“แอนนา” เคลียร์ดรามา หากินกับวิญญาณ “แตงโม” ออกรายการคนอวดผี รับผิดคิดน้อย ไม่มีเจตนาทำให้เพื่อนเสื่อมเสีย ลั่นก่อนหน้านี้เพิ่งปรับยาจิตเวช ไม่ฟ้องคนวิจารณ์ แต่ขอให้เห็นใจ
รถทัวร์ไปจอดที่ “แอนนา ทีวีพูล” เพื่อนสนิท “แตงโม นิดา พัชรวีระพงษ์” หลังไปออกรายการคนอวดผี โดยทางรายการมีการโปรโมตว่า “ครั้งแรกของการเชิญวิญญาณ แตงโม นิดา สื่อสารกลางรายการ จนได้ยินเสียงปริศนา” ซึ่งชาวเน็ตต่างอัดกันยับว่าหากินกับการตายของแตงโมหรือไม่ ทั้งที่รู้อยู่แล้วว่าแตงโมไม่เชื่อเรื่องวิญญาณ เพราะนับถือศาสนาคริสต์ แต่กลับไปออกรายการแบบนี้ เอาชื่อเพื่อนที่ตายแล้วไปใช้
ด้าน “แอนนา” ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กทันที ยอมรับผิดที่คิดน้อยไปจริงๆ สำหรับเรื่องนี้ “เรื่องรายการคนอวดผีต้องยอมรับเลยว่าแอนนากับฮิปโปคิดน้อยไปจริงๆ สำหรับเรื่องนี้ ตอนนั้นเป็นช่วงแรกๆ ที่เกิดเรื่อง ซึ่งในสมองเราคือทำยังไงก็ได้ให้เรื่องนี้ไม่เงียบ ก่อนจะมีประเด็นกับคุณแม่ แต่หลังจากที่คุณแม่ให้เราหยุดเราก็ไม่เคยรับสายโทรศัพท์นักข่าวท่านไหน นอกจากจะเลี่ยงไม่ได้จริงๆ
รายการก็ถ่ายเท่าที่รับไว้ก่อนหน้า เงินทั้งหมดที่ได้มาก่อนหน้าแอนนานำไปถวายโลงศพ ส่วนเรื่องแมวใครจะมองว่าเราเลี้ยงเพราะหิวแสง ทุกคนพูดได้หมด แต่เชื่อว่าคนที่เข้ามาดูในไลฟ์จะเข้าใจอะไรมากกว่านั้น การเลี้ยงสัตว์มันต้องเลี้ยงกันทั้งชีวิต แอนนาโทร.ปรึกษากับคุณหมอที่ดูแลน้องเรื่อยๆ พาไปตรวจสุขภาพ ดูแลไม่ต่างจากลูก
อย่าเพิ่งตัดสินอะไร ในระยะเวลาสั้นๆ ดูกันไปนานๆ ตอนแอนนามีลูก บางคน บอกว่ามีเพื่อคอนเทนต์ เราห้ามความคิดคนยาก แต่แอนนารู้ตัวดี ว่าเราอยู่ในจุดไหน ต้องทำยังไง ใจเราเป็นคนแบบไหน เรารู้ตัวเราเสมอ ส่วนเรื่องคดี เราติดตามกันตลอด ถามข่าวกันทุกวัน และเราจะไม่ปล่อยให้มันเงียบไปอย่างแน่นอน
สุดท้ายนี้ขอโทษที่ทำในสิ่งที่ผิดพลาดไปนะคะ เรื่องไหนผิดเรายอมรับ แต่ขอให้เชื่อเถิดค่ะ แอนนาและฮิปโปรักโมเพราะมิตรภาพระหว่างเรามันมีอะไรมากมายจริงๆ ที่ผ่านมา”
พร้อมไลฟ์ชี้แจงว่า “ยอมรับว่าตกใจที่เห็นทีเซอร์ ทีเซอร์ออกมาก็แรงพอสมควร วันเกิดเรื่องแรกๆ เราได้รับติดต่อจากหลายรายการมาก ตอนนั้นแอนนา ฮิปโป ก็มีความคิดว่า ครั้งแรกเราไม่อยากพูดอะไรนะเพราะตอนนั้นเรามีความหวังว่าจะมีข่าวดีแบบที่เราหวัง แต่พอมันกลายเป็นว่าเรื่องไม่ได้เป็นอย่างที่เราคิด เจอโมในแบบที่เราไม่ได้คาดคิดว่าจะเจอแบบนี้ ประมาณ 2-3 วัน แอนนาได้รับการติดต่อจากหลายๆ รายการ ตอนนั้นแอนนาก็คิดน้อยด้วย เบลอด้วย แต่ใจเรามีความคิดแค่ว่าทำยังไงก็ได้ให้คดีนี้ไม่เงียบ เราจะไปพูดในจุดต่างๆ ที่เราสงสัย
