เป็นเรื่องราวทอล์ก ออฟ เดอะทาวน์เลยทีเดียว สำหรับเรื่องของแม่ค้าออนไลน์ “พิมรี่พาย” หรือ “ พิมรดาภรณ์ เบญจวัฒนะพัชร์” ที่อยู่มาวันนึงเจ้าตัวได้ไลฟ์ขายของแล้วอยู่ๆ ก็ด่าคนที่เข้ามาคอมเมนต์ว่าตกต่ำ ยอดคนดูน้อย ทำให้พิมรี่พายโมโห ด่าร่ายยาวโดยยกตัวอย่างถึงคนที่ได้เงินเดือน 1.4 หมื่น กินมาม่าครึ่งนึง ยังต่อคิวบัตรอิออน มีหน้าอะไรมาด่าว่าตนตกต่ำ ทำให้ชาวโซเชียลไม่พอใจ กลายเป็นเรื่องที่ถูกหยิบยกพูดถึงไปทั่ว
ล่าสุดในยูทิวบ์ช่องพิมรี่พาย ก็ได้เชิญพิธีกรฝีปากกล้า “มดดำ คชภา ตันเจริญ”มาเป็นคนสัมภาษณ์และพูดคุยกับตนในตอนที่ชื่อว่า มดดำซักพิมรี่พายทุกประเด็นดรามา โดยมดดำได้ทำหน้าที่ทั้งเป็นคนสัมภาษณ์และพูดคุย สั่งสอนพิมรี่พายไปในตัวว่า…
มดดำ : “ระหว่างที่เธอพีกขึ้นสูงสุด ฉันพูดกันทุกคนเลยนะว่าคอยดูนะ ยิ่งเธอขึ้นสูง แล้วเธอจะเหลิง แล้วเธอก็จะตก ในระหว่างที่เธอขึ้นๆๆๆๆ ขึ้นให้สุด ขึ้นให้เหนื่อย ขึ้นให้จบแล้วกลับมาทบทวน เขาเรียกว่าช่วงอะไรเธอรู้ไหม ช่วงสะดุ้งไฟ ถ้าภาษาชาวบ้านคือตื่นห-อย วันนี้เธอสะดุ้งให้เต็มที่ เพราะฉันก็เคยปากหมาวิจารณ์คน ด่าคนไปทั่ว ทัวร์ก็ลงฉันบ่อยแก แต่สิ่งที่ฉันไม่กล้าคืออะไรรู้ไหม การเปรียบเทียบคน แล้วสิ่งที่แกทำอยู่ฉันอยากฟังจากปากแกจริงๆ ว่าสมองแกวันนั้นคิดอะไรถึงได้พูดออกไป พูดถึงคนเงินเดือน 1.4 หมื่น พูดถึงการต่อคิวบัตรอิออน มึงคิดอะไร มึงไม่เคยจนมาก่อนเหรอ ทำไมไปพูดอย่างนั้น”
พิม : “พิมก็มีวิธีพูดกันคนที่พูดดี เวลาใครพูดดีกับหนู อุดหนุนพิมจะเรียกว่าเพื่อนรัก แต่ใครพูดจาไม่ดี พิมมีวิธีรับมือแบบตาต่อตา ฟันต่อฟัน พิมอ่านทุกคอมเมนต์ที่พิมเห็น พิมก็จะจัดการอีพวกที่คอมเมนต์ พิมด่าคนนั้น แต่มีคนหลายหมื่นคนร่วมฟังด้วย บางคนเขารู้สึกว่านี่มันกระทบกูนี่ ก็อยากจะบอกว่าพิมไม่มีเจตนาจะด่าว่าใคร แต่พิมยอมรับว่าพิมผิดอย่างเดียวคือไม่ได้เอ่ยชื่อมัน ไม่ได้พูดออกไปว่ามึงอย่าด่ากูนะอีเอ มึงผ่อนอิออนนะอีเอ มึงกินมาม่านะอีเอ มันก็เลยกลายเป็นแบบนั้น มันออกมาเป็นภาพรวมแต่เจตนาเราไม่ได้จะไปว่าเขา จะไปว่าเขาทำไมเล่า พิมไม่ใช่คนแบบนั้น
