“คิมเบอร์ลี่” ดีใจได้บินไปงานต่างประเทศ แต่ยิ่งกลัวหนัก เพราะฝรั่งไม่ใส่มาสก์กันแล้ว ตื่นเต้นได้เจอ “จีซู แบล็กพิงก์” บอกน่ารัก ส่งรูปมาให้ส่วนตัวด้วย เผยยังไม่พร้อมแต่ง “หมาก” ปีนี้ เพราะงานเยอะทั้งคู่ ถึงขั้นต้องวิ่งหลบดอกไม้งานแต่งแล้ว บอกอยากให้ตำรวจตามเรื่องกระเป๋าแบรนด์เนมที่หายไป นานแล้วไม่มีความคืบหน้า ตอนนี้ใช้ชีวิตอย่างระแวง ไม่กล้าให้ใครมาที่ห้องแล้ว
เพิ่งกลับมาจากไปร่วมงานปารีสแฟชั่นวีกที่ประเทศฝรั่งเศสมาหมาดๆ หลังจากที่ไม่ได้เดินทางออกนอกประเทศซะนาน ทำเอานางเอกสาว “คิมเบอร์ลี่ แอน เทียมศิริ”บอกว่าตื่นเต้นมาก ป้องกันตัวเองอย่างดี เพราะกลัวจะติดโควิดแล้วอดไป ซึ่งเจ้าตัวเผยถึงเรื่องนี้ในงานเปิดตัวโครงการ Design Village เกษตร-นวมินทร์ บอกว่าพอไปถึงแล้วกลับช็อก เพราะคนที่นั่นไม่ใส่มาสก์กันแล้ว
“ดีใจมากเลยค่ะที่ทำสำเร็จ เพราะว่าก่อนบินกังวลมากว่าตัวเองจะเป็นโควิดแล้วไม่ได้บิน (หัวเราะ) เพราะทุกอย่างถูกล็อกไว้หมดแล้ว ก่อนไปก็เซฟตัวเองสุดๆ แต่ไปที่โน่นคือหนักกว่าอีก เขาไม่ใส่มาสก์กัน เป็นวันแรกที่เขาปลดการใส่มาสก์ มีประกาศเลย ทีนี้ทุกคนไม่มีใครใส่มาสก์เลย ก็ยิ่งช็อก เพราะเราไม่ได้เห็นหน้าเปลือยมานานแล้ว เราก็รู้สึกไม่ค่อยปลอดภัย ไม่ชิน แต่พออยู่ที่นั่นได้ประมาณ 2 วัน มันมีความรู้สึกว่านี่แหละคือสิ่งที่เราคิดถึง ได้พูดคุย ได้เห็นการออกสีหน้าของคน ได้มีมนุษยสัมพันธ์ที่มันใกล้ชิดเหมือนเดิม แต่ก็กลัวมากเหมือนกัน
ไป 4 วันคือทำงานทุกวัน อยากเที่ยวเหมือนกันค่ะ แต่เวลาไม่ได้ เพราะต้องรีบกลับมาด้วย แต่ได้เจอคนดังๆ หลายคน ได้เจอจีซู (แบล็กพิงก์) ด้วย ทุกคนที่ประเทศไทยคือกรี๊ดกันมากเลยว่าเจอจีซู น้องเป็นยังไงบ้าง ทุกคนถามว่าคุยอะไรกัน พอไปดูคลิปคือคุยยาวมาก แต่จริงๆ คือไม่ได้คุยอะไร เราแค่แนะนำตัวเองว่ามาจากไทยแลนด์ แล้วเขาก็พูดคำว่า สวัสดีค่ะ เราก็เลยบอกว่าพูดชัดมากเลย เป็นคำเดียวที่รู้เลย แค่นั้นเลยค่ะ แต่ไม่ทันได้ถามถึงน้องลิซ่า (ลลิษา มโนบาล) เพราะจังหวะโชว์มันจะเริ่มแล้ว เลยคุยได้แป๊บเดียวแล้ว แต่เขาน่ารักมาก ดีเอ็มส่งรูปมาให้ ซึ่งจริงๆ เรารู้ว่าเขามีกล้อมทีมถ่ายเราด้วย ก็คิดอยู่ว่าเราจะได้รูปได้ยังไงนะ เหมือน 2 วันที่แล้วเพิ่งส่งมาเอง น่ารักมาก ยังไม่ได้เอารูปลงเลย เก็บไว้อยู่
