“คิวเท” กลั้นน้ำตาไม่อยู่ โดนทีมงานที่ไว้ใจหักหลัง ขโมยของแบรนด์เนมไปขาย แถมเอาข้อมูลบริษัทไปเปิดเผย บอกตอนนี้มีแค่คนเดียวที่ได้รับการให้อภัยและไม่เอาเรื่อง เพราะยอมมาสารภาพ เผยเสียใจเพราะคิดกับทุกคนเหมือนครอบครัว และหวังดีหางานเพิ่มให้ตลอด บอกตอนนี้อยู่ในขั้นตอนรอขึ้นศาล
ถึงขั้นทำเอายูทูปเบอร์หนุ่มอารมณ์ดีอย่าง “คิวเท โอปป้า” กลั้นน้ำตาไม่อยู่ ออกมาอัดคลิประบายความในใจว่าโดนทีมงานที่ไว้ใจแอบขโมยของแบรนด์เนมไปขาย แถมเอาข้อมูลบริษัทไปเปิดเผยอีก ล่าสุดเจ้าตัวมาร่วมงานกาล่าพรีเมียร์ภาพยนตร์ พี่นาค 3 ณ โรงภาพยนตร์สยามภาวลัย พารากอน ซีนีเพล็กซ์ ซึ่งครั้งนี้เจ้าตัวก็ถึงขั้นปล่อยโฮแบบกลั้นไม่อยู่ เพราะบอกว่าเห็นทีมงานทุกคนเหมือนครอบครัว ซัพพอร์ตทุกอย่าง ไม่คิดว่าจะมาทำกันแบบนี้
“เหตุการณ์คือมีทีมงานลักทรัพย์ครับ ตอนนี้ดำเนินคดีอยู่ครับ อยู่ในขั้นตอนการรอขึ้นศาลครับ แต่จนถึงตอนนี้ยังไม่มีใครติดต่อมาครับ จริงๆ ส่วนตัวผมก็อยากลองคุยนะครับ คือผมไปเจอข้อมูลมาว่าแบรนด์เนมของผมบางชิ้นก็หายไปปีก่อน บางชิ้นก็หายไปปีนี้ เขาเอาไปขายในเว็บแบรนด์เนมมือสอง และมีข้อมูลอีกหลายอย่าง แต่ตอนนี้ยังไม่สามารถแชร์ได้ เพราะตำรวจยังดำเนินการอยู่ครับ ก็อาจจะต้องรอดูไปก่อน"
"พูดตรงๆ ว่าของผมมันหายเป็นช่วงๆ เลย แต่ผมไม่รู้ว่าเขาทำจริงๆ หรือเปล่า ผมพูดเฉพาะของที่มีหลักฐานจริงๆ ของทุกชิ้นที่ผมพูดในคลิปคือมีหลักฐานทั้งหมด อะไรที่หายแล้วไม่มีหลักฐานผมไม่ออกมาพูดครับ แต่ตอนนี้เขาสารภาพกับตำรวจแล้วว่า เขาเป็นคนกระทำอย่างนั้นจริงๆ โดยทุกข้อที่กล่าวหา เขาก็ยอมรับหมดครับ ความเสียหายตอนนี้ที่เจอหลักฐานจริงๆ และมีหลักฐาน 100% ที่สามารถขึ้นฟ้องศาลได้ประมาณ 2 แสนครับ ส่วนใหญ่ก็จะเป็นกระเป๋าแบรนด์เนมหรือเสื้อผ้าอะไรต่างๆ ครับ คนที่เอาไปคือตากล้องครับ”
เตือนคนที่คอมเม้นต์ให้มีสติ อย่าด่าผิดคน
