“จันจิ” ดีใจ ตั้งแต่คบกันมา 8 ปี “มาริโอ้” พึ่งจะยอมลงรูปวันวาเลนไทน์ อาจเป็นรูปแรกและรูปสุดท้ายไม่มีอะไรการันตี ไม่คิดเรื่องแต่งงานอาจจะอยู่คนเดียวก็ได้
ทำเอาหลายๆ คนทั้งตกใจและดีใจที่พระเอกหนุ่ม “มาริโอ้ เมาเร่อ” ลงภาพหวานใจ “จันจิ จันจิรา จันทร์พิทักษ์ชัย” ในวันวาเลนไทน์ที่ผ่านมา เพราะนับเป็นครั้งแรกที่มาริโอ้แสดงความรักต่อสาธารณะชนทั้งที่คบหากันมานานถึง 8 ปีแล้ว ทำเอาจันจิดีใจมาก
“ครั้งแรกเนอะที่เขาลงรูป ครั้งแรกในชีวิต (หัวเราะ) เอาจริงๆ ดีใจค่ะ ดีใจที่พี่เขานอกจากจะให้กุหลาบเรา ก็ยังลงรูปด้วย ไม่น่าเชื่อเหมือนกันค่ะว่าจะมีโมเม้นต์นี้ เขาก็มีมาถามว่ารูปนี้เป็นยังไง (หัวเราะ) แต่ยังไม่ทันจะสกรีนเขาก็ลงไปก่อนแล้ว จันจิบอกช้า พี่เขาลงไปก่อนแล้ว โอเคมั้ยหนูก็ไม่รู้ว่าคนอื่นดูแล้วเป็นยังไง แต่เท่าที่จะดีได้ก็ประมาณนี้แหละค่ะ (หัวเราะ) ก็โดนแซวเยอะค่ะ เพราะจันจิว่ามันเหมือนปรากฎการณ์นึง (หัวเราะ) ที่นานๆ ทีจะมีสักครั้งนึงบนโลกใบนี้ และมันอาจจะไม่เกิดขึ้นแล้วก็ได้ (หัวเราะ)”
"จันจิไม่ได้รอคอยหรอก คือไม่ได้คาดว่ามันจะมีโมเม้นต์นี้เกิดขึ้นน่ะค่ะ มันเรียกว่าปรากฎการณ์ (หัวเราะ) ไม่หรอก แค่ลงรูปมันก็เหมือนดูหวานเนอะ จันจิว่าทุกคนเขาก็ลงรูป มันเป็นเรื่องปกติ แค่เราไม่เคยลงรูป มันก็เลยดูเฮ้ยอะไรแบบนี้ อาจจะไม่มีแล้วก็ได้นะคะ รูปแรกรูปเดียวและรูปสุดท้าย (หัวเราะ) แต่ของจันจิจะลงในโมเม้นต์พิเศษอยู่แล้ว ของจันจิจะมีบ้างอยู่แล้วค่ะ แต่อาจจะไม่ได้ลงเป็นรูปคู่ หัวจันจิโตกว่าพี่เขาก็เลยไม่ค่อยกล้าลง (หัวเราะ) หัวมันใหญ่ ลงแล้วพี่เขาหัวนิดเดียว ถ้าคนเอามาเทียบเราก็เขินนะ (หัวเราะ) เราก็ทักตัวเองก่อนนี่แหละ หัวจันจิเบ่อเร่อ หัวใหญ่มาก ถ้าลงจันจิจะต้องรีทัชสุดฤทธิ์ หัวจินจิใหญ่กว่าพี่โอ้แน่นอน (หัวเราะ)”
เผยคบ 8 ปีการลงรูปคู่ก็ถือว่าพิเศษสุดๆ แล้ว
“ประมาณ 8 ปีค่ะ คิดว่าทำไมถึงเซอร์ไพรส์ด้วยการลงรูปคู่เหรอ เขาก็แค่อยากลง ถามแล้วเขาก็บอกว่าลงให้ พิเศษอะไรแบบนี้ อยากทำให้เฉยๆ ให้เนื่องในโอกาส 8 ปี จันจิว่าพี่เขาให้เกียรติเราแหละค่ะในการลงรูป วันนั้นมันดึกแล้วด้วยค่ะ พี่เขาก็ทำงานเสร็จแล้วก็แว๊บมา แล้วก็ต้องรีบกลับไปอ่านบทต่อ ไม่ได้มีอะไร จันจิว่ามันโอเคแล้วค่ะ เพราะเราก็ผ่านมาใช้เวลา 8 ปี มันก็ไม่ต้องมีอะไรแล้ว แค่นี้มันก็พิเศษแล้วค่ะ ไม่ต้องทำอะไรมากมาย"
