“เอ ศุภชัย” กลั้นน้ำตาไม่อยู่ “แตงโม” จากเร็วเกินไป บอกร้องไห้ทุกวัน กำลังจะเข้าไปช่วยให้ชีวิตดีขึ้น แต่ยังทำไม่สำเร็จ เผยไม่ขอรับเงินช่วยค่าจัดงาน ตนและ “อั้ม” ยินดีและเต็มใจทำให้ดีที่สุด พร้อมบอกเคยมีการฝากฝังถึง “เบิร์ด” ไว้จริงๆ แต่เบื้องต้นคุยกับคนสนิทฝ่ายชาย บอกเพียงว่าไม่ต้องการอะไร พอเสร็จจากงานนี้ก็จะไปทันที
เรียกว่าเป็นหนึ่งในโต้โผใหญ่เลยก็ว่าได้ สำหรับ “เอ ศุภชัย ศรัวิจิตร” ที่จับมือกับนางเอกซุปตาร์ “อั้ม พัชราภา ไชยเชื้อ” จัดงานไว้อาลัยให้กับนางเอกสาวผู้ล่วงลับ “แตงโม ภัทรธิดา พัชรวีระพงษ์” อย่างสวยงามที่สุด ณ คริสตจักรเสรีภาพกรุงเทพ ซึ่งนักปั้นชื่อดังถึงกับกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่ ปล่อยโฮออกมา บอกว่าเสียดายที่อีกฝ่ายมาด่วนจากไปแบบนี้
“เอเชื่อว่าความรู้สึกของพี่ๆ นักข่าวกับเอก็คงความรู้สึกเดียวกัน ก็คือรักน้อง วันนี้ก็มาในฐานะอยากส่งน้องไปอยู่บนสรวงสวรรค์ที่สวยๆ เหมือนกับที่ทุกคนอยากให้น้องเป็น เอว่าทุกคนคงเครียดกับหัวใจดวงนี้มาเยอะแล้ว วันนี้อยากให้ทุกคนได้รีแล็กซ์กับ 14 วันที่ผ่านมา อยากเห็นบรรยากาศสวยๆ คิดถึงความดี ความรักที่เรามีให้กับน้อง คิดถึงเรื่องราวดีๆ คิดถึงวันที่น้องเข้าวงการ และพวกเรานักข่าวมาสัมภาษณ์กัน วันที่เอไปกินข้าวกับน้องที่หน้าราม เอเป็นเด็กใต้ เมื่อก่อนเวลาน้องโมมีพี่วุฒิดูแล เอจะสนิทกับพี่วุฒิมาก น้องโมก็จะมาหาพี่วุฒิและไปกินข้าวแกงปักใต้กัน เออยากนึกถึงวันเก่าๆ (เสียงสั่น) ที่มีน้องอยู่และเดินกับเรามาเกือบ 15 ปี เออยากจำภาพนี้ไว้ และอยากเห็นแค่สิ่งที่สวยงามค่ะ
เอก็งงกับตัวเองเหมือนกันว่าทำไมฉันต้องเสียใจกับผู้หญิงคนนี้ได้เยอะขนาดนี้ เขาไม่ใช่ญาติเรา แต่เราเหมือนสงสารชีวิตค่ะ เรารู้สึกว่าเราเข้าไปช่วยคนๆ นึงแล้วมันกำลังจะดี แต่ทำไมมันถึงไม่สำเร็จ (ร้องไห้) ทำไมมันต้องเป็นแบบนี้ (สะอื้น) เอรับไม่ได้ เอร้องไห้ทุกวันเลย แต่ก็ต้องสู้ต่อ เพราะเราต้องเข้มแข็งค่ะ เราต้องเตรียมงานด้วย แต่สุดท้ายเราก็ต้องได้รับคำตอบพร้อมกันทุกคน”
บอก “แตงโม” จะมาปรึกษาตนตลอดถ้ามีปัญหาหนักๆ