“ผมพูดในคอมเม้นต์เสมอว่า ก่อนจะพูดอะไรมีสตินิดนึง เพราะตอนนี้ผมเห็นหลายคนเชื่อมโยงข่าวผิด แต่ผมบอกแล้วว่ามีการแชร์ข้อมูลบริษัทครับ มีหลายคนมากๆ ตั้งแต่กับคนรอบตัว หรือกับทีมที่ออกไปเพื่อจะสนุกปากอะไรประมาณนี้ครับ ถามว่าจะดำเนินการแบบไม่ยอมความเลยมั้ย พูดตรงๆ ว่ามีคนที่สำนึกผิดกับผมจริงๆ ผมคุยกับน้องเขา ผมเห็นความจริงใจ แล้วผมก็ให้อภัยตั้งแต่เดือนก่อนแล้ว และทุกวันนี้ผมก็ไม่ได้อะไรกับเขาแล้ว แต่พูดตรงๆ ว่ากลับมาเป็นพี่น้องที่รักไม่ได้แล้ว คนที่สำนึกผิด ผมก็ไม่ได้อะไร ผมให้อภัยตลอด แต่ ณ ตอนนี้ยังไม่มีใครติดต่อผมมาครับ"
"ส่วนเรื่องคนที่ขโมยข้อมูลไปเผยแพร่ อันนี้ต้องอธิบายว่า น้องเขาไม่ได้เป็นคนโพสต์ แต่ไอ้คนที่โพสต์ไม่ได้เกี่ยวกับทีมผมเลย อยากให้ทุกคนเสพข่าวกันดีๆ ครับ อันที่เขาโพสต์ยาวๆ ชื่อโปรไฟล์ก็อีกคนนึงแล้ว ไม่ใช่คนนั้น ผมไม่อยากให้ด่าเรื่องนี้ครับ ผมรู้สึกว่าอันนี้ไม่ยุติธรรม ผมมองว่าน้องเขาก็สำนึกผิดแล้วนะ คนที่ผมให้อภัยก็คือน้องที่ตัวเล็กสุดครับ เป็นตัดต่อที่ออกไปทำช่องเองครับ ผมให้อภัยเขาแล้ว และผมสัญญากับเขาว่าจะไม่เอาเรื่องอะไร เพราะอย่างน้อยเขาก็เป็นคนเดียวที่มาคุยกับเรา (ร้องไห้) และให้ข้อมูลทั้งหมด”
บอกไม่ได้ตั้งใจออกมาพูด แค่อยากเรียกร้องความยุติธรรม
“จริงๆ แล้วเรื่องนี้มันก็ผ่านมา 2 เดือนแล้ว แต่ผมออกมาพูดอะไรไม่ได้ เพราะว่าต้องให้ตำรวจดำเนินการก่อน พูดตรงๆ ผมไม่ได้อยากจะออกมาให้มันเป็นอย่างนี้จริงๆ ผมแค่อยากจะเรียกร้องความยุติธรรมเฉยๆ ถ้าได้เงินเดือนหมื่นห้ามันอยู่ยาก ผมมองว่ามันอยู่ยาก ผมแค่อยากให้ออกมาคุยกันว่าอยากได้อะไรเพิ่ม ผมก็ซัพพอร์ตเต็มที่ ที่ผ่านมาผมไม่เคยมองว่าพวกเขาเป็นทีมงาน เพราะสุดท้ายเราก็มาคนเดียวเนอะ (ร้องไห้หนัก) แต่เขาอยากมาทำงานกับเรา ผมดีใจมาก ผมเชื่อกับสิ่งที่เขาพูดมาก แต่ผมแค่ไม่เข้าใจว่าทำไมมันต้องโหดร้ายขนาดนี้ด้วย"
"จริงๆ ผมก็คุยกับผู้ใหญ่หลายคนครับ เขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าผมให้เงินเยอะ ว่าสวัสดิการมันดี แล้วทำไมมันโหดร้ายขนาดนี้ ซึ่งผมคิดว่าที่มันเกิดขึ้นอาจจะเป็นเพราะผมจริงๆ ก็ได้ ตอนก่อนที่ผมจะรู้ข้อมูลคือผมไม่รู้อะไรเลย ตอนนั้นผมมองว่าผมแย่จริงๆ คือเราเป็นครอบครัว เขาบอกเราอย่างนี้ มันก็เป็นตัวเราจริงๆ อย่างนั้น แต่พอเห็นข้อมูลแบบนี้ผมรู้สึกว่าความดีที่ทำมันอยู่ไหน เพราะคนก็เริ่มจับผิดว่าข้างเคียงเราไม่เหลือใคร ผมก็แค่มองว่าเราไม่ได้ทำอะไร มีอะไรก็คุยต่อหน้ากันได้ ไม่ใช่คุยลับหลัง ผมไม่ใช่คนใจร้ายขนาดนั้น”