รายการคนอวดผี วันที่ไป เขาก็บรีฟมาคร่าวๆ ว่าเราจะพูดเรื่องโมในความทรงจำที่ดีว่าเขาเป็นคนแบบไหน ยังไง เราก็คิดว่าดีนะ แต่เราลืมคิดไปว่าก่อนรายการต้องมีการติดต่อและจุดธูป ซึ่งมันสดในรายการ เรื่องนี้แอนนายอมรับว่าพลาด และขอโทษทุกคนที่ติดตามมาตลอด ไม่มีข้อแก้ตัว เราคิดน้อยไป เราไม่ได้ไตร่ตรองให้ถี่ถ้วน ก่อนที่เราจะทำอะไรลงไป มันเลยเป็นผลกระทบ
ถ้าหลายคนบอกว่าทำไมทำแบบนี้ อยากให้มองที่เจตนาก่อน เราไม่มีเจตนาไม่ดีกับเพื่อนแน่นอน ทุกวันนี้พูดตรงๆ นะ แอนนาเพิ่งดีขึ้น จากสภาวะอะไรหลายๆ อย่าง ก่อนหน้านี้โทรมมาก นอนไม่หลับ ปรับยาจิตแพทย์ จิตเวช ไปหาหมอที่รพ.รามคำแหง ไปเช็กได้หมดเลยนะ ไปหาหมอเพื่อปรับยาให้แรงขึ้น เพราะเครียดจากหลายสาเหตุ
รายการนี้แอนนาออกก่อนแม่บอกว่าห้ามพูดอะไรทั้งสิ้น ไม่อยากให้ทุกคนตีเจตนาเราไปเป็นอื่น อยากให้มองที่เจตนาหลัก เราไม่อยากให้คดีนี้เงียบและหายไป และสุดท้ายปิดคดีด้วยอุบัติเหตุ เราขอแค่ว่าเราต้องการความจริง ที่เป็นเรื่องจริงเท่านั้น เราไม่ได้คาดหวังว่าต้องออกมาในรูปแบบไหน ถ้าออกมาในความจริงที่เกิดขึ้นจริง ฟังแล้วนี่คือเรื่องจริง เราก็จะไม่ติดใจอะไร ซึ่งการกระทำของเราในตอนนั้น เราอยากให้คนสนใจคดี
ช่วงแรกๆ ที่ออกรายการฟีดแบ็กก็เข้ามาเยอะมาก แอนนาขายของตั้งแต่เดือนธ.ค. พอเกิดเรื่องก็ชะลอการขายของไป ระยะใหญ่ๆ เหลือแค่โพสต์ด้วยซ้ำ เพราะกลัวคนพูดว่าพอคนเข้ามาเยอะๆ ก็ฉวยโอกาสขายของ ทั้งที่เป็นอาชีพของแอนนา ตอนโมอยู่ โมก็มาช่วยแอนนาขายของ ใครที่บอกว่าเกาะคนตายกิน มันแรงสำหรับความรู้สึกเรามาก เวลาเมนต์อะไรอยากให้เห็นใจเราบ้าง แอนนาไม่ฟ้องหรอก เข้าใจว่าทุกคนมีสิทธิ์วิจารณ์กันและกัน เมนต์ได้เลย แต่ขอความเห็นใจว่าเมนต์ให้อยู่ภายใต้กรอบของคนที่อ่านแล้วเขาจะรู้สึกแบบไหน
ส่วนเรื่องรายการแอนนาก็กราบขอโทษ ให้พุดเดิ้ลติดต่อไปในรายการ ว่าอยากให้ออกมาในรูปแบบการให้เกียรติกันมากที่สุด เพราะตอนเราไป เราก็ไปด้วยเจตนาให้เกียรติรายการ เราไม่โทษรายการ ไม่พูดว่าเราไม่รู้ว่ารายการเป็นยังไง เราจะไปโทษรายการเขาไม่ได้ เราต้องโทษตัวเองที่ไม่ไตร่ตรองให้ดี เราขาดการไตร่ตรองให้ดี และการถ่ายหน้างาน เป็นการถ่ายสด ไม่ได้บรีฟมาก่อน เรื่องการจุดธูปไม่มีการบรีฟก่อนหน้านั้นแอนนากล้าพูดเลย พอเข้าไปช่วงที่ต้องจุดธูป เราก็สะอึกนิดนึงว่าต้องจุดเหรอ เราก็คิดได้ตอนนั้นว่าโมเป็นคริสต์นะ
