“กอล์ฟ พิชญะ” เห็นแฟนในชุดเจ้าสาวก็อยากแต่งงาน แต่ถูกเบรกด้วยบัดเจ็ต ลั่นขอเก็บเงิน และรอให้สร้างบ้านเสร็จเสียก่อน ขำๆ คนแห่ยินดีตรึม ลั่นเจ้าสาวก็ต้องเป็นคนนี้ ให้กำลังใจ “คิวเท” เจ็บปวดและเศร้าถูกทีมงานหักหลัง
ทำเอาแฟนๆ ฮือฮาว่ากำลังจะมีข่าวดีหรือเปล่า หลังจากที่ “กอล์ฟ พิชญะ นิธิไพศาลกุล” โพสต์ภาพ “แอนนี่” แฟนสาวในชุดแต่งงาน โดยในงานเปิดตัวแบรนด์ S-GEAR ที่ควอเทียร์ ซีเนอาร์ต ชั้น 4 ศูนย์การค้า ดิ เอ็มควอเทียร์ กอล์ฟก็ได้เปิดใจถึงเรื่องนี้ ลั่นแอนนี่แค่ลองใส่เท่านั้น แต่ไม่ปฏิเสธเห็นแล้วก็อยากแต่งเหมือนกัน แต่ติดขัดที่เงิน
“ดึงแฟนมาเล่นเอ็มวีก็เซฟบัดเจ็ตครับ (หัวเราะ) แต่ก็ช่วยจ่ายค่าช่างแต่งหน้าให้เขาครับ ถามว่าตอบแทนเป็นชุดแต่งงานไหม โอ้ย แต่งงานอันนั้นคือพี่แบงค์ พี่ชายของกอล์ฟจะแต่งงาน เขาก็ไปลองชุด พอเราไปถึงคือแอนนี่ก็อยากลองแน่ๆ กอล์ฟก็เลยโอเคอยากลองก็ลอง เพราะเราไม่ได้เป็นคนยึดติดอย่างที่เขาคิดว่าถ้าลองแล้วจะไม่ได้แต่งงาน ก็นั่งคิดว่าถ้าอย่างนั้นดาราที่เขาใส่ชุดแต่งงานถ่ายละครถ่ายแบบก็ไม่ต้องแต่งงานแล้วสิ กอล์ฟก็เลยให้ลองไปเถอะ ก็เหมือนแค่ลองใส่ชุด
ถามว่าฝรั่งเขาเชื่อเรื่องพวกนี้ไหม กลัวอย่างเดียวว่าได้ลองชุดสวยมากๆ แล้ว พอถึงวันจริงมันจะต้องมีอะไรที่อัปสเต็ปขึ้นไปอีกหรือเปล่า (หัวเราะ) แอนนี่ก็ชอบมาก ลองไปสองชุดนะวันนั้น”
เห็นแล้วก็อยากแต่ง แต่ขอเก็บเงิน ถูกเบรกด้วยบัดเจ็ต
"ก็อยากนะ แต่เก็บตังค์ก่อนนะ (หัวเราะ) ตอนนี้ทำบ้านอยู่ มันถูกเบรกด้วยบัตเจ็ตครับ ต้องเก็บตังค์ก่อน เพราะเวลาจะจัดงานแต่งงานทีเห็นพี่ชายจัดก็คือที่สมุย ต้องมีค่าตั๋วหรือเปล่า พาเพื่อนๆ ไป ไหนจะโรงแรมอีก คือถ้าเราจะทำก็อยากทำให้ดีครับ เรื่องธีมงานยังไม่ได้คิดเลย แต่ยูทิวบ์ที่ถ่ายไปก็มีบอกไปบ้างว่าคิดอะไรบ้าง แต่ก็เล็กๆ น้อยๆ ไปดูในช่องนะครับ”
คนแห่ยินดีตรึม แต่คิดว่าน่าจะเข้าใจถ้าได้ดูคลิปในยูทิวบ์
“ใช่ๆ มีคนยินดี ทุกวันนี้ยังไม่ได้เข้าไปแก้เลย (หัวเราะ) เพราะคนเข้ามายินดีเยอะมาก แต่ถ้าเห็นคลิปยูทิวบ์คนก็น่าจะเข้าใจ ตอนเห็นเขาใส่ชุดแต่งงาน ถามว่าเห็นภาพเราใส่ชุดเจ้าบ่าวไหม ตอนนั้นไม่ได้คิดอย่างนั้น คิดว่าวันนี้กูแต่งตัวอะไรมาเนี่ย (หัวเราะ) ลืมคิดไปว่าเผื่อแฟนอยากลองใส่ชุด แล้วเขาสวยมากเลย แต่เราแต่งตัวอะไรมา ดูผ้าเหี่ยวๆ วันนั้นเหมือนมีแต่ชุดเจ้าสาวครับ เลยไม่ได้ลองชุดเจ้าบ่าว เขาก็ไม่ได้พูดว่าอยากแต่ง ไม่ได้กดดันครับ เขาชอบชุดเฉยๆ”
บ้านอีกนานกว่าจะเสร็จ
“ทำบ้านเสร็จ โห..อีกสักพักนึงเลยครับ ยังไม่ได้เริ่มสร้างเลย ใช้เวลาทั้งหมด 15-18 เดือนครับ ถามว่าระหว่างบ้านเสร็จกับแต่งงาน อันไหนจะเกิดก่อนกัน ก็คิดว่าบ้านครับ ส่วนที่บางคู่เขาแต่งงานไปก่อนแล้วค่อยทำบ้านตามมา ของกอล์ฟคงไม่ครับ พอดีคอนโด กอล์ฟเก็บของไม่พอแล้วไง เลยต้องทำบ้าน ถามว่าเป็นเรือนหอไหม บ้านมันไม่ได้เป็นทรงเรือนหอครับ แต่ก็ไม่แน่ รอดูครับ”
