รุมถาม “เมย์ เฟื่องอารมณ์” ถึงสาเหตุการเสียชีวิตของ "แตงโม" เพราะเป็นภรรยาของ "หนุ่ม กรรชัย ต้องรู้อินไซด์แน่ๆ แม้แต่ "อั้ม พัชราภา" ยังอยากรู้
นาทีนี้ต้องบอกคนไทยทั้งประเทศต่างตั้งหน้าตั้งตาหาความจริงกับการเสียชีวิตของ "แตงโม นิดา" ถึงขั้นขอบตาดำไม่ได้หลับ ไม่ว่าจะอยู่วงการไหนต่างก็สนใจข่าวนี้ ข่าวสงครามหรือทองขึ้นยังไม้แพ้กระแสข่าวแตงโม แม้แต่ "อั้ม พัชราภา" ยังถึงขั้นยกหูถาม "เมย์ เฟื่องอารมณ์" ภรรยา "หนุ่ม กรรชัย" พิธีกรคนดังผู้อินไซด์ข่าวดังกล่าว งานนี้เมย์ยอมรับว่า มีคนถามเรื่องนี้เยอะมาก
“พี่หนุ่มก็ไม่ได้เล่าอะไร บอกตรงๆ มีแต่เราโทร.ไป เขาก็บอกว่านั่นนะไม่ต้องมาถาม เรื่องงานเราไม่สามารถพูดได้อยู่แล้ว เพราะว่าพี่หนุ่มเขาทำดีในมุมของเขาอยู่แล้ว เราก็เป็นกำลังใจให้ สู้ๆ นะ ส่วนใหญ่เขาแทบจะไม่ได้นอน"
"อย่างที่ทุกคนเห็น ก็ทำงานหนัก ถามว่าได้พักผ่อนไหม เขาก็บอกว่าได้พัก มันน่าจะไม่ได้หลับสนิท คงหลับๆ ตื่นๆ ถามว่าเมย์ดูแลพี่หนุ่มอย่างไรบ้าง เมย์ต้องบอกก่อนว่าเมย์ต้องดูแลลูก หน้าที่เมย์ต้องตื่นไปส่งลูก ไปรับน้องมายู รู้สไตล์กันอยู่แล้ว โอเคเรื่องการทำงานพี่หนุ่มต้องทำงาน เรื่องการดูแลเราไม่ได้ปรนนิบัติอะไร แต่เรามีการคุยกันมากกว่าว่าเป็นยังไง เหนื่อยไหม”
เป็นห่วงสุขภาพ “หนุ่ม กรรชัย” แต่ก็เข้าใจว่าต้องทำงาน
“พูดนิดหน่อย แต่ไม่อยากที่จะพูดมาก เพราะเขาต้องทำงาน เราก็แค่บอกว่าพักผ่อนบ้าง แต่พูดไปก็เท่านั้น เขาทำงาน คนทำงานเราก็ต้องเข้าใจเขา ไม่อยากไปกดดัน เราก็แค่บอกว่าโอเคเหนื่อยไหม โอเคนะวันนี้ทำดีแค่นั้น (มีพาความเครียดกลับไปบ้านไหม?)โอโห..ทำงานตลอดค่ะ”
เล่าคนหลังไมค์มาถามเยอะ เพราะคิดว่าตนเป็นภรรยา “หนุ่ม กรรชัย” ต้องรู้เรื่องวงในแน่ๆ
“ถามเยอะค่ะ แต่เมย์ไม่ทราบจริงๆ พี่หนุ่มไม่บอกจริงๆ อั้ม(พัชราภา ไชยเชื้อ)ก็ยังถามนะคะ (หัวเราะ) เราก็บอกว่าไม่ทราบจริงๆ เพราะว่าพี่หนุ่มไม่พูดจริงๆ ส่วนใหญ่เมย์จะแกล้งๆ พูดค่ะ เพราะว่าพอถามไปเขาก็จะไม่บอก เราแกล้งๆ หลอกถาม เขาก็บอกว่าไม่ต้อง รู้ทัน พี่หนุ่มเขาก็ไม่ได้อะไร เขาก็จะบอกว่าตามข่าวนั่นแหละ ตามข้อเท็จจริง ตามข่าวเลย”