บอกผิดที่ตนอาจจะสปอยทีมงานเกินไป
“ผมคุยกับผู้ใหญ่หลายคน เขาก็บอกว่าผมเลี้ยงดีไป ผมสปอยไป ผมสปอยพวกเขา เพราะพูดตรงๆ ผมก็ไม่ได้รับเขามาใช้ชีวิตแบบทีมงานกับลูกจ้าง ผมแค่มองว่าพวกเขาเป็นเพื่อน เป็นพี่น้อง คือสองคนนั้นเขาอยากทำช่อง ผมก็สนับสนุนเต็มที่ครับ เพราะผมแค่ไม่อยากให้พวกเขาได้เงินสามหมื่น วันนึงผมอยากให้พวกเขาได้เงินเดือนหลักแสน 2-3 แสน ใครที่อยากได้เพิ่มผมก็หางานให้ ทำโปรเจ็คเพิ่มให้ ทำช่องเพิ่มให้ เพื่อที่จะให้ทุกคนไปต่อยยอดเองได้ เพื่อให้ทุกคนมีอนาคตที่ดี ผมมองแค่ตรงนี้มาตลอด และผมก็สนับสนุนเต็มที่ แต่ผมไม่เข้าใจว่าทำไมถึงมาเกิดแบบนี้"
"ตอนที่เขารวมตัวกันเรียกผมเข้าไปต่อว่า ตอนนั้นผมไม่เข้าใจ ผมรู้สึกว่าผมอาจจะไม่ดีจริงๆ ผมมองว่าเขาเป็นครอบครัวผมจริงๆ แล้วพอคนนึงพูดแล้วทุกคนเห็นด้วย ก็คือตัวผม ผมก็รู้สึกอย่างนั้น ผมก็ทำอะไรไม่ได้นะ ถามว่าได้เคลียร์ใจกันมั้ยวันนั้น มันก็จบแค่นั้นครับ ทุกวันนี้ผมก็ไม่ค่อยได้ลงคลิปให้ได้เห็นกัน เพราะปกติก็ลงอาทิตย์ละครั้ง 2 คลิปเต็มที่ ก็ต้องขอบคุณน้องฝึกงานคนนึง เป็นคนเดียวที่ไม่ทิ้งผม แต่ถามว่าจากนี้ผมจะไว้ใจคนยากมั้ย ก็ไม่ครับ ผมจะไม่ให้เรื่องนี้มากระทบผมในอนาคต ผมไม่ยอมครับ ผมไม่ยอมให้พวกนั้นมาทำร้ายความรู้สึกผม และให้ผมเป็นอีกคนนึงในอนาคต (ร้องไห้) ผมเป็นคนที่รักทุกคนมากๆ ผมจะรักคนที่อยู่ข้างๆ ผมจะรักคนที่ดีกับผมมากๆ และผมจะเป็นอย่างนี้จริงๆ ผมจะพยายามอย่างนั้นจริงๆ ครับ ทีมงานที่จะมาใหม่ ผมยังไม่รู้เลยครับ ต้องศึกษาไปเรื่อยๆ ครับ"
"ตอนนี้ก็รอขึ้นศาล มันอาจจะใช้เวลาหน่อย ผมก็พยายามเร่ง พยายามตาม จริงๆ ผมก็เดินไปสน.เอง ไปกับเพื่อน เพื่อจะไปแจ้งความ มันยากมาก กว่าทุกอย่างมันจะจบ 2 เดือนที่ผ่านมาผมสู้มาตลอด และผมรู้ว่าทุกคนยังทำเรื่อยๆ ผมไม่รู้จริงๆ ว่าต้องทำยังไง เมื่อวานที่ได้พูดออกไป ผมไม่ได้รู้สึกดีเลย และผมก็มองว่าบางอย่างก็แรงไปนิดนึง อย่างเช่นเรื่องหน้าตาเขา หรืออะไรก็แล้วแต่ ผมอยากให้ทุกคนอยู่ในประเด็นเฉยๆ ผมไม่อยากให้ไปนอกเรื่อง”