พิมไม่ได้จะไปดูถูกใครเขาเลย พิมแค่ด่าอีนั่นคนเดียว แต่เราโดน ซึ่งคนในไลฟ์ 5 หมื่นคนตอนนั้นเข้าใจดี แต่คนที่เขาไม่ได้ดู ข่าวตัดไปแต่ผม ไม่ได้เอาเหตุไปตัดรวมด้วยไง พิมถึงบอกด่ากูได้ไม่เป็นไรถ้ากูไม่ได้ยิน แต่ถ้ากูได้ยินกูด่ากลับนะแล้วมึงต้องรับให้ได้ ใครมาด่าแม่ แม่ยอมไหม”
ไม่อนุญาตให้ใครมาคอมเมนต์ วิจารณ์ว่าตนตกต่ำ
มดดำ : “ฉันไม่ยอม แต่ในขณะเดียวเขาบอกว่าเธอเคยมีคนดูเป็นแสนๆ วันนึงคนดูเหลือหมื่นกว่าคน เธอเลยเสียเซลฟ์ จิตตก เธอรับไม่ได้กับที่คนดูไลฟ์น้อย เธอตกต่ำ พิมรี่พายตกต่ำ”
พิม : “ชีวิตพิมตกต่ำที่สุดคือการเดินขายของตามตลาดนัด เดินขายของตามตรอกซอกซอย ชีวิตพิมเกิดมาก็ตกต่ำเลย พิมเพิ่งมาขึ้นเมื่อ 3 ปีที่ผ่านมาเอง อย่ามาพูดว่าพิมตกต่ำ เพราะมึงไม่เคยรู้เลยว่า กูจน กูตกต่ำมาขนาดไหน กูตกต่ำมาตั้งแต่เกิดแล้ว และพิมก็ไม่อนุญาตให้ใครมาชี้หน้าบอกหรือมาคอมเมนต์ หรือจะเขียนอะไรก็ได้ว่าพิมตกต่ำ พิมไม่ยอม”
ไม่ได้เหลิงในชื่อเสียง แต่ยอมรับว่ามีภาวะเครียดสะสมจากสภาวะเศรษฐกิจ ชีวิตความเป็นอยู่ทุกวันนี้ที่ข้าวของแพง แต่หาเงินได้เท่าเดิม
มดดำ : “เอาตรงๆ เลยนะ หล่อนเหลิงขึ้นไหม”
พิม : “พิมไม่เคยเหลิง พิมรี่พายเป็นคนเดิม พิมรี่พายดังเพราะความมั่น ที่โดนด่าทุกวันนี้ก็เพราะปากเป็นเหมือนเดิมนี่แหละ ถ้าพิมทำแบบคนอื่นๆ ทำไมจะทำไม่ได้ แต่พิมเป็นคนเดิมไง ยังพูดจาผิดพลาด ยังพลาดพลั้งไง พูดอะไรไม่รู้อีโหน่อีเหน่ไม่ดูสถานการณ์ พูดไปเรื่อย จนโดนด่า ถามว่าพิมเป็นเหมือนเดิมไหม”
มดดำ : “บางคนบอกหล่อนเครียดสะสมรึเปล่า?”
