นอกจากเหล่าบรรดานักแสดงหน้าใหม่ที่มาร่วมแสดงในหนัง "มังกรหยก" ฉบับใหม่แล้ว ก็ยังมีดาราหน้าเก่าจากหนังภาคที่แล้วๆ มาร่วมปรากฏตัวด้วยหลายคน หนึ่งในนั้นก็คือนางเอกของหนังภาคเดิมอย่าง "จางเหมี่ยน" นั่นเอง
แม้จะไม่กลับมารับบทเดิมแต่ จางเหมี่ยน ก็มีโอกาสได้ใส่ชุดที่คล้ายๆ กับที่เคยแสดงในหนังภาคก่อน ที่สำคัญนี่คือการรับงานแสดงภาพยนตร์เป็นครั้งแรกในรอบเกือบยี่สิบปีของอดีตดาราดังที่ตอนนี้อายุร่วม 54 ปีแล้ว
จางเหมี่ยน เป็นอดีตนางเอกชื่อดัง จากวงการหนังฮ่องกงในยุค 90s ที่หายหน้าหายตาจากวงการไปเลย หลังจากในช่วงท้ายของอาชีพ จางเหมี่ยน ได้หันเห ไปลองทำงานเบื้องหลังกับการลงทุนสร้างหนังด้วยตัวเอง แต่กลับล้มเหลวขาดทุน จนดูเหมือนว่าเธอจะเข็ดกับวงการหนังไปเลย และหันไปลงทุนทำธุรกิจอย่างอื่นแทน ทิ้งงานทั้งเบื้องหน้าและเบื้องหลัง ในวงการภาพยนตร์ไปนาน
นางเอกคู่ขวัญ "โจวซิงฉือ"
สำหรับผู้กำกับที่ดึงดาราสาวคนนี้เข้าวงการก็คือ "หวังจิง" ที่พบ "จางเหมี่ยน" จากเวทีประกวดนางงาม จึงดึงมาเล่นหนัง ผลงานเรื่องแรกเป็นการประกบ "หลิวเต๋อหัว" ในหนังแอ็กชั่น 3 ซ..ซ่าส์ ซิ่งส์ ซิงส์
แต่หนังที่กลายเป็นจุดเปลี่ยนในอาชีพครั้งสำคัญของ จางเหมี่ยน กลับกลายเป็นหนังตลกฟอร์มไม่ได้ใหญ่โตนักที่ชื่อว่า "1+3 ลูกใครหว่า" ที่ตัวหนังก็ไม่ได้ประสบความสำเร็จอะไรมากมายนัก แต่นี่คือผลงานที่ทำให้ จางเหมี่ยน ได้ร่วมงานกับดาวตลกดาวรุ่งที่กำลังมาแรงในตอนนั้นเป็นครั้งแรก ชื่อของเขาคือ "โจวซิงฉือ" นั่นเอง
หลังจากนั้นทั้งคู่มีโอกาสร่วมงานกันในหนังถึง 10 เรื่อง กลายเป็นคู่ขวัญที่ทำงานมากด้วยกันคู่หนึ่งในวงการหนังฮ่องกงและชื่อเสียงของโจวซิงฉือ ก็ยังทำให้ จางเหมี่ยน มีงาน ชุกมากในช่วงนั้น
โดยเฉพาะอย่างยิ่งในหนังประเภทเซียนพนัน อย่าง คนตัดเซียน ที่ "จางเหมี่ยน" รับบทเป็นตัวละครนางเอกที่ชื่อว่า “ฉีม่ง” ที่ดังสุดๆ ในฮ่องกงและในเมืองไทย ชนิดที่คนไทยบางส่วนนึกว่าเธอชื่อ "ฉีม่ง" ไปเลย
ที่ผ่านมา จางเหมี่ยน แทบจะตามไปเล่นหนังกับโจวซิงฉือในทุกเรื่อง ทั้งหนังสุดฮิตอย่างคนเล็กนักเรียนโต,ยาจกซู ฯ แถมออกรายการโทรทัศน์ด้วยกันแทบจะนับไม่ถ้วน เรียกว่านอกจาก อู๋ม่งต๊ะ แล้ว ก็น่าจะเป็น จางเหมี่ยน นี่แหละ ที่เล่นหนังกับ โจวซิงฉือ มากที่สุด
เจ้าแม่หนังตระกูลเซียน
นอกจากนั้น จางเหมี่ยน ก็ยังเล่นหนังกับพระเอกแทบทุกคน ที่น่าจดจำอีกเรื่องก็น่าจะเป็นหนังที่ประกบกับหลิวเต๋อหัว อย่าง มังกรขันจอหว่อ งานที่เป็นครั้งเดียวในชีวิตที่ทำให้เธอชิงรางวัลกับเขาบ้าง
แน่นอนว่า ดาบมังกรหยก ที่เป็นการประกบเจ็ตลีก็เป็นผลงานอีกเรื่องที่หลายคนน่าจะจำได้ แม้หนังจะล้มเหลวอย่างที่ทราบกันดีก็ตาม
ตลอดชีวิตการเป็นนักแสดง จางเหมี่ยน มีผลงานการแสดงทั้งหมด 69 เรื่อง โดยเฉพาะช่วงปี 1990 – 1995 ที่มีผลงานการแสดงถึง 50 เรื่อง เรียกว่าปีละ 10 เรื่อง เฉลี่ยแล้วมีหนังเข้าฉายเกือบจะทุกเดือนเลยก็ว่าได้
