ในวันเกิดเหตุ "แตงโม นิดา พัชรวีระพงษ์" พลัดตกเรือสปีดโบ๊ตกลางแม่น้ำเจ้าพระยา "โบ สุรัตนาวี สุวิพร" หรือ "โบ ไทรอัมพ์ คิงดอมส์" เป็นคนแรกที่ออกมาโพสต์ภาพของแตงโมกับ "กระติก" ผู้จัดการส่วนตัว ขณะทั้งคู่นั่งอยู่บนเรือพร้อมระบุแคปชั่นว่า "ขออนุญาต โพสต์ภาพล่าสุดของแตงโม เสื้อคลุมตัวนี้นะคะ เพื่อเป็นประโยชน์ต่อการค้นหา โบอยู่กับผู้จัดการคือกระติก ที่ท่าเรือตลอดคืน จะมีการขี้แจงอีกครั้งค่ะ" ทั้งยังมีภาพของโบไปปรากฏตัวที่อู่เรือในวันเกิดเหตุ จนหลายคนตั้งข้อสงสัยว่าเจ้าตัวมีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้อย่างไร
ล่าสุดวันนี้ (3 มี.ค. 2565) โบ พร้อมด้วยทนายความส่วนตัว ได้เดินทางมายัง สภ.เมืองนนทบุรี เพื่อให้ปากคำกับเจ้าหน้าที่ตำรวจในฐานะพยาน โดยหลังจากสอบปากคำนานกว่า 6 ชั่วโมง เจ้าตัวก็ออกมาเผยว่าสนิทกับแตงโม วันเกิดเหตุกระติกเป็นคนโทร.มาแจ้งข่าวจึงได้เดินทางไปยังอู่เรือ พร้อมบอกตนเชื่อกระติกแค่ตอนโทร.มาครั้งแรก พอไปที่ท่าเรือรู้สึกว่ามีอะไรบางอย่าง เห็นคำให้การและที่กระติกไปออกรายการ บางอย่างมันขัดแย้งและบิดเบือนกับสิ่งที่ตนรู้ ตนรู้สึกว่าไม่ถูกต้อง ยอมรับเสียความรู้สึก ได้บอกกระติกว่าความจริงเท่านั้นที่จะปกป้องคุณได้
ส่วนปมแช็ตไลน์ที่ตนแนะนำกระติกไม่ให้พูดเรื่องฉี่บนเรือ เนื่องจากตอนนั้นกระติกได้โทร.บอกตนว่าตัวเขาไม่ได้เห็นเหตุการณ์แต่เป็นคนอื่นบอก จึงบอกกระติกไปว่าให้พูดในสิ่งที่เห็นเท่านั้น คือแตงโมลื่นตกเรือ
“วันนี้ก็มาเพื่อให้การในคดีของน้องแตงโม ภัทรธิดานะคะ ก่อนอื่นต้องขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวก่อน (เสียงสั่น) รวมถึงเพื่อนพี่น้องที่คริสตจักร และญาติสนิททุกคน แตงโมเป็นคนที่อยู่ในสังคมบันเทิงมานาน เราทุกคนจะรู้สึกผูกพันกับแตงโมอยู่แล้ว การที่สูญเสียเขาไปมันเป็นเรื่องใหญ่มากๆ โดยตัวโบเองในฐานะที่สนิทกับน้อง โบเสียใจมากๆ และวันนี้ก็มาให้การตามข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นค่ะ
ต้องขอขอบคุณพี่ๆ ที่ให้การช่วยเหลือหลายๆ อย่างนะคะ ทั้งคนที่โบติดต่อกันวันที่เกิดเหตุ ขอบคุณบีม ศรัณยู ประชากริช ขอบคุณทางกรมเจ้าท่า ขอบคุณพี่เจ เจตริน วรรธนะสิน ที่ให้คำแนะนำ น้องจูน กษมา - พี่เปิ้ล นาคร ศิลาชัยนะคะ ขอบคุณมากๆ ที่ช่วยเหลือในวันนั้น และขอบคุณอาสาสมัครทุกคน และกู้ภัยที่พยายามกู้ร่างน้องขึ้นมาได้ (เสียงสั่น น้ำตารื้น)