“เอบอกน้องไปหมดแล้วในคืนที่น้องไปหาที่ลงในคลิป เอบอกว่าเอรักน้องมาก เอบอกว่าโมมีอะไรบอกแม่นะลูก คุยกันได้ทุกเรื่อง ไม่มีตังค์ก็บอก ไม่มีอะไรบอก เดี๋ยวแม่จัดให้ ละครเดี๋ยวแม่จัดให้ ลูกอยากได้อะไรลูกบอกมาให้หมดเลย มันเหมือนผู้ใหญ่คนนึงอยากมอบโอกาส คือโอกาสเขามีอยู่แล้วทุกคนก็รู้ แต่เราเป็นเหมือนพี่ที่เดินมากับน้องตั้งแต่แรก เราก็อยากเดินไปอยู่เรื่อยๆ แต่มันมาเป็นแบบนี้ เหมือนเราเป็นแม่ที่กำลังเชียร์ลูกอยู่ตรงเส้นชัย ลูกกำลังจะถึงแล้ว แต่อยู่ดีๆ มีปืนมายิงปัง ทุกอย่างจบ นั่นแหละค่ะความรู้สึกของเอ
เอทำทุกอย่างเพื่อน้องอยู่แล้ว ตั้งแต่น้องยังอยู่เคียงข้างเรา คือน้องโมมีปัญหาอะไรก็จะโทรมาปรึกษาเอทุกเรื่องถ้าเป็นปัญหาที่ใหญ่จริงๆ แต่ถ้าปัญหาเล็กๆ น้องโมเขาจะขี้เกรงใจ เราก็จะเป็นเหมือนพี่ที่ให้คำปรึกษา ปัญหาหลังๆ ที่คุยกันก็จะเป็นเรื่องการทำงาน คือน้องโมจะโปรเฟสชั่นนอลมากเรื่องการทำงาน ทุกอย่างต้องเป๊ะ แม้กระทั่งที่เราเห็นเขาร้องเพลงเพราะมากแล้ว ถ้าเขาจะไปออกรายการไหนที่จะร้องเพลงอีก เขาพร้อมที่จะไปเรียนร้องเพลงนะคะ เขาพร้อมที่จะพัฒนาตัวเองไปเรื่อยๆ เพื่อที่จะให้ทุกคนรักเชา ให้คุ้มกับที่ทุกคนเอ็นดูเขา ที่เขาจะตอบแทนกลับไป”
ไม่ขอรับเงินช่วยงาน เพราะตนและ “อั้ม” ยินดีทำด้วยใจ
“วันนี้เอแค่อยากเห็นโมเป็นเจ้าหญิงนิทรา เหมือนนอนอยู่ในสวนดอกไม้ สรวงสวรรค์ เออยากให้มันเป็นแบบนั้น เอก็เต็มที่กับทุกๆ อย่าง เออยากบอกทุกคนว่าให้ทุกคนอย่าคิดว่าเอเป็นเจ้าภาพนะคะ ให้ทุกคนคิดว่าทุกคนคือเจ้าภาพร่วมกันกับเอ และเอจะไม่ขอรับเงิน ไม่ขอรับอะไรทั้งสิ้นนะคะ ถ้าใครอยากช่วยก็หิ้วข้าว หิ้วขนมมาให้พวกพี่ๆ นักข่าว กับพนักงานตรวจ ATK หรืออะไรแบบนี้ก็ได้ค่ะ เรื่องอื่นไม่เป็นไรเลยค่ะ เอกับอั้มร่วมกันค่ะ อั้มก็คือต้องให้เอส่งภาพไปดูว่าแบ็คดร็อปเป็นยังไง เวทีเป็นยังไง ใส่ใจทุกรายละเอียดเพื่อจะได้ส่งน้องได้ดีที่สุด
เอจะไม่ดูเรื่องตัวงบเลยค่ะ บอกมาแล้วก็จ่ายเลย คือเวลาทำงานไม่อยากรู้ว่าเท่าไหร่ เหมือนตอนที่น้องโมมาหา เรายังไม่เคยจำอะไรเลยในสิ่งที่เราให้ จริงๆ น้องโมชอบดอกไม้สีขาว เอก็บอกทางน้องหนูนาว่าอยากให้สั่งดอกไม้สีขาวมาเยอะๆ เลย ให้น้องได้เห็น ให้คิดว่าวันนี้น้องอยู่ ซึ่งเอแน่ใจว่าน้องอยู่ ให้คิดเลยว่าน้องมองอยู่ ให้เขารู้สึกมีความสุข แต่ถามว่าจะกล่าวคำอาลัยมั้ย จริงๆ เอก็ไม่เคยพูดคำอาลัยให้ใครเลย เอกลัวจะร้องไห้ ถ้าเอพูดแล้วพูดไม่จบทุกคนต้องช่วยเอพูดต่อด้วยนะคะ