พิม : “พิมยอมรับว่าพิมเครียดจริงๆ พิมไม่โกหก วันไหนพิมเครียดพิมก็บอกลูกค้าเลยนะเพื่อนวันนี้สุดมากเลย วันนี้เครียดมาก วันไหนจะเป็นไงก็แล้วแต่ พิมก็จะบอกสิ่งที่พิมรู้สึก พิมไม่ใช่รายการทีวีค่ะ จะให้มาคีฟลุกส์ มันไม่ใช่ไง แล้วแต่วันว่าพิมจะไหวไหม คิดอะไรก็พูดออกไปอย่างนั้น”
เอาจริงๆ นะยุคนี้ไม่เครียด ไปหาหมอ เงินหายาก หุ้นตก คริปโตพังมาก ข้าวยากหมากแพง ไหนจะต้องจัดการ 20 ปัญหาให้ได้ภายใน 1 วัน ลูกน้องพิมมี 3 พันคน ต้องมีงานทุกวัน ไม่งั้นเข้าเนื้อ ต้องบริหารกำไรให้ได้ พิมเครียดน่ะถูกต้องแล้วแม่ ทุกคนเป็นหมด เขาเรียกว่าสภาวะของไตรมาสแรก 3 เดือนแรกมันจะเงียบ เราต้องยอมรับว่าเราได้รับผลกระทบ ของ 3-4 โกดังสุดลูกหูลูกตา 60-70 ล้านชิ้น พิมขายอยู่คนเดียว คนเดียวเลยนะจะไม่ให้พิมเครียดได้ยังไง มันก็เครียดปกติ มันไม่แปลก เข้าใจไหม”
มดดำ : “พอดรามาเดี๋ยวเธอก็ไปสร้างภาพ เป็นคนดี ช่วยเหลือสังคมต่อ”
พิม : “พิมทำมานานแล้ว วันนี้พิมก็ยังทำปกติ แต่มาช่วงหลังโดนด่า แล้วก็เอาเรื่องเก่า เรื่องนั้นเรื่องนี้มาโยง พิมรู้สึกว่าบางทีมันก็ไม่แฟร์กับพิมนะ มาเขียนในคอมเมนต์ว่า อุ้ย! โดนด่าครั้งนี้ประกอบโซล่าเซลล์รอแล้วมั้ง มันทำมา 3 ปีแล้ว ซึ่งพิมก็บอกว่าพิมจะไม่หยุดทำ แล้วมาบอกว่าพิมจะสร้างภาพกลบสิ่งที่ทำเสียหาย แล้วมันกลบกันยังไง พิมไม่เข้าใจ ผิดก็ส่วนผิด ทำก็ส่วนทำ พิมยังทำต่อ
พิมรี่พายเป็นคนสองร่างนะ ร่างนึงคือสู้สุดใจเลยนะ ไม่ยอม อีกฝั่งนึงก็สู้เหมือนกัน แต่สู้ที่จะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลง อยากจะแบ่งปัน พิมอยากจะบอกว่าพิมอาจจะเป็นตัวร้ายในสายตาคนหลายคน ตัวเหี้- ตัวเลวเลยนะ ใครจะว่าก็ว่าไป แต่ในวันนึงที่พิมยังมีค่ากับใครสักคนแม้จะแค่คนเดียวพิมจะทำต่อ พิมไม่สนใจ คนเรามันเดินมันก้าวอยู่ทุกวัน มันจะไม่มีผิดบ้างเลยเหรอ ก้าวเยอะมันก็ผิดเยอะ ถ้าพิมดูแล้วว่าสิ่งที่ทำพิมผิด พิมก็ขอโทษ การที่พิมขอโทษมันก็เป็นเรื่องที่ถูกต้อง”
ขอโทษจริงๆ ที่การยกตัวอย่างของตนทำให้คนอื่นสะเทือนใจ
มดดำ : “เวลาขอโทษสำนึกจริงๆ ไหม”
พิม : “พิมรู้สึกสำนึกทุกครั้งที่พิมยกมือไหว้ขอโทษ ร้านพิมมันใหญ่ คนเลื่อนผ่านเป็นล้านๆ คน แล้วจะให้ไปถูกใจใครหมดได้ยังไง”
มดดำ : “เธอพูดก็ถูกนะ ฟังเธอพูดฉันก็ยิ่งอินมากกว่าที่จะไปด่าเธอ”