โดยผู้กำกับที่ทำงานด้วยกันบ่อยครั้งที่สุดคงจะเป็นใครไปไม่ได้ถ้าไม่ใช่ หวังจิง ที่ร่วมงานกันมากถึง 26 เรื่องเลยทีเดียว
เอาแค่หนังตระกูล “คนตัดคน - คนตัดเซียน” จางเหมี่ยน เองเล่นหนังชุดนี้ไปถึง 5 เรื่อง ในบทที่แตกต่างกัน เรียกว่าปรากฏตัวในหนังชุดนี้มากกว่าพระเอกของเรื่องอย่าง โจวเหวินฟะ, หลิวเต๋อหัว และ โจวซิงฉือ ซะอีก
อย่างที่กล่าวไปแล้วว่า เทียบกับนางเอกรุ่นเดียวกัน จางเหมี่ยน ไม่ค่อยจะได้รับโอกาสในการเล่นหนังคุณภาพเพื่อพิสูจน์ฝีมือในการแสดงมากนัก โดยตลอดชีวิตการเป็นนักแสดงเธอได้ชิงรางวัลในสถาบันการมอบรางวัลหลักเพียงครั้งเดียวเท่านั้น แถมเป็นจากหนังที่ไม่มีอะไรน่าจดจำเลย แตกต่างโดยสิ้นเชิงกับนางเอกเพื่อนร่วมรุ่นอื่นๆ
จนในช่วงหลัง จางเหมี่ยน ได้หันมาลองอำนวยการสร้างหนังเองดูบ้างในภาพยนตร์เรื่อง Dream Lover ที่มี เหลียงเฉาเหว่ย กับ อู๋เชี่ยนเหลียน แสดงนำ แต่ตัวหนังออกมาไม่ค่อยจะถูกใจผู้สร้างอย่าง จางเหมี่ยน แถมทำรายได้แค่ 3 ล้านเหรียญฮ่องกง
สุดท้ายเธอก็เลยเอาบทเดียวกันมาสร้างเป็นหนังอีกเรื่องใช้ชื่อว่า Romantic Dream คราวนี้เธอนำแสดงเองคู่กับ หลิวชิงหยุน ผลออกมาทำเงินมากกว่านิดหน่อยคือ 10 ล้านเหรียญฯ แต่ก็ยังขาดทุนอยู่ดี ทำเอาเจ้าตัวจะเข็ดกับการทำหนังพอสมควร หลังจากนั้นก็เลยไม่มีผลงานอีกนาน
จนมาถึงผลงานเรื่อง "10 Brothers 10 คนมหัศจรรย์" หนังแฟนตาซีที่หลายคนยังจำได้ดีแม้จะไม่ประสบความสำเร็จมากนัก ก่อนจะกลายเป็นผลงานเรื่องสุดท้ายในยุครุ่งเรื่องของ จางเหมี่ยน ที่ตอนนั้น อยู่ๆ ก็หยุดรับงานแสดงไปเลย และหันไปทำธุรกิจประเภทอสังหาริมทรัพย์และธุรกิจเสื้อผ้าแทน
จุดเด่นประการหนึ่งของ จางเหมี่ยน ก็คือ กับเป็นดาราที่ไม่มีข่าวเกี่ยวกับเรื่องส่วนตัวเท่าไหร่ โดยเฉพาะด้านเสียหายน้อยมาก
เธอแทบไม่มีข่าวเรื่องความรัก หรือข่าวฉาวใดๆ เลย แน่นอนว่านอกจากเรื่องการวางตัวแล้ว ก็ยังมีอีกเหตุผลที่ทำให้เธอเป็นดาราที่มีข่าวด้านลบน้อยมาก เพราะลือกันว่าในช่วงที่กำลังมีชื่อเสียง จางเหมี่ยน คบหาอยู่กับ เซียงหัวเซิน ลูกหัวหน้าแก็งค์มาเฟียใหญ่ของฮ่องกงก็เลยไม่มีใครกล้ายุ่งกับเธอไปโดยปริยาย แน่นอนข่าวนี้ไม่มีการยืนยันใดๆ
ส่วนตัวของ จางเหมี่ยน เอง หลังออกจากวงการบันเทิงไปก็มีข่าวเรื่องชีวิตคู่อยู่เป็นระยะๆ เคยมีข่าวว่าเธอได้เข้าพิธีแต่งงานกับนักธุรกิจคนหนึ่ง แต่สุดท้ายข่าวลือก็เป็นแค่ข่าวนี้ เพราะถึงปัจจุบัน จางเหมี่ยน ก็ยังครองตัวเป็นโสด ไม่ได้แต่งงานกับใคร ใช้ชีวิตส่วนตัวอย่าเงียบๆ อย่างที่ทำมาโดยตลอด
ชื่อเสียงผลงานอาจจะด้อยกว่าเพื่อนร่วมรุ่นหลายๆ คน แต่ผลงานเด่นๆ ของ จางเหมี่ยน ก็น่าจะทำให้เธอเป็นที่จดจำของแฟนหนังฮ่องกงไปอีกนาน แม้บางคนจะไปจำเธอในชื่อ “ฉีม่ง” แทนก็ตาม