มาเรื่องที่โบเข้าไปเกี่ยวข้องนะคะ เนื่องจากว่าน้องกระติกก็โทร.มาหาโบ และพูดว่าแตงโมตกน้ำ ตอนนั้นโบก็ตกใจมากๆ บอกตามตรงว่าทำอะไรไม่ถูก ก็พักไปก่อน เพื่อถามข้อมูลบางอย่างว่ามีอะไรเกิดขึ้นยังไง ขอไม่ลงรายละเอียดนะคะ ให้การไปหมดแล้ว และตามทุกคนที่พูดไปเมื่อกี้ให้มาช่วยเหลือ จนถึงเวลานึงก็ดูว่ากระติกโอเคไหม เนื่องจากว่ากระติกเอง แตงโมเองก็อยู่ที่คริสตจักรแห่งความสุข เราผูกพันกัน เป็นพี่เป็นน้องกัน คือที่คริสตจักรเวลามีใครมีปัญหา เจ็บป่วย เข้าโรงพยาบาล เสียชีวิต ส่วนใหญ่เขาจะโทร.หาโบกันอยู่แล้ว ภายในเดือนนี้ 2-3 คน แต่เรื่องแตงโมนี่เป็นอะไรที่ช็อกมาก ไม่ควรที่จะเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้นกับเขานะคะ
พอไปถึงที่เกิดเหตุก็ได้ไปอยู่ที่ท่าเรือ NBC นะคะ ก็ได้เจอกับทุกๆ คนที่อยู่ในข่าว และโบก็นั่งอยู่ที่ท่าเรือนั้นทั้งคืน แต่ทั้งคืนของโบหมายถึงตี 3 หลังจากนั้นโบเป็นคนขับรถของแตงโมไปส่งกระติกที่บ้าน เพราะเขาดูช็อกและขับรถไม่ไหว ก็ไปส่งเขาที่บ้าน ถามว่าทำไมถึงไม่ไปอีกท่าเรือนึง ตอนแรกกระติกเองก็ส่งโลเกชั่นตรงนั้นมา ซึ่งเราก็ขับไปจะถึงแล้ว แล้วเขาก็บอกว่าตรงนั้นคนเยอะมาก กลัวเรื่องโควิดด้วย นักข่าวเยอะ อย่าเพิ่งไปเลย โบก็โอเค
แล้วก็มาเรื่องในไลน์ที่มีออกไปในสื่อ ว่าแนะนำให้ไม่ต้องพูดว่าฉี่บนเรือ อันนี้น่าจะเห็นกันนะคะ เรื่องในตอนนั้นกระติกได้โทรศัพท์บอกโบถึงข้อมูลว่าตัวเขาไม่ได้เป็นคนเห็นเหตุการณ์ แต่เป็นอีกคนนึงที่เห็นเหตุการณ์ โบจึงบอกเขาไปว่าแล้วทำไมเราถึงต้องพูดว่าไปฉี่ล่ะ เขาก็ถามว่าเขาต้องพูดกับตำรวจยังไง โบก็บอกว่าต้องพูดความจริงในสิ่งที่เราเห็นเท่านั้น นั่นหมายถึงเขาไม่เห็นตอนตกเรือไปอย่างที่เขาควรที่จะพูด มันไม่ควรที่จะพูดว่าไปฉี่ เรื่องที่หนึ่งคือมันไม่ใช่เรื่องจริงที่เขาเห็นด้วยตัวเอง และอย่างที่สองคือแตงโมเป็นคนที่รักษาภาพลักษณ์ของตัวเองมากๆ อย่างเวลาที่โบโพสต์ไอจีแท็กเขาไป ภาพแค่เขาอ้วนนิดนึง เขาจะส่งมาเลยว่า ลบรูปนี้เถอะ อ้วนว่ะ ทุกวันนี้ก็ยังมีข้อความนั้นค้างอยู่ คือโบก็ไม่อยากให้เขาต้องถูกจินตนาการเหมือนกับที่มันเกิดขึ้นจริงๆ ว่าไปนั่งแหกอะไรกันน่ะ ไม่อยากให้มีภาพแบบนั้นเกิดขึ้น ซึ่งมันก็เกิดขึ้นแล้ว
ทีนี้พูดถึงอีกคนนึงในเรือนะคะ ไปออกรายการนึง แล้วใช้ข้อความที่โบพูดตอนที่โบยังไม่ได้รู้เรื่องราวอะไร รู้แค่จากกระติก แล้วบอกว่าโบแนะนำไม่ให้พูดความจริง แต่เขาเลือกจะพูดความจริง โบถามหน่อยนะคะ คุณเห็นเหตุการณ์จริงๆ ว่าแตงโมปัสสาวะหรือเปล่า แล้วคุณพูดแบบนั้น นั่นคือความจริงเหรอ โบคิดว่าสังคมน่าจะคิดเหมือนโบว่าคุณก็ไม่ได้พูดความจริงออกไป เพราะฉะนั้นแล้วเคลียร์ไหมคะ
