“แม่แตงโม” แจงแล้ว ปมเขียนจม.ขอ “ทนายตั้ม” อย่ายุ่งคดี ปล่อยผ่านคนด่า ลูกไม่ตายก็คงไม่ดัง!

กลายเป็นประเด็นอยู่ไม่น้อย หลังจากที่ “ทนายตั้ม ษิทรา เบี้ยบังเกิด” ได้เผยจดหมายที่ “นางภนิดา ศิริยุทธโยธิน” เขียนถึงตน ขออย่ายุ่งเรื่องคดี แตงโม นิดา พัชรวีระพงษ์ เพราะไม่ได้จ้างให้ทำคดี

ซึ่งล่าสุด แม่แตงโม ได้โฟนอินในรายการ เป็นเรื่องใหญ่ ซึ่งออกอากาศทางช่อง JKN 18 ดำเนินรายการโดย “เพชร กรุณพล เทียนสุวรรณ” โดยเผยว่าสาเหตุที่ไม่ได้จ้างทนายตั้มเพราะไม่รู้จัก และไม่ไว้ใจ ก่อนยันหากทนายตั้มจะดำเนินการต่อก็พร้อมให้ “ทนายกฤษณะ ศรีบุญพิมพ์สวย” ดำเนินการต่อไป

“ความจริงที่ผ่านมาคุณแม่ต้องมีทนายอยู่แล้ว คุณแม่ไม่ยอมตั้งมากกว่า เพิ่งตั้งได้ 3 วัน สาเหตุที่ต้องตั้งเพราะต้องช่วยคุณแม่ไง คุณแม่พูดเลอะเลือน เลอะเทอะแล้ว สมองไม่ได้เลย รับโทรศัพท์ทั้งวัน แล้วไหนต้องไปทำเอกสารอีก

สำหรับ พี่ต่อย ดายศ เขาให้ทนายตั้มเป็นคนดูแล ถามว่าทำไมคุณแม่ไม่เลือกใช้ทนายตั้ม บอกตรงๆ ไม่รู้จักทนายตั้ม เห็นแต่ในทีวี (ไม่ไว้ใจ?) ใช่ เราไม่รู้จักเราจะไปจ้างเขาได้ยังไงคะ แต่กับคุณกฤษณะเรารู้จักกันมาก่อนแล้ว เราเตรียมเขาไว้แล้ว แต่คุณแม่ขอเวลาเดินเอกสารเสร็จแค่นั้นแหละ ก็ทันที เดินเอกสารเสร็จก็ได้ลงโฟนอินกับรายการพี่ต๊ะ (นารากร ติยายน) ทันที”

ปัดความดันขึ้นเพราะเห็นรูปแตงโมตอนจมน้ำเสียชีวิต แล้วมีคนส่งให้ดู แต่เป็นเพราะทุกวันนี้นอนไม่พอ
“ไม่ใช่ๆ แม่ความดันขึ้นเพราะทุกวันไม่ได้นอนพอเลย คุณแม่รับโทรศัพท์นักข่าว ซึ่งเป็นลูกรักทั้งหลายเป็นพันๆ คนเลยนะไม่ปฏิเสธนักข่าว ถามว่าคุณแม่โกรธไหมที่ลูกชายจ้างทนายตั้มให้ทำคดีควบคู่กับคุณแม่ คุณแม่ได้ออกจดหมาย ออกรายการไปตามดูนะ ตามนั้นเลยค่ะ (ทนายบอกว่าไม่จำเป็นต้องขออนุญาตคุณแม่?) อ้าว เดี๋ยวคุณแม่ก็ให้ทนายคุณแม่จัดการเองแหละ”

ปล่อยผ่านคนด่า เป็นคุณแม่ดารา ดังขึ้นมาแล้ว ถ้าลูกไม่ตายคุณแม่ก็ยังไม่ดังขึ้นมาหรอก
“ปล่อยผ่านค่ะ คุณแม่ไม่สนใจค่ะ ใครก็ว่าคุณแม่ได้ คุณแม่ดังขึ้นมาแล้ว เป็นคุณแม่ดารา ถ้าลูกไม่ตายคุณแม่ก็ยังไม่ดังหรอก พอตอนนี้มีลูกเป็นดารา ไปไหนคนก็จำได้ ไปห้างก็มีคนมาขอถ่ายรูปเต็มไปหมด ปล่อยผ่าน ใครด่าเราได้อย่าไปสนใจ ด่าหยาบแค่ไหนก็ไม่ได้ยิน ไม่ได้อ่านซะอย่าง คุณแม่ไม่ใช่คนอ่านโซเชียลนะ ดูแต่ทีวีอย่างเดียว”