"ส่วนของจันจิก็ให้ดอกไม้ไป 3 ดอก (หัวเราะ) คือให้ดอกไม้คืนค่ะ เพราะพี่สาวกำลังนั่งจัดช่อดอกไม้เล่น จันจิก็บอกจัดช่อดอกไม้ให้หน่อย ช่อเล็กๆ น่ารักๆให้คืนไป แล้วก็มีช็อกโกแลตเป็นรูปหัวใจ เพราะเราก็หลายปีแล้ว เลยไม่คิดว่าเราต้องทำอะไรขนาดนั้นแล้ว การให้ดอกไม้มันก็เป็นโมเม้นต์ที่ดี แค่นั้นก็พอแล้วค่ะ เขาก็ไม่ได้ว่าอะไร เขาก็โอเค บอกน่ารัก เพราะพี่สาวจันจิจัดให้ แบบมินิมอร์ล เขาก็ขอบคุณ”
บอกยังไม่เคยมองถึงภาพงานแต่งงาน
“อนาคตเหรอ ทุกวันนี้ยังไม่ค่อยจะรอดเลยค่ะ (หัวเราะ) ช่วงนี้ต้องเอาตัวเองให้รอดกันก่อน เรื่องอนาคตไม่ได้คุยหรือแพลนอะไรกันเลยค่ะ มันเป็นในเรื่องวันต่อวันจริงๆ ไม่ได้แพลนว่าต้องอย่างนั้นอย่างนี้ เพราะว่าอะไรมันก็เกิดขึ้นได้ เราเอาปัจจุบันนี้ให้มันดีที่สุดดีกว่าค่ะ จันจิว่ามันดีที่สุดแล้ว ณ ปัจจุบันนี้ อนาคตคือไม่ได้คิดเลย เพราะรู้สึกว่าการแต่งงานมันเรื่องเยอะ เรื่องใหญ่ จันจิรู้สึกว่าคนที่จะแต่งงานต้องคิดว่า เขาจะมีลูกหรืออะไรก็แล้วแต่ แต่สำหรับจันจิลูกก็ไม่ได้อยากมี เพราะด้วยสถานการณ์สังคมทำให้จันจิรู้สึกว่า เรามีสัตว์เลี้ยงค่อนข้างเยอะมากแล้ว มีลูกเป็นสัตว์เลี้ยงเยอะมากๆ จันจิเลยไม่ได้ต้องการว่าอยากจะมีลูกหรืออะไร ก็ไม่ได้คิดเรื่องงานแต่งเลย ไม่มีในหัวเลย เพราะเอ็นจอยด์กับการไปงานแต่งคนอื่นมากกว่า (หัวเราะ) สนุกกับอาฟเตอร์ปาร์ตี้ของเขาไป"
เวลาถูกถามเรื่องอนาคต จริงๆ ก็ไม่รู้จะตอบยังไง เพราะว่าไม่ได้คิด แบบเห็นคนอื่นแล้วอยากแต่งด้วย เพราะเรารู้สึกว่าเราเป็นเพื่อนเจ้าสาว เห็นเพื่อนๆ แต่งงานแล้วรู้สึกว่ามันเหนื่อย มันไม่สนุกเลยกับการแต่งงาน จันจิเคยเห็นโมเม้นต์การแต่งงาน ถ้าเกิดมันดีก็ดี แต่ถ้าการแต่งงานมันต้องเหนื่อยขนาดนี้ จันจิว่ามันไม่ ตอนเด็กๆ ทุกคนก็ฝันใช่ไหมคะ แต่พอโต พอมาเห็น ก็คิดว่าไม่แต่งก็ได้ (ยิ้ม) มันไม่ได้ตัดสินทุกอย่าง การแต่งงานมันใช้เงินเยอะมากด้วยค่ะ ที่บ้านก็ไม่ได้ถามเลย ชิลมากๆ คือบ้านจันจิมีผู้หญิงเยอะ มันมีเรื่องราวรักๆ เลิกๆ แต่งงาน มันเป็นเรื่องปกติ บ้านจันจิก็เลยชิลๆ ค่ะ แล้วแต่เลยว่าจะแต่ง ไม่แต่ง หรือจะอยู่อย่างนี้คนเดียวก็แล้วแต่ แต่สิ่งสำคัญคือต้องดูแลตัวเองให้ได้”
ไม่รู้จะมีงานแต่งเกิดขึ้นในอนาคตมั้ย แต่ “มาริโอ้” ก็เหมือนคนในครอบครัวแล้ว