ต่อไปคือไปอยู่ที่ท่าเรือ โบเห็นเหตุการณ์หลายๆ อย่างนะคะ แต่ขอไม่พูดในตอนนี้แล้วกันนะคะ”
ทนาย : “คือเราได้รับการขอความร่วมมือจากพนักงานสอบสวนและเจ้าหน้าที่ เพื่อให้การหาข้อเท็จจริงเพื่อให้เกิดความเป็นธรรมที่สุดต่อคุณแตงโม และเป็นไปด้วยความยุติธรรมกับทุกฝ่ายนะครับ และเพื่อไม่ให้กระทบตัวคดีด้วย ผมขออนุญาตนำให้เฉพาะตัวคุณโบตอบคำถามในส่วนที่เกี่ยวกับความเข้าใจผิดของสังคม โดยไม่ให้มากระทบเรื่องคดี
ผมว่าทุกคนคงเข้าใจนะครับ คดีความไม่ได้ยุติโดยสื่อหรือเสียงพูดของประชาชนนะครับ คดีความยุติที่ศาล ดังนั้นต่อให้ความจริงที่เกิดขึ้น ซึ่งวันนี้คุณโบได้ทำหน้าที่พลเมืองดีตรงนี้ไปแล้วนะครับ คำถามแรกที่ทำให้เกิดความเข้าใจผิด ทำไมคุณโบถึงเพิ่งมาให้การในวันนี้ครับ น่าจะเป็นเรื่องว่าทำไมถึงมาช้า ทำไมถึงเพิ่งมา”
โบ : “คือโบได้รับข้อมูลตั้งแต่แรกถูกไหมคะ เพราะเป็นคนแรกๆ เลยที่กระติกโทร.หา เพราะฉะนั้นแล้วโบจะมีข้อมูลที่โบพูด แต่ว่าพอโบเห็นทั้งคำให้การ ทั้งการที่เขาไปออกรายการทีวี คำพูดต่างๆ ของเขา บางอย่างมันขัดแย้งกับสิ่งที่โบรู้และได้ยินมา และรู้สึกว่ามันไม่ถูกต้อง โบเลยรอให้เขาพูดให้จบ และถึงเวลาตอนนี้ก็คิดว่าเป็นเวลาที่เหมาะสมที่โบจะออกมาพูดความจริงค่ะ
ขออนุญาตว่าทำไมวันนี้ต้องมีทนาย ทุกคนอาจจะสงสัย คือเนื่องจากคดีนี้มันเป็นคดีที่ทุกคนมอง สังคมจับจ้อง และอีกอย่างผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องเขาเป็นคนที่มีชื่อเสียง เป็นคนมีฐานะ เป็นคนที่มีสังคมในระดับนึง โบคิดว่าการที่โบจะพูดอะไร โบอยากให้มั่นใจว่าคำพูดของโบจะไม่ถูกบิดเบือน คำพูดของโบทุกคำจะไม่ถูกกลั่นแกล้งโดยใครคนใด ทำให้มันย้อนกลับมาทำร้ายโบได้ เหมือนกับที่โบเห็นบางอย่างที่รู้สึกว่าทำไมคนมาว่าโบ ก็ต้องขอบคุณทนายปริญญา เขามาโดยที่ไม่คิดค่าใช้จ่ายโบเลยนะคะ”
กระติกบอกมั้ยว่าสาเหตุที่แตงโมตกเรือเพราะอะไรกันแน่ เขาไปฉี่จริงหรือเปล่า
โบ : “โบไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์ โบไม่สามารถพูดข้อมูลตรงนั้นได้ค่ะ โบไม่รู้จริงๆ”
ทนาย : “คือวันนี้ที่คุณโบตั้งใจมาแถลงกับสื่อมวลชนก็คือประเด็นที่ว่าเป็นญาติหรือไม่ใช่ญาติด้วยนะครับ”
โบ : “เรื่องคุณเบนซ์ วงพริกไทยนะคะ เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา มีคนส่งรูปที่โบถ่ายคู่กับเขา รูปนั้นถ่ายในงานแต่งงานญาติของโบ ซึ่งในตอนนั้นโบคิดว่าเขาน่าจะเป็นเพื่อนของเจ้าบ่าวเจ้าสาว เพราะเขาก็เป็นรุ่นน้องโบเหมือนกัน ก็เห็นว่าเขายิ้มๆ กับเรา น่ารักดี ก็ไม่ได้รู้สึกอะไรนะคะ ก็ถ่ายรูปคู่กัน ยังโพสต์ในไอจีอยู่เลยว่าน้องเขาน่ารักดี มีลูกกี่คนแล้ว เราก็ถ่ายรูปคู่กัน
