชีวิตเป็นของตัวเอง พ่อแม่อยากให้ทำ แต่ว่าตอนนี้เป็นสิ่งที่ตัวเองกำหนดแล้ว เมื่อก่อนมีความรักก็ควานหาว่าผู้ชายต้องมาขอ สุดท้ายตอนนี้ไม่ได้ต้องการสิ่งนี้แล้ว ใช้ชีวิตในแบบที่ตัวเองต้องการ ไม่ใช่สิ่งที่สังคมต้องการ พ่อแม่ต้องการ ประเทศไทยต้องการ
แต่ทำสิ่งที่ปูต้องการ มีความสุขมาก ถึงจะทำโดยไม่ได้เงินเยอะ ไม่มีค่าตัว ไม่สบายเหมือนตรงนี้ แต่ได้เป็นปูในแบบที่ปูอยากเป็นแบบที่ไม่มีใครต้องมาบังคับ”
ส่วนความรักยังมองไม่เห็นภาพตัวเองแต่งงานมีครอบครัว
“ตอนนี้ไม่มีภาพตัวเองจะมีแฟน หรือและแต่งงาน มีผู้ชายคุยเพราะบางทีก็ไม่ได้อยากนั่งทานข้าวคนเดียว ถ้าจะมีหนุ่มฮอลลีวูดมาจีบก็ปล่อยเป็นเรื่องของชะตา แต่ปูชอบดูดวง เขาบอกว่าไม่มีคู่ จะมีตอน 40 อัป ก็ทำใจ ก็รอเดี๋ยวเขาก็มา แต่ใจจริงก็มีความสุข ไม่ได้อะไร
เมื่อก่อนปูเป็นคนที่เต็มที่กับเรื่องความรัก ทุ่มเท แต่ปี 2020 เป็นปีที่เจ็บที่สุด สุดติ่งกระดิ่งแมว ความรักเจอมาแบบหนักหน่วง กะเทยต้องเรียกแม่”
เมื่อถามว่าตอนที่ไปทำตามฝันเคยไปขอชุดแบรนด์เนมใส่แล้วเขาไม่ให้ แต่มาวันนี้ใครๆ ก็เอาชุดมาให้ใส่รู้สึกอย่างไร ปู ไปรยา ตอบว่า…
“ปูต้องเจอเรื่องร้ายๆ เยอะ เพราะเมื่อก่อนเหลิงแล้วล้ม ล้มจริงๆ เพราะไม่คิดก่อนพูด นี่หมอดูก็ทักว่าปีนี้จะดีก่อนหน้านี้บอกยังชงอยู่นะ นี่ก็งงคนบ้าอะไรชงตั้ง 5-6 ปี ชงอะไรกันนักหนา แต่ปีนี้เขาบอกว่าจะดี ไชโยดีซะที เหนื่อยเหลือเกิน”
