“เต้ ปิยะรัฐ” เศร้ารายการถูกระงับออกอากาศ แต่สู้ไม่ถอย ยอมเสียค่าปรับหลักแสน เพื่อรายการได้เดินหน้าต่อ

“เต้ ปิยะรัฐ” เผยเหตุรายการโดนงดออกอากาศกะทันหัน ยอมรับมีข้อผิดพลาดจริง แต่ก็ถือว่าเป็นการได้ร่วมมือกันของภาครัฐกับเอกชน เพราะตอนนี้ไม่ต้องผ่านกสทช.แล้ว ตนมุ่งตรงไปที่สบส.ซึ่งใหญ่กว่า ยอมเสียเงินหลักแสนในการแก้ไข เพื่อให้รายการได้กลับมาออกอากาศอีกครั้ง ลั่นโลกไปไกลแล้ว อยากให้บางอย่างมีการเปลี่ยนแปลง

ทำเอาผู้บริหารใหญ่ของค่ายกันตนาอย่าง “เต้ ปิยะรัฐ กัลย์จาฤกษ์” ถึงกับงงอยู่ไม่น้อย เพราะอยู่ดีๆ รายการที่อุตส่าห์ปลุกปั้นมาพักใหญ่อย่าง Face2Face Thailand : Debut Season ที่ออกอากาศทางช่อง 3 และออนแอร์ไปแล้วถึง 4 ตอน อยู่ดีๆ ก็ถูดงดออกอากาศซะดื้อๆ ซึ่งล่าสุดหลังจากที่ถูกให้จอดำไป 2 สัปดาห์เจ้าตัวก็ตั้งโต๊ะแถลงข่าวชี้แจงว่าตอนนี้เคลียร์ปัญหาต่างๆ เรียบร้อย และเตรียมกลับมาออกอากาศอีกครั้งในวันเสาร์ที่ 19 มี.ค.นี้

“เศร้าใจ (หัวเราะ) เพราะว่ากำลังติดเลย กำลังเป็นที่นิยม และกำลังถึงตอนที่เข้มข้นขึ้นเรื่อยๆ กำลังพีกเพื่อที่กำลังจะจบด้วย เพราะซีซั่นนี้มีแค่ 8 ตอนเท่านั้นเอง แต่อยู่ดีๆ ก็ถูกระงับไปกะทันหัน ต้องบอกว่าสิ่งที่เกิดขึ้นแล้วดีทั้งสิ้นนะครับ อะไรที่เกิดขึ้นแล้วผิดพลาด เราก็ยอมรับผิด และนำมาแก้ไขปรับปรุงให้ดีขึ้น ในสิ่งที่เราจำเป็นที่จะต้องร่วมกันทำให้เกิดขึ้นมาใหม่ก็เกิดปรากฎการณ์ใหม่ขึ้น นั่นก็คือปรากฎการณ์ร่วมกันระหว่างภาครัฐและภาคเอกชน นั่นก็คือการทำงานระหว่างบริษัทกันตนา กับสบส. (กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ) ซึ่งอยู่ภายใต้กระทรวงสาธารณสุข และทำให้เกิดการฉายได้ต่อไปในเสาร์นี้

จากกระทงเดิมที่เราผิด คือการทำให้ผิดธรรมเนียมประเพณีแพทย์ไทยและการประสงค์ต่อทรัพย์ เราก็มีการปรับปรุงให้มีการลดทอนส่วนที่ผิดจรรยาบรรณแพทย์ไทยลง คือไม่ชงกันเองเยอะเกินไป ชงกันเองไม่ได้ และมีการแยกระหว่างเรื่องความเชื่อ นั่นก็คือเรื่องหมอดู กับเรื่องการแพทย์ไทยให้อยู่ห่างกันมากขึ้น แต่ไม่ได้มีการปรับเปลี่ยนรูปแบบของการทำงานครับ ก็จะเป็นเทคนิคการตัดต่อ และมีการส่งให้ทางสบส.ตรวจทุกเทป นาทีละ 100 บาทนะ ก็ถือว่าเป็นการทำงานร่วมมือกัน และส่วนไหนที่เราทำผิดเขาก็ปรับเรา แล้วแต่ว่ากี่หมื่นบาท แล้วแต่เทป ปรับเป็นจุดๆ ไป ก็ไม่เป็นไร เงินเข้าหลวงแล้วก็เอามาให้ประชาชนต่อไป เราเองก็ถือว่าเป็นผู้ผลิตใหม่ที่เพิ่งก้าวเข้ามาทำในเรื่องการแพทย์ไทย