เพิ่งรู้เป็นญาติกับ “เบนซ์ พริกไทย” หรือ ดริณทร์รัฎ มีนะวาณิชย์เบนซ์ แต่ก็ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้อง
“แต่ที่เขาบอกว่าเขาเป็นญาติโบ โบเพิ่งรู้เมื่อวันอังคารนะคะ เพราะเขาโทรศัพท์มา แต่โบไม่ได้รับเพราะว่าช่วงนี้ใครที่โทร.หาโบน่าจะรู้ว่าโบไม่ออกมาพูดเลย เพราะมีบางอย่างที่โบรอเวลาที่เหมาะสมที่จะออกมาพูด เขาโทร.เข้ามา โบไม่ได้รับ คุณแม่โบแคปหน้าจอไลน์ที่คุยกับพี่ชายของคุณแม่ ว่าถ้ามีเบอร์นี้โทร.มาให้โบรับด้วย น้องชื่อเบนซ์ โบก็เลยถามคุณแม่ว่าโบเป็นญาติกับเขาเหรอ คุณแม่ก็บอกว่าเป็นลูกพี่ชายของคุณแม่ แต่เขาเลิกกันตั้งแต่เด็ก แล้วคุณแม่ของเขาก็พาเบนซ์ไป แล้วคุณแม่ของเบนซ์เขาไปแต่งงานกับตำรวจ และเป็นลูกบุญธรรมของตำรวจท่านนั้นมา ซึ่งคุณเบนซ์เองเพิ่งรู้ตอนที่เขาโตแล้วด้วยซ้ำว่าเขาไม่ใช่ลูกแท้ๆ ซึ่งอยากจะบอกตรงนี้ว่า เราไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องหรือเป็นน้องเขยหรืออะไร ไม่ได้มีตรงนั้นนะคะ อยากจะเคลียร์ตรงนี้ค่ะ”
เผยคำพูดของทั้ง 5 คนบิดเบือนจากสิ่งที่ได้ยินมา
โบ : “(หันไปมองทนาย)”
ทนาย : “เพื่อไม่ให้กระทบการทำงานของเจ้าหน้าที่นะครับ เยอะไหมตอบได้ แต่ว่าอย่างไรขออนุญาตไม่ได้ตอบให้นะครับ”
โบ : “ในส่วนตัวโบก็เยอะค่ะ บิดเบือนแล้วกันค่ะ วันที่โบไปถึงประมาณ 24 นาฬิกากว่าๆ ก็ถือว่าข้ามวันแล้ว และเจอทุกคนค่ะ ทุกคนก็อาการตกใจแล้วกันค่ะ อาการช็อกและตกใจ ถามว่ามีลักษณะของการมึนเมาไหม ถ้าถามโบนะคะ หน้าแดง เสียงดัง โวยวาย เสียงแหบ ก็ประมาณนี้ อย่างอื่นขออนุญาตไม่พูดนะคะ”
ทนาย : “ถ้าตัวเนื้อคดี ผมในฐานะทนายความ ผมต้องรักษาคำพูดที่ให้ไว้กับเจ้าหน้าที่ด้วยนะครับ แต่ขอให้ทุกท่านมั่นใจว่าสิ่งที่คุณโบว์ให้การต่อพนักงานสอบสวนไปในวันนี้ เป็นคำให้การที่เป็นประโยชน์และเพื่อให้เกิดความเป็นธรรมกับคุณแตงโมจริงๆ ครับ”
โกรธกระติก หวังว่าจะกลับใจ ลั่นความจริงเท่านั้นที่จะปกป้องได้
โบ : “กับกระติกจริงๆ โบเป็นคนพาเขามาที่โรงพักด้วยนะคะ เอาเป็นว่าโบอยู่กับเขาแล้วกันค่ะ จนเขาให้การเสร็จ หลังจากนั้นไม่ได้คุยกับเขา บอกตามตรงว่ารู้สึกเสียใจนะคะ ก็มีความโกรธ แต่โบก็ยังรักเขานะคะ โบคิดว่าถ้าเขากลับใจ และเขาเลือกที่จะพูดในสิ่งที่เขารู้จริงๆ เราก็จะมาช่วยกัน เขามีการติดต่อมาหาโบบอกว่าขอโทษที่ทำให้โบว์ต้องมามีส่วนเกี่ยวข้อง เข้ามาวุ่นวายเพราะเขา โบบอกเขาไปคำเดิมเลยค่ะ กระติกความจริงเท่านั้นที่จะปกป้องเขาได้ เขาก็ส่งรูปร้องไห้กลับมา แค่นั้น
