ยังคงเกาะติดประเด็นการเสียชีวิตของนักแสดงสาว “แตงโม นิดา พัชรวีระพงษ์” ที่พลัดตกเรือสปีดโบ๊ตเมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ จนถึงตอนนี้ยังหาข้อสรุปไม่ได้ว่าเหตุการณ์ในวันนั้นเกิดอะไรขึ้นกันแน่ ซึ่งที่ผ่านมาชาวโซเชียลก็ช่วยสืบเรื่องราวให้เรื่อยมา หวังความจริงปรากฎเพื่อช่วยเหลือแตงโม
ล่าสุด “อ้วน รีเทิร์น” คนที่แตงโมสนิทและเรียกว่าคุณแม่ได้มาเปิดใจผ่านทางรายการ คุยแซ่บShow ทางช่อง วัน 31 โดยเผยว่าเป็นไปไม่ได้เลยที่แตงโมจะรับงานเอ็น และไม่เชื่อว่าแตงโมจะไปฉี่ท้ายเรือ หวังความจริงปรากฎจะได้นอนตายตาหลับ
ถ้าพี่อ้วนเป็นทนายวันนี้อยากเข้าไปช่วยไหม?
“อยากสิ เชื่อว่าคนไทยไม่ว่าเป็นอาชีพอะไรก็ตามน่าจะอยากเข้าไปช่วยแตงโมกันทุกคน แต่ว่าเข้าไปต้องข้อมูลที่ถูกต้องด้วยจะได้ไม่โดนคุณแม่เขาพูดอะไรที่ทำให้เสียใจ
แต่ทีนี้พอเข้าไปช่วยเสร็จปุ๊บหลายคนก็หอน ตรงนี้มันก็ทำให้คนที่อยากจะเข้าไปช่วยจริงๆ เหมือนกลายเป็นคนเผือก เขาก็ถอยออกมา เพราะฉะนั้นอะไรก็แล้วแต่คิดว่าอยากช่วยแตงโม แล้วอะไรที่มีประโยชน์ทำเลย ไม่ต้องไปไว้หน้าใคร”
พี่อ้วนสนิทกับแตงโมมาก ถ้าแม่เขาโอเคทุกอย่างโดยไม่ติดใจการเสียชีวิต พี่อ้วนโอเคไหม?
“ฉันไม่โอเคนะ การที่แตงโมเสียชีวิตไปไม่ว่าจะเป็นเรื่องอะไรที่ทำให้แตงโมตาย ด้วยความเป็นแม่จะต้องหาความจริงให้มันถึงที่สุด เพื่อจะได้พิสูจน์รู้ ไม่อย่างนั้นจะตายตาหลับเหรอ ลูกคนนึงตายไป แล้วไม่อยากพิสูจน์ความจริง แล้วเราจะมีชีวิตได้ยังไง ถ้าเราไม่รู้ถึงสาเหตุการตายของลูกตัวเอง
แตงโมเรียกพี่อ้วนว่าแม่ ความรู้สึกในใจเราลึกๆ เลย อยากให้รูปคดีมันเป็นยังไง?
“อยากให้ออกมาถูกต้อง มันอาจจะเป็นอุบัติเหตุ หรือมันอาจจะมีเงื่อนงำอะไรที่ทำให้โมตายไป เชื่อว่าทุกคนในประเทศไทยรับได้ มนุษย์มันต้องมีเกิด แก่ เจ็บ ตาย
แต่มันจะต้องรู้สาเหตุที่แท้จริงว่าตายเพราะอะไร เป็นอะไรถึงตาย เมา หรือว่ามีอุบัติเหตุ หรือว่าความสะเพร่าอะไรตรงนั้น มันต้องรู้สิ แตงโมคือมนุษย์นะ จะไม่รู้ได้ยังไง เราอยากจะรู้ความจริงว่ามันเป็นอะไร
ฉันว่าการโยนแก้วไวน์ หรือโยนอะไรต่ออะไรซึ่งเป็นหลักฐานทิ้ง มันก็บ่งบอกถึงเจตนาที่จะปิดบังอะไรแล้ว (ไม่อยากให้รู้ว่ากินไปกี่ขวด?) ถ้าทุกอย่างเป็นความจริงก็ไม่ควรปิดบังตั้งแต่แรก (กลัวเมียรู้หรือเปล่า มาแล้วไม่ได้บอกเมียไง?) ถ้าเกิดว่ากลัวว่าใครจะรู้ว่าทำไม่ดี ก็อย่าทำอะไรเลวๆ สิ
ถ้าสมมติแม่แตงโมดูอยู่พี่อ้วนอยากจะบอกอะไรแม่?
