“โตโน่ - ณิชา” ออกงานคู่หลังโควิด บอกเสี่ยงหลายรอบแต่ยังรอดอยู่ ดูแลตัวเองดีไม่แพนิก ลุ้นทุกอาทิตย์จะได้ถ่ายละครไหม โอดตรวจ ATK ทุกวันจนพรุนแล้ว ความสัมพันธ์ตอนนี้เรื่อยๆ เหมือนเดิม ไปทานข้าวกับสองครอบครัว ไม่น้อยใจต่างฝ่ายต่างทำงาน แต่ก็มีถามคิวว่างนัดเจอบ้าง ไม่ห่วงเรื่องเซ็กซี่เพราะโตแล้ว ไม่มีสแกนรูปก่อนลง ขำๆ ไม่ดูละครเพราะไม่สะดวก รู้มีเลิฟซีนแต่ไม่คิดว่ามีทุกวัน เสียใจกับครอบครัว “บีม ปภังกร” เคยร่วมงานมาก่อนทั้งคู่
หลังไม่ได้ออกงานคู่กันมาสักพัก ล่าสุดวันนี้ (24 มี.ค.) นักร้องหนุ่ม “โตโน่ ภาคิน คำวิลัยศักดิ์” ก็ขอควงหวานใจคนสวย “ณิชา ณัฏฐณิชา ดังวัธนาวณิชย์” มาร่วมในงานแถลงข่าว “เดิน-วิ่ง 2020 Olympic Day” งานนี้ก็เลยขอทริกวิธีการดูแลตัวเองจากโควิดกันสักหน่อย เพราะถือเป็นนักแสดงส่วนน้อย ที่ยังรอดไม่โดนโอมิครอนเล่นงาน พร้อมถามถึงความรู้สึก รับทราบข่าวการจากไปของ “บีม ปภังกร ฤกษ์เฉลิมพจน์” ในฐานะที่เคยร่วมงานกันมาก่อน จากละคร “ดวงใจในมนตรา”
โตโน่ : “ยังรอดอยู่นะครับ ถามว่าดูแลตัวเองยังไง ผมเองก็ปกตินะ คือดูแลตัวเองให้แข็งแรง แล้วก็พยายามล้างมือบ่อยๆ นะครับ แล้วก็ไม่หวั่นวิตกจนเกินไป คือเราระวังได้ แต่ไม่ว่าไปล่ก หรือว่ามีเพื่อนที่เราติด เราก็ไม่ได้มองว่าแย่ แต่ให้กำลังใจกัน มองตามสถานการณ์ของมัน ถ้ามันไม่หายไปเราก็ต้องอยู่กับมันให้ได้ เราจะใช้ชีวิตยังไง ให้เราสามารถที่จะใช้ชีวิตต่อไปได้”
ณิชา : “เสี่ยงมาหลายรอบแต่ก็รอดค่ะ ก็ดูแลตัวเองเบสิกเหมือนทุกคนนั่นแหละค่ะ ไม่ได้แพนิกแต่มีตื่นเต้นบ้าง มันใกล้ขึ้นเรื่อยๆ เหมือนวงมันแคบลงเรื่อยๆ”
โตโน่ : “เวลาไปถ่ายละครก็ต้องลุ้น ว่าอาทิตย์นี้จะถ่ายได้ทุกวันไหม จะมีแจ็คพอตไหม เราโดนตรวจเกือบทุกวันครับ ทั้งแยงจมูก ทั้งตรวจน้ำลาย พรุนหมดแล้วครับ (หัวเราะ)”
ณิชา : “ต้องตรวจทุกวัน ทุกเช้าก่อนเขากองค่ะ ก็อยากรอดเหมือนกัน ไม่อยากเป็นเลย”
โตโน่ : “เอาน่า ถ้าจะต้องเป็นก็ไม่เป็นไรหรอก”
ณิชา : “รู้ว่าไม่เป็นไร แต่ก็อย่าเป็นเลยดีกว่า”
ไม่ได้ออกงานคู่กันนานแล้ว