แต่เราอยากจะอธิบายว่าวัตถุประสงค์ในการทำงานของเราคือ 1. เพื่อเอ็นเตอร์เทนเมนต์แน่ๆ 2. มีคนเคยทำแบบนี้มาก่อน ไม่ใช่เราเป็นคนแรกแน่นอน เราก็เลยคิดว่ามันทำได้ 3. สำคัญที่สุดคือการเชิดชูแพทย์ไทย ว่าเป็นแพทย์ที่เก่งที่สุดในโลกไม่แพ้ชาติใด และอยากให้เงินสะพัดในประเทศไทยให้ได้มากที่สุด และตอนนี้คนที่เขียนกฎกติกามารยาทในอดีตก็ไม่อยู่แล้ว และคนที่อยู่ปัจจุบันก็ไม่รู้จะปรึกษากับใคร อาจจะต้องมีการปรับเปลี่ยนรูปแบบใหม่ๆ เกิดขึ้น ซึ่งข้อนี้เป็นสิ่งที่ทำให้การทำงานร่วมกันครั้งนี้ทำให้กระจ่างขึ้นมาว่า อาจจะต้องมีการปรับตัวในการทำงานของยุคที่เปลี่ยนสมัยไปมากขึ้น”

บอกตอนนี้ไม่ต้องผ่านกสทช.แล้ว เพราะมุ่งตรงที่สบส.เลย
“กับกสทช.ยังมีการทำงานร่วมกันอยู่ แต่กสทช.ต้องฟังสบส. เพราะสบส.จะเป็นคนอนุมัติให้ออกอากาศหรือไม่ออกอากาศ เพราะเป็นคนตรวจ ถือว่าสูงสุด ไม่ใช่แพทยสภา อันนั้นแยกออกไปต่างหาก แต่อันนี้เป็นกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งสบส.อยู่ภายใต้กระทรวงสาธารณสุข ซึ่งใหญ่ที่สุด ควบคุมการโฆษณาต่างๆ ของการแพทย์ เพราะฉะนั้นถ้าเขาดูแล้วบอกว่าผ่านได้ โดยที่เสียค่าดูแล้ว เสียค่าปรับแล้ว ได้เลขทะเบียนแล้ว ผ่านขั้นตอนทุกอย่างตามขั้นตอนประเพณีสามารถนำไปออกได้โดยที่ถือว่าไม่ผิด

แปลว่าช่องก็ต้องให้ความร่วมมือกับกันตนาด้วยว่าไม่ผิดแล้ว ตอนนี้ช่องอาจจะยังเกรงใจกสทช.อยู่นิดหน่อย คิดว่าเป็นอย่างนั้น เพราะว่ามีการเปลี่ยนแปลงของวาระหน้าที่ข้างใน เมื่อเช้าคุณพ่อโทร.มาสั่งเลยว่าวันนี้ไม่ต้องเปิดประเด็นใหม่นะ (หัวเราะ) เพราะหลายๆ เรื่องก็เซนซิทีฟกับหลายๆ องค์กรมากๆ ครับ แต่ก็ต้องขอขอบพระคุณช่อง 3 ก่อนด้วยที่ยืนหยัดอยู่ข้างบริษัทกันตนา และสู้เพื่อบริษัทกันตนาในกสทช. ในยกที่ 1 เลย และไม่ทิ้งกันเลย แต่ตอนนี้เรารู้ว่ายังเกรงใจกสทช.อยู่ ไม่ต้องเกรงใจแล้วครับ เพราะเราได้เลขมาแล้ว เราผ่านมาแล้ว เพียงแต่อาจจะเซ็นเซอร์ตอนที่น่าหวาดเสียวออกไป อันนั้นเราเข้าใจ ในช่องทีวีเราจะมีการเซ็นเซอร์ แต่ถ้าอยากดูแบบออริจินัลจริงๆ ก็ไปย้อนดูได้ทางยูทิวบ์ครับ”