“อะไรก็แล้วแต่ถ้าเกิดมันเป็นความยุติธรรมของลูกสาวตัวเอง ไม่ว่าใครก็แล้วแต่ที่จะเข้ามาช่วยฉันจะปล่อย ปล่อยให้ความจริงมันปรากฏ ถ้าสมมติว่าฉันเป็นแม่แท้ๆ แล้วมีสิทธิ์ใครที่อยากมาช่วยลูกสาวฉันเพื่อความบริสุทธิ์ ฉันจะปล่อยให้เขาทำ เพราะว่าทุกคนที่เข้ามาช่วยแตงโม ไม่ว่าจะเป็นใครก็แล้วแต่ ทุกคนเข้ามาด้วยความรัก
แล้วถ้ามันจะจบด้วยทุกคนกลายไปเป็นหมา ฉันว่ามันไม่ยุติธรรมกับคนที่รักแตงโม พี่อ้วนไม่ได้มองว่าใครโกหกหรือไม่โกหก แต่มองว่ามันเหมือนความจริงยังไม่เปิดออกมาทุกมุม
เพราะถ้าคุณไม่เปิดเผยความจริง ความลับจะเป็นบาดแผลในใจคุณไปตลอดชีวิต คุณจะมีความสุขไหม ถ้าเปิดเผยความจริงมามันจะรู้สึกโล่ง เพราะว่าคนถ้าทำไม่ดีหรือว่าทำอะไรที่ปิดบังไว้มันจะกัดกินหัวใจของคนที่ทำชั่วไปจนวันตาย”
แล้วคนทำชั่วจะมีกรรมอันนี้เป็นการเตือนหรือเป็นการแช่ง?
“พุทธศาสนาหรือคนบนโลกใบนี้ไม่ต้องแช่งหรอกใครที่ทำกรรม เขาจะต้องรับกรรมนั้น ถ้าสมมติว่าทำกรรมโดยไม่ได้ตั้งใจ แล้วออกมาเปิดเผยเรื่องราวให้ความยุติธรรมกับศพพี่ว่ากรรมนั้นมันจะเบาบาง ไม่ใช่ว่าทั้งหมดทำผิด หรือไปฟันธงว่าทั้งหมดบนเรือทำผิดแล้วไม่ใช่นะ เพียงแต่ว่าทุกคนสงสัย และความสงสัยตรงนั้นมันก็ต้องมีความจริงออกมา”
พี่อ้วนมีอะไรสงสัย?
“สงสัยตั้งแต่น้องเสียชีวิตแล้วว่ามันมีอะไรหรือเปล่า ก็สงสัยเหมือนที่ทุกคนสงสัย อันนี้สมมติว่าเป็นตัวเอง ถ้าสมมติว่ามันมีเรื่องจำเป็นที่ต้องขอเส้นผม สำหรับตัวฉันนะไม่เกี่ยวกับคดีนี้ ฉันให้นะ
พี่อ้วนเชื่อไหมว่าแตงโมไปฉี่ท้ายเรือ เมาด้วย?
“ตั้งแต่รู้จักกับแตงโมมา 10 ปี ยังไม่เคยเห็นแตงโมเมาเลย ขนาดเลี้ยงปิดกล้องยังไม่เมาเลย นางอาจจะมีจิบอะไรต่ออะไร เพื่อสังคม แต่เมายังไม่เคย ถ้าถามว่าไปฉี่ท้ายเรือเชื่อมั้ย คือแตงโมมีความเป็นสาวไม่ค่อยเรียบร้อยเท่าไร ถามว่าฉันเชื่อมั้ย ฉันก็ไม่เชื่อว่าแตงโมไปฉี่ได้ แต่ความที่เราไม่เชื่อมันก็อาจจะไปฉี่จริงก็ได้ แต่ว่าฉันไม่เชื่อแค่นั้นเอง
พี่อ้วนบอกเลยว่าไม่เชื่อว่าอันนี้เป็นงานเอ็น?
“ไม่มีวันที่แตงโมจะทำอย่างนั้น ถ้าน้องเดือดร้อน น้องจะปรึกษา แม่ๆ ที่พร้อมจะช่วยเหลือแตงโมเนี่ย แตงโมจะไม่ทำ เพราะมีแม่คอยซัพพอร์ตอยู่หลายคน แล้วแม่แต่ละคนคือรวยหมด แล้วแตงโมถ้าต้องใช้เงินเขาจะบอกแม่เขา แล้วเขาไม่มีวันจะทำอย่างนั้น เพราะว่าแตงโมถ้าไม่รักไม่ชอบ มึงจะมานั่งใกล้มันยังไม่ยอมเลย เพราะฉะนั้นตรงนั้นเป็นไปไม่ได้เด็ดขาด”