ก็อยากจะบอกน้องว่า โม พี่ฝันไปใช่มั้ยลูก มันไม่ใช่ความจริงใช่มั้ย อยากให้วันนี้เป็นเหมือนพวกเราทุกคนฝันกันอยู่ ไม่อยากให้มีวันนี้เลย จริงๆ เคยบอกโมว่าแม่ฝากชีวิตแม่ไว้กับลูกนะ วันนึงถ้าพี่เอตายไป มาเผาศพด้วยนะ (เสียงสั่น) แต่วันนี้มันสลับกัน เราก็รู้สึกว่าเร็วไป ถ้ามีเวลาให้เอได้ทำใจสักหน่อย มันก็จะดีกว่านี้ มันเหมือนกับช็อคค่ะ เชื่อว่าทุกคนคงรู้สึกเหมือนกัน”
เผยเคยกับ “แตงโม” เรื่องฝากให้ดูแล “เบิร์ด” จริง
“คือเราไม่ได้พูดถึงบทบาทว่าน้องโมจะเล่นบทไหน แต่เรารู้สึกว่าน้องโมเล่นได้ทุกบทบาท เพราะแอ็คติ้งทุกอย่างเลิศหมดเลย เอก็เลยบอกว่าโมเดี๋ยวเรามาทำสักโปรเจ็คด้วยกัน แต่ยังไม่ได้พูดคุยกันว่าจะทำอะไร คือเอก็ดีกับลูกๆ ทุกคนอยู่แล้ว ถ้าจัดหาอะไรให้พวกเขาได้เอก็จะทำทุกอย่าง สิ่งที่เขาอยากจะทำมากที่สุดในชีวิตเหรอคะ น้องโมพูดแค่ว่าหนูอยากทำงานนะคะแม่ หนูไม่ได้อยากขอยืมเงินคนอื่นเลย อยากทำงานแล้วได้เงิน งานอะไรก็ได้ เขาไม่เคยเลือก ขอให้เป็นงานที่ถูกต้องและสุจริต แม้กระทั้งไปขายเสื้อผ้ามือสอง เขาบอกพี่เอทำละครซื้อเสื้อผ้าไว้เยอะ พี่เอสนใจเอาเสื้อผ้ามาให้หนูไลฟ์สดขายมั้ย
แล้วน้องโมก็บอกว่าถ้าวันนึงมีโอกาสดีๆ จริงๆ เดี๋ยวหนูจะจูงเบิร์ดมาให้สวัสดีพี่เอนะ เบิร์ดอะไรก็ทำ ให้เขา 500 เขาก็ทำแล้ว เอก็บอกว่ายินดีเลยน้องโม ถ้ามีโอกาสเราคงจะได้เจอกัน แต่ยังไม่ได้เจอเลย แต่เอต้องตอบก่อนว่าเอยังไม่เคยพูดคุยกับน้องเบิร์ด แต่เอเคยคุยกับน้องโม และน้องโมบอกว่าอยากฝากน้องเบิร์ดด้วย แต่ไม่ได้บอกว่าฝากอยู่ในการทำงานเบื้องหน้าหรือเบื้องหลัง เอก็คิดในใจว่าถ้ามีอะไรให้น้องเบิร์ดทำได้ เพราะว่าตอนนี้เราเป็นผู้จัดแล้ว เรามีทั้งงานเบื้องหลัง เราก็จะได้พูดคุย แต่คุยกับพี่ที่สนิทกับน้องเบิร์ด เขาบอกว่าน้องเบิร์ดไม่เอาอะไรเลย เขาบอกว่าเสร็จงานเดี๋ยวเขาก็ไปแล้ว เราก็ยิ่งร้องไห้ ยิ่งเอ็นดู”