บอกวัตถุประสงค์ต้องการสู้เพื่อการแพทย์ไทยจริงๆ
“คุณเต้รู้สึกว่าเป็นไปได้ยากมากที่อยู่มาวันนึง ตื่นมาแล้ววันนี้เรามาระงับรายการนี้กันดีกว่า มันผิดปกติ รู้สึกว่ามีอะไรที่คุณเต้ยังต้องหาคำตอบอยู่ คุณเต้ก็เลยต้องไปหาคำตอบเท่านั้นเอง ก็เลยต้องสู้เพื่อสิ่งที่เราลงทุนไปแล้ว สู้เพื่อสิ่งที่สปอนเซอร์หรือผู้สนับสนุนลงทุนมากับเราแล้ว สู้เพื่อสิ่งที่ประชาชนได้รับชมและแฟนๆ รายการ และได้รับสาระประโยชน์จากรายการนี้ไปแล้ว ติดรายการนี้แล้ว คุณเต้รู้สึกว่ามันไม่น่าเป็นไปได้ที่อยู่ๆ ตื่นมาเช้าวันนึงจะมาตัดสินใจว่าวันนี้จะมาระงับรายการนี้กันเล่นๆ ดีกว่า มันเป็นไปไม่ได้ที่จะง่ายขนาดนั้น

เราผิดเราก็ยอมรับความผิด แต่มันต้องแก้ไขได้สิ ถ้าเราทำประโยชน์ให้กับสาธารณะชน เราเชิดชูแพทย์ไทย เราพยายามจะบอกว่าพอเปิดประเทศ แล้วการท่องเที่ยวมีคนเข้ามานวัตกรรมใหม่ที่เกี่ยวกับศัลยกรรมแพทย์ไทยน่าจะเป็นสิ่งที่ทำเงินให้กับประเทศ ทำไมเราถึงจะบอกว่าแพทย์ไทยเก่งไม่ได้ แต่กสทช.ก็บอกเหตุผลที่ระงับว่าไม่ให้มีการศัลยกรรมอยู่ในรายการศัลยกรรม ซึ่งแล้วมันจะเป็นรายการศัลยกรรมได้ยังไง (หัวเราะ) ซึ่งทางสบส.เขาก็ได้ชี้แจงอย่างละเอียดครับ และให้เราทำอย่างละเอียดส่งไปให้เขาดูแต่ละตอนๆ จึงได้มีการตรวจอย่างละเอียด”

เผยโดนทั้งค่าปรับตรวจ ค่าปรับรวมแล้วหลักแสน
“ตอนนี้อีก 4 ep.ที่เหลือยังไม่ผ่าน ผ่านเทปเดียวที่จะออนของซอนย่า คูลลิ่ง เรื่องค่าปรับคุณเต้จำตัวเลขละเอียดไม่ได้ แต่ก็เป็นหลักหมื่น รวมๆ กันแล้วเอาเป็นว่า 8 ตอนก็หลักแสน โดนค่าดูและโดนค่าปรับด้วยถือว่าเป็นการเรียนรู้ และเป็นการทำงานร่วมกันจริงๆ ของภาครัฐกับภาคเอกชน ซึ่งต่อไปเรารู้แล้วก็จะไม่ทำอีก หรือทำน้อยลง (หัวเราะ) เพราะเราคิดว่าเป็นประโยชน์ต่อประชาชน เป็นประโยชน์ต่อประเทศและวงการแพทย์จริงๆ ถึงได้ยอมให้ถูกปรับ

แต่คุณเต้ก็ยอมรับว่ารู้สึกเสียใจนิดหน่อยนะที่คนมองว่าโปรโมตรายการ เพราะเราคงไม่เอาการลงทุนหรือชื่อเสียงมาเล่นกับการประชาสัมพันธ์หรอก ก็คิดว่าโชคดีที่มีเรื่องอื่นๆ ที่ใหญ่กว่าเรื่องเรา”

แอบหวั่นสปอนเซอร์จะหาย
“กลัวสิ แต่พอดีสปอนเซอร์เป็นโรงพยาบาล ก็เข้าใจตรงกัน คุยกันดี เราไม่ได้รู้สึกว่าเราจะยอมแพ้ เราคิดว่าเราทำในสิ่งที่หลายๆ คนก็ทำ และเราก็ทำประโยชน์ให้กับวงการแพทย์ไทยจริงๆ ไม่ใช่แค่ตัวเราเอง ส่วนสปอนเซอร์รายอื่นๆ เราก็ใกล้ชิดกัน เราก็แจ้งและบอกสาเหตุ ทุกคนก็เข้าใจดี แต่มันก็เกิดการเสียหายแหละ เพราะมันถ่ายไปแล้ว พอมันงดออกอากาศและยืดไป 2 อาทิตย์ รายการอื่นเขาก็ต้องถอยไปอีก 2 อาทิตย์ มันก็ไปเสียหายกับคนอื่นต่ออีก ก็ต้องขอโทษด้วยจริงๆ”