“ถามว่างานแต่งก็จะไม่เกิดขึ้นแน่ๆ ใช่มั้ย จันจิไม่รู้เลย ไม่รู้ว่าอนาคตมันจะเป็นยังไง ไม่สามารถฟันธงได้ ไม่สามารถพูดได้ พี่เขาก็คงคิดไปทางทิศทางเดียวกันค่ะ เพราะพี่เขาก็ทำงาน จันจิก็ยังเอ็นจอยกับการทำงาน วิ่งเล่น สนุกสนาน เล่นติ๊กต็อกไปเรื่อยๆ แบบนี้ เลยรู้สึกว่าเรายังใช้ชีวิตได้อยู่ค่ะ มันไม่ต้องรีบอะไร ถ้าเกิดเราคุยกันรู้เรื่อง ก็ไม่จำเป็นต้องมีงานอะไรขนาดนั้น แต่เขาก็เสมอต้น เสมอปลาย เขาก็น่ารักแบบนี้แหละค่ะ เป็นพี่ที่ดี เป็นฟีลเพื่อนคุยสนุกสนาน เป็นแบบนี้มาตลอด มันก็ดีขึ้นในเรื่องความสนิทสนมค่ะ จริงๆ พี่เขาเป็นคนที่ค่อนข้างจะมีโลกส่วนตัวสูงในช่วงแรก แต่ตอนนี้เราก็รู้สึกว่า เราคุยอะไรกันก็ได้ จะซีเรียสก็คุยกันได้หมด"
จันจิว่าเขาน่าจะอนุญาตให้เราเข้าไปอยู่ในโลกส่วนตัวของเขา เหมือนมีอะไรก็คุยได้ แต่พี่เขาไม่ค่อยพูดอะไร เวลาอยู่ด้วยกัน เขาเป็นคนตลกค่ะ สนุกสนาน เห็นจันจิตลกขนาดนี้แล้ว พี่เขายิ่งกว่านี้ พี่เขาเอนเนอร์จีเยอะ สนุกสนานก็จะเป็นอีกมุมหนึ่ง แบบเห็นหน้าจอเขาก็สนุก หลังจอเขาก็สนุกค่ะ มันเป็นความสนุกสนาน เราก็อยากอยู่ใกล้ เป็นเรื่องที่แบบมีพลังงาน มันก็แฮปปี้ที่จะอยู่ใกล้กันอยู่แล้ว"
เผยมอง “มาริโอ้” เป็นแบบอย่างในการทำงานมาตลอด
“พูดคุยกันมากกว่า อย่างที่บอกว่าจันจิเอาวันนี้ให้มันดีที่สุด ถ้ามีอะไรก็คุยกันดีกว่า หรือเวลาทะเลาะกันจันจิก็จะคิดว่าทะเลาะไปทำไมมันเสียเวลา บางทีก็ใช้คำว่าช่างมันเถอะบ้าง เหมือนเป็นฟีลกับครอบครัว อย่าไปคิดมาก อะไรเล็กๆน้อยๆ ก็ปล่อยไปมากกว่า เป็นเพื่อนเป็นพี่เป็นน้อง มีอะไรก็คุยกัน อะไรไม่โอเคก็คุย อะไรที่ดีไม่ดีก็ปรับปรุงกันไปเรื่อยๆ ใครยอมใครเหรอ ก็สลับกันค่ะ จันจิว่าพอมันโตขึ้นมันก็ไม่ได้มีอะไรมากกมายที่ต้องไม่ยอมกัน คุยกันนิดเดียวก็รู้เรื่อง"
"คบกันมา 8 ปี ก็เรียกว่าเป็นหนึ่งในครอบครัวของเราแล้ว จันจิให้ฟีลเขาเป็นเหมือนเพื่อนเลย มีอะไรก็คุยปรึกษาเขา ถึงเขาจะไม่ได้ฟังหรือรู้เรื่องที่เราพูด เราก็ปรึกษาเขา อยากจะโม้อะไรก็ไปโม้ให้เขาฟัง เขาก็ฟังบ้างไม่ฟังบ้าง (หัวเราะ) ถามว่าประทับใจอะไรเขามากที่สุด เป็นเรื่องการทำงาน การวางตัวในการทำงาน จันจิมองพี่เขาเป็นแบบอย่าง เพราะพี่เขาวางตัวดีมาก การเข้าหาผู้ใหญ่ เขาเป็นคนนอบน้อม เขาดังขนาดนั้นยังเป็นคนนอบน้อมขนาดนี้ เราก็ต้องทำบ้าง เป็นแบบอย่างที่ดีมากๆ เป็นนักแสดงที่ดีมากๆ ทำการบ้านเวลามีละคร เขาก็มีระเบียบวินัยในการทำการบ้านกับบท ทำให้เราเอามาใช้กับตัวเอง หรือเวลามีบทอะไรที่ไม่เข้าใจก็ปรึกษาได้ เรื่องการทำงานก็ช่วยได้เยอะเลย"