แอนนาอยากบอกว่าเราไม่มีเจตนาทำอะไรไม่ดี หรือให้ออกมาในแนวทำให้เพื่อนเราเสื่อมเสียแน่นอน ขอความเห็นใจจากหลายๆ คน ซึ่งเข้าใจนะ บางคนอาจมองว่าเขาทำดีมาตั้งหลายอย่าง ทำไมไม่มอง แอนนาเข้าใจ บางคนอาจเพิ่งโฟกัสตั้งแต่คนอวดผีก็ได้ ซึ่งเราก็ไม่สามารถไปกะเกณฑ์ได้ ว่าใครมาตามช่วงไหน แต่เจตนาเรา ไม่มีเจตนาที่จะไม่ให้เกียรติเพื่อน ไม่มีเจตนานั้นอย่างแน่นอน ไปดูย้อนหลังไลฟ์สดโมก็ได้ ไปดูคลิปเก่าๆ ย้อนหลังได้หมดทุกอันเลย ไม่มีเจตนาอย่างนั้นแน่นอน
วันก่อนแอนนาทำบุญโลงเย็น จากการที่ได้เงินมาจากการทำรายการ ก็มีคนวิจารณ์ว่าทำไมเอาเงินเหล่านี้มาทำบุญ หิวแสงหรือเปล่า กลายเป็นว่าบางอย่างที่เราทำโดยเราไม่บอก ไม่เป็นไร แต่พอเราบอกเพื่อให้ทุกคนโมทนาบุญ ก็กลายเป็นว่าเราหิวแสง แล้วบอกก่อนแอนนาหารถเพื่อทำเป็นรถมูลนิธิช่วยชีวิตคน คนก็บอกอีกว่าพอมีดรามาก็ออกมาทำความดี ไม่ใช่นะคะ แอนนามีหลักฐาน สามารถยืนยันได้ แอนนาคุยกับเพื่อนหลายวันแล้ว ตั้งแต่ก่อนหน้านี้แล้วว่า ตอนครบรอบ 1 เดือนเราจะทำสองอย่าง แอนนาไม่อยากให้คนลืมโม เราเลยทำรถที่ช่วยชีวิตคน จะสกรีนรูปโมไว้หลังรถ เป็นรถที่มีอุปกรณ์ช่วยชีวิต วันนี้ต้องขอบคุณแฟนคลับคนนึงที่ขายรถให้ในราคาไม่แพง ขายรถตู้ปี 2016 มาให้ รถตู้สภาพดีมาก เราเตรียมตัวเรื่องนี้มา 10 กว่าวันแล้ว แต่บังเอิญเป็นช่วงมีดรามานี้พอดี
เอาจริงๆ แอนนาเพิ่งรู้ช่วงบ่ายด้วยซ้ำ รถตู้ที่ได้มา เขากำลังจะมาส่ง ซึ่งหลังได้รถตู้มาจะเอาไปทำที่บ้านโป่ง จ.ราชบุรี แอนนาติดต่อพี่ๆ ไว้แล้ว พี่ๆ บิวต์รถให้เป็นรถตู้พยาบาลได้ ตรงนี้อาจต้องปรึกษาทางทีมว่าต้องมีใบอนุญาตยังไง ส่วนหน่วยงานไหนที่เราจะเอาไปบริจาคต้องปรึกษากันในกลุ่มเพื่อนก่อน เพราะตอนแรกเราจะบริจาคเรือยาง ไว้เวลาใครจมน้ำแล้วเอาไปช่วย แต่คิดว่าอาจใช้ได้ไม่บ่อย แต่ถ้าเป็นรถฉุกเฉิน หน่วยพยาบาล กู้ชีพน่าจะดีกว่า เลยซื้อรถมา
ตอนแรกจะซื้อแบบสำเร็จ แต่ราคาสูง มีคนบอกว่าทำไมไม่เอามือหนึ่งแล้วเปิดรับบริจาค แอนนาไม่อยากให้เป็นจุดเริ่มต้นใครก็ตามไปฉกฉวยผลประโยชน์ เลยขอออกเงินตรงนี้เอง ออกไปก่อน ซึ่งเพื่อนๆ ที่อยู่ในกลุ่มหลายคนก็บอกว่าจะช่วยกันทำ แอนนาเลยคิดว่าเราพอมีกำลังอยู่บ้าง พอซื้อรถสภาพดี มือสอง ปี 2016 มาบิวต์ทำได้ พรุ่งนี้จะให้คนขับไปร้านที่เขาบิวต์เป็นหน่วยพยาบาล หลังจากนี้จะเอารถไปบริจาค และสกรีนสติ๊กเกอร์เป็นรูปแตงโม หวังว่าตรงนี้จะทำให้ใครหลายคนที่ต้องการความช่วยเหลือในยามฉุกเฉิน เหมือนที่โมต้องการวันนั้น เราก็ขอให้บุญกุศลตรงนี้ไปถึงโม