โตโน่ : “นานแล้ว ไม่ได้ออกงานด้วยกันเลย”
ณิชา : “ถ้าเป็นงานก็จะเป็นงานออนไลน์ค่ะ อันเป็นพลับบลิคครั้งแรกๆ เลย”
โตโน่ : “วันนี้เป็นบรรยากาศที่มาตรฐานมาก (หัวเราะ) ปกติเวลาเราขึ้นเวทีนี่ต้องแบบ อันนี้ท่านทุกคนแต่งตัวมาตรฐานมาก นั่งฟังด้วยความสุขุม ก็ถือว่าแฮปปี้นะครับ ผมว่าสนุกดี แล้วในขณะระหว่างที่คุย ก็รู้สึกว่ามีการฟังกันจริงๆ ว่าเรากำลังคุยอะไรกัน บรรดาผู้ใหญ่ที่จัดงานขึ้นมา มีความหวังดีต่อสิ่งแวดล้อมยังไง ต่อคนที่มาร่วมงานยังไง เราก็รู้สึกดีใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งในงาน”
ความสัมพันธ์ตอนนี้ไปได้เรื่อยๆ
ณิชา : “เรื่อยๆ ค่ะ”
โตโน่ : “ความสัมพันธ์ก็เรื่อยๆ ครับ ผมว่าผมเป็นยังไงก็เป็นแบบนั้นนะ”
ณิชา : “ก็เป็นอย่างนี้ (หัวเราะ) เป็นอย่างนี้ไปเรื่อยๆ”
เพิ่งนัดทานข้าวแบบสองครอบครัว เพราะแม่ๆ คิดถึงกัน ไม่น้อยใจทำงานเยอะไม่ค่อยมีเวลา
โตโน่ : “คุณแม่กับแม่ยุ้ย เขาคิดถึงกันครับ เขาอยากจะแทนข้าว วันนั้นณิชาก็มีงาน ผมเลิกงานเร็วก็เลยนัดกันไปกินข้าว”
ณิชา : “นัดเจอกันเป็นครอบครัว”
โตโน่ : “จริงๆ แล้วอาทิตย์หนึ่ง อาจจะว่างเจออาทิตย์ละครั้งบ้าง สองอาทิตย์ครั้งบ้าง แล้วแต่จังหวะครับ แต่จริงๆ ถ้าเรามีเวลา เราก็อยากจะพาณิชาไปกินข้าว ไปดูหนัง แต่เวลามันน้อยกันทั้งสองคน”
ณิชา : “ไม่น้อยใจค่ะ ต่างคนต่างทำงาน ตอนนี้มีงานให้ทำก็คือสุดยอดแล้วค่ะ (หัวเราะ) ทำงานกันให้เต็มที่ดีกว่า เราอุตส่าห์ได้กลับมาทำงาน”
โตโน่ : “สุดยอด คือคิดแบบนี่มันถูกต้องที่สุด”
มีถามตารางงานเพื่อหาวันว่างตรงกัน ขอบคุณคอยเข้าใจและเป็นกำลังใจให้เสมอ
ณิชา : “ก็มีบ้างแบบนานๆ ที บางทีก็จะแบบว่า วันนี้ณิชาอยู่ไหน คือต่างคนต่างทำงาน หนูก็ละคร 7 วัน พี่โน่ก็งานหนัก ถ้าไม่ท้วงบ้างมันก็อาจจะลืมๆ ไปนิดหนึ่ง”
โตโน่ : “ก็จะมีครับ ที่แบบส่งมา โตโน่ส่งคิวมาให้ดูหน่อยสิ (หัวเราะ)”
ณิชา : “ก็แบ่งหน้าที่กัน เราอาจจะเป็นหน้าที่จัดแจงนิดหนึ่ง ว่างั้นเวลาช่วงนี้ที่เราว่าง เจอกันแล้วกัน ไม่งั้นถ้าต่างคนต่างทำงานอย่างเดียว มันก็จะไม่ได้เจอสักที ก็เข้าใจกันค่ะ”