ถามว่าเขาพูดไม่หมดไหม (หันมองทนาย) โบรับปากกับตำรวจไว้ค่ะ ถ้าเป็นเรื่องคดีความขอให้เป็นในรูปการที่เป็นคดีค่ะ แต่เราเสียความรู้สึกกับเขาแน่นอนค่ะ ตอนไปถึงสิ่งที่โบบอกกระติกคือโทร.หาเบิร์ดหรือยัง ยัง โทร.หาแม่หรือยัง โบบอกแล้วว่าเขาต้องโทร. ก็ตามที่เขาพูดน่ะค่ะ นั่นก็คือเหตุผลของเขา ส่วนเหตุผล ตอนที่กระติกโทร.หาครั้งแรกเลย เขาพูดว่า พี่ โมตกน้ำ หาคนไปข่วยหน่อย โบก็ถามเขาว่า ตกยังไง เกิดอะไรขึ้น เขาก็อธิบายมา ส่วนนี้ก็ขอให้เป็นเรื่องของการให้การไปนะคะ
ทำไมเขาต้องดึงเราเข้าไปเกี่ยวด้วย คืออย่างที่โบบอกว่าที่โบสถ์ใครจะเป็น ใครจะตาย ใครจะอะไร ถ้าดึกๆ ส่วนใหญ่จะโทร.หาโบหมด จะไปโรงพยาบาล จะหัวใจวาย โทรหาโบ จะไปทำเรื่องที่นิติเวชก็โทร.หาโบหมด โบไม่แปลกใจที่เขาโทร.หาโบ แต่ปกติแตงโมมีอะไรก็จะปรึกษาโบ ส่วนกระติกจะมีพี่อีกคนนึงที่เขาปรึกษา และโบก็จะคุยกับพี่เขาซะส่วนใหญ่ว่าสองคนนี้มันเป็นอะไรยังไง กระติกเขาจะรู้ว่าโบสนิทกับแตงโมค่ะ
วันนั้นได้คุยกับโรเบิร์ตค่ะ เนื่องจากกระติกได้แนะนำว่าคุณโรเบิร์ตรู้จักกับพี่ชายโบด้วย โบเข้าไปพูดกับเขาคำแรกว่า รู้หรือยังว่าพี่ชายโบติดโควิด เขาทำหน้าไม่รู้เรื่อง ทำหน้าเบลอๆ และเขาก็บอกว่า อ่อ นี่น้องโบเหรอ นั่นหมายถึงเราไม่เคยเจอกันเลย ไม่รู้จักกับเขามาก่อน ได้พูดแค่นั้นค่ะ ใน 5 คนนั้นรู้จักกระติกคนเดียวค่ะ”
ไม่ทราบคนขอขมาคุณแม่แตงโมไม่ใช่โรเบิร์ต แต่เป็นน้องชาย
โบ : “ไม่ทราบเลยค่ะ ส่วนหตุผลที่กระติกบิดเบือนข้อเท็จจริงในรายการ ข้อเท็จจริงของคำที่บิดเบือนเราไม่ได้บอกตร.ค่ะ โบก็พูดในส่วนของโบ ส่วนเขาจะพูดอะไรนั้นคือส่วนของเขา ตั้งแต่ที่เขาให้การโบไม่ได้คุยกับเขาเลยค่ะ พอโบรู้ว่าเขาพูดว่าอะไรโบก็ไม่ได้คุยกับเขาอีกเลยค่ะ ก่อนที่จะไม่ได้คุยกันอีก ไม่ได้คุยกันว่าเขาจะพูดว่าอะไรด้วยซ้ำค่ะ (ทั้ง 5 คนพูดบิดเบือนหมดเลย?) โบคุยกับกระติกคนเดียวค่ะส่วนสาเหตุอะไรที่ทำให้แตงโมเสียชีวิต โบไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์ค่ะ โบไม่รู้จริงๆ”
ไม่ขอออกความเห็นแตงโมจะไปปัสสาวะ แล้วพลัดตก ขอให้โฟกัสที่ข้อเท็จจริง
โบ : “โบขออนุญาตที่จะไม่พูดเรื่องความคิดเห็นนะคะ เพราะเมื่อไหร่ที่มันมีข้อเท็จจริงมา ความคิดเห็นมันเปลี่ยน โบขอให้ทุกคนโฟกัสที่ข้อเท็จจริงมากกว่า ดูตามหลักฐาน ดูตามสิ่งที่เห็น และสิ่งที่โบให้การทั้งหมด นั่นคือโบพูดในสิ่งที่โบเจอด้วยตา ด้วยหูของโบเองนะคะ”