ถือว่ากลับมาอย่างปลอดภัย คือถ้าเราดูแลตัวเองอย่างถูกต้อง มันก็คงรอดมั้ง (หัวเราะ) อยู่ที่ดวงด้วย แต่ญาญ่า (อุรัสยา เสปอร์บันด์) ก็คุยกันค่ะ ญ่าบอกว่าน่าจะติดจากที่โน่นมั้ง ยังไม่รู้ไทม์ไลน์ที่ชัดเจน เพราะตอนนี้มันแปลกมากเลย คือไม่มีใครรู้เลยว่ามาจากไหน แต่ด้วยไทม์ไลน์ก็น่าจะที่โน่น แต่ยังไม่ได้มีอาการอะไรค่ะ”
เผยยังไม่มีแพลนแต่ง “หมาก ปริญ สุภารัตน์” เพราะงานเยอะทั้งคู่
“ด้วยความที่เวลามันไม่ตรงกันค่ะ ก็คุยกันวันละ 2-3 รอบ วิดีโอคอล เราก็คิดถึงเขาเหมือนกันค่ะ แต่โควิดก็อยู่ด้วยกันบ่อย แต่เขาเข้าป่าน่าห่วงกว่านะ เรื่องแต่งยังไม่ได้คิดเรื่องนี้ค่ะ เพราะถ่ายละครก็ 2 เรื่องแล้ว พี่หมากก็รับ 2 เรื่องเหมือนกัน คิวงานคงจะแน่นมาก ส่วนพี่หมากดูอยากแต่ง เขาก็พูดไปเรื่อย (หัวเราะ) เอาเป็นว่าใครพร้อมก็ไปก่อนเลย (หัวเราะ) คิดว่าปีนี้คงไม่น่าทันค่ะ ไม่ใช่ว่ารอเรือนหอเสร็จค่ะ ก็คือเลยตามเลย จริงๆ แพลนไว้ว่าปีนี้ทำงานให้เต็มที่ก่อน เพราะงานมันอัดมา มันก็เลยมาลงในปีนี้ทั้งหมดเลย
จริงๆ เรื่องนี้เคยแซวกับญ่ามานานแล้ว คิมเห็นว่าสองคนนั้น (ญาญ่า-ณเดชน์) น่าจะไปก่อน แต่ถามว่าเราอยากให้มีโมเมนต์นั้นไหม คิมว่ามันต้องมีสักวันแหละ มั้ง (หัวเราะ) ก็รอลุ้นไปแล้วกันว่าจะเมื่อไหร่ มันเคยมีช่วงที่ลุ้น แต่ว่าตอนนี้ไม่ลุ้นแล้ว (หัวเราะ) ไม่ได้ว่าต้องสวยพร้อมทุกวัน เพราะเวลาเราไม่ทำงานเราก็ปล่อยตัว ไม่อยากแต่งหน้า ไม่อยากอะไรอยู่แล้ว
ก็เก็บดีเทลงานแต่งอยู่นะ ก็ดูอยู่ค่ะ (หัวเราะ) แต่หนีช่อดอกไม้จริง เพราะว่าพี่ๆ ก็จะมาถามแบบนี้ไง (หัวเราะ) คือเราเห็นว่ามันมาทางนี้แล้วก็เลยหลบให้พี่สาวรับแทน ไม่อยากได้แล้ว ได้มา 2-3 งานแล้วค่ะ ซึ่งก็ยังไม่มีแพลนค่ะ ก็มีคนแซวว่าต้องหลบวิ่งหนีเลยเหรอ เหมือนวิ่งหนีจิ้งจกอะไรอย่างนี้ (หัวเราะ) แต่จริงๆ เปล่า อยากให้คนอื่นได้บ้างมากกว่า มีคนบอกได้ 3 ช่อต้องแต่งเลย 5 ไม่ใช่เหรอคะ นี่ได้มาแล้ว 2 หลังจากนั้นก็เลยไม่กล้ารับแล้วค่ะ (หัวเราะ)”
บอก “หมาก” อยากได้รถคันใหม่จนต้องเบรกเอาไว้ก่อน
“ของขวัญวันเกิดพี่หมาก ไม่ได้เตรียมอะไรเลยค่ะ ก็คือมีไปทานข้าวกัน ก็มีคุณพ่อคุณแม่พี่หมากมาจากเชียงใหม่ แต่เรื่องของขวัญนี่คิดหนักเหมือนกันนะ คือไม่รู้จะให้อะไรแล้ว เขาเป็นผู้ชายแบบผู้ช้าย ผู้ชาย ที่ไม่ได้เปลี่ยนของตลอดเวลา ใช้ของเดิมๆ ซึ่งสิ่งที่เขาอยากได้คือรถ และเราก็ให้ไม่ได้จริงๆ เป็นรถโบราณ รถคลาสสิก ซึ่งก็จะยากไปหน่อย ก็ตัดออกไปเลย ไม่อยู่ในลิสต์เลย (หัวเราะ) เขาก็ไม่ได้บ่นหรอกว่าอยากได้ แต่ก็พูดนะ แต่เราก็จะแบบ ไหนบอกว่าพอแล้ว ก็ต้องเตือนสติกันไป เพราะเขามีแล้ว แต่ไม่ถูกใจก็ขาย แล้วซื้อใหม่ เราก็บอกพอ เก็บเงิน (หัวเราะ)”