โตโน่ : “ผมว่าเขาเข้าใจเราตลอดเลยครับ ทั้งในช่วงไปว่ายน้ำ ไปแข่งบอล หรือไปขี่ม้า (หัวเราะ) ต้องขอบคุณมากเลยครับ คือณิชาเป็นกำลังใจให้ผม คือหลายๆ อย่างที่เราทำมันค่อนข้างเหนื่อย ถ้าน้องไม่เข้าใจเราอาจจะไม่มีแรงครับ อันนี้เขาช่วยนะครับ”
เรื่องความเซ็กซี่ไม่ค่อยห่วง เพราะโตน้องแล้ว แต่อันไหนไม่โอเคก็ขอเลื่อนผ่าน
โตโน่ : “อันนี้ผมขอไม่ตอบ เปลี่ยน”
ณิชา : “ทำไม (หัวเราะ)”
โตโน่ : “คือมันไม่ยากครับ อะไรที่เรารู้สึกว่ามัน มันสวยนั่นแหละ แต่เราอาจจะไม่โอเค เราก็แค่เลื่อนผ่านไป (ไม้เรียวเลยไหม?) ไม่ครับ มันเลยยุคนั้นมาแล้ว เขาโตแล้วครับ (บางอันเราก็เข้าไปคอมเมนต์แหย่ๆ อยู่เหมือนกัน?) ก็บางอันมันอดไม่ไหวจริงๆ (หัวเราะ) ก็ต้องมีบ้าง แต่ว่าจริงๆ แล้วไม่นะครับ ผมไม่ค่อยไปห้ามน้องอะไรเลยนะครับ ณิชาโตแล้วครับ”
ต้องส่งรูปให้ดูก่อนลงไหม
ณิชา : “ลงเลยค่ะ (หัวเราะ) คนที่ให้ดูคือแม่มากกว่าค่ะ แต่วันนั้นพี่ต้องตา (น้องสาวโตโน่) ถ่ายค่ะ”
โตโน่ : “ถามว่าให้น้องเซ็กซี่ได้แค่ไหน จริงๆ แล้วผมไม่ต้องห่วงณิชาเรื่องนี้เลยนะ ณิชารู้ว่าอะไรที่มันพอดีกับตัวเองครับ ถ้ามันเป็นความสุขของณิชา เขารู้ว่าตรงนี้ฉันทำได้ ตรงนี้ฉันไม่ควร ผมไม่ได้ห่วงเรื่องนี้เลยครับ อย่างที่บอกอะไรที่เรารู้สึก เราก็เลื่อนผ่าน”
ขำๆ ไม่ได้ดูละครของกันและกัน เพราะไม่สะดวกดูฉากเลิฟ
ณิชา : “ไม่ดู เราก็ไม่ดู (หัวเราะ)”
โตโน่ : “สัมภาษณ์ตรงๆ เลยนะครับ คือไม่ใช่แค่ผม วงผมก็ไม่ดู คือเราก็แยกแยะได้ครับว่ามันเป็นงาน แต่ว่าเป็นช่วงที่ไม่ว่างพอดีช่วงนี้ (หัวเราะ) ใช้คำว่าไม่สะดวกแล้วกัน”
น้องบอกแล้ว “เกมปรารถนา” เลิฟซีนเยอะ แต่ก็ไม่คิดว่าจะขนาดนี้ บอกเข้าใจได้ แต่ถ้าเจอ “อาเล็ก ธีรเดช เมธาวรายุทธ” ก็ขอไม่คุย
โตโน่ : “เขาบอกนะ ตอนเตรียมตัว แต่ว่าเราก็ไม่คิดจริงๆ ว่ามันจะมีทุกวันเลยครับ (ไม่ได้ดูแล้วทำไมถึงรู้?) ผมเวลาเลี่ยงช่วงเวลานั้น แต่อินสตาแกรมมันเด้งขึ้นมา ผมก็พยายามเลื่อนผ่านไปนะครับ ก็ดีใจด้วยที่แฟนๆ ชอบครับ (เวลาเจอ อาเล็ก ธีรเดช คุยอะไรกัน?) ขอไม่คุยแล้วกัน (หัวเราะ) ไม่ใช่ครับ ช่วงนี้ยังไม่ได้เจอกัน เข้าใจได้ ขำๆ ได้ ก็ขอให้อาเล็กสู้ๆ ครับ ตั้งใจทำงานสู้ๆ ดูแลสุขภาพด้วยครับผม”