จากคำบอกเล่าตั้งแต่วันแรก โบก็ไม่ได้คุยกับเขาเลยค่ะ ตั้งแต่วันที่เขาให้การ โบไม่ได้คุยกับใครเลย ไม่รู้ข้อเท็จจริงว่ามีการไปปัสสาวะที่ท้ายเรือจริงหรือเปล่า ถูกต้องค่ะ เรื่องถ่ายเบา โบจะไปรู้เรื่องของเขามั้ยคะ ไม่รู้ค่ะ ถามว่าเพื่อนจะไปนั่งแบบนั้นไหม โบว์คิดว่านั่นเป็นเรื่องของความคิดเห็นนะคะ โบขอไม่ออกความเห็นค่ะ
ถามว่าการให้การวันนี้จะมีประโยชน์กับแตงโมขนาดไหน โบคิดว่ามันเป็นส่วนที่โบได้พูดในส่วนของโบที่โบเห็นทั้งหมด และจะให้ความยุติธรรมกับแตงโมค่ะ.(ที่บอกว่ากระติกพูดบิดเบือนในรายการ ใช่เรื่องปัสสาวะท้ายเรือ หรือเป็นประเด็นอื่น?) (โบหันมองทนาย)”
ทนาย : “จุดนี้น่าจะเป็นเนื้อคดีนะครับ ยังไงขออนุญาตนะครับ”
โบ :ตอนที่โบไปถึงที่เกิดเหตุ แต่ละคนทำอะไรกันอยู่ อันนี้ก็เรื่องของคดีเช่นเดียวกันค่ะ ขออนุญาตไม่พูดนะคะ (วันที่ 24 เกิดเหตุ พอวันที่ 25 กลุ่มกระติกมีความเคลื่อนไหวยังไงบ้าง?) นั่นยิ่งเป็นเรื่องคดีใหญ่เลยค่ะ ไม่ได้เหมือนกัน ขอโทษนะคะ
วันที่ไปที่อู่เรือ ได้มีการพูดคุยกันประมาณ 2 ชม. ค่ะ รวมกับที่ไปส่งเขาที่บ้านก็ประมาณชั่วโมงนึง ตอนไปส่งมีการพูดคุยแต่บอกไม่ได้จริงๆ ค่ะ”
ทนาย : “ทุกคำถามที่ไม่ได้ตอบในที่นี้ได้ให้การกับพนักงานสอบสวนไว้แล้ว และรับรองว่าเป็นธรรมกับคุณแตงโมในส่วนที่คุณโบว์ได้พูดไปทั้งหมดครับ”
โบ : ส่วนเจตนาของกระติกที่ไปให้สัมภาษณ์บิดเบือนหรือไม่นั้นแบบนั้น ไม่มีความเห็นเหมือนกันค่ะ ส่วน 1 ชม.ที่นั่งรถไปส่ง ถามว่าเราเชื่อคำบอกเล่านั้นไหม ตอนที่เขาโทร.มาตอนแรกดีกว่าค่ะที่โบเชื่อ ส่วนที่ไม่เชื่อ ตอนโบว์ไปที่ท่าเรือ โบว์ก็รู้สึกว่ามันต้องมีอะไรบางอย่างแค่นั้นแหละค่ะ
ถามว่าดรามีอะไรติดใจไหมว่าทำไมเขาถึงกลับไปที่ท่าเรือก่อนจะหาแตงโมเจอ อันนั้นมันเป็นเรื่องของความคิดเห็นนะคะ โบขออนุญาตที่จะไม่พูดตรงนี้ ขอเรื่องข้อเท็จจริงและเกี่ยวข้องกับตัวโบแล้วกันนะคะ ตอนที่เราไปถึงท่าเรือ ท่าทีของ 5 คนมีลักษณะของการปกปิดเรื่องราวที่เกิดขึ้นบ้างไหม อันนี้ก็ไม่ได้ (หัวเราะ)”
ทนาย : “คือถามข้อมูลข้อเท็จจริงได้ แต่ผมขอความเห็นใจแล้วกันนะครับว่าขอให้เป็นข้อเท็จจริงที่ไม่ใช่เนื้อคดี เพราะถ้าตอบไปมันอาจจะไม่ได้เกิดความเป็นธรรมอย่างที่สังคมอยากจะให้เห็นก็ได้”
โบ : “ถามตำรวจก็ได้ค่ะ”
เล่ากระติกมีท่าทีเครียดเพราะช็อก
โบ : “เขาเครียดมากค่ะ เขาช็อก เขาทำอะไรไม่ถูก มีน้ำตาคลอขึ้นมาบ้างบางครั้งค่ะ ตอนแรกที่โทรมาเชื่อเลยค่ะ ส่วนหลังจากนั้นขออนุญาตที่จะไม่พูดนะคะ”
ตอบไม่ได้ ใครมีพิรุธที่สุด
โบ : “(กุมขมับ) อันนี้ยิ่งตอบไม่ได้เลย ขออภัยมากๆ ค่ะ”
มั่นใจแตงโมไม่ได้ทิ้งภาระให้กระติก