พิม : “พิมแค่รู้สึกว่าเราเป็นคนที่รับปัญหาแบบเดียวกัน ปัญหาหุ้น เงินเฟ้อ มะนาวแพง คือเงินได้เท่าเดิมแต่ของแม่-แพง ปัญหาพวกนี้มันทำให้เราดำรงชีวิตยากมาก ทุกคนเครียด ในภาวะแบบนี้มันต้องให้กำลังใจกัน พิมรี่พายวันนี้คนดูหมื่นเดียวหรือจะเหลือสัก 30 คน บอกพิมเป็นกำลังใจให้นะ ไม่ใช่มาซ้ำเติมกัน แต่ก็ขออภัยจริงๆ ถ้ายกตัวอย่างอะไรไปแล้วทำสะเทือนใจ ขอโทษจริงๆ
ทำไมพิมถึงรู้ว่าเงินเดือน1.4 หมื่น มันลำบาก ทำไมถึงยกตัวอย่างว่ายืนต่อคิวอิออนแล้วมันลำบาก ทำไมต้องแบกมาม่าขึ้น พวกนี้พิมผ่านมาหมดแล้ว”
ทบทวนแล้วสิ่งที่ตนกำลังโดนอยู่ก็สมควรแล้ว ซึ่ง “มดดำ” ก็ได้เสริมต่อว่ามันหมดยุคที่จะด่าคนแล้วจะประสบความสำเร็จแล้ว และยังได้พูดเตือนสติ “พิมรี่พาย” อีกว่า อย่าให้เก่งมาทำร้ายตัวเอง
มดดำ : “นี่คือสิ่งที่เธอได้ทบทวนมาแล้ว”
พิม : “สิ่งที่มันเกิดขึ้นมันสมควรแล้ว สังคมขัดเกลาให้พิมเป็นพิมทุกวันนี้ พิมรี่พายเมื่อหลายปีก่อนที่เพิ่งเอาโทรศัพท์มาหัดขายของ พูดคำด่าคำ พูดจาฟังไม่ได้เลย มันเปลี่ยนไปแล้ว พิมเปลี่ยนไปในทางที่อยากจะเป็นคนดีขึ้น เพราะสังคม”
มดดำ : “ฉันก็เป็น ฉันเกิดมาจากการด่าคน เป็นคนที่ปากหมา ปากเลว ปากชั่วจนฉันดัง แต่มาวันนึงสังคมก็สอนฉันว่า อ๋อ ใช่ ความสำเร็จเดิมๆ ที่วันนั้นเราด่าคนไปทั่วจนดัง มันใช้ไม่ได้กับยุคนี้แล้วเว้ย เธอจะต้องเป็นอีพิมคนใหม่ที่เข้าใจสังคม เหมือนที่เธอบอกว่าวันนี้เธอด่าคนแค่คนเดียว แต่ปรากฎว่าคลิปวันนี้ที่ออกไปทั่ว เธอขึ้นเทรนด์ทวิตเตอร์ มันกลับกลายเป็นว่าเธอดูถูกคน ไปตอกย้ำคนทั้งๆ ที่เธอตั้งใจด่าคนแค่คนเดียว”
พิม : “พิมไม่ได้ตัดสินคนตามจำนวนเงินที่มี พิมตัดสินคนตามความคิด และคำพูดที่มันออกมา คนกลุ่มนี้พิมจะช่วย คนกลุ่มนี้ต้องโดนด่า”
มดดำ : “ทั้งหมดทั้งมวล เธอจะไปต่อยังไง จะก้าวข้ามผ่านปัญหาที่มันเกิดขึ้น พิม…ตั้งแต่ปลายที่ผ่านมา ถ้าเป็นคนอื่นมันล้มไปแล้ว แต่มึงรู้ตัวไหมว่ามึงสร่างอินสไปเรชั่นให้หลายๆ คนนะ วันนี้แม่ค้าออนไลน์เต็มไปหมดเลย ที่ฉันสัมภาษณ์เธอ ฉันมาในฐานะพี่ของเธอ ฉันอยากบอกเธอว่าฉันอยากเห็นเธอไปไกลกว่านี้ วันนึงฉันอาจจะต้องพึ่งเธอก็ได้ ก็ถือเสียว่าฉันเป็นพี่เธอ แล้วฉันสอนเธอนะ”
พิม : “งั้นสอนมาหน่อย สอนหน่อย”
มดดำ : “ตัวฉันเองก็ยังเอาตัวไม่ค่อยจะรอดหรอก เวลาฉันโดนทัวร์ลงก็ไปนั่งหลบมุมยกมือไหว้คุยกับพระพิฆเนศ คนอื่นจะว่ายังไงฉันไม่รู้แล้วแหละ วันนี้ที่ฉันสัมภาษณ์เธอไป ฉันไม่รู้แล้วแหละ ตัดสินมันกันเอาเอง แต่ยังไงกูก็ขอพูดคำนึงว่า อินี่มึงเก่ง มึงเก่ง แต่อย่าให้ความเก่งทำร้ายมึงนะ”
พิม : “(ยกมือไหว้) หนูจะเก็บคำนี้ไว้นะแม่”