วอนตำรวจช่วยตามเรื่องคดีกระเป๋าให้ที เพราะไม่มีอะไรคืบหน้าเลย
“เอาจริงๆ ไม่คืบหน้าเลย ตำรวจยังไม่ได้มีฟีดแบ็กอะไรกลับมาเลยค่ะว่ายังไง ก็อยากจะฝากพี่ๆ ตำรวจสน.ทองหล่อด้วยนะคะว่าอย่าลืมนะคะ เพราะตอนนี้ก็ยังคาใจอยู่เหมือนกันว่าเป็นใคร ทำไมถึงทำแบบนี้ ซึ่งหลักฐานเรื่องกล้องวงจรปิดมันก็จะลบไปอย่างที่คิมบอก คือตอนนั้นคิมรู้ตัวช้า คือรู้ตัวหลังจากที่กระเป๋าหายไปแล้ว 3-4 เดือน ซึ่งภาพไม่อยู่แล้ว
ถามว่าสงสัยใคร มันก็สงสัย แต่ด้วยความที่หลักฐานยังไม่ชัดเจน เราก็อยากจะฝากพี่ๆ ตำรวจด้วย ตั้งแต่แจ้งความไป ความคืบหน้าทางตำรวจยังไม่ได้ตอบกลับมาเลยค่ะ
คือน่าจะคนใกล้ตัว เพราะมันคือสถานที่ส่วนตัว หลายๆ อย่างคือ ทั้งรหัสเข้าห้องก็ต้องเป็นคนที่รู้รหัส ไม่มีการงัดห้องใดๆ และที่ๆ ไว้กระเป๋ามันไม่ได้เป็นที่เปิด มันต้องหา คือถ้าสมมติเป็นโจร มันต้องรวบไปหมด หรือไม่ก็เอาสิ่งที่เขาเห็นก่อน อย่างเช่นเพชร อะไรอย่างนี้ ก็เลยคิดว่าเป็นคนที่เรารู้จัก ก็ได้ถามพวกเพจของมือสองเหมือนกัน พี่ๆ ทุกคนน่ารักมาก ช่วยกันแชร์สุดฤทธิ์เลย แต่มันก็ยังไม่มีใบนั้น เราก็เลยไม่รู้ว่าเขาไปฝากที่ไหนหรือไปปล่อยที่ไหนหรือเปล่า”
ทำใจว่าคงไม่ได้คืน แต่แค่อยากให้คนที่ทำออกไปจากชีวิต
“แต่มีคนที่ลิสต์ไว้ในใจแล้วค่ะ ก็คุยกับทุกคนค่ะ ยังไม่มีใครมีพิรุธอะไรเลย ไม่มีใครแอบมาสารภาพค่ะ คือเอาจริงๆ ก็ไม่อยากดำเนินการอะไรแบบนั้น เราก็ทำใจแล้วว่าของเราคงไม่ได้คืนแล้วแหละ แต่ตอนนี้แค่อยากรู้ว่าเป็นใคร เราจะได้รู้ว่าเราควรจะทำยังไงต่อกับชีวิตเรา เพราะตอนนี้เราก็ยังระแวงอยู่ คือก็ต้องมาคอยระแวงคนรอบข้างด้วย แต่รหัสเปลี่ยนหมดแล้วค่ะ แล้วก็นอนเฝ้ากระเป๋าทุกวันเลย (หัวเราะ) ไม่ได้อยู่บ้านเลย อยู่แต่คอนโดฯ นอนอยู่นี่เลย เฝ้ากระเป๋า
สรุปหาย 4 ใบ 2 ล้านกว่าบาท มันก็คือน้ำพักน้ำแรงของเราเนอะ เราก็รักของเรา แต่ก็ทำใจไว้แล้ว จริงๆ แค่อยากรู้ว่าเป็นใครแค่นั้น ทำทุกอย่าง มูทุกอย่างเลย คือไม่ได้บน แต่ว่าก็ขอให้มีเหตุการณ์ให้คนๆ นั้นไม่ได้อยู่ในชีวิตเราก็พอ ซึ่งถ้ารู้ว่าเป็นใคร เราก็แค่อยากให้เขาออกจากชีวิตเรา คือตอนนี้ระแวงทุกอย่าง ไม่กล้าที่จะให้ใครมาเลย ไม่ให้ใครเข้าห้องเลย ตอนนี้ถ้าหายอีกก็พี่หมากแล้วแหละ (หัวเราะ) ถามว่าพี่หมากมีซื้อคืนให้ไหม ก็ยังนะคะ ถ้าได้ก็ดีค่ะ (หัวเราะ)”