“มายู” เข้าใจ ได้เจอพ่อ “หนุ่ม กรรชัย” แค่ เสาร์-อาทิตย์ บอกลูกเห็นพ่อในโซเชียล และป้ายโฆษณามากกว่าตัวจริงเสียอีก
“ไม่ค่อยค่ะ เพราะว่าเวลาไม่ตรงกัน เช้าไปเรียน กลับมาก็ต้องรีบนอน กว่าพี่หนุ่มจะทำงานเสร็จ จะได้เจอแค่เสาร์-อาทิตย์ มายูเขาก็เข้าใจ เพราะว่าเป็นแบบนี้มาตั้งแต่เด็ก เขาเข้าใจว่าพ่อทำงาน สมมติใครถาม เขาก็จะพูดเลยคุณพ่อทำงาน โหนกระแส (ยิ้ม) แล้วบางทีเขาจะดูโซเชียลดูข่าว เขาก็จะเห็นว่านี่พ่อ หรือว่าเดินไปข้างนอก เห็นป้ายโฆษณา เขาก็จะบอกพ่ออีกแล้ว ทำไมพ่อเยอะจัง"
"คือลูกเห็นพ่อในโซเชียล และป้ายโฆษณามากกว่าตัวจริง แล้วเวลาเดินไปข้างนอก เราก็ใส่หน้ากาก แต่เขาพูดถึงพ่อดังมากจนคนอื่นต้องหันมามอง มายูเขาก็ยังมีความเป็นตัวของตัวเองสูงเหมือนเดิม จะเป็นแนวเขา แล้วอย่างละครเขาก็จะรู้หมด เขารู้ว่าคุณพ่อทำรายการ คุณแม่ทำละคร คุณแม่ทำละครเรื่อง ปมเสน่หา แล้วมายูก็ยังสอนแม่เลยว่า แม่พอละครออกแม่ต้องโปรโมตเยอะๆ นะ ก็ถามเขาว่าโปรโมตยังไง มายูบอกว่า คุณแม่ต้องบอกทุกคนว่า ให้ตั้งตาดู ห้ามกระพริบตา ดูละครเรื่อง ปมเสน่หา ตาห้ามกระพริบ เขาบอกให้พูดแบบนี้ด้วย ไม่รู้ว่าเขาไปเอามาจากไหน เขาค่อนข้างที่จะรู้เรื่องการพูด”
"ชัดเจน มายู”ไม่ชอบงานสายละคร แต่ว่าถ้าออกมาข้างนอกเขาจะไม่พูดนะคะ แต่เขาจะพูดกับเราส่วนตัว ถึงแม้ว่าละครเรื่องนี้มีเด็กเล่น เมย์ก็ถามมายูเล่นไหมลูก เพราะว่าเรื่องนี้จะมีเด็กเล่น เดี๋ยวจะต้องมีคนถามว่าทำไมไม่เอาน้องมายูมาเล่น เมย์ถามแล้วว่าเล่นไหม มายูบอกว่าไม่ ตอนที่แคสเด็กมายูก็ไปดู เมย์ก็ถามว่าลูกอยากทำไหม เขาก็บอกว่าไม่อ่ะแม่ เขาทำอะไร อยู่ดีๆ ก็มาร้องไห้ อยู่ดีๆ ก็มาทำอะไร คือเขาไม่เข้าใจ รู้สึกว่ามันไม่ใช่ทางเขา เรารู้เลยว่ามายูไม่ใช่ทางนี้ เราก็จะไม่ยุ่งกับเขาเรื่องนี้เลย เมย์พาไปกองตลอด แต่เขาก็งง เขาไม่ใช่แนวนี้ ถามเขาแล้วว่าอยากเล่นละครไหมลูก เขาบอกไม่เอา แม่ก็เลยต้องไปให้เด็กๆ คนอื่นเล่น”