ไม่รู้จะมีซีซั่น2 ไหม แต่ไม่กลัวต้องเผชิญหน้ากสทช. เพราะโดนมาเยอะแล้ว
“ซีซั่น2 เหรอ อยากให้มีไหม (หัวเราะ) อันนี้แล้วแต่ว่าทางผู้สนับสนุนเลือกที่จะมีซีซั่น2 ไหม แต่ถ้าเขาเลือกที่จะมี เราก็พร้อมที่จะทำ ตอนนี้เราก็จะรู้ดีขึ้นมากว่าเราจะทำยังไงให้ราบรื่นขึ้น ข้อนึงที่ต้องเรียนให้ทราบคือการทำงานของเราในซีซั่นนึงเราต้องสามารถฉายแพลตฟอร์มอื่นได้ด้วย เราไม่ได้ฉายแต่โทรทัศน์อย่างเดียว เพราะฉะนั้นในการตัดต่อเราก็ต้องคำนึงถึงแพลตฟอร์มอื่นด้วย

ก็เลยต้องวอนให้ทุกๆ ทางเห็นใจด้วยว่าเราเผยแพร่สู่โลกกว้าง เราเผยแพร่คอนเทนต์ที่เป็นคอนเทนต์ที่ดีสู่โกลบอลคอนเทนต์ เพราะฉะนั้นเซ็นเซอร์ที่ตัดทอนออกไปเยอะเกินไป อาจจะเป็นข้อด้อยที่ทำให้คอนเทนต์เราออกไปแล้วคนดูไม่เข้าใจ กลัวจะมีปัญหากับกสทช.ไหม คุณเต้โดนมาตั้งแต่เดอะเฟซแล้ว โดนเรียกประจำด้วย (หัวเราะ) ตอนนั้นโดนเรียกทุกวันเลย ให้เข้าไปชี้แจงหลายเรื่อง ก็เข้าไป เรามีหน้าที่ทำยังไงก็ได้ให้คอนเทนต์ออกมาดีที่สุด ให้คนดูได้ดูสิ่งที่ดีที่สุด”

หวังอยากให้มาตรฐานของกสทช.เปลี่ยนสักที
“คุณเต้คิดว่าควรจะมีการปรับโครงสร้างข้างในบ้าง เราอยากเห็นคนที่อยู่ข้างเราอยู่ข้างในนั้นบ้าง คนข้างเราในที่นี้หมายถึงคนที่เข้าใจในวิชาชีพเรา น่าจะเข้าใจคนทำคอนเทนต์บ้าง คุณเต้ว่ามันต้องแก้หลายอย่าง เรื่องกฎกติกามารยาทที่ตอนนี้คนที่เขียนขึ้นมาไม่อยู่แล้ว ก็คือเขียนไว้นานมาก (ลากเสียงยาว) แล้ว โลกเปลี่ยนไปเยอะแล้ว เปลี่ยนไปเร็วมากด้วย ตอนนี้เปลี่ยนไปสู่เมทเทอร์เวิร์สแล้ว แต่เรายังใช้กฎกติกามารยาทเดิมกันอยู่เลย

แต่คุณเต้เข้าใจดีมากในฐานะที่บริษัทกันตนาอยู่มา 70 ปี ตั้งแต่เล็กจนโตมาเราก็เห็นอยู่ว่าการบริหารบ้านเมืองเป็นสิ่งที่ละเอียดอ่อน และต้องมีการจัดเรียงความสำคัญของเรื่องที่จะต้องทำก่อน-หลัง เรื่องของเราอาจจะสำคัญน้อยกว่าเรื่องอื่นๆ ก็ได้ ก็ถือว่าเป็นบทเรียนที่สำคัญที่สุดในชีวิตของคุณเต้ครั้งนึงเลย ที่ทำอะไรแล้วไม่ได้ศึกษาให้ถ่องแท้ซะก่อน คือใส่เต็มที่ ตอนนี้ก็เป็นอีกเรื่องที่เข้าใจดีมากขึ้น”