เกิดมายังไม่เคยเล่นเลิฟซีนเยอะเท่าน้อง บอกตัวเองต้องแยกแยะ นั่น “มิลิน” ไม่ใช่ “ณิชา”
โตโน่ : “เกิดมาในชีวิต ผมก็ไม่เคยต้องเลิฟซีนเยอะขนาดนี้”
ณิชา : “หนูก็ไม่เคยเหมือนกันแหละค่ะ เรื่องนี้เป็นเรื่องแรกที่อ่านบทไปก็ตกใจเองเหมือนกัน”
โตโน่ : “แต่ว่ามันเป็นการแสดงครับ ทุกคนต้องแยกแยะให้ได้ ต้องเข้าใจมันเป็นงาน เราเป็นนักแสดง เวลาที่ณิชาเป็นแบบนั้น นั่นไม่ใช่ณิชา นั่นคือมิลิน ตัวละครคุณผมยังจำชื่อได้แล้ว เพียงแค่ช่วงเวลานั้นผมไม้สะดวกเท่านั้นเองครับ (หัวเราะ)”
ณิชา : “ถามว่าหลังจากนี้มันจะมียิ่งกว่านี้ไหม หนูว่ามันไม่มีอะไรยิ่งกว่านี้แล้วนะคะ ก็คงจะเป็นมิลินกับอนาวินคลั่งรักอย่างนี้ไปเรื่อยๆ (หัวเราะ)”
แสดงความเสียใจกับครอบครัว “บีม ปภังกร ฤกษ์เฉลิมพจน์” ร่วมงานกันมาก่อนจากละคร “ดวงใจในมนตรา” ชมน้องเป็นคนน่ารัก และตั้งใจทำงานมาก
โตโน่ : “ก็ใจหายนะครับ รู้สึกว่าแบบ เคยร่วมงานกับน้อง น้องเป็นคนเก่ง กำลังจะขึ้นมาเป็นสีสัน เป็นกำลังสำคัญของวงการบันเทิงอีกคนหนึ่ง คิดว่ามันเร็วเกินไป ผมรู้สึกว่าปีนี้มันเป็นปีที่แบบสูญเสียเยอะ ทั้งพ่อเอก สรพงษ์ ชาตรี หลายๆ คน น้องเป็นคนที่ตั้งใจทำงาน เวลาเข้าซีนด้วยกัน เราจะรู้เลยว่าเขาเป็นตัวละคร ตาเขา สิ่งที่เขารู้สึก เรารู้ได้ว่าเขาไม่ได้มาแค่ท่องบท
ก็รู้เสียใจแทนครอบครัวเขา เราลองนึกลับกันนะ เราก็เป็นดวงใจของคุณพ่อคุณแม่เรา แล้วน้องผมอายุแค่นี้ แต่ว่ามันก็ย้ำเตือนอย่างหนึ่งนะ ว่าวงการของพวกเรามันก็มีกันอยู่เท่านี้ ยิ่งต้องรักกันให้มาก ยิ่งต้องแบบ ทั้งพี่ๆ สื่อมวลชน ตัวของดารานักแสดงนักร้องทุกๆ คน เรามีอาชีพที่มีโอกาสทำให้แฟนๆ มีความสุขครับ ยิ่งถ้าเรารักกัน สามัคคีกัน ช่วยกันสร้างสรรค์ผลงานที่มันดี มันก็คงคุ้มกับช่วงเวลาที่เรามีโอกาสได้ทำครับ ไม่มีใครรู้ว่าอนาคตจะเป็นยังไง”
ณิชา : “ปีนี้สูญเสียเยอะมากๆ หลายๆ คน น้องเป็นคนน่ารักนะคะ ก็เสียใจกับครอบครัวด้วยค่ะ”