บางคนก็ถามว่าสุดท้ายแล้วคนก็ติดตามเธอมากขึ้น จากการที่เพื่อนตาย ถ้าแอนนาเลือกได้ ไม่อยากได้ฟอลโลว์แม้แต่คนเดียว คืนไปให้หมดเลย ถ้าเอาเพื่อนคืนมาได้ ไม่มีเพื่อนผู้หญิงคนไหนที่แอนนาสนิทและให้เกียรติกันมากเท่านี้ ดูแลกันมากขนาดนี้ คนก็สงสัยว่าทำไมแอนนาดีกับโม มันมีหลายเหตุการณ์มาก ปี 49 ที่แอนนาเรียนธุรกิจบัณฑิต ชอบเขามาก จากละครยัยไบบ้า เราเป็นนักศึกษาจนๆ กู้กยศ. เรียน เสื้อผ้าถูกๆ แต่เพื่อนคนนี้ไม่เคยมองว่าเราเป็นคนจน หรือมองว่าเราเป็นกะเทยไม่สวย
กลับกันเวลาไปไหนมาไหนด้วยกัน แอนนาไม่มีเงินกินข้าว เราได้เงินรายเดือน ตอนนั้นเราส่งตัวเองเรียน โมก็ซัปพอร์ตทุกอย่าง ดังนั้นไม่ต้องสงสัยว่าทำไมเราดีกับเพื่อน ถ้าใครได้รู้จักโม เขาดีกับทุกๆ คน ไม่มีเจตนาไม่ดีกับใครเลย วันนี้ทำไมคนรักเขามากตอนที่เขาไม่อยู่ ทำไมคนหันมาสงสารเขา เพราะเขามีเรื่องราวระหว่างทางที่สอนเราเยอะมาก อย่างคลิปที่โมบอกว่าจะไม่ได้รับคำชมเลยใช่ไหมถ้าโมไม่ตาย ที่แอนนาหรือฮิปโป ดีกับโม เพราะโมดีกับเรามากตั้งแต่สมัยเราเรียน ผลักดันเราให้เข้าวงการบันเทิง ทำทุกทางให้เราภูมิใจในตัวเองว่าเราเป็นคนเก่ง โมชื่นชมเพื่อนตลอด นี่คือสิ่งที่ทำให้เรารู้สึกว่าวันนี้โมไม่อยู่ แต่เราจะทำทุกวิถีทางเพื่อเรียกร้องความยุติธรรม ให้เรื่องไม่เงียบ
ส่วนเรื่องไปออกรายการ เราพลาด แต่เราไม่ว่ารายการ เพราะเราเป็นคนไปออกเอง เราไม่มีเจตนาทำให้เพื่อนเราออกมาดูไม่ดีแน่นอน ในทวิตเตอร์ที่บอกว่าเราเกาะเพื่อน อยากให้เข้าใจเจตนา ว่าเราอยากให้คนโฟกัสที่คดีเท่านั้น แต่พอมีเรื่องแม่ที่ว่าไม่พอใจเราสองคน เรายังคุยกันเลยว่าเราจะหยุดแล้วนะ เดี๋ยวคนมาสนใจเราไม่สนใจคดี นั่นเป็นรายการสุดท้ายที่เราได้บันทึกเทป แม้แต่รายการแฉ เราก็ขออนุญาตเลื่อนไปก่อน ยังรู้สึกไม่ดี หรือที่พี่ๆ นักข่าวจะรู้ดี วันงานศพ แอนนานั่งหลบมุม ไม่อยากเจอใคร เรารู้สึกว่าฟีลยังไม่ได้
ใครว่าเราได้แสงจากการที่เพื่อนตาย ถ้าเลือกได้เราไม่อยากได้แสงอะไรแบบนี้เลย เจตนาที่มีให้โม เราเชื่อว่าต่อให้ใครรับรู้ไม่ได้ แต่โมรับรู้ได้ วันนี้กับเหตุการณ์ที่เราผิดพลาดในรายการคนอวดผี เราก็ขอโทษทุกคน”