ไม่อยากให้ขุดคุ้ยเรื่อง “หนุ่ม กรรชัย กำเนิดพลอย” แค่ผิดใจกันเล็กน้อย
“พี่หนุ่มเขาก็ขอโทษมาแล้ว เราอย่าไปขุดคุ้ยเลย เดี๋ยวเราก็อาจต้องไปออกรายการเขาอีก เขาก็ต้องมาช่วยเหลือเราอีก เป็นคำเข้าใจผิดเล็กๆ น้อยๆ จากคำว่าสมมติว่า คำเดียวเท่านั้น ที่ประชาชนทั้งหลายไม่เข้าใจคุณแม่ คุณแม่พูดคำว่าสมมติว่า ถามทนายสิ สมมติว่าน้องโมแสดงเรื่องละล้าน มีชีวิตอยู่ได้อีก 30 ปี ก็คูณเข้าไปสิ ก็จะเป็นค่าเสียหายที่เขาจะจ่ายให้เรา”

ไม่เข้าไปหยิบข้าวของแตงโมในบ้านแน่นอน เพราะตนก็กลัวเหมือนกัน
“เอ๊ะ ข่าวพวกนี้ทำไมมาทำข่าวกับคุณแม่แล้วไม่บอกกันนะ คุณแม่ก็บอกไปแล้ว ไม่ได้เปลี่ยนรหัสใดๆ ทั้งสิ้น ไม่ได้เอาของออกมาใดๆ ทั้งสิ้น จะเอาของออกมาก็ต่อเมื่อทำพิธีน้องเสร็จแล้วเท่านั้น คุณแม่ก็กลัว เราเอาออกมาไม่ได้ ไม่ได้หยิบอะไรออกมาเลย เอาแต่แมว ทั้งหมดเป็นข่าวลือ วันนั้นเข้าไปหลายคน เบิร์ตก็ขอหมอนน้องโมมา ก็อยู่กันนานหน่อย เขาเก็บของเก็บอะไร แต่แม่ไม่รู้เลยกระเป๋าแพงๆ น้องโมอยู่ตรงไหน คุณแม่ก็ไม่กล้าหยิบ คุณแม่ก็กลัวเหมือนกัน”

ขณะที่ทนายกฤษณะเผยว่า คุณแม่โทรหาตน บอกเดี๋ยวจะมีหนังสือฉบับหนึ่ง เพราะตั้งใจให้ตนเป็นทนายคนเดียว ส่วนความหวังดีของพี่ต่อย ดายศ พี่ชายแตงโม เชื่อว่าไม่ได้ขัดแย้งกับคุณแม่ แค่ไม่ได้บอกให้คุณแม่ทราบในบางเรื่อง

ตอนนี้ยังไม่เห็นใบแต่งตั้งทนาย ในทางกฎหมายสามารถแต่งเข้ามาได้ แต่ตอนนี้ถ้าในเชิงคดีอาญา คุณแม่มีสิทธิ์แต่เพียงผู้เดียวก่อน ตนก็เคารพทนายษิทรา ยินดีที่มีการค้นหาพยานหลักฐานช่วยเหลือกัน รวมทั้งล่าสุดก็ได้สายตรงเคลียร์กับคุณดายศ เขาก็ขอโทษที่ไม่ได้บอก ยืนยันไม่ได้มีอคติ มีความสัมพันธ์ที่ดีกับคุณแม่ แต่เครดิตทนายษิทรา น่าจะให้คำแนะนำหลายๆ อย่าง ตอนนี้ได้แต่คุยทางโทรศัพท์ ไม่เคยเจอตัวจริงคุณดายศ

ยืนยันตอนนี้แม่ยังไม่ได้รับเงิน 30 ล้าน ขณะที่ตนคิดคำนวณแล้ว ไม่ใช่ตัวเลข 30 ล้านแต่ขอไม่พูดตรงนี้ เพราะเป็นรูปคดี ส่วนกรณีเรื่องหนี้แตงโม ตรงนี้ต้องรอศาลสั่งคุณแม่เป็นผู้จัดการมรดกก่อน ตอนนี้ศาลยังไม่ได้สั่ง เจ้าหนี้ก็ยังไม่สามารถมาเรียกร้องกับคุณแม่ได้ ถ้าเจ้าหนี้รู้ว่าคุณแม่เป็นแล้วใน 1 ปีเจ้าหนี้ค่อยเรียกร้องมา แต่ต้องถามว่าหนี้มีเท่าไหร่ สมมติหนี้ 1 ล้าน คุณแม่มี 100 เดียว ก็ต้องจ่าย 100 เดียว แต่ถ้าคุณแม่มี 10 ล้าน ก็ต้องจ่าย 1 ล้าน แต่ตอนนี้ไม่รู้คุณแม่จะเอาทางไหนไปจ่าย