เจ้าสาวต้องคนนี้แหละ
“คนอื่นมั้งครับ (หัวเราะ) มั้ง ก็คือคนนี้แหละ ไม่ได้เปลี่ยนไปไหนอยู่แล้วครับ”
ให้กำลังใจ “คิวเท โอปป้า” ลั่นเรื่องผ่านมาสองเดือนแล้ว แต่อีกฝ่ายยังเจ็บและดูเศร้า
“ก็มีส่งหาน้องบ้าง คือน้องทักมาว่ามีแถลงข่าวหนัง ถ้าเราว่างก็มา แต่พอดีกอล์ฟถ่ายหนังอยู่สกลนครเลยไม่ได้ไป ก็มีส่งให้กำลังใจน้อง ถามไถ่ว่าเป็นยังไงบ้าง โอเคนะ มีอะไรก็คุยได้ คือจริงๆ กอล์ฟเจอน้องวันนั้นครั้งที่ 2 ครั้งแรกเราไปถ่ายงานยูทิวบ์กัน เหมือนครั้งที่ 2 เราไปวานน้องบอกว่าเรามี MV มา อยากให้น้องดู รีแอ็กหน่อย เลยไปที่บ้านน้องไปสตูดิโอ ก็ไม่รู้เรื่องอะไรเลย ไม่รู้ว่าทำไมมันเงียบจังเลยวันนั้น ก็เจอน้อง น้องก็บอกว่าทีมงานออกกันหมดเลย ก็เลยถามว่าเกิดอะไรขึ้น เราก็ถามว่าจะทำยังไง ตัดต่อยังไง มีคนไหม เผื่อถ้าเรามีใครแนะนำ แต่น้องเขาก็โปรฯ อยู่แล้วแหละ แต่เราแค่เป็นห่วง เลยรับรู้เรื่องว่าเกิดอะไรขึ้นครับ
ก็ค่อนข้างกระทบนะ ทุกครั้งที่กอล์ฟเห็นยูทูปเบอร์ที่เขามีทีม ตอนนี้กอล์ฟทำตัวคนเดียว มีฟรีแลนซ์ตัดต่อ เวลากอล์ฟเห็นน้องคนอื่นมีทีม มีแก๊ง เป็นเพื่อนกัน เราก็รู้สึกว่าอยากมีแก๊งเด็กๆ น้องๆ มาสนุกด้วยกัน เราก็คิดว่าเขาดูรักกันมาก แต่พอวันหนึ่งมาเจอแบบนี้มันค่อนข้างเจ็บนะ เพราะวันนั้นที่กอล์ฟเข้าไปเรารับรู้ได้ว่าน้องพูดไปขำๆ ไป ถึงแม้เรื่องจะผ่านมาสองเดือนแล้ว แต่เราเห็นในมุมของซิมที่ดูเศร้า คือทีแรกเราก็อยากมีแต่พอเห็นแบบนี้ก็กลัวแล้ว แต่จริงๆ มันก็มีทั้งคนที่ดีแล้วก็ไม่ดี แต่อยู่ที่ว่าเราอาจจะต้องดูคนดีๆ”
รับไม่อยากให้ติดตามอดีตทีมงานคิวเท ไม่เก็ตทำไมต้องอยากรู้ว่าเป็นใคร แล้วไปติดตามให้ยอดฟอลโลว์พุ่งขึ้นมา
“คือตัวกอล์ฟมองว่า ไม่ใช่แค่ข่าวของซิมอย่างเดียวนะอาจจะเป็นข่าวของคนอื่น ตัวกอล์ฟเองไม่ค่อยจะเข้าใจที่ว่า คือคนที่ทำผิด เราอยากจะเข้าไปดูแล้วอยากจะรู้ว่าใคร แต่ทำไมเราจะต้องเข้าไปติดตามให้ยอดเขาพุ่งขึ้นมา แล้ววันนึงที่เรื่องเงียบคนลืมไปเงียบไป กลายเป็นว่าตัวเลขที่ฟอลโลว์เขายังอยู่ เผลอๆ ลูกค้าอาจจะลืมไปแล้วว่าคนๆ นี้ เขาทำอะไรไว้ อย่างสมมติคนตาม 20,000 ลูกค้าเขาก็มองว่าไม่เห็นเสียหายอะไรคนเห็น product เขา แล้วทำไมคนๆ นี้จะต้องได้รับสิ่งๆ นี้กับสิ่งที่เขาทำกับคนอื่นไว้แบบนั้น
ส่วนที่ทีมงานเขาออกมาสัมภาษณ์ซ่าอยากจะกลับไปร่วมทีมด้วย คือจริงๆ แล้วเรื่องนี้ก็เป็นเรื่องของของทางซิมคือที่พิมพ์ออกมาในวันนั้นน่ะ โอเคกอล์ฟอาจจะไม่ได้สนิทกับทางน้องเขาเหมือนคนอื่นๆ แต่วันนั้นคือมีโอกาสได้นั่งคุยกันยาวนิดนึงก็เลยรู้สึกแค่ว่ามันไม่แฟร์กับตัวน้องเขาแค่นั้นเองกับสิ่งที่เขามันเจอกับความใจดีของเขา คือเรื่องหลังจากนี้ก็เป็นเรื่องที่น้องเขาต้องตัดสินใจครับ”