โบ : “ในส่วนของโบ โบคิดว่าถ้าโบได้เห็น ได้พบอะไรที่โบจะต้องพูด โบก็ไม่ได้คิดว่ามันเป็นภาระอะไรค่ะ แต่คนอื่นพูดว่าเป็นภาระ ก็เรื่องของเขานะคะ ส่วนที่มาให้ปากคำวันนี้คดีจะเปลี่ยนไหมโบไม่รู้ค่ะไม่รู้ค่ะ โบไม่ใช่นักกฎหมาย ตอนนี้โบบอกตร.ทุกอย่าง ช่วงเวลาโบหายไปนานแค่ไหนล่ะคะ บอกทุกอย่างค่ะ ถามว่าไม่กลัวเหรอที่ไปเจอคนไม่รู้จักในตอนนั้น คือตอนนั้นเพื่อนตกน้ำ ถ้าโบไม่ไป โบว่ามันยิ่งแปลกมากกว่า ส่วนหากกระติกที่ตกน้ำ แตงโมจะกระโดดลงไปช่วยไหม (น้ำตาซึม เสียงสั่น) โมเขาเป็นคนที่ห่วงคนอื่นอยู่แล้วค่ะ โบตอบไม่ได้ว่าถึงตอนนั้นเขาจะทำอะไร แต่แตงโมที่โบรู้จักเขาไม่ได้คิดถึงตัวเองก่อนเลย”
เผยกระติกโทษตัวเองไม่ได้ดูแลแตงโม
โบ : “มีค่ะ (พยักหน้า) ส่วนถามว่าทำไมเราถึงเป็นคนแรกที่ออกมาโพสต์รูปแตงโมว่าถ้าใครพบเห็นชุดลักษณะแบบนี้ให้แจ้งเจ้าหน้าที่ แต่เพื่อนคนอื่นไม่มีใครโพสต์เลย (หันไปปรึกษาทนาย) ขออนุญาตเปิดเสียงนะคะ โบได้ส่งรูปแตงโมที่ใส่ชุดสายเดี่ยวให้กับกรมเจ้าท่า ให้กับบีม และพอข้ามวันไปแล้ว คุณบีมก็ส่งข้อความมา โบขออนุญาตบอกเวลานะคะ เวลา 14.37 น. (เปิดคลิปเสียงบีม ศรัณยู ที่พูดว่า พี่โบไม่มีรูปที่น้องโมมันใส่โอเวอร์โค้ทเหรอ พี่โบส่งไปให้สื่อเองเลย บอกว่านี่คือชุดจริงๆ ที่ต้องค้นหา มันมีเสื้อคลุมอยู่ ไม่งั้นเขาก็หาแต่เสื้อขาว บีมไม่ทราบตรงนี้ บีมไม่รู้ ไม่ได้ดูข่าว ผมว่าอันนี้สำคัญมากเลยนะพี่)”
ทนาย : “อันนี้ก็เพื่อประโยชน์ในการค้นหาคุณแตงโมเท่านั้น ไม่เกี่ยวกับเนื้อคดีครับ”
โบ : “โบเขียนไว้แล้วตรงนั้น พอบีมส่งมาแบบนี้ โบก็ไปขอรูปจากกระติกมา จริงๆ แล้วโบอยากได้รูปที่บีมบอกด้วยซ้ำว่าเป็นรูปโอเวอร์โค้ทที่แตงโมนั่งเรือ คือตอนที่เราอยู่ที่ท่าเรือ เราดูรูปกัน เราถามว่าไปทำอะไร ให้เขาเปิดรูปให้ดูว่าทำอะไร เราได้ดูกันตรงนั้น และบีมเองก็อยู่ตรงนั้นด้วย พอเขาส่งรูปนี้มา ด้วยความที่โบรู้สึกว่ามันต้องรีบ เพราะเป็นประโยชน์ ด้วยความตกใจโบก็เลยโพสต์ไป และบอกว่าเราอยู่ที่ท่าเรือ เพื่อให้ความมั่นใจว่าโบอยู่ในเหตุการณ์ ส่วนที่เขาไปลงเรือไม่รู้มาก่อนค่ะ
ถามว่าการที่ออกมาสัมภาษณ์สื่อแบบนี้ กลายเป็นว่าเราเป็นพยานปากสำคัญคนนึง และยืนยันว่าคำพูดของกระติกมีการบิดเบือน กังวลต่ออันตรายหรือการจะถูกคุมคามหลังจากนี้ไหม (หันไปปรึกษาทนาย) เอาเป็นว่าโบกังวลแล้วค่ะ และโบก็เครียด มีเหตุการณ์บางอย่างเกิดขึ้นนะคะ
โบไม่สนนะคะว่าใครจะว่าอะไรโบ สิ่งที่โบเห็นความสำคัญอย่างที่หนึ่งเลยตั้งแต่แรกคือการหาแตงโมให้เจอ การช่วยแตงโมให้เจอ โบไม่สนหรอก ด่าโบทั้งประเทศเลยก็ได้ ถ้าโบหาน้องเจอ (เสียงสั่น) อย่างที่โบบอกว่าเวลานี้เป็นเวลาที่เหมาะสม ทำไมโบถึงไม่ออกมาก่อนหน้านี้ เพราะโบได้ยินที่เขาให้สัมภาษณ์ ถ้ามันตรงกับที่เขาบอกโบ โบจะไม่รู้สึกอะไร แต่ยังไงโบก็ต้องออกมาให้การอยู่ดี แต่อันนี้มันมีเหตุแล้วกันค่ะ ส่วนที่ยอกว่ามีเหตุการณ์บางอย่าง มันคืออะไรขอโทษที เมื่อกี้ถามทนายแล้ว ทนายบอกว่าพูดไม่ได้ค่ะ ไม่เกี่ยวกับการพูดบิดเบือนค่ะ มันมีความขัดแย้งกันไหม ก็ไม่เกี่ยวค่ะ”
ทนาย : “ผมตอบให้แล้วกันนะครับ คือเรื่องเกี่ยวกับความเป็นส่วนตัวเท่านั้นเองครับ ไม่ทราบว่าจากใครครับ แต่ว่ามีเหตุการณ์เกิดขึ้น และมันอาจจะเป็นส่วนสำคัญในคดีหรือไม่ตอนนี้ไม่ทราบ ดังนั้นก็เลยเลือกที่จะไม่ให้พูดออกไป อย่างที่ผมเรียนตอนแรกนะครับ คดีตัดสินในชั้นศาล ดังนั้นถ้าพี่ๆ สื่อมวลชนอยากให้เกิดความเป็นธรรมให้มากที่สุด ขอความกรุณาอย่าให้มีข้อเท็จจริงในคดีออกไปมากเกินสมควรนะครับ”
โบ : ส่วนคดีนี้มีอิทธิพลในรูปของคดีมั้ย ที่มีคนเป็นไฮโซ เป็นคนมีชื่อเสียง อันนี้แล้วแต่สังคมตัดสินแล้วกันค่ะ”
เป็นคนนำอธิษฐานฝากแตงโมไว้กับพระเจ้า
โบ : “โบเป็นคนนำอธิษฐานค่ะ อธิษฐานฝากโมไว้กับพระเจ้า ตามความเชื่อของเรานะคะ ตอนนั้นโบไม่รู้ว่าแตงโมยังมีชีวิตอยู่หรือไม่ แต่โบรู้ว่าพระเจ้าอยู่กับเขาแน่นอน ไม่ว่าเขาจะอยู่ที่ไหนค่ะ หลังจากนี้คิดว่าโบก็กังวลค่ะ ขอบคุณที่พูดประโยคนี้ออกมา ประชาชนก็คงต้องดูแลทุกๆ คนอยู่แล้ว โบว์เชื่อว่าเราไม่ทิ้งกันหรอกค่ะ โบไม่สามารถพูดได้ว่าคดีจะจบลงยังไงนะคะ มันมีขั้นตอน รายละเอียดค่อนข้างเยอะ อย่างที่บอกว่าโบหายไปประมาณ 6 ชม. ส่วนคำให้การจะเป็นประโยชน์ทั้งหมดกี่เปอร์เซ็นต์ โบไม่สามารถพูดเป็นเปอร์เซ็นต์ได้เลยค่ะ เราเชื่อมั่นในกระบวนการสอบสวนของเจ้าหน้าที่นะคะ”
ไมได้สบายใจที่ออกมาพูด
โบ : “บอกตรงๆ ว่าไม่ค่ะ ส่วนเรากลายเป็นตัวแปรสำคัญในคดีนี้เลยหรือเปล่า ไม่ทราบ ขออนุญาตนะคะ”
ไม่เห็นว่าร้องไห้เหมือนในรายการ ลั่นความจริงเท่านั้นที่จะปกป้องเรา
โบว์ : “ไม่ได้เห็นขนาดนั้นค่ะ พูดถึงรายการโหนกระแส โบดูนะคะ ดูทุกๆ ช็อต โบไม่รู้จะตอบอะไร แค่นี้แล้วกัน ส่วนที่แอนนาสัมภาษณ์ไม่ค่อยได้ฟังเลยค่ะ ว่ายังไงบ้างคะ (เขาไม่ปักใจเชื่อเท่าไหร่เรื่องไปปัสสาวะ อยากให้กระติกออกมาพูดความจริง ?) ก็คิดเหมือนกันค่ะ ว่าทุกคนควรที่จะพูดความจริง ทุกคนควรจะได้รับความยุติธรรม ไม่ว่าเขาจะยากดีมีจน ฐานะยังไง ฐานะทางสังคมเป็นยังไง ทุกคนควรได้รับความยุติธรรม ถึงแม้เขาจะไม่ได้มีชีวิตอยู่แล้วก็ตาม สุดท้ายนะตะ สัจจะจะทำให้เป็นไท ความจริงเท่านั้นที่จะปกป้องเราได้ ขอบคุณมากค่ะ”
